“นช.แม้ว” เมิน ส.ว.ร้องศาล สไกป์อีกขู่สาวกคนรอเสียบอีกเยอะอย่าโดดประชุม

“ทักษิณ” สไกป์ประชุม พท. เปรียบ รบ.เป็นเรือ เจอคลื่นกระทบบ้างแต่ยังไปได้ฉิว ขู่ ส.ส.นักโดดทำองค์ประชุมล่ม ไม่ส่งลงสมัยหน้า ด้าน “เพื่อไทย” สั่ง ส.ส.เร่งกล่อมชาวบ้านให้เห็นประโยชน์โครงการ 2.2 ล้านล้านบาท ขณะที่ “ไวพจน์” ฉุน ไม่ได้เป็น ปธ.บอร์ด กปภ. ฟาดงวงใส่หัวหน้าเพื่อไทย

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า ในการประชุม ส.ส.เพื่อไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้สไกป์เข้ามาพูดคุย แต่ใช้เวลาไม่นานมาก จนมีการตั้งข้อสังเกตจาก ส.ส. อาจเป็นเพราะผลมาจากการที่กลุ่ม 40 ส.ว. ระบุว่า จะร้องศาล รธน.ให้พิจารณากรณีการสไกป์ของทักษิณที่อาจขัดรัฐธรรมนูญ

พ.ต.ท.ทักษิณ ได้บอกต่อที่ประชุมช่วงหนึ่งว่า คิดว่าการเมืองต่อจากนี้จะร้อนแรงทั้งในสภาฯ และนอกสภาฯ อยากขอร้องให้ ส.ส.ช่วยกันเข้าร่วมการประชุม อย่าให้สภาฯ ล่มอีก ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณา พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท การแก้ไขรัฐธรรมนูญ คนที่เป็นกรรมาธิการฯ ก็ต้องมาร่วมประชุมด้วย อย่าให้องค์ประชุมขาดเป็นอันขาด ตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์เล่นการเมืองอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยทำงานพัฒนาประเทศอะไร เราต้องไม่ทำอะไรให้เข้าทางเขา ส่วนกลุ่ม 40 ส.ว. ที่จะไปร้องศาลเรื่องสไกป์นั้น ก็ปล่อยไป เขาคงไม่มีอะไรทำ เรื่องเกิดองค์ประชุมล่มนั้น ใครที่เป็นสาเหตุจะมีมาตรการดำเนินการ ถ้าเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีคนต่อคิวอีกเยอะ ก็ให้เปลี่ยนเลื่อนคนอื่นมาแทนบ้างก็ดี เพราะเป็นมาจะ 2 ปีแล้ว ส่วน ส.ส.เขต ถ้ายังไม่ลงพื้นที่ และขาดประชุมก็คงต้องมีการเปลี่ยนตัว มีคนรอเสียบอีกเยอะ อีก 2 สัปดาห์ก็จะสงกรานต์แล้ว ขอให้ช่วยทำงานให้เต็มที่หน่อย

แหล่งข่าวจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทยคนหนึ่งที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกงเปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พูดถึงสถานการณ์การเมืองที่มีอุปสรรคต่างๆ เข้ามากระทบรัฐบาล ท่านบอกว่าไม่ต้องกังวลอะไร ไม่มีอะไรทำให้รัฐบาลไปต่อไม่ได้ รัฐบาลเปรียบเหมือนเรือแล่นอยู่ในแม่น้ำ ไม่ให้เจออุปสรรคเลยไม่ได้ แน่นอนว่าเรือจะต้องโดนกระทบกราบซ้าย กราบขวาบ้าง แต่ก็วิ่งต่อไปได้ อยากให้ ส.ส.ช่วยกันในการร่วมประชุมสภาฯ วิปฯ จะต้องทำหน้าที่ให้แม่น และเข้มแข็ง ส.ส.จะต้องหาความรู้เรื่องการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อนำมาชี้แจงให้ประชาชนได้รู้ว่า เมื่อทำแล้วเขาจะได้รับอะไร ต้องให้ประชาชนเข้าใจ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการประชุมมีวาระรับรองต่างๆ และเสนอแผนการดำเนินงานพรรค ปี 2556 และเปลี่ยนแปลงข้อบังคับของพรรค โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บรรยายพิเศษเรื่อง โครงการไทยแลนด์ 2020 และ พ.ร.บ.กู้เงิน ซึ่งเป็นการวางแผนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปรับเปลี่ยนระบบการคมนาคม นำไปสู่การเปลี่ยนระบบขนส่งทางราง โดยการปรับเปลี่ยนสร้างความเชื่อมโยงเมืองระหว่างไทย และเพื่อนบ้าน ลดช่องว่างคนรวยคนจน เส้นใกล้-ไกล ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ทำให้ได้ขนส่งสะดวกขึ้น หากผ่าน พ.ร.บ.เรื่องการขนถ่ายสินค้าเพิ่มกำลังอย่างไม่เคยมีมาก่อน เป็นการปรับโครงสร้างพื้นฐาน ในที่ประชุมยังขอให้ ส.ส. ได้ชี้แจงให้ประชาชนให้เข้าใจ ถึงโครงการ พ.ร.บ.ไทยแลนด์ 2020 ทำให้ประเทศปรับเปลี่ยนโฉมไปสู่การพัฒนา นอกจากนี้ พ.อ.ภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ขอให้ ส.ส.มาร่วมประชุมวันที่ 28-29มี.ค.อย่างพร้อมเพรียง เพราะถือว่าเป็น พ.ร.บ.ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย และสร้างสรรค์เมืองใหม่ เศรษฐกิจใหม่

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า คาดว่าในวันที่ 1-3 เม.ย. จะมีการเสนอร่างกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ร่าง คือ ร่างแรก มาตรา 68 และมาตรา 237 วรรค 2 ร่างที่ 2 คือ มาตรา 190 และร่างที่ 3 คือ ร่างแก้ไขที่มาของ ส.ว. จึงอยากให้สมาชิกอยู่รวมกันพิจารณา หากใครมีภารกิจเดินทางไปต่างประเทศขอให้งด ซึ่งสมาชิกต้องเป็นองค์ประชุมตลอด ก่อนปิดสมัยประชุมในวันที่ 19 เม.ย.

เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของกลุ่ม 40 ส.ว.จะเดินหน้าพิจารณาต่อหรือไม่ นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิที่จะยื่นได้ แต่สมาชิกที่ยื่นร้องส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จึงไม่เข้าใจ ส่วนการพิจารณาก็ดำเนินการต่อไป เพราะยื่นไปแล้วก็เป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ

นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า รัฐบาลจะกู้ไปโกงว่า ไม่เป็นความจริง เป็นจินตนาการไว้ล่วงหน้า ขวาง พ.ร.บ.กู้เงิน หากติดตามผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน ก็เห็นด้วย แต่นายอภิสิทธิ์ มองเป็นเรื่องการเมือง เพราะหาก พ.ร.บ. ผ่าน รัฐบาลก็จะมีผลงาน อยากให้นายอภิสิทธิ์ คิดใหม่ทำใหม่ และเรื่องนี้ก็มีหน่วยงานในการตรวจสอบ และรัฐมนตรีก็ชี้แจงแล้ว ซึ่งการนำเสนอโครงการต่างๆ เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกฯ ยืนยันว่า ไม่ได้เหมือนที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ทำ และหลายโครงการมีปัญหา ออก พ.ร.บ.กู้เงิน โดยอำนาจรัฐบาล ไม่ผ่านสภา และไม่มีรายละเอียด กระดาษไม่กี่ใบ ในการอภิปรายเรื่อง พ.ร.บ.กู้เงิน จะไม่มีการตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกฯ และรัฐมนตรี จะไม่มีการประท้วงหากอภิปรายอยู่ในกรอบ หากอภิปรายนอกกรอบจะมีการชี้แจงเพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการประชุม ส.ส.เพื่อไทย นอกจากจะเน้นทำความเข้าใจเตรียมรับมือฝ่ายค้านในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทแล้ว ช่วงหนึ่งยังมีการอภิปรายอย่างดุเดือด โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง ได้ลุกขึ้นพูดในที่ประชุมด้วยท่าทีจริงจังต่อ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรค ในฐานะ รมว.มหาดไทย ว่า การต่อสู้ที่ผ่านมาก็ต่อสู้มาด้วยกัน แต่ก็ไม่เคยได้รับการดูแล ไม่เคยหวังอะไรให้มีตำแหน่งอะไร แต่ในการแต่งตั้งบอร์ด กปภ. ถ้าพวกท่านไม่พอใจให้ผมเป็นก็ลาออกก็ได้ แต่ถึงอย่างไรผมก็รักพรรค ทำงานให้พรรค เมื่อถึงช่วงนี้บรรยากาศเริ่มตึงเครียด ทำให้นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นมาห้ามปรามขอให้ใจเย็นๆ เพราะบางทีเราอาจไม่ได้ดั่งใจไปหมดทุกเรื่อง ขณะที่นายจารุพงศ์ ได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า แม้เป็น รมว.มหาดไทย ก็ไม่ได้ดูแลทั้งหมด ไปประชุมไปซะทุกเรื่อง ต้องไปดูรายละเอียดอีกที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการ และกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) จำนวน 7 คน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานกรรมการ นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณะบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต นายบุญเชิด คิดเห็น อธิบดีกรมที่ดิน นางชนาทิพย์ วีระสืบพงศ์ รองอธิบดีกรมสรรพากร นายชูจิรา กองแก้ว ข้าราชการบำนาญ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ แกนนำคนเสื้อแดง นายอัมภัส ปิ่นวนิชย์กุล และนายรอยล จิตรดอน ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) เป็นกรรมการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.เป็นต้นไป

หนึ่งใน ส.ส.เพื่อไทย ที่เข้าร่วมประชุมตั้งข้อสังเกตที่ พ.ต.ท.ไวพจน์ ออกมาตำหนิหัวหน้าพรรคอย่างฉุนเฉียว เนื่องจากต้องการเป็นประธานบอร์ด กปภ. เสียเอง แต่เมื่อได้เป็นเพียงบอร์ด กปภ.จึงเกิดอาการไม่พอใจแล้วมาโวยวายในที่ประชุม