มหาดไทยเปิดศูนย์ปลอดภัยทางถนนช่วง 7 วันอันตราย ตั้งเป้ายอดเสียชีวิตลด พร้อมท้องถิ่นวางโซนนิ่งเล่นน้ำสงกรานต์ ด้าน ขรก.มหาดไทย ร่วมรดน้ำขอพรรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย มท.1 ขอลูกทีมทุ่มเททำงาน รับใช้ชาติประชาชน พร้อมวอนฝ่ายค้านเห็นความจำเป็นกู้เงินแก้ปัญหาจราจร เชื่อไร้ปัญหาโหวตแก้ รธน.
ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) วันนี้ (11 เม.ย.) พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมช.สาธารณสุข เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2556 เพื่อทำหน้าที่ประสานข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนระดับพื้นที่ในแต่ละวัน ช่วงควบคุมเข้มข้นใน 7 วัน ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2556
พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า รัฐบาลได้ความสำคัญกับการลดอุบัติเหตุทางถนนโดยถือเป็นวาระแห่งชาติ และกำหนดเป็นนโยบายสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่มีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ ศปถ.โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วนดำเนินการลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงควบคุมเข้มข้นระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2556 รณรงค์ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์เป็นสุข ทุกคนปลอดภัย ร่วมใจรักษาวัฒนธรรม” โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อสร้างความปลอดภัยในการเดินทางแก่ประชาชน เน้นการมีส่วนร่วมภาคประชาชนในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พร้อมเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องปราม การกระทำผิดกฎจราจร
ทั้งนี้จะได้นำข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนมาวิเคราะห์และประเมินผลเพื่อกำหนดและปรับแนวทางการลดอุบัติเหตุทางถนนให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และสอดคล้องกับจุดเสี่ยงในแต่ละพื้นที่
พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า ตั้งแต่มีการตั้งศูนย์อำนวยการฯดังกล่าว ทำให้สถิติผู้เสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ลดลง โดยในปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิต 320 รายเมื่อเทียบกับ10 ปีที่ผ่านมาที่ยังไม่ได้มีการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตกว่า 600 ราย ซึ่งทำให้เห็นว่าการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวได้ผล โดยรัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายที่จะลดจำนวนครั้งในการเกิดอุบัติเหตุให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งในปีนี้ได้มีการตรวจวิเคราะห์ถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุลงลึกไปถึงระดับหมู่บ้านและชุมชน ดังนั้นจึงได้มีการจัดโซนนิ่งจำกัดพื้นที่ในการเล่นน้ำสงกรานต์ รวมทั้งมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเชื่อว่าจากมาตรการที่เข้มงวดในปีนี้จะสามารถลดการเกิดอุบัติเหตุได้
“ในการจัดโซนนิ่งพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ ท้องถิ่น โดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจะเป็นผู้กำหนดพื้นที่และจะเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นออกมาตรการกำหนดเขตพื้นที่ต่างๆ โดยจะพิจารณาตามความเหมาะสมและจะมีการติดตามผลการปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิด ส่วนพื้นที่ กทม.นั้น กทม.จะเป็นผู้รับผิดชอบดูแล อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการคาดโทษจังหวัดที่มีผลการปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ แต่จะขอความร่วมมือในการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุมากกว่า”
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ได้ประสานจังหวัดที่เป็นเส้นทางออกจากกรุงเทพฯ ที่คาดว่าจะมีปริมาณรถหนาแน่น อาทิ พระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม นครนายก เตรียมการรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 11-12 เมษายน2556 ทั้งด้านการบริหารจัดการการจราจร โดยเปิดเส้นทางพิเศษเพื่อระบายรถ ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง เส้นทางลัด พร้อมปรับสัญญาณไฟจราจรให้สอดคล้องกับปริมาณรถและช่วงเวลาในการเดินทางของประชาชน ตั้งจุดตรวจบริการแก้ไขกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือรถเสียบนทาง รวมถึงคุมเข้มการปฏิบัติตามกฎจราจร โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) สนธิกำลังประจำจุดตรวจกวดขันการขับรถเร็วและการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะ รถโดยสารสาธารณะและรถตู้โดยสาร เน้นหนักเส้นทางที่เป็นจุดเสี่ยง เส้นทางสายหลักสำคัญ เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างถนนสายหลักสายรอง เพื่อสร้างความปลอดภัยในการเดินทางและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2556
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุม 1 กระทรวงมหาดไทย นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำผู้บริหารระดับสูงและข้าราชการจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย นำพวงมาลัยและกระเช้าดอกไม้มาร่วมรดน้ำขอพรจาก นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย, พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก และนายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย เนื่องในเทศกาลสงกรานต์
นายจารุพงศ์กล่าวว่า ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยที่มีภารกิจสำคัญในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน ในฐานะผู้นำครอบครัวขอชื่นชมขอขอบคุณทุกคน ที่ได้ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจร่วมกัน ในการปฏิบัติภารกิจของกระทรวงมหาดไทยอย่างเต็มความสามารถ เพื่อนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญ ต่อไปขอให้ข้าราชการทุกคนใช้เวลาที่มีค่าตั้ง แต่วันศุกร์นี้เป็นต้นไปอยู่กับครอบครัวอย่างเต็มที่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ เพราะความรักความอบอุ่นในสถาบันครอบครัวคือเป็นสถาบันที่เล็กที่สุดแต่มีสายใยแห่งความรักความผูกพันมากที่สุด ถ้ามีความเข้มแข็งความอบอุ่นแล้วจะเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาในทุกระดับต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งต้องปฏิบัติโดยไม่เห็นแก่วันหยุดก็ขอเป็นกำลังใจที่ได้เสียสละความสุขส่วนตนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้
“ผมอวยพรวันปีใหม่ในในเทศกาลสงกรานต์ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ไทยในวันสงกรานต์ของอาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพ ขอพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้โปรดประทานพระพรให้ทุกท่านประสบความสำเร็จ และขอให้มีครอบครัวที่มีความสุข ประสบความสำเร็จตลอดกาลนาน”
รมว.มหาดไทยกล่าวว่า ในช่วงสงกรานต์เป็นช่วงที่ต้องมีการเดินทางไปเพื่อกลับไปทำให้ครอบครัวมีความอบอุ่น จึงเกิดปัญหาเรื่องการจราจรและการบริการของรถสาธารณะขอให้ประชาชนใจเย็นๆ ขับรถโดยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ใน ช่วงเทศกาลสงกรานต์เห็นได้ว่า มีการเดินทางของประชาชนในทุกเส้นทางมีการจราจรคับคั่ง นี่คือสาเหตุที่ต้องใช้เงิน 2 ล้านล้านบาทในการปรับปรุงโครงสร้างการคมนาคม ไม่เช่นนั้นจะเกิดวิกฤต หากเกิดวิกฤตกว่านี้ประชาชนคงทนไม่ไหว ดังนั้นขอฝากไปยังฝ่ายค้านที่ค้านร่าง พ.ร.บ.กู้เงินว่า หากค้านต่อไปจะมีประโยชน์หรือไม่ และการค้านต่อไปจะทำให้ตัวเองได้คะแนนเสียงหรือไม่
ต่อมาที่ห้องรับรอง นายสมพร ถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัททิพยประกันภัย นำเงินสินไหมจำนวน 1 ล้านบาท ตามที่สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ทำประกันภัยกลุ่มให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มอบให้นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย เพื่อมอบต่อทายาทของนายอิสรา ทองธวัช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดรถยนต์ประจำตำแหน่ง
นายจารุพงศ์กล่าวภายหลังการรับมอบเงินดังกล่าวว่า การประกันชีวิตเป็นสิ่งที่ดี จึงต้องดูในรายละเอียดให้มีความครอบคลุมกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง โดยกระทรวงมหาดไทยจะพิจารณาในการช่วยเหลือสวัสดิการให้กับข้าราชการบุคลากรของกระทรวงอย่างทั่วถึงในอนาคต
นายจารุพงศ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ประธานรัฐสภานัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 18 เม.ย.นี้ เพื่อลงมติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่ยังมีปัญหากรอบเวลาในการแปรญัตติว่า เรื่องนี้ประธานรัฐสภายืนยันว่าจะไม่มีปัญหาคงใช้เวลาในการประชุมไม่มาก ซึ่งน่าจะพิจารณาเสร็จด้วยความรวดเร็ว ส่วนที่พรรคเพื่อไทยมีปัญหาองค์ประชุม ก่อนปิดการประชุมนัดที่ผ่านมานั้น ความจริงเรื่องเหล่านี้ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเป็นเรื่องจุกจิกเหมือนเรื่องของเด็กอนุบาล ซึ่งกฎเกณฑ์ในการควบคุมการประชุมก็มีอยู่แล้ว หากช่วยกันขับเคลื่อนจะไม่เกิดปัญหาที่ผ่านมา ไม่มีการจู้จี้จุกจิกกันมากขนาดนี้ ในฐานะหัวหน้าพรรคคงต้องไปพูดกันในพรรค โดยจะรับฟังเหตุและผลจากทุกฝ่าย หากมีความผิดก็ว่ากันไปตามกฎระเบียบ และรับฟังจากวิปว่าเกิดปัญหาอะไร
