ส.ว.แนะรัฐรอบคอบแก้ไฟใต้ อย่ายอมเจรจาแลกถอนทหาร จี้สอบ ขรก.หากินขอสัญชาติ

“ส.ว.สุรศักดิ์” จี้รัฐรอบคอบแก้ไฟใต้ อย่าทำตามกระแส หรือแค่ประโยชน์การเมือง แนะใช้สื่อทำความเข้าใจชาวบ้าน จี้อย่ายอมเจรจาโจรแลกถอนทหาร ด้าน “ส.ว.ตวง” จี้สอบเจ้าหน้าที่หากินกับการขอสัญชาติ

วันนี้ (5 มี.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น. การประชุมวุฒิสภา ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ ทั้งนี้ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ ส.ว.สรรหา กล่าวหารือกรณีที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขยายระยะเวลาการประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยยกเว้น 5 อำเภอ ออกไปอีก 3 เดือนว่า ตนเห็นด้วยกับการขยายเวลาดังกล่าวเพราะจะทำให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ มีเวลาในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากขณะนี้เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่สงบเรียบร้อยถึงแม้ว่ารัฐบาลจะมีการเจรจาสันติกับกลุ่มก่อการร้ายไปแล้วก็ตาม

พล.ร.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปถึงนายรัฐมนตรีให้ดำเนินการทุกอย่างด้วยความสุขุมรอบคอบ อย่าทำอะไรตามกระแส หรือสร้างผลประโยชน์ทางการเมืองเพียงอย่างเดียว เพราะจะทำให้เกิดผลเสียอย่างมาก ทั้งนี้เป้าหมายของกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบีอาร์เอ็น อาร์เคเค ปรากฏชัดว่าต้องการแบ่งแยกดินแดนเพื่อปกครองตนเอง ต้องการตั้งรัฐปัตตานีมุสลิม ต้องการใช้การจัดตั้งรัฐปัตตานีเป็นฐานในการตั้งสหพันธ์มลายู และเพื่อเป็นฐานในการขยายความคิดเพื่อปฏิวัติอิสลาม ซึ่งความต้องการทั้งหมดถือเป็นเรื่องเก่าที่ทำกันมานานแล้ว ส่วนแนวร่วมที่เห็นด้วยในแนวความคิดนี้ตนไม่ขัดใจ แต่ไม่ชอบที่มีการใช้ความรุนแรง การก่อเหตุร้ายรายวันมากดดันรัฐบาลไทยให้ต้องยอมทำตามความต้องการ แต่อยากให้ทำอะไรตามกรอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ รัฐบาลก็มีสื่อในมือน่าจะใช้ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ ซึ่งเป็นประชากรชั้นหนึ่งของประเทศไทยจะเป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้ ทำไมจะต้องเป็นรัฐปัตตานี นอกจากนี้ก็ขอให้รัฐบาลระมัดระวังในการไปเจรจาหากขอให้มีการถอนทหารรัฐบาลต้องไม่ยอมในเรื่องนี้

ด้านนายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา หารือต่อว่า ตนขอฝากเรื่องไปถึงรัฐบาล กรณีที่มีการออกกฎหมายสัญชาติ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555 เพื่อแก้ปัญหาคนสัญชาติพม่า แต่มีเชื้อสายไทย แต่ถูกแบ่งแยกในสมัยรัชกาลที่ 5 ช่วงที่มีการแบ่งเขตประเทศไปขึ้นกับประเทศอังกฤษ และคนในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ จ.ตาก, จ.ประจวบคิรีขันธ์, จ.ชุมพร และ จ.ระยอง โดยทางกรรมาธิการของวุฒิสภาได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามปัญหาตามที่ประชาชน ร้องเรียน พบว่าแทนที่กฎหมายฉบับนี้จะให้ประโยชน์กับชาวบ้าน แต่กลับพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางคนในระดับหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอ ไปเรียกร้องค่าตอบแทนจากชาวบ้าน และสร้างกลไกทำให้ชาวบ้านเข้าถึงสิทธิตามกฎหมายยากขึ้น และที่สำคัญ รัฐบาลไม่มีกลไกติดตามตามที่กฎหมายดังกล่าวกำหนด นอกจากนั้นยังไม่มีกระบวนการเร่งรัดให้ดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งที่ช่วงที่ออก พ.ร.บ.สัญชาติ ชี้แจงว่าเป็นความเดือดร้อนของชาวบ้านโดย ตนขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลสืบสวนเจ้าหน้าที่ที่คอร์รัปชัน และขอจัดตั้งกลไกติดตามกำกับ เร่งรัดให้การใช้กฎหมายดังกล่าวเป็นไปตามสิทธิที่ประชาชนควรจะได้