กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย วางมาตรการช่วยเหลือผู้อพยพที่ประสบภัยจากเพลิงใหม่ศูนย์พักพิงชั่วคราวฯ พร้อมประสานกรมการปกครองฝึกซ้อมแผนป้องกันอัคคีภัย ให้ศูนย์พักพิงฯ 9 ศูนย์
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยจากเหตุเพลิงไหม้ศูนย์พักพิงชั่วคราวจากการสู้รบบ้านแม่สุรินทร์ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอนว่า ได้วางมาตรการการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็น 2 ช่วง ดังนี้ ระยะเร่งด่วน จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เทศบาลตำบลขุนยวม เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยกับหน่วยงานภายในประเทศและองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศ สนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต รถผลิตน้ำดื่ม 3 คัน รถบรรทุกน้ำ 2 คัน รถไฟฟ้าส่องสว่าง 3 คัน รถสื่อสารดาวเทียม 1 คัน และอุปกรณ์ต่างๆ เข้าไปในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
นอกจากนี้ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่างๆ ได้แก่ 1.ด้านอาหาร โดยนำถุงยังชีพ อาหาร น้ำดื่ม เครื่องอุปโภคบริโภคแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย 2.ด้านที่พักอาศัย ประสานงานกับองค์การระหว่างประเทศในการจัดตั้งเต็นท์ที่พักอาศัยให้ผู้ประสบภัย รวม 800 หลัง 3. ด้านการรักษาพยาบาล ประสานกระทรวงสาธารณสุขจัดทีมแพทย์ พยาบาลภาคสนาม รองรับการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ควบคุมโรคระบาด และดูแลสภาพจิตใจของผู้ประสบภัย 4.ด้านการสืบสวนและตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ประสานตำรวจภูธรภาค 5. ตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลศพผู้เสียชีวิต เพื่อให้ญาตินำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
“สำหรับการวางมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในระยะยาว ปภ. จะได้ประสานกรมการปกครอง ซึ่งเป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยจากการสู้รบ จำนวน 9 ศูนย์ ในพื้นที่ 4 จังหวัด (แม่ฮ่องสอน 4 จุด ตาก 3 จุด กาญจนบุรี 1 จุด ราชบุรี 1 จุด) กำหนดมาตรการป้องกันอัคคีภัยภายในพื้นที่ศูนย์พักพิงฯ โดยส่งเสริมการจัดฝึกอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย และฝึกซ้อมแผนอพยพหนีไฟเป็นประจำ รวมถึงจัดเครื่องมืออุปกรณ์ดับเพลิงไว้ในจุดที่ผู้พักพิงสามารถนำไปใช้งานได้สะดวก เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ที่อาศัยในศูนย์พักพิงฯ”
