xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ซัด “เหลิม” จ้อเซ็น BRN ดีกว่าอยู่เฉยๆ ไร้ความรับผิดชอบ จับตาสิ้น มี.ค.เจรจาอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
“อภิสิทธิ์” ติง “เฉลิม” จ้อลงนามบีอาร์เอ็นดีกว่าอยู่เฉยๆ ชี้หากไม่ถูกทิศทางไม่ดีกว่าแน่ จวกพูดไร้ความรับผิดชอบต่อชาวบ้าน แนะ “แม้ว” อยู่เฉยๆ ดีกว่า เตือนรัฐไม่ควรเอาความมั่นคงเป็นวาทกรรมการเมือง สับรองนายกฯ ตอบไม่ได้จะคุยอะไรต่อ พร้อมจับตา 28 มี.ค.เจรจาอีกรอบจะมีปฏิกิริยายังไง ชี้ต้องรัดกุม อย่าสักแต่สร้างกระแส ซัด รบ.ไม่ฟังคำฝ่ายค้าน เสนอมาถกในสภา - เชื่อร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง สุดท้ายทำ “ทักษิณ” พ้นคุก


วันนี้ (8 มี.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านกล่าวถึงคำชี้แจงของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในการตอบกระทู้สดในสภาเกี่ยวกับการลงนามสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็นว่า ตนไม่ได้คาดหวังกับคำชี้แจงของ ร.ต.อ.เฉลิม เพราะไม่ได้มีส่วนร่วมต่อการพูดคุยหรือลงนาม แต่คนที่มีบทบาทคือ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯ ศอ.บต. และ สมช.เป็นหน่วยงานที่ต้องรับเข้ามาเพื่อประสานงานกับ สมช.ของมาเลเซีย แต่ตนก็เป็นห่วงเกี่ยวกับคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่พูดง่ายๆ ว่า ดีกว่าอยู่เฉยๆ ซึ่งมันไม่ใช่ เพราะต้องทำให้ถูกต้อง เพราะหากทำไม่ถูกทิศทาง ไม่รัดกุม มันไม่ดีกว่าอยู่เฉยๆ แน่นอน เช่นปีที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปมาเลเซียก็เกิดเหตุระเบิดที่โรงแรมลีการ์เดนส์ และที่ จ.ยะลา ซึ่งตนมั่นใจว่าหากไม่มีการเดินทางไปมาเลเซียสองเหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นหากเป็นเช่นนี้ก็ควรอยู่เฉยๆ ดีกว่า

นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลไม่ควรทำเรื่องความมั่นคงเป็นวาทกรรมหรือการเมืองเพราะเป็นเรื่องใหญ่มาก ในที่สุดสิ่งที่ ร.ต.อ.เฉลิมบอกกับสภาก็ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าเป็นข้อมูลเพิ่มเติมเลย ซึ่งอาจเข้าใจว่าฝ่ายค้านไม่มีเอกสาร จึงพยายามอ่านเอกสารในสภาทั้งที่่ฝ่ายค้านมีหมดแล้ว แต่ข้องใจเพราะเอกสารที่ลงนามนั้นหากดูจากภาษาที่ใช้เป็นการแสดงเจตนาฝ่ายเดียวของรัฐบาลไทยว่าจะให้เขามาพูดคุยด้วยแต่ไม่มีอะไรเป็นข้อผูกมัดคนที่มาพูดคุยกับเรา เรามีแต่หน้าที่ต้องคุ้มครองความปลอดภัยให้เขาด้วย และ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ไม่สามารถตอบได้ว่ากรอบของการพูดคุยครั้งต่อไปจะเป็นอย่างไร มีอะไรที่ต้องตกลงกันก่อนล่วงหน้าหรือไม่ รวมถึงเหตุการณ์นับแต่ลงนามมาก็ยังมีเหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้น มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรก็ตอบไม่ได้

“หัวใจของเรื่องนี้ คือ คนที่มีอำนาจสั่งการในพื้นที่เข้ามาร่วมในการพูดคุยจริงหรือไม่ และเข้ามาร่วมบนความเข้าใจที่จะนำไปสู่การมีคำตอบร่วมกันหรือไม่ ขณะนี้ต้องบอกว่าคนที่มาลงนามไม่มีอำนาจในการสั่งการ จึงอยู่ที่ว่าคนที่มีอำนาจสั่งการในพื้นที่หากเห็นว่าสิ่งที่ทำอยู่ขณะนี้เขาไม่ได้รับความสนใจหรือไม่มีส่วนร่วม หรือไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พูดคุยกันก็จะมีปฏิกิริยาในพื้นที่ ทำให้เกิดความรุนแรงหรือเหตุการณ์เชิงสัญลักษณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหลายเหตุการณ์ก็มีลักษณะเช่นนั้นอยู่แล้ว ขั้นต่อไปจึงอยุ่ที่วาจะมีความสามารถดึงคนเหล่านี้เข้ามาได้หรือไม่ ต้องจับตาดูวันที่ 28 มี.ค.ที่จะมีการพูดคุยอีกรอบว่าปฏิกริยาในพื้นที่จะเป็นอย่างไร” นายอภิสิทธิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการรายงานว่าผู้ก่อความไม่สงบเตรียมก่อเหตุระเบิดโดยรถยนต์และจักรยานยนต์เพื่อก่อเหตุ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังเพราะเมือเขาไม่มีส่วนร่วมก็ต้องแสดงบางสิ่งบางอย่างแต่ไม่ทราบว่าจะทำในเชิงสัญลักษณ์หรือก่อความรุนแรง แต่ในปีที่แล้วลีกาเดนและยะลารุนแรงมากดังนั้นต้องระวัง

เมื่อถามว่า แนวคิดลักษณะนี้จะทำให้เกิดสันติภาพหรือเกิดความรุนแรงจนควบคุมไม่ได้ นาอยภิสิทธิ์กล่าวว่า แนวคิดไม่ผิดเพราะการพูดคุยถือเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาแต่คนที่จะทำงานต้องมีความรัดกุม รอบคอบ เข้าใจความละเอียดอ่อนของสภาพปัญหาในพื้นที่ ถ้าเข้าใจสิ่งเหล่านี้การเดินต่อจะต้องทำด้วยความระมัดระวัง ซึ่งถ้าทำได้เช่นนั้นก็จะไม่มีปัญหา แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคิดแต่เรื่องการเมืองหรือการสร้างกระแสที่ถือว่าเป็นเรื่องอันตราย

ถามต่อว่า หากแนวทางนี้เดินต่อไม่ได้จะทบทวนเพื่อกลับไปสู่การพูดคุยในระดับเจ้าหน้าที่แทนการลงนามเหมือนที่ผ่านมาได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงจะยาก เพราะฝ่ายที่มาเซ็นเขาถือว่าระดับรัฐบาลได้รับรองการพูดคุยไปแล้ว จะไปพูดคุยในระดับต่ำกว่านี้คงยาก และเชื่อว่าในพื้นที่มีความเสี่ยงแน่นอนหากรัฐบาลยังเดินต่อแบบไม่รัดกุม ดังนั้นคำพูดที่ว่าดีกว่าอยู่เฉยๆ หรือลองทำไปก่อนไม่ดีแล้วค่อยเลิกนั้นเป็นคำพูดที่ไม่รับผิดชอบต่อประชาชนในพื้นที่ที่ต้องเผชิญความเสี่ยงตรงนี้

เมื่อถามว่า คำชี้แจงของ ร.ต.อ.เฉลิม ยกแต่เรื่องเผายางแต่ข้ามเหตุการณ์ที่มีทหารเสียชีวิต 2 นายไปมองอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การเผายางเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อย่างหนึ่ง และอยากให้คิดว่าครั้งหนึ่งรัฐบาลยุคหนึ่งเคยบอกเป็นโจรกระจอกแต่วันนี้ไปเซ็นสัญญา ขณะที่รองนายกฯ ที่ได้รับมอบหมายไม่ยอมพูดเรื่องข้อเรียกร้องคืออะไร แต่วนเวียนอยู่กับวัยรุ่น น้ำมันเถื่อน แสดงให้เห็นว่าขาดความเป็นเอกภาพทางความคิด ปัญหาที่เป็นปมที่สร้างขึ้นมาต้องเร่งแก้ไขให้ถูกทาง และเชื่อว่าในส่วนของผู้ที่ทำงานด้านความมั่นคงคงมีการท้วงติงและให้ข้อมูลกับรัฐบาลไปแล้วแต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลด้วย และไฟใต้ที่ลุกลามขึ้นมาอีกรอบนั้นเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบ พร้อมกับย้ำว่าไม่เคยคิดนำเรื่องนี้มาเป็นการเมือง แต่เสียดายว่าที่ผ่านมาฝ่ายค้านเคยเตือนไว้หมดแล้วตั้งแต่ตอนที่รัฐบาลเชิญไปทำเนียบ โดยเตือนเรื่องแนวคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นการเฉพาะว่าไม่รัดกุม แต่รัฐบาลก็ไม่ฟังคำท้วงติงเหล่านี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรัฐบาลยังมีแนวคิดเช่นนี้ แต่ ร.ต.อ.เฉลิมจะเชิญนายอภิสิทธิ์และนายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไปหารือจะเป็นประโยชน์หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนขอส่งข้อมูลไปให้ดีกว่า เพราะท่าทีของ ร.ต.อ.เฉลิมไม่ได้ทำงานไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาล เรื่องใหญ่อย่างนี้นายกฯ และรัฐบาลควรขอสิทธิ์มาแถลงในสภาและฟังความเห็น ซึ่งหากคิดว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนก็พร้อมที่จะให้ประชุมลับ

นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ เตรียมบรรจุร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของ ส.ส.เสื้อแดงจากพรรคเพื่อไทยเข้าสู่การพิจารณาของสภาว่า หากเสนอมาถูกต้องประธานสภาก็คงต้องบรรจุ แต่ประเด็นหลักอยู่ที่นโยบายรัฐบาลว่าจะเอาอย่างไร และเห็นว่าตราบใดที่ยังมี ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง 4 ฉบับค้างอยู่ในสภา ไม่ว่าร่างใหม่จะเป็นอย่างไรก็จะถูกสวมเพื่อไปช่วย พ.ต.ท.ทักษิณให้พ้นผิดในคดีทุจริตกลับเข้ามาสู่การพิจารณาอีก ตนเห็นว่ารัฐบาลมีหน้าที่บริหารบ้านเมืองไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ปีที่แล้วความขัดแย้งรุนแรงมากเพราะเรื่องนี้จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงจะนำบ้านเมืองไปสู่ความขัดแย้งอีก ซึ่งก็มีหลายกลุ่มประกาศแล้วว่าจะเคลื่อนไหวชุมนุมต่อต้านนอกสภา จึงเห็นว่าจะเกิดปมความขัดแย้งใหม่ไม่อยากให้รัฐบาลทำ เพราะมีหลายเรื่องที่รัฐบาลควรแก้ปัญหาเช่น โครงการจำนำข้าวก็ยังไม่มีคำตอบว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น