UV-GOLD อสังหาฯในเครือบริษัทฐาปน-ปณต สิริวัฒนภักดี ผลดำเนินงาน 6 เดือนขาดทุน UV แจงรายได้ 1,592 ล้านบาท ขาดทุน 183 ล้านบาท เหตุยอดขายอสังหาฯลด แถมต้องแบกรับผลดำเนินงานของ GOLD รอบ 6 เดือนขาดทุน 153 ล้านบาท
นายวรวรรต ศรีสอ้าน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) (ซึ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือบริษัท อเดลฟอส จำกัดสัดส่วน 58% บริษัทในเครือนายฐาปน และนายปณต สิริวัฒนภักดี ลูกชายเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒภักดี ) แจ้งถึงผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 และรอบ 6 เดือน 2556 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขาย บริการ และให้เช่า ในไตรมาส 2/56 จำนวน 687.7 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 2/55 จำนวน 404.3 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 37 เนื่องจากไม่มีการรับรู้รายได้จากอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายประเภทคอนโดมิเนียม ต่างจากในช่วงไตรมาส 2/55 มีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดจำนวน 440 ยูนิต มูลค่า 867.2 ล้านบาท
ส่วนผลการดเนินงานรอบ 6 เดือน 56 บริษัทมีรายได้รวม 1,592.33 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 183.06 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2/56 บริษัทรับรู้รายได้จากอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายของกลุ่มบริษัทแผ่นดินทอง เพิ่มขึ้นประมาณ 148.4 ล้านบาท (โดยบริษัทฯถือหุ้น 50% )
ขณะที่รายได้จากการให้เช่าและบริการจากอาคารสำนักงาน เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 55 จำนวน 257.2 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากอาคารสำนักงานของกลุ่มบริษัท แผ่นดินทอง เพิ่มขึ้น 216.7 ล้านบาท โดยมาจาก อาคารสำนักงานสาทร สแควร์ และบริษัทมีรายได้จากการให้เช่าอาคารสำนักงาน ปาร์คเวนเซอร์ อีโคเพล็ก จำนวน 124.7 ล้านบาท จากการให้เช่าเฉลี่ยร้อยละ 81 ของพื้นที่
นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้จากธุรกิจสังกะสีอ๊อกไซด์ จำนวน 242.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/55 จำนวน 56.4 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 30 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณขายสังกะสีอ๊อกไซด์ จำนวน 1,114 ตัน
กำไรขั้นต้นจำนวน 91.3 ล้านบาท ลดลงจาก ไตรมาส 2/55 จำนวน 133.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 59 ส่วนใหญ่เนื่องจากกำไรขั้นต้นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายลดลง จำนวน 232.6 ล้านบาท เนื่องจากการลดลงของยอดโอนห้องชุดไตรมาส 2/56 อย่างไรก็ตามบริษัทมีกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าประเภทอาคารสำนักลงเพิ่มขึ้นจาก ไตรมาส 2/55 จำนวน 98.3 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร จำนวน 193.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 72.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 59 ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจาก ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ของกลุ่มบริษัท แผ่นดินทองที่ได้ถูกรวมใน ไตรมาส 2/56 จากการรวมกิจการ จำนวน 104.5 ล้านบาท ในขณะที่ ค่าใช้จ่ายจากภาษีธุรกิจเฉพาะและค่าธรรมเนียมในการโอนห้องชุดลดลง จำนวน 36.2 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 2/56 ไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด
ต้นทุนทางการเงิน จำนวน 83.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/55 จำนวน 50.9 ล้านบาท หรือร้อยละ 157 ส่วนใหญ่เกิดจากดอกเบี้ยจ่ายของกลุ่มบริษัท แผ่นดินทอง จำนวน 59.9 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการรวมกิจการดังกล่าวในงบการเงินรวมของบริษัท
ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ ลดลงจากไตรมาส 2/55 จำนวน 75.5 ล้านบาท หรือร้อยละ 158 ซึ่งส่วนใหญ่ลดลงสอดคล้องกับผลการดำเนินงาน สำหรับไตรมาส 2/56 นอกจากนี้การถือปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 12 ระบุให้กิจการต้องบันทึกสินทรัพย์และหนี้สินภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีในงบการเงิน ทำให้บริษัทรับรู้ ผลประโยชน์เงินได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้บริษัทมีขาดทุนสำหรับงวด จำนวน 167.1 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 2/55 จำนวน 355.8 ล้านบาท หรือร้อยละ 189 ส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของรายได้จากธุรกิจอสังหาฯเพื่อขาย ประกอบกับ บริษัทรับรู้ขาดทุนผลประกอบการจากการรวมกลุ่มบริษัท แผ่นดินทองจำนวน 82.2 ล้านบาท
ขาดทุนที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท จำนวน 111 ล้านบาท (คิดเป็น 0.058 บาท/หุ้น) ลดลงจำนวน 253 ล้านบาท หรือร้อยละ 178 จากกำไรที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท จำนวน 142 ล้านบาท (คิดเป็น 0.186 บาท/หุ้น) ในไตรมาส 2/55
กระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน ก่อนการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์และหนี้สินดำเนินงาน จำนวน 110.1 ล้านบาท เป็นกระแสเงินสดที่ได้จากการดำเนินงานสำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุด 30 มิถุนายน 56 ซึ่งมาจากขาดทุนสำหรับงวด และปรับปรุงรายการที่ไม่ใช่เงินสดจากค่าเสื่อมราคาและรายการตัดบัญชี
กระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมดำเนิน จำนวน 2,186.2 ล้านบาท มาจากกระแสเงินสดที่ได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน ก่อนการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์ และหนี้สินดำเนินงาน ปรับปรุงด้วยการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์และหนี้สินดำเนินงานซึ่งรายการสำคัญมาจากการใช้ไปในโครงการอสังหาริมทรัพย์ระหว่างการพัฒนา จำนวน 2,306.3 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ดำเนินงาน และแสดงเป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์หมุนเวียน
กระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมการลงทุน 11.6 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจาก การลดลงของเงินลงทุนชั่วคราว เงินฝากประจำ จำนวน 74.7 ล้านบาท ในขณะที่มีเงินสดจ่ายสำหรับที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ของบริษัทประมาณ 60 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัท มีเงินให้กู้ยืมระยะสั้นกิจการที่เกี่ยวข้องกัน เพิ่มขึ้น ประมาณ 32.8 ล้านบาท
กระแสเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมจัดหาเงิน จำนวน 1,648.3 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นจากเงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นสถาบันการเงิน และเงินกู้ยืมระยะยาวสถาบันการเงิน จำนวน 1,416.6 และ 955 ล้านบาท ตามลำดับรวมถึง การได้มาซึ่งส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมและรับชำระเงินรับล่วงหน้าจากการใช้สิทธิซื้อหุ้น ของบริษัทย่อยแห่งหนึ่งจำนวนรวม 180.5 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีการจ่ายดอกเบี้ย จ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้น และระยะยาวจากสถาบันการเงินจำนวน 158.6 ล้านบาท 294 ล้านบาท และ 415.3 ล้านบาท ตามลำดับ
GOLDขาดทุน 153 ล้านบาท
นายสมบูรณ์ วศินชัชวาล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD แจ้งว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 6 เดือน 2556 บริษัทมีรายได้รวม 760 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 240 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการลดลงของการโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 354.69 ล้านบาท และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้เช่าและบริการเป็นจำนวน 121.15 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทมีผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือน 2556 ขาดทุนสุทธิ 153 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 55 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 188.94 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.1304 บาทต่อหุ้น ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 55 ที่มีผลขาดทุน 0.1666 บาท/หุ้น.
