xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ต้อนรับ ผอ.มอร์แกนสแตนเลย์ ชู 3 เป้าหมายใน 3 ปี พัฒนา ศก.ไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
ผอ.มอร์แกนสแตนเลย์เข้าพบนายกฯ - “สุรนันทน์” โวฝรั่งมั่นใจแนวทางพัฒนาของรัฐบาลทำเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง เผย “ยิ่งลักษณ์” ระบุ 3 ปี 3 เป้าหมาย กระจายรายได้-เติบโตทางเศรษฐกิจผ่านโครงสร้างพื้นฐาน และปรับโครงสร้างประเทศ

วันนี้ (8 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้ นายรูเชียร์ ชาร์มา ผู้อำนวยการวาณิชธนกิจ มอร์แกน สแตนเลย์ (Mr.Ruchir Sharma, Head of Morgan Stanley Investment Management’s (MSIM) Emerging Market Equities and Global Macro Funds) เข้าเยี่ยมคาราวะ เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทย ณ ห้องม่วง ตึกไทยคู้ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

โดยนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังว่า ทางมอร์แกน สแตนเลย์ มั่นใจในแนวทางการพัฒนาประเทศของรัฐบาล และด้วยพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง และมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจ

โดยนายรูเชียร์ซึ่งนับเป็นผู้บริหารที่อายุน้อยที่สุดของบริษัท มอร์แกน สแตนเลย์ และยังได้รับการยอมรับในฐานะนักคิดชั้นนำของโลก มีผลงานการเขียนหนังสือที่ได้รับรางวัลหนังสือขายดี ชื่อ Breakout Nation : In Pursuit of the Next Economic Miracle ซึ่งเป็นหนังสือที่แสดงทัศนะเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่ในโลกรวมถึงประเทศไทย โดยนายชาร์มาได้แสดงความความคิดเห็นว่า การบริหารงานของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาได้สร้างความมีเสถียรภาพมากขึ้นและมีพลังใหม่ในการขับเคลื่อนประเทศ (fresh energy) ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาประเทศได้อย่างแท้จริง ภายหลังจากการชะงักงันทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา และนโยบายของรัฐบาลปัจจุบันที่ให้ความสำคัญแก่ประชาชนยากจนในชนบท เป็นทิศทางที่ถูกต้องในการสร้างพลังและการมีส่วนร่วมให้กับประชาชน ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งหากประเทศไทยสามารถแก้ไขปัญหาช่องว่างของรายได้และการพัฒนาระหว่างเมืองกับชนบทได้ ไทยจะสามารถก้าวเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้

โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันถึงความตั้งใจในการทำงานและอธิบายถึงทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในอนาคตและการขยายตัวทางเศรษฐกิจอันมาจากการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ตลอดจนการสร้างความเชื่อมั่นต่อนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้รัฐบาลเองให้ความสำคัญแก่การสร้างความสมานฉันท์ในประเทศ ซึ่งนายรูเชียร์เห็นว่าความเข้มแข็งทางการเมืองนับปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ

นอกจากนี้ นายรูเชียร์ได้สนใจเกี่ยวกับเป้าหมายของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องการเห็นความสำเร็จใน 3 เป้าหมายหลัก ได้แก่ 1. การกระจายรายได้สู่ประชาชน (Income Distribution) เพื่อลดช่องว่างทางรายได้ 2. การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน (sustainable growth) ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบบริหารจัดการน้ำ การจัดโซนนิ่งภาคเกษตร เพื่อสร้างอุปทานในประเทศ (domestic demand) เพื่อทดแทนการพึ่งพาการส่งออก 3. การปรับโครงสร้างประเทศ และจัดวิธีการบริหารงานเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพ

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวย้ำถึงแผนยุทธศาสตร์ประเทศไทย ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน และความได้เปรียบของประเทศไทยในการเป็นประตูสู่ประชาคมอาเซียนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยสำหรับนักลงทุน และเชิญชวนให้บริษัทมอร์แกน สแตนเลย์ ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของสหรัฐอเมริกา


กำลังโหลดความคิดเห็น