xs
xsm
sm
md
lg

“เจ๊แดง” ลุย ส.ส.เชียงใหม่ แต่งตัวรอยึดเก้าอี้นายกฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายงานพิเศษ

หลังที่ นายเกษม นิมมลรัตน์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทย คนใกล้ชิดตระกูลวงศ์สวัสดิ์ ลาจากตำแหน่ง ส.ส.ไปแบบเงียบๆ เมื่อ 13 มีนาคม ทำให้คอการเมืองจำนวนมากอยากรู้ว่า

เพื่อไทยจะส่ง “เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” พี่สาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่แทนหรือไม่ หรือว่า “เจ๊แดง” จะส่งบุตรชายคนโต คือ ยศธนัน วงศ์สวัสดิ์ ลงสมัครเพื่อสร้างทายาทการเมืองรุ่น 2 ของตระกูลวงศ์สวัสดิ์แทน

คำแถลงอย่างเป็นทางการจากนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เมื่อ 17 มีนาคมที่ผ่านมา กับสิ่งที่คนอยากรู้ อ้างว่าการตัดสินใจส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 แทนเกษม จะเป็น “เจ๊แดง” หรือไม่ อยู่ที่การตัดสินใจของฝ่ายคุมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ของพรรคซึ่งตอนนี้คุมโดยบุญทรง เตริยาภิรมย์ ส.ส.เชียงใหม่ และรมว.พาณิชย์ น้องรักเจ๊แดง จะเป็นผู้พิจารณา

จากนั้นจะส่งชื่อมาให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาตัดสินใจ ซึ่งก็ไม่ปิดโอกาสหาก “เจ๊แดง” จะเสนอตัวลงสมัครและได้รับการอนุมัติตามลำดับชั้นจากระดับจังหวัดมาถึงระดับภาคและกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย

การอ้างกระบวนการดังกล่าวมันก็แค่หน้าฉากการเมือง ที่ทำให้ดูเหมือนพรรคเพื่อไทยมีระบบบริหารจัดการที่ดี แต่คนทั้งประเทศก็รู้ว่า หาก “เจ๊แดง” จะลงสมัครจริงหรือจะให้คนในครอบครัววงศ์สวัสดิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่มีใครในพรรคเพื่อไทยขวางได้หรอก ต่อให้ยิ่งลักษณ์หรือทักษิณ ชินวัตรก็ตามเถอะ

ก็ขนาดเก้าอี้รัฐมนตรีหรือการจัดสรรตำแหน่งการเมืองต่างๆ ในรัฐบาล และในพรรคเพื่อไทย รวมถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการหลายกระทรวง ฝีมือกำลังภายในระดับ “เจ๊จัดให้” ก็เป็นที่กล่าวขานกันไปทั่วทั้งบ้านทั้งเมือง จนได้ฉายา “เจ๊ ด.แรงฤทธิ์”

แค่ลงสมัคร ส.ส.ในพื้นที่เดิมของลูกสาวตัวเอง มีหรือ ใครจะขวาง “เจ๊แดง” ได้ ขืนแหยมมาสิ เงาหัวขาดในเพื่อไทยแน่นอน

กรณีของเกษม เป็น ส.ส.ผ่านการเลือกตั้งมาได้แค่ 10 เดือน ชนะการเลือกตั้งซ่อมมาเมื่อ มิถุนายน 2555 รวมเบ็ดเสร็จเป็น ส.ส.ยังไม่ถึงปี ลงเลือกตั้งซ่อมได้เป็น ส.ส.แทน ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ บุตรสาวเจ๊แดง ที่ต้องพ้นจาก ส.ส.เพราะคำตัดสินของศาลฎีกาฯ ในคดีปกปิดบัญชีทรัพย์สิน ตอนนั้นก็ใช้งบประมาณไปร่วม 10 ล้านบาท

แล้วจู่ๆ “เกษม” ก็มาลาออกโดยอ้างเหตุผลที่ว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่กลับจะขอไปดูแลประชาชนในพื้นที่เลยจะไปลงสมัครในสนาม อบจ.เชียงใหม่ ที่ฟังดูแล้วมันขัดๆกันอยู่

แต่ความไม่ชัดเจนในกรณีการลาออกดังกล่าวของเกษม ก็ทำให้ประเทศต้องมีการจัดการเลือกตั้งซ่อมเสียเงินภาษีประชาชนไปอีก 10 กว่าล้านบาท

ไม่รู้ว่าสิ่งนี้ “ทักษิณ-เจ๊แดง” จะคิดหรือเปล่า อย่าคิดว่าคนเชียงใหม่ และคนทั้งประเทศ เขาจะไม่รู้สึกอะไร ของแบบนี้จะมาทำการเมืองแบบเล่นขายของไม่ได้

ยิ่งการลาออกของเกษม ถูกมองว่าเป็นการลาออกตามคำสั่งเพื่อเปิดทางให้ ตระกูลวงศ์สวัสดิ์ มีที่ยืนการเมืองเต็มรูปแบบ

ถึงขั้นมีข่าวว่าเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการประชุมระดับแกนนำพรรคเพื่อไทยแล้วมีการหารือถึงคดีความต่างๆ ของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมถึงการประเมินสถานการณ์ฝ่ายตรงข้ามที่อาจเล่นเกมหนักบดขยี้รัฐบาลในช่วงสองปีสุดท้ายก่อนครบอายุรัฐบาล

จนมีข่าวว่าแกนนำพรรคมีความเป็นห่วงไม่น้อย เพราะบางอย่างควบคุมไม่ได้ เช่น การสอบสวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในบางสำนวน อาทิ การตรวจสอบเรื่องการแจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน ที่ก่อนหน้านี้เคยมีการรายงานข่าวว่ามีรายการทรัพย์สินบางรายการของยิ่งลักษณ์ ไม่แจ้งเอาไว้

เช่น รายการกู้ยืมเงินระหว่างยิ่งลักษณ์กับ อนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส รวมถึงคดียื่นถอดถอนต่างๆ ที่ประชาธิปัตย์ชงเรื่องไปให้ ป.ป.ช. อย่างคดีจำนำข้าว ที่แม้ ป.ป.ช.จะตั้งอนุกรรมการไต่สวนสอบเรื่องรับจำนำข้าวโดยมีเป้าหลักคือ บุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ แต่หากจำกันได้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านก็พยายามลากไปถึงยิ่งลักษณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่า ป.ป.ช.จะขยายผลไปถึงได้แค่ไหน

แม้ดูแล้ว หลายสำนวน ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ข่าวยังเงียบๆ อยู่ โดยเฉพาะเรื่องการตรวจสอบการแจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน ก็พบว่า ป.ป.ช.มีการให้ข่าวล่าสุดว่าไม่พบอะไรผิดปกติ

กระนั้นฝั่งเพื่อไทยมีความเชื่อมาตลอดว่า องค์กรอิสระหลายแห่งไม่ใช่แค่ ป.ป.ช. ต่างก็อยู่ฝ่ายตรงข้ามพรรคเพื่อไทย เห็นเงียบๆ แบบนี้ วางใจไม่ค่อยได้

จึงทำให้วงหารือดังกล่าวเห็นว่า จำเป็นต้องมีแผนสำรองเอาไว้ เผื่ออุบัติเหตุการเมืองเกิดขึ้นกับ ยิ่งลักษณ์ และทางที่ดีที่สุดก็คือ ต้องเอาคนในครอบครัว “ชินวัตร-วงศ์สวัสดิ์” มาเสียบเป็นอะไหล่กันเหนียวไว้ก่อน ด้วยการให้เข้ามาเป็น ส.ส. เผื่อมีอะไรฉุกเฉินกับ ยิ่งลักษณ์ ก็ดันเสียบทันที!

แม้ฝั่งเพื่อไทยไล่ตั้งแต่โฆษกพรรค-ส.ส.เชียงใหม่ และแกนนำพรรคสายเจ๊แดงจะพยายามปฏิเสธข่าวว่า หาก “เจ๊แดง” ลงสมัคร ส.ส.แล้วได้รับเลือกตั้ง ก็ไม่ใช่เป็นแผนนายกฯ สำรอง อย่างที่มีการวิเคราะห์ ถึงขั้นตอกกลับคนที่คิดแบบนี้ จินตนาการสูงเกิน

เพราะยังไม่รู้เลยว่า “เจ๊แดง” จะลงสมัคร ส.ส.จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อรูปการณ์ทั้งหมด มันมีอะไรแปลกๆ สอดรับกันไปหมด จนถึงขั้น ส.ส.ที่เป็นลูกน้องเจ๊แดง ลาออกจากการเป็นส.ส.กลางคันแบบนี้ ต่อให้อ้างเหตุผลว่า จะไปลงนายก อบจ. มันก็ดูแปลกๆ อย่างมาก ความกังขาจึงมีอยู่สูง

อีกทั้งหากจำกันได้ ตอนเพื่อไทยแพ้เลือกตั้งซ่อม ส.ส.ปทุมธานี เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา หลังว่าที่ ร.ต.สุเมธ ฤทธาคนี อดีต ส.ส.เขต 5 ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย ลาออกจาก ส.ส.ไปสมัครนายกฯ อบจ.ปทุมธานี แล้วพรรคเพื่อไทยส่ง สมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.แทน

ผลปรากฏว่า คนปทุมธานีสั่งสอนเพื่อไทยทั้งชุด โดย ว่าที่ ร.ต.สุเมธ แพ้การเลือกนายก อบจ. เช่นเดียวกับที่สมชายก็แพ้เลือกตั้งซ่อมให้กับประชาธิปัตย์แบบพลิกความคาดหมาย

ตอนนั้น เพื่อไทย โดยเฉพาะ ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินมายังที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย แสดงความไม่พอใจอย่างมาก ถึงขั้นบอกว่าผลเลือกตั้งที่ออกมาเป็นการลงโทษของประชาชนชาวปทุมธานี ที่เลือกให้เป็น ส.ส.แต่กลับไม่ยอมเป็น พรรคคัดค้านแล้วก็ไม่ฟัง ต่อไปให้ไปหาพรรคใหม่อยู่ได้แล้ว ทำให้พรรคเสียหาย ไม่ต้องมาอยู่เพื่อไทย

มาวันนี้ จู่ๆ เพื่อไทย กลับไม่มีคำแถลงที่ชัดเจนเพียงพอถึงเหตุผลการลาออกของเกษม

ทำแบบนี้ ต่อให้การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เกษมได้คะแนนมา 72,388 คะแนน ทิ้งห่าง นางกัลยกรณ์ เจียมกิจวัฒนา ผู้สมัครประชาธิปัตย์ ที่ได้ 19,275 คะแนนไปแบบขาดลอย แต่เพื่อไทย ก็ต้องคิดหนักเหมือนกัน ในการเอาเหตุผลไปชี้แจงกับคนเชียงใหม่ หากคนยังเชื่อว่า พรรคเพื่อไทย เล่นการเมืองเหมือนเอาเก้าอี้ ส.ส.มาเป็นสมบัติประจำตระกูล สั่งให้ เกษม ลาออกเพื่อหวังให้ “เจ๊แดง” ได้เป็น ส.ส.

แม้เพื่อไทยมีฐานเสียงแน่นหนาในพื้นที่เชียงใหม่ ก็อย่าคิดว่าคนเชียงใหม่เขาจะไม่รู้สึกรู้สมอะไร ที่พรรคเพื่อไทยทำกับเขาแบบนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น