อนุ กมธ.สอบผู้เสียชีวิตเหตุการณ์ทางการเมือง วุฒิฯ เผยผลสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ 10 เม.ย. 53 พบ “ชายชุดดำ” มีจริงจากวิดีโอคลิป ฉะ “ดีเอสไอ” เกียร์ว่างคดี “พล.อ.ร่มเกล้า” พบกระเดื่องระเบิด เอ็ม 67 ถูกขว้างมาจากบ้านข้างสตรีวิทย์ แต่ไม่สอบสวนต่อ ด้านภรรยา พล.อ.ร่มเกล้า วอนดีเอสไอตอบคำถามการตายของสามีเพื่อความสง่างาม
วันนี้ (9 เม.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 14.00 น.คณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามความคืบหน้าทางคดีของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ทางการเมือง ในคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ที่มีนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา เป็นประธาน ได้แถลงข่าวสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.21 รอ.) และผู้ชุมนุมเมื่อ 10 เม.ย. 2553
โดย พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อนุ กมธ.กล่าวว่า อนุ กมธ.ได้มีการศึกษาคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งมีการรวบรวมหลักฐาน และพยานบุคคลกว่า 100 ปาก ซึ่งผลการศึกษาได้ข้อสรุปใน 4 ประเด็นคือ ประเด็นที่ 1 อะไรเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดความรุนแรง โดยในประเด็นนี้อนุ กมธ.เห็นว่า เหตุการณ์ทางการเมืองในวันที่ 10 เม.ย. 2553 นั้นไม่ได้เกิดจากการเริ่มต้นโดยฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ ประเด็นที่ 2 ในเรื่องขอบเขต ความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในวันดังกล่าวนั้น อนุ กมธ.มองว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด เพราะการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ในขณะนั้นซึ่งในตอนแรกมีการชุมนุมอยู่แค่บริเวณแยกผ่านฟ้า แต่ภายหลังได้เลยมาที่ถนนราชดำเนิน จนมีการชุมนุมที่บริเวณแยกราชประสงค์
ประเด็นที่ 3 ในประเด็นเรื่องชายชุดดำนั้น จากหลักฐานซึ่งเป็นคลิปวิดีโอที่อนุ กมธ.ได้รับนั้น ปรากฏภาพชายชุดดำได้เข้ามาทำงานร่วมกับกลุ่ม นปช.อีกทั้งยังมีพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านได้ระบุว่า มีรถตู้ขับมาส่งชายชุดดำ จากนั้นกลุ่มชายชุดดำก็ได้เดินเข้าไปยังกลุ่มผุ้ชุมนุมที่อยู่บริเวณโรงเรียนสตรีวิทยา ซึ่งในขณะนั้นมีนักข่าวอิสระจากต่างประเทศสามารถบันทึกภาพไว้ แต่ก็ถูกชายชุดดำกลุ่มดังกล่าวใช้ปืนจี้หัวและยึดกล้องที่บันทึกภาพไป ดังนั้นเมื่อมีบุคคลที่พบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวหลายคนจึงเชื่อได้ว่า กลุ่มชายชุดดำมีส่วนร่วมในการใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหาร โดยอยู่ในพื้นที่ของกลุ่ม นปช.และประเด็นที่ 4 ในเรื่องความคืบหน้าการเสียชีวิตของ พล.อ.ร่มเกล้า ทางอนุ กมธ.เห็นว่า ในวันเกิดเหตุนั้นมีผู้ที่เก็บกระเดื่องระเบิดชนิดเอ็ม 67 จำนวน 2 ลูกซึ่งถูกขว้างมามาจากบ้านซึ่งอยู่บริเวณด้านข้างโรงเรียนสตรีวิทยา ซึ่งเป็นบริเวณที่กลุ่ม นปช.มีการชุมนุม แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กลับไม่ดำเนินการสอบสวน ดังนั้นทางอนุ กมธ.จึงเห็นว่าทางดีเอสไอมีการดำเนินการที่ล่าช้า ทั้งที่มีพยานหลักฐานชัดเจน
ด้าน นพ.วิรัตน์ พาณิชย์พงษ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะอนุ กมธ.กล่าวว่า ในคดีของ พล.อ.ร่มเกล้า นั้น เมื่อกลับไปดูที่เกิดเหตุนั้นพบว่า มีหลุมซึ่งเกิดจากระเบิดชนิดเอ็ม 67 ซึ่งนั่นน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ พล.อ.ร่มเกล้า เสียชีวิต นอกจากนี้ในกรณีการเสียชีวิตของนายวสันต์ ภู่ทอง กลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ตนเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ที่กระสุนจะถูกยิงมาจากฝ่ายทหาร เพราะบริเวณที่เกิดเหตุมีผู้ชุมนุมเป็นจำนวนมาก จึงเชื่อว่านายวสันต์น่าจะเสียชีวิตด้วยฝีมือกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยกันเอง เพราะขณะนั้นไม่มีทหารอยู่ในบริเวณดังกล่าว
ทั้งนี้นายสมชายได้กล่าวสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของอนุ กมธ.ว่า 1.มีชายชุดดำอยู่ในวันที่ 10 เม.ย.โดยมีการเตรียมการก่อนหน้าวันเกิดเหตุในการใช้อาวุธปืนอาก้า เอ็ม 77 ระเบิดเอ็ม 67 และแก๊สน้ำตา ยิงใส่เจ้าหน้าที่ที่ขณะนั้นมีเพียงโล่และกระบองเท่านั้น 2.อนุ กมธ.มีข้อสงสัยว่า ผู้เสียชีวิตจำนวน 26 ราย ที่พบในวันดังกล่าว จะถูกลำเลียงมาจากที่อื่นหรือไม่ เพราะหากดูจากรอยเลือดหรือดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุนั้นก็ขัดกับผลการตรวจสอบ อีกทั้งจากพยานหลักฐานก็ไม่สามารถระบุว่ามีผู้เสียชีวิตในบริเวณดังกล่าวมากถึง 26 ศพ ดังนั้นจึงอยากให้ดีเอสไอเร่งตรวจสอบในคดีนี้ และ 3.ในเรื่องการดำเนินคดีใน 4 กลุ่มคดีนั้น อนุ กมธ.เห็นว่าขณะนี้แทบจะไม่มีความคืบหน้า อีกทั้งยังมีความสงสัยว่าในส่วนการดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะจำเลยที่ 1 นั้น ทางอัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วหรือไม่ นอกจากนี้ยังตนมองว่ากระบวนการสอบสวนของดีเอสไอยังไม่ครอบคลุมผู้เสียชีวิต จำนวน 89 ราย
อย่างไรก็ตาม ทางคณะอนุกรรมาธิการจะเสนอผลการพิจารณาเข้าสู่ที่ประชุม กมธ.ในวันที่ 11 เม.ย.นี้ เพื่อเสนอเรื่องต่อไปยังวุฒิสภาต่อไป นอกจากนี้จะมีการแจ้งผลการศึกษาให้ญาติผู้เสียชีวิตได้รับทราบ ทั้งนี้ ขอฝากไปยังเจ้าหน้าที่รัฐที่ดำเนินการในเรื่องนี้ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเป็นธรรมทุกฝ่าย ตรงไปตรงมา ขอให้หาข้อเท็จจริงทั้งหมดให้ได้ก่อน แล้วค่อยดำเนินการข้ามขั้นไปสู่การนิรโทษกรรม ในส่วนของอนุ กมธ. นั้น ยืนยันว่าปฏิบัติตามหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติอย่างตรงไปตรงมา และเป็นธรรมที่สุด
ขณะที่ นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยา พล.อ.ร่วมเกล้า กล่าวว่า เรื่องการเสียชีวิตของ พล.อ.ร่มเกล้า นั้น ตนเคยทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ดีเอสไอมีการแถลงเรื่องนี้ แต่ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งตนก็หวังว่า ดีเอสไอจะตอบคำถามนี้อย่างรวดเร็วที่สุดเพื่อรักษาความสง่างามของหน่วยงานต่อไป