“สมชาย” ซัด เหตุ “นช.แม้ว” สั่งขี้ข้าลุย พ.ร.บ.นิรโทษฯ แถมให้ รมว.ยธ.ดันใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แทนจำคุกใน 4 กรณี จี้เตรียมให้ใคร บี้ ปธ.วุฒิฯเปิดชื่อ ส.ว.เข้าชื่อแก้ รธน. หวั่นสลับร่างทำเพื่อตัวเอง ตบปากใครจ้อถอนสมควรตาย “ไพบูลย์” ชี้ นสพ.มะกัน แฉ “แม้ว” สไกป์บริหารประเทศจากนอกประเทศ สั่งตัดขาตรวจสอบจำนำข้าวเหลว พร้อมชงศาล รธน. หยุดพฤติกรรม
วันนี้ (25 มี.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุมได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ ทั้งนี้ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้หารือถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สไกป์มายังที่ประชุมพรรคเพื่อไทยพร้อมสั่งให้ดำเนินการหลายเรื่อง เช่น ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ รวมทั้งการประกาศใช้กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจำคุกโดยวิธีอื่นที่ สามารถจำกัดการเดินทางและอาณาเขต พ.ศ. 2556 โดย รมว.ยุติธรรม ที่มีความหมายคือให้ผู้ที่ถูกจำกัดที่ศาลสั่ง 4 ข้อ ได้แก่ 1. ถ้าถูกจำคุกและอาจต้องอันตรายถึงชีวิต 2. เป็นผู้ที่ต้องเลี้ยงดูบิดามารดา สามีภรรยาและบุตรอันขาดมิได้ 3. เป็นผู้เจ็บป่วยและต้องได้รับการรักษาต่อเนื่อง 4. เป็นผู้ที่มีเหตุต้องได้รับการทุเลา บุคคลเหล่านี้ไม่ต้องได้รับการจำคุก แต่ให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวใส่ข้อมือหรือข้อเท้าได้ ซึ่งกรณีนี้ตนไม่ทราบว่าจะเตรียมไว้ให้ใคร
นายสมชายกล่าวต่อว่า กรณีที่มีกลุ่ม ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและ ส.ว.บางส่วน ได้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 มาตรา 237 มาตรา 68 และที่มา ส.ว.นั้น ตนมีความเป็นห่วงว่าจะเป็นประเด็นที่ขัดแย้งต่อมติของศาลรัฐธรรมนูญ อีกทั้งการที่จะมีการ ส.ว.หรือ ส.ส.ลงมติใดๆ นั้นก็จะละเมิดต่ออำนาจศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขณะเดียวกันขอให้ประธานวุฒิสภาเปิดเผยรายชื่อ ส.ว.ที่ลงชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งหมดด้วยอย่าปกปิด เพราะอาจจะสลับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เป็นการฉ้อฉลได้ รวมทั้งการที่ ส.ว.บางคนให้สัมภาษณ์ว่า ส.ว.ที่ถอนชื่อสมควรตาย ตนคิดว่าเรื่องเป็นเรื่องใหญ่ ขอให้ทบทวนเรื่องนี้ และการที่กล่าวหาว่ากลุ่ม 40 ส.ว.ร้อนตัวต้องไปลงเลือกตั้งนั้น ก็ไม่เป็นความจริง
ส่วนนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นมี นสพ.นิวยอร์กไทม์ รายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ใช้สไกป์เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อทำหน้าที่บริหารประเทศและร่วมประชุม ครม. สามารถใช้อำนาจของตนเองเต็มพิกัดในการปกครองประเทศไทยจากบ้านพักในนครดูไบและบ้านพักในกรุงลอนดอน รวมทั้งโรงแรมในฮ่องกง และเป็นที่ทราบว่าโครงการจำนำข้าวสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศ โครงการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทที่จะสร้างหนี้สินทั่วประเทศนั้นล้วนมาจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณสไกป์ทั้งสิ้น ล่าสุด 19 มี.ค.พ.ต.ท.ทักษิณยังได้สไกป์สั่งการไปยังรัฐมนตรี ส.ส.ที่มาประชุมพรรคเพื่อไทยให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการแก้ไขเพื่อทำลายกลไกตรวจสอบถ่วงดุลของประชาชน องค์กรอิสระ ศาล และวุฒิสภา เพื่อขยายอำนาจให้ฝ่ายรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น ไม่ให้มีการตรวจสอบในการทุจริตในโครงการจำนำข้าวและโครงการเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท
นายไพบูลย์กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นยังได้สั่งการในวันนั้นอีกว่า ผู้ที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาให้เป็น รัฐมนตรี การกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมกับรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เป็นการทำการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ ในวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เป็นความผิดตามมาตรา 68 ตนในฐานะเป็นผู้ทราบการกระทำดังกล่าวจะหารือกับเพื่อน ส.ว. เพื่อใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญเสนอเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ รัฐมนตรี และส.ส.พรรคเพื่อไทยเลิกการกระทำดังกล่าว โดยจะเสนอในเร็วๆ นี้