กกต.เสนอ ครม.ทูลเกล้าฯ ตรา พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ 21 เม.ย. เปิดรับสมัคร 2-6 เม.ย. ด้าน ผอ.กกต.เชียงใหม่ห่วงผู้มาใช้สิทธิอาจน้อยเหตุเพิ่งเลือกตั้งซ่อมแทนลูก “เจ๊แดง” ไปแค่ 9 เดือนทำคนเบื่อ
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวภายหลังการประชุม กกต.นัดพิเศษ ว่าที่ประชุมมีมติเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทูลเกล้าฯ เพื่อให้ทรงตราร่างพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 3 แทนตำแหน่งที่ว่าง หลังนายเกษม นิมมลรัตน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ยื่นหนังสือลาออกโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยที่ประชุม กกต.เสนอให้กำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 21 เมษายน รับสมัครเลือกตั้งวันที่ 2-6 เมษายน และลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 12 เมษายน
สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 3 ประกอบไปด้วย อำเภอสันกำแพง ดอยสะเก็ด และแม่ออน ซึ่งจากการเลือกตั้งซ่อมเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2555 แทน น.ส.ชินนิชา วงศ์สวัสดิ์ ที่ถูกศาลฎีภากแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพาษาลงโทษกรณีปกปิดบัญชีทรัพย์สินหนี้สินนั้น มีหน่วยเลือกตั้ง 296 หน่วย มีผู้มาใช้สิทธิจำนวน 100,363 คน คิดเป็นร้อยละ 73.65 ทั้งนี้ คาดว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้จำนวนไม่น่าจะแตกต่างจากการเลือกตั้งซ่อมครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะใช้งบประมาณราว 10 ล้านบาทเศษ
ด้านนายสุชาติ ใจภักดี ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กกต.เชียงใหม่มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยตั้งเป้าว่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับจำนวนผู้สมัคร หากมีผู้สมัครลงแข่งขันมากก็จะทำให้ประชาชนตื่นตัวและออกมาใช้สิทธิจำนวนมาก อีกทั้งเขตเลือกตั้งที่ 3 นี้เพิ่งจะมีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2555 ซึ่งผ่านมาแค่ 9 เดือนเท่านั้น ถือว่าเป็นเขตที่จัดการเลือกตั้งที่บ่อยเกินไป อาจทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อย อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งในครั้งนี้จากข้อมูลล่าสุดพบผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขต 3 จำนวน 137,292 คน มีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 304 หน่วย
ส่วนกระแสข่าวว่านายเกษมลาออกเพื่อเปิดทางให้นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 3 นั้น นายสุชาติกล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับพรรคว่าจะส่งใครลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะเป็นหน้าที่ของพรรคในการตัดสินใจ
ด้านนายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า การลาออกของนายเกษมเป็นสิทธิส่วนตัว ที่กฎหมายไม่ได้ห้าม และคงจะไปดำเนินการให้เป็นผู้ชดใช้ค่าเลือกตั้งไม่ได้ ส่วนจะให้ผู้ลาออกจ่ายค่าเลือกตั้งนั้น ต้องรอดูการพิจารณากฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นที่ กกต.เสนอให้มีการแก้ไขในประเด็นให้ผู้บริหารหรือสมาชิกท้องถิ่นที่ลาออกก่อนครบวาระชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งใหม่ก่อนว่าสภาผู้แทนราษฎรจะเห็นด้วยหรือไม่ หากมีผลตอบรับที่ดีก็จะมีการเสนอแก้ไขในส่วนกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.
