xs
xsm
sm
md
lg

28 องค์กรเครือข่าย FTA บุก จี้ “ปู” ศึกษาให้ชัดก่อนเจรจาอียู

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เครือข่าย FTA ภาคประชาชน 28 องค์กร บุกทำเนียบฯ เรียกร้อง “ยิ่งลักษณ์-โอฬาร” พิจารณาให้รอบคอบเจรจา FTA กับสหภาพยุโรป ระบุมีหลายประเด็นที่ต้องขอความเห็นของจากรัฐสภา ตาม ม.190







ที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (28 ก.พ.) กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตกาค้าเสรีภาคประชาชน (FTA WACTH) 28 องค์กร เช่น เครือข่ายผู้ติดเชื้อ HIV เอดส์ ประเทศไทย เครือข่ายองค์กรงดเหล้า เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก เครือข่ายสมัชขาคนจน และเครือข่ายสลัม 4 ภาค ประมาณ 1,500 คน นำโดย น.ส.กรรณิการ์ กิตติเวชกุล แกนนำกลุ่ม รวมตัวเข้าร้องเรียนต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายโอฬาร ไชยประวัติ ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาเอฟทีเอ กรณี นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินไปกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในวันที่ 6-7 มี.ค.เพื่อเจรจาการค้าเสรีระหว่างไทยและสหภาพยุโรป (อียู)

น.ส.กรรณิการ์กล่าวว่า กลุ่มฯ ได้พยายามให้ข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะและข้อท้วงติงต่อหน่วยรัฐบาลมาโดยตลอดว่าการทำสัญญาเอฟทีเอกับสหภาพยุโรปนั้น ไทยอาจจำต้องเจราในหลายประเด็นที่ไม่เคยเจรจาเปิดเสรีมาก่อนในเอฟทีเออื่นๆ มีทั้งประเด็นที่มีผลกระทบสูง เช่น ทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับยา ทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพ การคุ้มครองการลงทุนที่เปิดโอกาสให้ใช้กระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศในการระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐและเอกชน และสินค้าทำลายสุขภาพ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ ที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาและดำเนินการตามขั้นตอนตามมาตรา 190

ทั้งนี้ การรับฟังความคิดเห็น การเตรียมเจรจาร่างกรอบเจรจาและการพิจารณากรอบโดยรัฐมนตรีและรัฐสภาล้วนมีข้อบกพร่องที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศในระยะยาว และมีผลกระทบต่องบประมาณแผ่นดินมากกว่าแสนล้านบาท แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญตรงนี้ กลับหันไปให้สิทธิพิเศษทางการค้าที่เป็นผลประโยชน์ระยะสั้น

น.ส.กรรณิการ์กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายกฯ และนายโอฬาร ให้คำมั่นสัญญาประชาคมและมอบนโยบายจุดยืนที่ชัดเจนแก่คณะผู้เจรจา 5 ประการ คือ 1. ไม่ยอมรับเนื้อหาการเจรจาที่เกินไปกว่าด้านทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะการขยายเวลาการคุ้มครองสิทธิบัตร การผูกขาดข้อมูลทางยา มาตรการ ณ จุดผ่านแดน และไม่ยอมรับการแก้ไขกฎหมาย ระบบการคุ้มครองพันธุ์พืชที่ประเทศไทยใช้บังคับอยู่

2. การระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐและเอกชน ในบทว่าด้วยการลงทุน ต้องไม่มีผลให้มีการนำข้อพิพาทเกี่ยวกับการลงทุนสาธารณะ การออกนโยบายหรือมาตรการคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ การคุ้มครองสิ่งแวดล้อมด้านสาธารณสุข สาธารณูปโภคพื้นฐาน และความมั่นคงเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการ 3. ไม่เปิดเสรีการลงทุนที่เกิดจากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนการลงทุนที่สร้างผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร

4. ถอนสินค้าเหล้าและบุหรี่ออกจากการเจรจาสินค้า และ 5. จัดหารือผู้มีส่วนได้เสียครบทุกภาคส่วนทั้งก่อนและหลังเจรจาในแต่ละรอบ โดยให้มีการชี้แจงท่าทีของคณะเจรจารายงานความคืบหน้า พร้อมรับฟังและดำเนินการตามข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้เสียอย่างสมดุล








กำลังโหลดความคิดเห็น