“ชวนนท์” แจง ปชป.ไม่ถกปรองดอง แต่ไม่ขวาง เชื่อ ปชช.เข้าใจ ย้ำพรรคหนุนล้างผิดผู้ฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ชี้ต้องสำนึกก่อนถึงให้อภัยคนผิด ส่วนคดีอาญา-โกง-หมิ่นฯ ต้องถูกฟันก่อน บี้ “เจริญ” เคลียร์ใครคือนักโทษการเมือง ยัน ปชป.เข้าใจ ปชช. ยึดจุดยืนต้องถอน พ.ร.บ.ปรองดองจากสภา อัดมีพิรุธปล่อย ส.ส.แดงชง กม.ล้างผิด จวกเฟซบุ๊กรัฐสภาปิดเว็บหนีหลัง ปชช.โพสต์ยี้ พ.ร.บ.นิรโทษฯ ตอกทำโพลโซเชียลฯ ไม่โปร่งใส หวั่นอ้างใช้ประโยชน์
วันนี้ (11 มี.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการประชุมตามคำเชิญของนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภา ว่ามี 5 กลุ่มไปร่วม แต่อีกหลายฝ่ายไม่ได้เข้าร่วมด้วย โดยตนยืนยันว่าการไม่เข้าร่วมไม่ได้หมายถึงขัดขวางการปรองดอง หรือไม่ต้องการให้มีความสมานฉันท์ในประเทศ แต่จุดยืนพรรคนั้นประชาชนได้รับทราบถึงความปรารถนาดีแล้ว เพราะการดำเนินการของรัฐบาลพยายามบิดเบือนกระบวนการที่ถูกต้อง พยายามจะให้พรรคไปช่วยสร้างความชอบธรรมให้กับการล้างผิดคดีอาญาและคดีคอร์รัปชั่น
ดังนั้น ข้อสรุป 4 ข้อจากโต๊ะเจรจาดังกล่าว คือ 1. พรรคเห็นด้วยกับการสร้างความปรองดองและได้นำเสนอแนวคิดด้วยการนิรโทษกรรมเฉพาะผู้ทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2. ที่ระบุว่าต้องมีการให้อภัยนั้น พรรคเห็นว่าต้องมีการสำนึกและมีการแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำความผิดเสียก่อนเ เพราะก่อนจะยกโทษให้กลุ่มใดก็ตามผู้กระทำผิดต้องมีความสำนึกและแสดงความรับผิดชอบตามฐานความผิด ส่วนคดีอาญา ทุจริตคอร์รัปชัน และมาตรา 112 ต้องรับผิดก่อนพูดถึงการนิรโทษกรรม
นายชวนนท์กล่าวต่อว่า 3. การบรรเทาความขัดแย้งให้เริ่มต้นการปล่อยตัวชั่วคราวสำหรับนักโทษการเมือง พรรคอยากได้ความกระจ่างว่านักโทษการเมืองหมายถึงกลุ่มไหน เพราะตอนนี้ไม่มีใครต้องโทษในคดีการเมืองแต่อย่างใด จึงอยากให้ใช้ความระมัดระวังในการจำแนกสถานะของบุคคลในกลุ่มต่างๆ อย่าใช้คำพูดที่จะสร้างความสับสน หรือเป็นชนวนความขัดแย้งในสังคมอีก หากนายเจริญตอบได้ว่านักโทษการเมืองหมายถึงใคร น่าจะเป็นโอกาสดีสำหรับการเจรจาครั้งต่อไป 4. การวิจารณ์ขอให้ยึดประชาชนไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งพรรคยืนยันว่าได้ดำเนินการมาโดยตลอด ไม่เช่นนั้นคงไม่คัดค้านการนิรโทษกรรมคดีอาญา และทั้งนายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรค ก็แสดงความจำนงพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติ
นายชวนนท์กล่าวถึงกรณีที่นายเจริญจะเชิญนายอภิสิทธิ์ไปหารือเกี่ยวกับการถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองทั้ง 4 ฉบับออกจากสภาว่า ไม่มีความจำเป็นเพราะจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์เสนอไปชัดเจนแล้วให้ถอนทั้ง 4 ฉบับออกไป นอกจากนี้ กฎหมายนิรโทษกรรมที่เสนอโดย 42 ส.ส.พรรคเพื่อไทยซึ่งวิปรัฐบาลระบุว่าไม่สนับสนุนแต่จะให้เป็นเอกสิทธิ์ ส.ส.เป็นการแสดงให้เห็นถึงความไม่น่าไว้วางใจ เพราะปล่อยให้ ส.ส.ใช้เอกสิทธิ์ของตัวเอง เพราะหากต้องการไม่ให้เกิดปัญหาจริงๆ นายเจริญต้องทำเรื่องเหล่านี้ให้ชัดเจนว่าจะเดินหน้าอย่างไร
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังตำหนิพฤติกรรมของเฟซบุ๊กรัฐสภาไทยที่มีการลบโพสต์แสดงความเห็นเกี่ยวกับการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยเห็นว่าผิดปกติตั้งแต่การให้แสดงความคิดเห็นแล้วเพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และยังไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยว่าผู้ที่มาโหวตเป็นคนไทยจริงหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีการลบโพสต์ทันทีเมื่อมีการแสดงความไม่เห็นด้วยมากกว่าผู้ที่เห็นด้วย ทั้งที่ไม่มีกำหนดมาก่อนว่าจะเปิดรับการแสดงความเห็นระยะเวลาเท่าไหร่ แต่เมื่อมีการแสดงความไม่เห็นด้วยจำนวนมากก็มีการปิดโพสต์ดังกล่าว
นายชวนนท์กล่าวอีกว่า ที่สำคัญคือมีคำชี้แจงจากแอดมินว่าการสำรวจโพลเป็นการทำวิจัยแบบโซเชียลมีเดีย ฝังคำถามไว้มากกว่า 30 แห่งในโลกออนไลน์ ซึ่งตนไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน แต่มีการอ้างว่าจะนำผลทั้งหมดมารวมก่อนประมวลผลทั้งที่ไม่มีใครเห็นว่าไปสำรวจความเห็นของใคร อาจรวมถึงกัมพูชาและดูไบด้วยหรือไม่ พฤติกรรมปกปิดสร้างความกังขาแบบนี้ไม่ถูกต้อง เพราะสุดท้ายถ้ามีการอ้างผลสำรวจจากการฝังคำถามมากกว่า 30 แห่งที่ตรวจสอบไม่ได้จะสร้างความน่าเชื่อถือได้อย่างไร ในขณะที่นายเจริญดำเนินการประชุมในอีกรูปแบบหนึ่ง ตนจึงเห็นว่าเป็นการบ่งบอกว่าการปรองดองจะเกิดขึ้นได้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องมีความจริงใจทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่บิดเบือน ปกปิด และพร้อมนำทางออกที่ดีที่สุดให้ประเทศไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังหรือมีอำนาจอยู่ในขณะนี้
