“ปู” ภาวนาคนไทยน้อมรับศาลโลก ยันเป็นนายกฯ ตัวจริง ไม่ใช่หุ่นเชิด

“ยิ่งลักษณ์” ร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำสื่อนอกแห่งประเทศไทย ระบุไทยมีนายกฯ คนเดียว อำนาจตัดสินใจบริหารประเทศเป็นของตน ย้ำการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายมีหลายฝ่าย ไม่ใช่ทักษิณคนเดียว ภาวนาคนไทยรับฟังศาลโลกตัดสินด้วยสปีริตของอาเซียน ฟุ้งกู้ 2.2 ล้านล้านทำ GDP เพิ่มปีละ 1%

วันนี้ (11 มี.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ประจำปี 2556 ของสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย หรือ FCCT ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล โดยมี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯ และรมว.ศึกษาธิการ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พร้อมด้วยนักธุรกิจ และผู้สื่อข่าวต่างประเทศเข้าร่วมงานจำนวนมาก

นายกฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์ รวมถึงตอบคำถามผู้สื่อข่าวต่างประเทศว่า รัฐบาลได้ทำงานบริหารประเทศมา 18 เดือน มีอุปสรรคปัญหาหลายอย่าง เช่น ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งการแก้ปัญหาให้เกิดความปรองดองนั้น ยืนยันว่าจะไม่ทำเพื่อคนคนเดียว ปัญหาอุทกภัย รวมถึงปัญหาสังคมเรื่องยาเสพติด ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งนี้ ไทยอยากเห็นสันติภาพที่ยั่งยืนเกิดขึ้น ซึ่งมีการเพิ่มงบประมาณในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ และย้ำว่าจะพูดคุยกับทุกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ แต่ต้องใช้เวลา

นายกฯ ยืนยันว่า ไทยมีนายกฯ เพียงคนเดียว ไม่ได้มี 2 คนตามที่หลายฝ่ายเข้าใจ การตัดสินใจต่างๆ ในการบริหารประเทศเป็นของตนเอง ไม่ใช่พี่ชายอย่างแน่นอน รวมถึง การที่สภาความมั่นคงแห่งชาติได้ ลงนามกับกลุ่ม BRN นั้น มาจากการสนับสนุนจากนายนาจิบ ราซัค นายกฯ ของมาเลเซีย ได้หารือกับ พ.ต.ท.ทักษิณ. ชินวัตร อดีตนายกฯ ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยไม่เคยประกาศขอบคุณพี่ชายที่ช่วยเจรจาภาคใต้ แต่ยินดีจะรับความช่วยเหลือจากทุกฝ่าย

อย่างไรก็ตาม ในการกล่าวสุนทรพจน์ นายกฯ ได้นำเสนอตัวเลขทางเศรษฐกิจ รวมถึงการเสนอแผนการกู้เงินเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท ให้แก่นักธุรกิจและผู้สื่อข่าวต่างประเทศด้วย โดยคาดว่าจะทำให้ GDP เพิ่มปีละ 1%

ส่วนการตัดสินคดีปราสาทพระวิหารของศาลโลกนั้น นายกฯ ระบุว่า หากผลออกมาเป็นอย่างไร ก็เชื่อว่าประชาชนจะรับฟัง และมีความเข้าใจ และหวังว่าด้วยสปีริตของอาเซียนจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน ด้านข้อกล่าวหาว่าราชนาวีไทยยิงชาวโรฮิงยานั้น อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ โดยรัฐบาลจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายตามกระบวนการของกฎหมาย แต่สำหรับปัญหาผู้ลักลอบค้างาช้างนั้น นายกฯ ระบุว่า จะมีการส่งทีมงานเข้าไปหาอาชีพใหม่ให้ผู้ค้า

นายกฯ กล่าวปฏิเสธว่า การลงทุนในโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย ไม่ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณ ดำเนินการคนเดียว แต่ได้เปิดกว้างให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนอย่างโปร่งใส เพราะเป็นผลประโยชน์ระหว่างประเทศ นอกจากนี้ นายกฯ ยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ว่าหากนายกฯ มีเฟอร์บี้อยากได้สีอะไร ว่า ไม่มีเวลาเล่นเฟอร์บี้ แต่ลูกชายมีเฟอร์บี้สีฟ้า อีกทั้ง นายกฯ บอกว่าจะให้ รองนายกรัฐมนตรีเฉลิม ติดตามความคืบหน้าเรื่องการหายไปของทนายสมชาย นีละไพจิตร

สุดท้าย นายกฯ ยอมรับว่า คงไม่สามารถทำให้คนที่เกลียดตน และพี่ชายกลับมารักได้ แต่เมื่อเห็นคนที่รักตนให้การสนับสนุนให้กำลังใจ จึงมีพลังในการทำงานหนักทุกวัน