“ยิ่งลักษณ์” ประชุม ก.ต.ช. บี้ “เฉลิม” ลงพื้นที่ภาคใต้แก้ปัญหาต่างๆ ต่อหน้าตำรวจ พร้อมเหน็บแนบด้วยการขอบคุณที่จะลงพื้นที่ ขณะเดียวกันวอนตำรวจทำหน้าที่ให้สมเป็นที่พึ่งประชาชน แถมฝากการบ้านทั้งปราบยาเสพติด ค้ามนุษย์ ค้าสัตว์ ค้างาช้าง คดีที่เกิดกับนักท่องเที่ยว ยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนด้านกำลังพล สวัสดิการ เป็นขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติหน้าที่
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันนี้ (18 มี.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) โดยก่อนการประชุมนายกฯ ได้ตรวจแถวกองเกียรติยศนายร้อยนักเรียนหญิงรุ่นแรก จากนั้นได้วางพานพุ่มที่พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 4 หน้าอาคาร 1 ตร. หลังจากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ลงนามสมุดตรวจเยี่ยม และฟังบรรยายสรุปภาพรวม ศปก.ตร. และได้เยี่ยมชมศูนย์ข้อมูล ศปก.ตร.ทั้ง 16 ศูนย์ พร้อมชมการสาธิตการใช้งานของศูนย์ฯ ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วาระการประชุมในวันนี้มีหลายเรื่องด้วยกัน อาทิ สตช.จะรายงานผลประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียนครั้งที่ 33 และผลการแก้ปัญหาขาดแคลนกำลังพล 3 จังหวัดชายแดนใต้ ส่วนวาระการพิจารณาจะมีการหารือเรื่องการแต่งตั้งนายตำรวจราชสำนักเวร
จากนั้นนายกฯ ได้มอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้บังคับการขึ้นไปจากทั่วประเทศว่า วันนี้รู้สึกสบายใจที่เห็นการทำงานอย่างบูรณาการเต็มที่ ซึ่งจะส่งผลให้เป็นประโยชน์ต่ออนาคต โดยมีการรวมศูนย์ซิงเกิลคอมมานด์ และจะสามารถนำข้อมูลต่างๆ ไปแก้ปัญหาให้กับประชาชน ได้อย่างรวดเร็ว และทันต่อเหตุการณ์ ตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศเกือบ 2 ปี มีหลายนโยบายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีการบริหารงานอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายระยะยาวที่รัฐบาลอยากเห็นประเทศมีการพัฒนาอย่างก้าวหน้า พร้อมกับเตรียมรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ดังนั้น เรื่องของสังคม และความมั่นคงถือว่าเป็นพื้นฐานสำคัญของการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำงานอย่างบูรณาการให้เกิดความเข้มแข็ง ถ้าบ้านเมืองมีความสงบสุขจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจต่างๆ ก็จะเจริญเติบโต ดังนั้น สตช.ถือเป็นหน่วยงานหลักในการปฏิบัติหน้าที่ที่จะทำให้เกิดประโยชน์ และประสิทธิภาพ ความมั่นคง รวมถึงความสงบภายในประเทศ
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ปัญหาอาชญากรรมที่มีมากขึ้น และถูกพัฒนารูปแบบต่างๆ อย่างหลากหลาย ดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนากำลังพล เจ้าหน้าที่ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเตรียมไว้ในอนาคต รวมทั้งอาชญากรรมพิเศษ การค้ามนุษย์ ยาเสพติด ความเดือดร้อนด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะต้องเร่งในการเตรียมการและพัฒนา
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้คือความเชื่อมั่นของประชาชนในประเทศ และต่างประเทศ หวังว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำงานด้วยความมุ่งมั่น เสียสละ และอดทน ทำหน้าที่อย่างมืออาชีพ ขณะเดียวกันขอแสดงความเสียใจต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงเรียกได้ว่าทำหน้าที่อย่างเสียสละเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง และขอให้กำลังใจญาติของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างสมเกียรติ และขอให้ทำหน้าที่ให้สมกับคำว่าตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุน สตช. ทั้งในเรื่องของงบประมาณ บุคลากร อุปกรณ์ และกำลังพล ซึ่งมีหลายนโยบายที่ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาระยะยาว เช่น เรื่องของการรองรับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะลงพื้นที่ปฏิบัติใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กว่า 3 พันอัตรา ทั้งนี้จะต้องมีการปรับกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้รวดเร็ว และทันต่อการปฏิบัติงาน ทั้งเรื่องของการปรับวุฒิ ระยะเวลาในการอบรม ซึ่งรัฐบาลพร้อมทำงานร่วมกับ สตช. หวังว่าในระยะยาวจะต้องพูดคุยเรื่องของการเตรียมกำลังพลรองรับ โดยเฉพาะในส่วนของที่จะดูแลนักท่องเที่ยวที่มีการเติบโตมาก ขอฝาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. ดูแลในระยะยาว
นอกจากนี้ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนสวัสดิการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่โดยจะมีการช่วยเหลือดูแลเจ้าหนาที่ในขณะปฏิบัติหน้าที่อย่างเหมาะสม รวมทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีที่จะจัดหาเพื่อใช้ปฏิบัติการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ได้แลกเปลี่ยนและเรียนรู้งานกับต่างประเทศ ซึ่งถ้าได้มีการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดก็จะส่งผลการพัฒนาสู่ระดับสากลได้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังได้ฝากแนวทางและเน้นย้ำในเรื่องต่างๆ ดังนี้ 1. เรื่องยาเสพติด ต้องขอบคุณ ร.ต.อ.เฉลิม ที่นำทีมแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ซึ่งสิ่งที่อยากเห็นเรื่องการทำงานในปีนี้คือการลงไปเน้นย้ำแก้ปัญหาในรายชุมชนรายพื้นที่ โดยเฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่อยากเห็นการลงไปทำงานในพื้นที่อย่างจริงจัง เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่บั่นทอนความสงบสุข และความมั่นคงในอนาคต และอยากให้บูรณาการเพิ่มเรื่องการทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการ ในการลงไปในพื้นที่ รวมถึงเรื่องการที่เราจะบังคับการใช้กฎหมายให้ลงไปถึงต้นทางเพื่อเป็นการแก้ปัญหา เพราะการปราบปรามนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายทาง การสืบหาแหล่งต้นทางของผู้ขายจะช่วยลดปัญหาได้ และไม่อยากเห็นเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
2. เรื่องการค้ามนุษย์ เป็นเรื่องที่ตนมีความเป็นห่วง และต่างชาติมีการพูดถึงมาก นานาประเทศได้ให้ความสำคัญ ถ้าดำเนินการต่ำกว่ามาตรฐานที่เป็นอยู่ก็จะมีผลกระทบต่อปัญหาด้านเศรษฐกิจ จึงอยากเห็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ให้มีการแก้ไขปัญหา โดยรัฐบาลจะบูรณาการตั้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม หมายเลข 1300 เพื่อให้เป็นการรับเรื่องร้องเรียนของเด็ก สตรี ผู้พิการ รวมการค้ามนุษย์
3. ปัญหาเรื่องการค้าสัตว์ และงาช้าง ที่ประเทศไทยเป็นทางผ่านเรื่องของการค้าสัตว์ จึงไม่อยากเห็นประเทศไทยเป็นสถานที่ที่เป็นสวรรค์ของกลุ่มคนค้าสัตว์ หรือลักลอบทำสิ่งผิดกฎหมาย ขอฝากให้มีการติดตามจับกุมให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงให้ติดตามนายพรานที่ฆ่าแม่ช้างเพื่อเอางา และลูกช้างโดยเร็ว และมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งขณะนี้ตนเองได้ประสานไปยังกองทัพบก และฝ่ายปกครองตรวจสอบที่อยู่อาศัยที่มีการลักลอบเข้าไปอยู่ในอุทยาน หรือการเข้าไปบุกรุกในพื้นที่ ขวางทางช้างขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน ต้องประสานงานเพื่อหาทางออกให้กับประชาชนด้วย เพื่อเป็นแก้ไขตามหลักมนุษยธรรม ทั้งนี้จะมีการแก้ไขโดยหาคำว่ายุติการลักลอบการค้างาช้าง ซึ่งจะมีการลงทะเบียนผู้ค้างาช้างทั้งหมด และทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการร่วมกัน
4. เรื่องการท่องเที่ยว ที่หลายคดีมีการทำลายความเชื่อมั่น ขอให้ทุกหน่วยงานโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวตรวจตรา และปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ขอฝาก ผบ.ตร.ทำหน้าที่เก็บข้อมูลตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งต้องทำงานพัฒนาร่วมกับกระทรวงมหาดไทย และท้องถิ่น และในอนาคตจะมีการติดกล้องซีซีทีวี และการจัดทำแผนที่แบบบูรณาการจากทุกกระทรวงเข้าด้วยกัน 5. เรื่องการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อยากเห็นการลงไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของการแก้ไขปัญหายาเสพติด และเสริมกำลังพล ขอฝากให้ ผบ.ตร.ดูแลเรื่องเครื่องมืออุปกรณ์ รวมถึงขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่
“ขอขอบคุณรองนายกฯ เฉลิม ที่จะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อไปเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประชาชน”
6. การเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ที่จะมีการนำเทคโนโลยีมาเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนโดยเฉพาะพื้นที่ที่จะมีการเชื่อมต่อระหว่างชายแดน ขอฝากให้ ร.ต.อ.เฉลิม ในฐานะที่ดูแลสภาความมั่นคงแห่งชาติ ช่วยกำหนดรูปแบบความมั่นคงของแนวชายแดนทั้งหมด ซึ่งทุกอย่างก็จะต่อเนื่องกับการกู้เงินทำโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท