xs
xsm
sm
md
lg

ครม.อนุมัติโครงการอัครดุริยะศิลปินราชสดุดี 84 พรรษา เห็นชอบให้ความช่วยเหลือชาวไร่อ้อย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)
ที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนของเลขาธิการอาเซียนต่อหนังสือของฝ่ายเยอรมนี และร่างความตกลงสำหรับการดำเนินโครงการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพในอาเซียน ให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อยในฤดูการผลิตปี 55/56 อนุมัติโครงการอัครดุริยะศิลปินราชสดุดี 84 พรรษา และร่างกฎกระทรวง ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบและบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร 2530

วันนี้ (19 มี.ค.) นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างหนังสือแลกเปลี่ยนของเลขาธิการอาเซียนต่อหนังสือของฝ่ายเยอรมนี และร่างความตกลงสำหรับการดำเนินโครงการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพในอาเซียน ทั้งนี้อนุมัติให้เลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในเอกสารทั้งสองฉบับดังกล่าวข้างต้น โดย​มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียนผ่านคณะผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ว่ารัฐบาลไทยเห็นชอบร่างเอกสารดังกล่าวและเห็นชอบให้เลขาธิการอาเซียน หรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในร่างเอกสารดังกล่าว โดย​ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนของอาเซียนที่ตอบรับการดำเนินโครงการกับหนังสือของรัฐบาลเยอรมนี มีสาระสำคัญดังนี้

​1.ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนของอาเซียนเป็นหนังสือที่ตอบรับการดำเนินโครงการ ต่อหนังสือแลกเปลี่ยนของรัฐบาลเยอรมนีที่ลงนามโดยเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำอาเซียน เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2555 2.สาระสำคัญของร่างหนังสือแลกเปลี่ยนกล่าวถึงการที่อาเซียนให้ความเห็นชอบกับข้อตกลงและเงื่อนไขที่ระบุในหนังสือแลกเปลี่ยนของฝ่ายเยอรมนี เช่น การให้สถาบัน Physikalisch Technische Bundestanstalt-PTB เป็นผู้ดำเนินโครงการฝ่ายเยอรมนี และคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านมาตรฐานและคุณภาพของอาเซียน (ASEAN Consultative Committee for Standards and Quality-ACCSQ) ทำหน้าที่ประสานการดำเนินโครงการฝ่ายอาเซียน

3.ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนของเลขาธิการอาเซียนและหนังสือแลกเปลี่ยนของรัฐบาลเยอรมนี ถือเป็นความตกลงระหว่างสองฝ่ายในการดำเนินโครงการ ภายใต้พันธกรณีความร่วมมือด้านเทคนิค และจะประกอบกันเป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาลเยอรมนีกับอาเซียน โดยจะมีผลให้เริ่มดำเนินโครงการได้ในวันที่ลงนามหนังสือแลกเปลี่ยนจากอาเซียน ร่างความตกลงสำหรับการดำเนินโครงการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพในอาเซียน โดยร่างความตกลงฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดรายละเอียดของข้อตกลงในการดำเนินโครงการประกอบด้วย วัตถุประสงค์และตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ การสนับสนุนการดำเนินโครงการของฝ่ายเยอรมนีและฝ่ายอาเซียน และข้อบทอื่นๆ เช่น การประเมินผลโครงการ การปรับปรุงแก้ไข การระงับข้อพิพาท ผลที่คาดว่าจะได้รับ รวมถึงพันธกรณีต่างๆ ซึ่งจะจัดทำขึ้นระหว่างอาเซียนกับ PTB และเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของประเทศเยอรมนี

โดยมีภาคผนวกแนบอีก 3 ฉบับ ได้แก่ หนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างอาเซียนกับประเทศเยอรมนี หนังสือจากสำนักเลขาธิการอาเซียนถึงประเทศเยอรมนี ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2551 และข้อเสนอโครงการ อย่างไรก็ตามร่างความตกลงฯ จะมีผลบังคับใช้เมื่อเลขาธิการอาเซียนหรือผู้แทนลงนามในร่างหนังสือแลกเปลี่ยนและร่างความตกลงฯ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ระยะเวลาดำเนินการทั้งสิ้น 7 ปี แบ่งเป็นระยะแรก 4 ปี โดยรัฐบาลเยอรมนีจะให้เงินสนับสนุนโครงการผ่านสถาบัน PTB รวมทั้งสิ้น 2.5 ล้านยูโร แบ่งเป็นระยะแรก 1.5 ล้านยูโร

ขณะเดียวกัน คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการให้ความช่วยเหลือเพิ่มค่าอ้อยในอัตราตันละ 160.00 บาท ตามมติคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เพื่อให้ชาวไร่อ้อยได้รับค่าอ้อย ในระดับที่คุ้มต้นทุนการผลิต ด้วยวิธีการกู้เงิน โดยให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ​โดยอนุมัติให้กองทุนฯ กู้เงิน (Straight loan) จาก ธ.ก.ส.ตามนัยมาตรา 27(6) แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน เพื่อนำมาช่วยเหลือเพิ่มค่าอ้อยในฤดูการผลิตปี 2555/2556 ในอัตราตันอ้อยละ 160.00 บาท โดยให้จ่ายตรงให้กับชาวไร่อ้อยในทุกตันอ้อยที่ส่งเข้าหีบในโรงงานน้ำตาลทราย ในฤดูการผลิตปี 2555/2556 จากผลผลิตอ้อยเบื้องต้นที่ 94.64 ล้านตัน รวมเป็นจำนวนเงินประมาณ 15,142.40 ล้านบาท (ไม่รวมดอกเบี้ย) หรือจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายตามปริมาณอ้อยเข้าหีบจริงฤดูการผลิตปี 2555/2556 ตามแผนชำระหนี้ของกองทุนฯ ใช้ระยะเวลา ประมาณ 14 เดือน โดยให้ อก.ควบคุม ตรวจสอบ กำกับดูแลการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยให้ถึงมือชาวไร่อ้อยที่มีสิทธิ์ให้ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ มีการบันทึกบัญชีให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยเป็นลูกหนี้ของกองทุนฯ และให้มีข้อมูลลูกหนี้แยกเป็นรายให้ชัดเจน อีกทั้งจัดระบบควบคุม ตรวจสอบ และกำกับดูแลโดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการด้วย และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ

​ทั้งนี้ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการเร่งรัดให้กระทรวงอุตสาหกรรมนำผลการศึกษาวิจัยแนวทางการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของไทย ซึ่งสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ได้ดำเนินการศึกษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไปพิจารณาร่วมกับสำนักงบประมาณและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยทั้งระบบให้เหมาะสมเป็นธรรมและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย แล้วให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป พร้อมทั้งให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งรัดการดำเนินงานของคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) ในการพิจารณากำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ในแต่ละฤดูกาลผลิตให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม เพื่อประกาศให้ชาวไร่อ้อยและผู้เกี่ยวข้องได้ทราบล่วงหน้าก่อนเริ่มฤดูกาลหีบอ้อย ทั้งนี้ เพื่อให้ชาวไร่อ้อยสามารถพิจารณาตัดสินใจขายอ้อยของตนในช่วงเวลาที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์สูงสุด

ด้าน ร.ท.(หญิง) สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการให้กรมศิลปากรดำเนินโครงการอัครดุริยะศิลปินราชสดุดี 84 พรรษา ส่วนที่เหลือ โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 362,311,000 บาท โดยเบิกจ่ายในลักษณะเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป ซึ่งกรมบัญชีกลางได้อนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว ตามใบกันเงินเลขที่ 10081370 สำหรับงบประมาณส่วนที่เหลืออีก จำนวน 61,325,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเทคโนโลยีในการขยายระบบบริการไปยังหอสมุดและหอจดหมายเหตุในภูมิภาค ให้กรมศิลปากรเสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

​สาระสำคัญของโครงการอัครดุริยะศิลปินราชสดุดี 84 พรรษา เป็นโครงการที่มูลนิธิหอสมุดดนตรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และหอสมุดดนตรีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 สำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร วธ.ได้ร่วมกันดำเนินการเพื่อเป็นการแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีและความกตัญญูกตเวทิตาแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อบำบัดทุกข์และบำรุงสุขแก่ประชาชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ นับแต่ทรงเถลิงถวัลยราชสมบัติกว่า 6 ทศวรรษตลอดมา รวมทั้งเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ ตลอดจนเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณ และพระอัจฉริยภาพด้านการดนตรีของ “องค์อัครดุริยะศิลปิน” ให้ขจรขจายทั่วทั้งราชอาณาจักรและประชาคมโลกอย่างกว้างขวางสืบไป

นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ ... (พ.ศ. ...) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบและบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2530 ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอโดยสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง (พ.ศ. 2533) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบและบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2530 โดยกำหนดให้ใช้เครื่องแบบเช่นเดียวกับข้าราชการการเมืองตำแหน่งอื่นตามกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเครื่องแบบข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2552 แต่มีข้อแตกต่างดังต่อไปนี้คือเครื่องแบบปฏิบัติราชการกำหนดเครื่องแบบราชการปฏิบัติราชการไว้ 2 ประเภท ตามที่กำหนดไว้เดิมเพื่อให้สอดคล้องกับเครื่องแบบปฏิบัติราชการของเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร

สำหรับตำแหน่งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและตำแหน่งสมาชิกสภาเขต ที่กำหนดไว้ 2 ประเภท คือ เครื่องแบบสีกากีคอพับ และเครื่องแบบสีกากีคอแบะ และกำหนดเพิ่มเติมให้มีเข็มรูปอักษรย่อ “กทม.” ในส่วนของเครื่องหมายแสดงสังกัดของเครื่องแบบปฏิบัติราชการแต่ละประเภท เพื่อให้สอดคล้องกับเครื่องแบบปฏิบัติราชการของเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครสำหรับตำแหน่งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและตำแหน่งสมาชิกสภาเขต ทั้งนี้ไม่ได้กำหนดในส่วนของเครื่องแบบสำหรับเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครหญิงมุสลิมตามที่กำหนดไว้ในกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ในส่วนของกางเกง กระโปรง

ส่วนเครื่องแบบพิธีการ ได้กำหนดเพิ่มเติมให้มีเข็มรูปอักษรย่อ “กทม.” ในส่วนของเครื่องหมายแสดงสังกัดของเครื่องแบบปฏิบัติราชการแต่ละประเภท เพื่อให้สอดคล้องกับเครื่องแบบปฏิบัติราชการของเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครสำหรับตำแหน่งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและตำแหน่งสมาชิกสภาเขต ทั้งนี้ ไม่ได้กำหนดในส่วนของเครื่องแบบสำหรับเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครหญิงมุสลิมตามที่กำหนดไว้ในกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ในส่วนของกางเกง กระโปรง


กำลังโหลดความคิดเห็น