xs
xsm
sm
md
lg

เขมรอ้างไทยรุกรานต้องตีความคำตัดสิน-ยันเขตแดนยึดตามแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายฮอร์นัมฮอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ให้การโดยวาจาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ในคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารปี 2505
รองนายกฯ เขมรให้การศาลโลก อ้างเหตุต้องนำคำพิพกาษาคดีพระวิหารขึ้นตีความอีกครั้ง เพราะไทยรุกรานกัมพูชา ยิงตัวปราสาทเสียหาย แถมลดขอบเขตความหมายคำพิพากษา จวกไทยหมิ่นศาลโลก ไม่ทำตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ถอนทหาร ย้ำให้ตีความเรื่องบทปฏิบัติการ ไม่เกี่ยวกับเรื่องเขตแดน เพราะศาลโลกได้ตัดสินตามมาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสนแล้ว


วันนี้ (15 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 15.25 น.ตามเวลาในประเทศไทย ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ นายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้เริ่มให้การโดยวาจาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ในคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารปี 2505

โดยนายฮอร์ นัมฮงได้ให้การถึงเหตุผลที่กัมพูชายื่นคำร้องให้ศาลโลกนำคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารมาตีความอีกครั้งว่า เนื่องจากมีการรุกรานที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยฝ่ายไทย มีการโจมตีประเทศกัมพูชา ทำให้ปราสาทพระวิหารได้รับความเสียหาย และมีการเสียชีวิต เพราะมีการตีความคำพิพากษาที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะเรื่องเขตแดน และหลังจากที่กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก คนไทยก็มีการคัดค้าน

นายฮอร์ นัมฮงอ้างอีกว่า นับตั้งแต่ปี 2551 (ค.ศ. 2008) ประเทศไทยพยายามลดขอบเขตและความหมายของคำพิพากษาปี 2505 และเป็นที่น่าเสียดายที่ฝ่ายไทยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลกเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2554 ที่ให้ทั้งสองฝ่ายถอนทหารออกจากพื้นที่พิพาท ทั้งที่กัมพูชาต้องการถอนออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ฝ่ายไทยพยายามหาช่องโหว่ไม่ทำตามคำสั่งของศาล และทำให้ผู้สังเกตการณ์ของอินโดนีเซียไม่สามารถเข้าไปควบคุมดูแลการถอนกำลังได้ แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยดูหมิ่นและกระทำการไม่ถูกกฎหมาย นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังได้กล่าวหาว่ากัมพูชาเอาประชาชนเข้าไปอยู่ในพื้นที่พิพาทบริเวณปราสาทพระวิหาร ทั้งที่ในความเป็นจริงประชาชนกัมพูชาอยู่ในพื้นที่ของเขามานาน

รองนายกฯ กัมพูชา กล่าวอีกว่า กัมพูชาต้องการให้ศาลตีความให้เป็นที่สิ้นสุดตามคำพิพากษาของปี 2505 ซึ่งไม่ใช่คำพิพากษาเรื่องเขตแดน เพราเขตแดนนั้นเป็นไปตามแผนที่ในภาคผนวกที่ 1 (แผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000) ในคำพิพากษาปี 2505 นั้น ชัดเจนว่า ปราสาทพระวิหารอยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา และให้ไทยถอนทหารออกไปจากเขตแดนของกัมพูชา ดังนั้นจะถอนทหารได้อย่างไร ถ้าไม่อ้างแผนที่ตามภาคผนวกที่ 1 ที่นำมาใช้อ้างอิงตามคำพิพากษา

นายฮอร์ นัมฮงยืนยันว่า กัมพูชาไม่ต้องการให้มีการปักปันเขตแดน เพราะได้มีการปักปันเขตแดนแล้ว แต่กัมพูชาต้องการให้ตีความบทปฏิบัติการตามคำพิพากษา ซึ่งที่ผ่านมาไทยได้พยายามทำให้ศาลไม่แน่ใจเรื่องความหมายตามคำพิพากษา ส่วนเรื่องเขตแดนนั้นต้องตามแผนที่ในภาคผนวกที่ 1 ที่นำมาซึ่งคำตัดสินของศาลในปี 2505

อนึ่ง แผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 เป็นแผนที่ซึ่งฝรั่งเศสทำขึ้นฝ่ายเดียวในปี พ.ศ. 2450 (1907) และไม่เป็นไปตามอนุสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส พ.ศ. 2447 (ค.ศ. 1904) ทำให้ฝ่ายไทยไม่ยอมรับ และหากยึดตามแผนที่ดังกล่าว ประเทศไทยจะเสียดินแดนปัจจุบันให้กัมพูชาประมาณ 1.8 ล้านไร่ รวมถึงจะส่งผลต่อการแบ่งพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลที่จะตกเป็นของกัมพูชามากขึ้น

สำหรับกำหนดการให้การทางวาจาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารปี 2505 มีขึ้นระหว่างวันที่ 15-19 เมษายน 2556 เริ่มจากฝ่ายกัมพูชาให้การทางวาจารอบแรกวันจันทร์ที่ 15 เมษายน 2556 เวลากรุงเฮก 10.00-13.00 น. และ 15.00-16.30 น. หรือเวลากรุงเทพฯ 15.00-18.00 น. และ 20.00-21.30 น.

หลังจากนั้น วันพุธ 17 เมษายน 2556 ฝ่ายไทยให้การทางวาจารอบแรก เวลากรุงเฮก 10.00-13.00 น. และ 15.00-16.30 น. หรือ เวลากรุงเทพฯ 15.00-18.00 น. และ 20.00-21.30 น.

วันพฤหัสบดี 18 เมษายน 2556 กัมพูชาให้การทางวาจารอบสอง เวลากรุงเฮก 15.00-17.00 น. หรือ เวลากรุงเทพฯ 20.00-22.00 น.

และวันศุกร์ 19 เมษายน 2556 ฝ่ายไทยให้การทางวาจารอบสอง เวลากรุงเฮก 15.00-17.00 น. หรือ เวลากรุงเทพฯ 20.00-22.00 น.

ติดตามการถ่ายทอดสดได้ที่ http://www.phraviharn.org/main




























กำลังโหลดความคิดเห็น