วานนี้ (14 มี.ค.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้เปิดเผยรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอดีตรัฐมนตรี ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ( ยิ่งลักษณ์ 1 ) หลังพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 56 จำนวน 16 ราย 17 ตำแหน่ง พบว่ามีรัฐมนตรีที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 9 ราย และมีทรัพย์สินลดลง 7 ราย ดังนี้
พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี ที่แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตนเอง-คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เมื่อครั้งพ้นตำแหน่งที่แจ้งบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินจำนวน 28,218,770 บาท และแจ้งกรณีพ้นครบ 1 ปี ไว้ว่า มีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินจำนวน 27,954,333 บาท เท่ากับว่า พล.ต.อ.โกวิท มีทรัพย์สินลดลง 264,437 บาท
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ เมื่อครั้งพ้นตำแหน่งไว้ทั้งสองตำแหน่งตัวเลขเท่ากัน ว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินจำนวน 60,485,623 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ1ปี ว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินจำนวน 62,718,787 บาท เท่ากับว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 2,233,164 บาท
นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ เมื่อครั้งพ้นตำแหน่งไว้ว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่านี้สินจำนวน 101,324,666 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ 1 ปีว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 99,263,243 บาท หรือมีทรัพย์สินลดลง 2,061,423 บาท
นางสาวกฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งบัญชีทรัพย์สินเมื่อครั้งพ้นตำแหน่งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินจำนวน 16,662,565 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ1ปีว่ามีทรัพย์สินมากว่าหนี้สินจำนวน 16,958,138 บาท หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 295,573 บาท
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ เมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่า มีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินจำนวน 380,789,887 บาท และแจ้งบัญชีไว้เมื่อครั้งพ้นครบ 1 ปีว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 312,001,874 บาท หรือ มีทรัพย์สินลดลง 68,788,013 บาท
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ เมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่า มีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 113,423,072 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ1ปีว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 113,720,533 บาท หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 297,461 บาท
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ เมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่า มีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 15,180,681 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ 1 ปี ว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 17,282,519 บาท หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 2,101,838 บาท
นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ รมช.เกษตรและสหกรณ์ แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ เมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 33,673,826 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ1ปีว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 29,388,566 บาท หรือมีทรัพย์สินลดลง 4,285,260 บาท
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ เมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่า มีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 49,420,434 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ1ปีว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 50,840,170 บาท หรือทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1,419,736 บาท
นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รมช.คมนาคม แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 3,937,398 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ1ปีว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 5,193,463 บาท เพิ่มขึ้น 1,256,065 บาท
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 197,299,176 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ1ปีว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 200,293,703 บาท เพิ่มขึ้น 2,994,527 บาท
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 24,082,821 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นตำแหน่งครบ1ปี มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 21,287,381 บาท ลดลง 2,795,440 บาท
นางบุญรื่น ศรีธเรศ รมช.ศึกษาธิการ แจ้งบัญชีทรัพย์สินเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 28,773,775 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นตำแหน่งครบ1ปี มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 28,490,629 บาท ลดลง 283,146 บาท
นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล รมช.ศึกษาธิการ แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 214,666,146บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นตำแหน่งครบ1ปี มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 212,504,888 บาท ลดลง 2,161,258 บาท
นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รมช.สาธารณสุข แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 6,145,764บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นตำแหน่งครบ1ปี มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 6,963,806 บาท เพิ่มขึ้น 818,042 บาท
นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรม แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 261,437,519 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นตำแหน่งครบ1ปี มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 266,859,054 บาท เพิ่มขึ้น 5,421,535 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรีที่พ้นตำแหน่งครบ1ปี แต่ละรายพบว่า ในส่วนนายวรรณรัตน์ และคู่สมรส นั้นมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 5,421,535 บาท โดยเป็นทรัพย์สินในส่วนที่ดิน ในบัญชีของคู่สมรส
ส่วนบัญชีทรัพย์สินของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เมื่อครั้งพ้นตำแหน่ง รมว.กลาโหมใหม่ๆ กับเมื่อครั้งพ้นตำแหน่งกับรมว.กลาโหมครบ 1 ปีนั้น พบว่ามีทรัพย์สินลดลงมากถึง 68,788,013 บาท และเมื่อตรวจสอบรายละเอียดพบว่า ในส่วนของรายการทรัพย์สินที่ลดลงนั้น เป็นส่วนของเงินฝาก ที่ดิน โรงเรือน และสิ่งปลูกสร้าง แต่ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินฯของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ และคู่สมรส ระหว่างการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินฯ เมื่อครั้งพ้นตำแหน่งรมว.กลาโหมครบ 1 ปี คือ ยื่นเมื่อวันที่ 17 ม.ค.56 ที่มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 312,001,874 บาท เทียบกับการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินฯครั้งล่าสุด คือ กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ที่ยื่นฯเมื่อวันที่ 27 ต.ค.55 ที่แสดงบัญชีทรัพย์สินฯไว้ 310,485,401 บาท แล้ว จึงพบว่าตั้งแต่ช่วงที่ดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม จนถึงรองนายกรัฐมนตรี มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1,516,473 บาท
และสำหรับบัญชีทรัพย์สินฯของพล.อ.อ.สุกำพล และคู่สมรส เมื่อเทียบระหว่างบัญชีที่ยื่นพ้นจากตำแหน่งรมว.คมนาคมใหม่ๆ กับบัญชีที่ยื่นพ้นจากตำแหน่งรมว.คมนาคม ครบ1ปี พบว่ามีทรัพย์สิน เพิ่มขึ้น 1,419,736 บาท และจากการตรวจสอบในส่วนที่เพิ่มขึ้นนั้น คือทรัพย์สินของคู่สมรส คือในส่วนของที่ดิน ที่เพิ่มขึ้นจำนวน 9,500,000 บาท แต่เมื่อตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดในทุกรายการแล้วพบว่า มีหลายรายการที่ลดลง คือ ส่วนที่เป็นเงินฝาก เงินลงทุน ยานพาหนะ จึงทำให้ตัวเลขเฉลี่ยของทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเพียง 1,419,736 บาท ตามที่แสดงไว้ข้างต้น
แต่อย่างไรก็ตามพล.อ.อ.สุกำพล และคู่สมรส ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯไว้ล่าสุด เมื่อเข้ารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม วันที่ 23 ม.ค.55 โดยมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 49,420,434 บาท
สำหรับรัฐมนตรีรายอื่น อาทิ นายกิตติศักดิ์ มีทรัพย์สินฯ เพิ่มขึ้น 1,256,065 บาท โดยทรัพย์สินส่วนที่เพิ่มขึ้น คือ เงินฝาก ซึ่งเมื่อเทียบกับรัฐมนตรี ทั้ง 16 ราย ที่ทางป.ป.ช. ได้แสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในครั้งนี้พบว่านายกิตติศักดิ์ เป็นรัฐมนตรีที่มีทรัพย์สินน้อยที่สุด คือมีเพียง 5,193,463 บาท เท่านั้น
พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี ที่แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตนเอง-คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เมื่อครั้งพ้นตำแหน่งที่แจ้งบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินจำนวน 28,218,770 บาท และแจ้งกรณีพ้นครบ 1 ปี ไว้ว่า มีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินจำนวน 27,954,333 บาท เท่ากับว่า พล.ต.อ.โกวิท มีทรัพย์สินลดลง 264,437 บาท
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ เมื่อครั้งพ้นตำแหน่งไว้ทั้งสองตำแหน่งตัวเลขเท่ากัน ว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินจำนวน 60,485,623 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ1ปี ว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินจำนวน 62,718,787 บาท เท่ากับว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 2,233,164 บาท
นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ เมื่อครั้งพ้นตำแหน่งไว้ว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่านี้สินจำนวน 101,324,666 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ 1 ปีว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 99,263,243 บาท หรือมีทรัพย์สินลดลง 2,061,423 บาท
นางสาวกฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งบัญชีทรัพย์สินเมื่อครั้งพ้นตำแหน่งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินจำนวน 16,662,565 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ1ปีว่ามีทรัพย์สินมากว่าหนี้สินจำนวน 16,958,138 บาท หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 295,573 บาท
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ เมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่า มีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินจำนวน 380,789,887 บาท และแจ้งบัญชีไว้เมื่อครั้งพ้นครบ 1 ปีว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 312,001,874 บาท หรือ มีทรัพย์สินลดลง 68,788,013 บาท
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ เมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่า มีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 113,423,072 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ1ปีว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 113,720,533 บาท หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 297,461 บาท
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมช.คลัง แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ เมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่า มีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 15,180,681 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ 1 ปี ว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 17,282,519 บาท หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 2,101,838 บาท
นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ รมช.เกษตรและสหกรณ์ แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ เมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 33,673,826 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ1ปีว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 29,388,566 บาท หรือมีทรัพย์สินลดลง 4,285,260 บาท
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ เมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่า มีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 49,420,434 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ1ปีว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 50,840,170 บาท หรือทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1,419,736 บาท
นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ รมช.คมนาคม แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 3,937,398 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ1ปีว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 5,193,463 บาท เพิ่มขึ้น 1,256,065 บาท
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 197,299,176 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นครบ1ปีว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 200,293,703 บาท เพิ่มขึ้น 2,994,527 บาท
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 24,082,821 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นตำแหน่งครบ1ปี มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 21,287,381 บาท ลดลง 2,795,440 บาท
นางบุญรื่น ศรีธเรศ รมช.ศึกษาธิการ แจ้งบัญชีทรัพย์สินเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 28,773,775 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นตำแหน่งครบ1ปี มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 28,490,629 บาท ลดลง 283,146 บาท
นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล รมช.ศึกษาธิการ แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 214,666,146บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นตำแหน่งครบ1ปี มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 212,504,888 บาท ลดลง 2,161,258 บาท
นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รมช.สาธารณสุข แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 6,145,764บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นตำแหน่งครบ1ปี มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 6,963,806 บาท เพิ่มขึ้น 818,042 บาท
นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรม แจ้งบัญชีทรัพย์สินฯเมื่อครั้งพ้นจากตำแหน่งว่ามีบัญชีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 261,437,519 บาท และแจ้งเมื่อครั้งพ้นตำแหน่งครบ1ปี มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 266,859,054 บาท เพิ่มขึ้น 5,421,535 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรีที่พ้นตำแหน่งครบ1ปี แต่ละรายพบว่า ในส่วนนายวรรณรัตน์ และคู่สมรส นั้นมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 5,421,535 บาท โดยเป็นทรัพย์สินในส่วนที่ดิน ในบัญชีของคู่สมรส
ส่วนบัญชีทรัพย์สินของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เมื่อครั้งพ้นตำแหน่ง รมว.กลาโหมใหม่ๆ กับเมื่อครั้งพ้นตำแหน่งกับรมว.กลาโหมครบ 1 ปีนั้น พบว่ามีทรัพย์สินลดลงมากถึง 68,788,013 บาท และเมื่อตรวจสอบรายละเอียดพบว่า ในส่วนของรายการทรัพย์สินที่ลดลงนั้น เป็นส่วนของเงินฝาก ที่ดิน โรงเรือน และสิ่งปลูกสร้าง แต่ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินฯของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ และคู่สมรส ระหว่างการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินฯ เมื่อครั้งพ้นตำแหน่งรมว.กลาโหมครบ 1 ปี คือ ยื่นเมื่อวันที่ 17 ม.ค.56 ที่มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 312,001,874 บาท เทียบกับการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินฯครั้งล่าสุด คือ กรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ที่ยื่นฯเมื่อวันที่ 27 ต.ค.55 ที่แสดงบัญชีทรัพย์สินฯไว้ 310,485,401 บาท แล้ว จึงพบว่าตั้งแต่ช่วงที่ดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม จนถึงรองนายกรัฐมนตรี มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1,516,473 บาท
และสำหรับบัญชีทรัพย์สินฯของพล.อ.อ.สุกำพล และคู่สมรส เมื่อเทียบระหว่างบัญชีที่ยื่นพ้นจากตำแหน่งรมว.คมนาคมใหม่ๆ กับบัญชีที่ยื่นพ้นจากตำแหน่งรมว.คมนาคม ครบ1ปี พบว่ามีทรัพย์สิน เพิ่มขึ้น 1,419,736 บาท และจากการตรวจสอบในส่วนที่เพิ่มขึ้นนั้น คือทรัพย์สินของคู่สมรส คือในส่วนของที่ดิน ที่เพิ่มขึ้นจำนวน 9,500,000 บาท แต่เมื่อตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดในทุกรายการแล้วพบว่า มีหลายรายการที่ลดลง คือ ส่วนที่เป็นเงินฝาก เงินลงทุน ยานพาหนะ จึงทำให้ตัวเลขเฉลี่ยของทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเพียง 1,419,736 บาท ตามที่แสดงไว้ข้างต้น
แต่อย่างไรก็ตามพล.อ.อ.สุกำพล และคู่สมรส ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯไว้ล่าสุด เมื่อเข้ารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม วันที่ 23 ม.ค.55 โดยมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 49,420,434 บาท
สำหรับรัฐมนตรีรายอื่น อาทิ นายกิตติศักดิ์ มีทรัพย์สินฯ เพิ่มขึ้น 1,256,065 บาท โดยทรัพย์สินส่วนที่เพิ่มขึ้น คือ เงินฝาก ซึ่งเมื่อเทียบกับรัฐมนตรี ทั้ง 16 ราย ที่ทางป.ป.ช. ได้แสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในครั้งนี้พบว่านายกิตติศักดิ์ เป็นรัฐมนตรีที่มีทรัพย์สินน้อยที่สุด คือมีเพียง 5,193,463 บาท เท่านั้น