“ปลอด” เผยเน้นคุมหมอกควันภาคเหนือ คาดโทษ “จุดไฟเผาถนน” สถานหนัก

ที่ประชุมจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันภาคเหนือ 9 จังหวัด เน้น 5 มาตรการ ทั้งกำหนดห้ามเผา ตั้งศูนย์อำนวยการส่วนหน้า ดึงระบบซิงเกิลคอมมานด์ ตั้ง กบอ.อำนวยการ และใช้กฎหมายหลายฉบับเอาผิดคนเผา พร้อมตั้งรางวัลนำจับ เชื่อคุมได้อยู่หมัด

วันนี้ (17 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม จัดทำแผนป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควัน ภาคเหนือ 9 จังหวัด ว่า ที่ประชุมรับทราบนโยบายจากนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาหมอกควัน และไฟป่าในภาคเหนือ โดยภายใน 3 เดือนครึ่งจะเน้น 5 มาตรการ คือ 1. ต้องไม่มีการเผาใน 3 พื้นที่ คือ ในเมือง พื้นที่เกษตร และพื้นที่ป่า 2. ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องรับผิดชอบในฐานะผู้อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาส่วนหน้า โดยจะมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการส่วนหน้า โดยจะอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ 1 จุดและจังหวัดแพร่หรือน่านอีก 1 จุด พร้อมกับดึงกำลังจากตำรวจ กองทัพบก กองทัพอากาศ เข้ามาร่วมลาดตระเวน และดับไฟ โดยมอบหมายให้ กองทัพอากาศเตรียมเครื่องบินซี 130 และบีที 67 ไว้ปฏิบัติการดับไฟป่า

3. กลยุทธ์ทั้งหมดจะใช้ระบบซิงเกิลคอมมานด์ ซึ่งจะมีการบูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสั่งการแบบเบ็ดเสร็จ ทั้งนี้ในวันที่ 19 ม.ค.นี้ ตนจะเดินทางไปพร้อมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อประชุมมอบนโยบายที่จังหวัดเชียงใหม่ 4. ในการแก้ไขปัญหา คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) จะเป็นฝ่ายอำนวยการในการแก้ไขปัญหา โดยเชิงนโยบายจะใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทั้งนี้การทำงาน 3 เดือนครึ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องรายงานต่อ กบอ.

และ 5. ระยะเวลาในการบังคับใช้กฎหมาย 3 เดือนครึ่ง โดยจะใช้กฎหมายหลายฉบับมาลงโทษคนที่ฝ่าฝืน ซึ่งมีโทษจากเบาไปหาหนัก และมีความผิดทั้งทางแพ่งและอาญา นอกจากนี้ คนที่จุดไฟเผาป่าริมถนนจะได้รับโทษหนัก และมีบางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมตั้งรางวัลนำจับบุคคลที่ทำผิด ทั้งนี้ เชื่อว่ามาตรการที่ออกมาจะลดการเผาป่าและลดหมอกควันได้ ทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ ซึ่งสร้างความเสียหายประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี อีกทั้งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และการสูญเสียทรัพยากรป่าไม้