“สุกำพล” ยกตนสมัยคุมคมนาคมชูโครงสร้างพื้นฐานใหม่เพื่อการเชื่อมต่อ ถ้าไม่ทำจะเสียใจมาก อ้างอาเซียนหวัง ชี้กู้ 2 ล้านล้านแค่เฟสแรก ยันต้องสร้างชินกังเซ็นถึงสุดใต้-อีสาน ใช้ขนส่งร่นระยะทาง แถมทำนักเที่ยวจีนทะลัก ซัดพวกค้านถ่วงความเจริญ หยันทำแล้วไม่เหมือนสร้างโรงพักทดแทน
วันนี้ (28 มี.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 08.00 น. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุมสภาฯ ได้มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทที่หลายฝ่ายมีความเห็นห่วง เนื่องจากไม่มีการแสดงรายละเอียดของโครงการต่างๆ ว่า ต้องรอดูการพิจารณาของสภาฯ แม้โครงการกู้เงินจะไม่เกี่ยวกับด้านความมั่นคง แต่ตนเคยเป็น รมว.คมนาคมมาก่อนจึงทราบว่าเป็นการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ เพื่อเชื่อมต่อการคมนาคม และหากไม่ดำเนินการจะเสียใจมาก เนื่องจากอาเซียนมีความคาดหวังว่าจะต้องมีการเชื่อโยงเครือข่ายคมนาคมเข้าหากัน ประเทศไทยเหมือนไข่แดงและเพื่อนบ้านรอบๆเป็นไข่ขาวต้องเชื่อมโยงกันหมด สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเราได้ประโยชน์มาก ทั้งนี้โครงการกู้เงินดังกล่าวเป็นโครงการในเฟสแรกเท่านั้น ซึ่งยังไม่จบ เพราะจะต้องดำเนินการต่อไป โดยเฉพาะรถไฟความเร็วสูงที่ต่อไปจะต้องมีการขยายจาก จ.เชียงใหม่ถึง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เลยไปถึงปีนังของมาเลเซีย ในขณะที่เส้นทางตะวันออกเฉียงเหนือก็ไปถึง จ.อุบลราชธานี และ จ.หนองคาย
“2 ล้านล้านบาทไม่พอ เพราะต้องทำเป็นส่วนๆ ไปเรื่อยๆ ถ้าทำเสร็จแล้วการขนส่งสินค้าจะมหาศาล เมื่อผนวกกับท่าเรือปากบารา เราจะเห็นอะไรหลายๆ อย่าง ปัจจุบันเรือที่ขนสินค้าไปจีนต้องผ่านช่องแคบมะละกา และใช้เวลา 7 วันไปเซี่ยงไฮ้ ขณะที่ทะเลทางเหนือ, ใต้ และตะวันตกจะไกลจากทะเลมาก ซึ่งระยะทางจากเซี่ยงไฮ้มาคุนหมิงเท่ากับระยะทางจากปากบาราถึงคุนหมิง ซึ่งไทยจะได้ประโยชน์มากจากโครงการนี้ เพราะเป็นการร่นระยะทางในการขนส่งโดยการรถไฟความเร็วสูง ในแง่ความมั่นคงถือว่าเราได้ประโยชน์มากมาย ส่วนเรื่องความโปร่งใสเราก็ต้องดู เพราะเป็นนโยบาย โดยทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ไม่ใช่ค้านทุกเรื่อง ตรงไหนไม่เห็นด้วยก็บอกมา ไม่ใช่ค้านอยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่ไหว เพราะมันถ่วงความเจริญ” พล.อ.อ.สุกำพลกล่าว
พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวต่อว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่ามองแค่การก่อสร้างในระยะแรกเท่านั้น เช่นกรณีรถไฟ 10 สาย อยู่ใน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทด้วย แน่นอนว่าคงไม่พอ เพราะต้องมีการขยายต่อให้ครบทุกเส้นทาง เหมือนกับต่างประเทศที่ต้องดำเนินการเช่นกัน และต้องใช้เงินเพิ่มมากขึ้นอีก ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหนก็ต้องต่อเส้นทางออกไป วันนี้ทำไว้แค่นี้ก่อน เพราะวงเงิน 2 ล้านล้านบาทคงทำได้เท่านี้ ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลคำนึงถึงการพัฒนาไปสู่การเชื่อมโยงอาเซียนมากกว่าสนับสนุนการเกษตรของไทยนั้น ตนมองว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเราได้ประโยชน์ทั้งหมด เช่นเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวที่คาดหวังว่านักเที่ยวจากจีนจะเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก เพราะเส้นทางคมนาคมโดยรถไฟมีความสะดวกมากขึ้น
“บางคนกลัวว่าสินค้าจากจีนจะเข้ามาเยอะ และสินค้าไทยจะแย่ แต่เราต้องมองให้กว้าง อย่างจีนขายแอปเปิลได้ก็คงไม่เกิน 65 ล้านลูก แต่ไทยสามารถขายทุเรียนหรือเงาะได้ เขาได้ทั้งมณฑล เพราะตลาดของจีนใหญ่กว่าไทย แต่ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของไทยด้วย ผมยืนยันว่าไทยได้ประโยชน์แน่นอน เพราะเราอยู่ตรงกลาง เหมือนทำเลการค้าขาย คนที่อยู่ศูนย์กลางจะดีที่สุด เพราฉะนั้นทำเลของไทยมีความชัดเจนและดีที่สุด นักลงทุนต่างชาติก็เห็นด้วยกับโครงการเหล่านี้ การที่จะบอกว่า พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทไม่ได้เขียนว่าจะทำอะไรบ้างนั้น มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเราต้องบอก รับรองว่าทำไปแล้วดี ไม่ใช่ทำมาแล้วไม่ไหวเหมือนกับกรณีสร้างโรงพักทดแทน” รมว.กลาโหมกล่าว