แกนนำ นปช.แถลงเตรียมบุกจัดชุมนุมเรือนจำชั่วคราวหลักสี่ ร้อง รบ.ออก กม.นิรโทษคดีการเมือง ทำเท่เว้นพวกตัวเอง และแกนนำ นปช. เชลียร์ รบ.สัมพันธ์เขมรดี ทำ “วีระ-ราตรี” ลดโทษ ยอมถูก “วสันต์” ด่าแกล้งโง่ ลั่นเจตนาหาทางออกประเทศ ย้อนแกล้งฉลาดแจงวิธีประชามติ-วาระ 3
วันนี้ (11 ม.ค.) ที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลลาดพร้าว นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงว่า วันที่ 15 ม.ค.นี้ ทางแกนนำ นปช.ประกอบด้วยตน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ นางธิดา ถาวรเศรษฐ นพ.เหวง โตจิราการ และแกนนำรายอื่นจะเดินทางไปจัดกิจกรรมบริเวณหน้าเรือนจำชั่วคราวหลักสี่ เรียกร้องให้รัฐบาลออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) นิรโทษกรรมนักโทษการเมืองทุกสีเสื้อ ทั้งเสื้อแดง เสื้อเหลือง พรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงม็อบสนามม้านางเลิ้ง โดยยืนยันว่าจะไม่ขอนิรโทษกรรมให้แกนนำฝ่ายเสื้อแดงเช่นเดียวกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีที่จะไม่ได้รับสิทธิ์นิรโทษกรรมเช่นกัน
ทั้งนี้ กิจกรรมในวันที่ 15 ม.ค.เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. โดยทาง นปช.จะจัดกิจกรรมมอบเครื่องออกกำลังกายสืบเนื่องจากการที่มีนักโทษในเรือนจำเสียชีวิตจากปัญหาสุขภาพ เเละจัดกิจกรรมบันเทิงเพื่อให้กำลังใจนักโทษการเมือง พร้อมทั้งประกาศเจตนารมณ์เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม
นายจตุพรกล่าวอีกว่า การที่รัฐบาลเจรจากับรัฐบาลกัมพูชาจน น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์เตรียมได้รับการปล่อยตัว และนายวีระ สมความคิด ได้รับการลดโทษนั้นเป็นเรื่องที่แสดงถึงไมตรีระหว่างรัฐบาล 2 ประเทศ และหากพี่น้องร่วมประเทศได้รับอิสรภาพทาง นปช.ย่อมต้องร่วมยินดีด้วย แต่รัฐบาลต้องอย่าลืมนักโทษการเมืองเสื้อแดง เพราะหากมีขบวนการล้มรัฐบาลด้วยวิธีการพิเศษ ชะตากรรมของนักโทษเหล่านี้จะแทบไม่ได้รับการเหลียวแล
นายจตุพรยังกล่าวถึงกรณีนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ที่กล่าวถึงแกนนำ นปช.ว่าแกล้งโง่หรือโง่จริง หลังจากเข้ายื่นหนังสือให้ตอบคำถามปมแก้รัฐธรรมนูญว่า การเดินทางไปยังศาลรัฐธรรมนูญของแกนนำคนเสื้อแดงปราศจากอคติส่วนตัว แต่ทำเพื่อต้องการหาทางออกให้แก่ประเทศชาติ เนื่องจากแต่ละทางที่รัฐบาลเลือกเดินไม่ว่าจะเป็นการจัดทำประชามติหรือเดินหน้าลงมติในวาระ 3 ล้วนเสี่ยงต่อการยื่นตีความทั้งสิ้น สืบเนื่องมาจากคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญที่ขาดความชัดเจนเตือนให้เดินหน้าโหวตวาระ 3 ทั้งที่คำแนะนำนี้เป็นเพียงเสียงส่วนน้อยในคำวินิจฉัยส่วนตนเท่านั้น
“ท่านจะบอกว่าผมแกล้งโง่ หรือโง่จริง ผมก็ยอม แต่พวกผมหาทางออกให้แก่ประเทศที่กำลังจะเปลืองงบประมาณ 2 พันล้านบาทโดยใช่เหตุ เนื่องมาจากคำวินิจฉัยของพวกท่าน ดังนั้นอยากให้ท่านแกล้งฉลาดบ้าง เพื่อที่ท่านจะได้ฉลาดจริง เพื่อหาทางออกให้แก่ประเทศบ้าง” นายจตุพรกล่าว