"สนธิ" ยันตั้ง "พระพายัพ" เป็นพระครูปลัดฯผิดธรรมวินัย ชี้แม้เคยบริจาคให้วัดตอนเป็นคฤหัสถ์ไม่สามารถต่อยอดความเป็นพระได้ ซัด "พระพยอม" จะสอพลอตระกูลชินวัตรก็ทำไป แต่ไม่ควรจาบจ้วงพระธรรมวินัย พร้อมฟันธงพม่าหยุดจ่ายก๊าซจ่อทำไทยไฟดับ แค่ข้ออ้างนักการเมืองเพื่อเปิดโรงไฟฟ้า จะได้ทำมาหากินจากการซื้อน้ำมัน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ "คุยทุกเรรื่องกับสนธิ"
วันที่ 22 ก.พ. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ช่วงหนึ่ง ถึงกรณีที่พระพายัพได้รับการแต่งตั้งเป็นพระครูปลัดฯทั้งที่บวชยังไม่ถึง 10 วัน ว่า ขอถามกลับถ้าคนๆ หนึ่ง เป็นนาย ก. นาย ข. ไปบวชไม่กี่วันจะได้รับการแต่งตั้งไหม ถ้าไม่ใช่นามสกุลชินวัตร ถ้ายึดถือหลักพระพยอม ที่บอกว่าพระพายัพทำคุณประโยชน์ให้กับพุทธศาสนาเคยสร้างโบสถ์ ถ้าอย่างนี้ตอนก่อนที่ตนจะบวชที่วัดป่าบ้านตาด ตนซื้อที่เกือบๆ 100 ไร่ ให้วัดกุดโพนทันของหลวงพ่อญา สร้างอุโบสถให้ ถ้ายึดถือตามหลักอันนี้ตนต้องได้เป็นพระครูปลัดสิ แล้วทำไมตนไม่ได้เป็นเลอะเทอะงานนี้ แปลพระวินัยเข้าข้างตัวเอง แล้วเข้าข่ายสอพลอคฤหัสถ์ ความดีที่ทำตอนเป็นคฤหัสถ์ไม่สามารถมาต่อยอดให้กับความเป็นพระได้
ตนไม่เข้าใจญาติพี่น้องของพระพายัพ ถ้าจะบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลถือว่าเป็นจิตที่ต้องการบริสุทธิ์ ที่ต้องการธรรม แต่แค่บวชอย่างเดียวก็น่าจะจบแล้ว ถ้าสมมุติไม่ต้องการตำแหน่งก็ปฏิเสธได้ แสดงว่าเจตนาการบวชพระของพระพายัพไม่ใช่เจตนาที่ต้องการจะรักษาพรหมจรรย์ในฐานะที่จะเป็นพระภิกษุ หรือว่าพวกชินวัตร จะเข้าวงการไหนต้องใหญ่หมด และที่น่าอับอายขายหน้ามาก พระมหาเถระก็ยอมที่จะทำผิดพระธรรมวินัยด้วย
และที่น่ากลัวที่สุด สิ่งที่พระพยอมพูดแก้ตัวให้ว่าควรเลิกนับถือพรรษากันได้แล้ว แสดงว่าคนอย่างพระพยอมยังไม่เข้าใจพระธรรมวินัยเลย ท่านพูดมาได้ยังไง ถ้าจะสอพลอพวกชินวัตร ก็สอพลอไป แต่ไม่ควรมาจาบจ้วงพระธรรมวินัย
นายสนธิ กล่าวย้อนอดีตว่าพ.ต.ท.ทักษิณเคยพยายามทำให้ให้ศาสนาอ่อนแอ ว่า ประมาณปี 2547 ตอนนั้นมี พ.ร.บ.สงฆ์เกิดขึ้นมา แล้วมีความพยายามโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผ่านมาทาง นายวิษณุ เครืองาม ร่าง พ.ร.บ.สงฆ์ ชุดใหม่ แล้วก็ร่าง พ.ร.บ.อีกตัวหนึ่ง มีตำแหน่งมหาคณิสสร อุปมาอุปไมยเหมือนเป็นคณะรัฐมนตรี โดยให้มหาเถรสมาคมอยู่ข้างบน มหาคณิสสรอยู่ล่าง
แล้วในร่าง พ.ร.บ.นี้ ให้อำนาจมหาคณิสสรถึงขั้นขนาดที่เรียกว่ามหาเถรสมาคมเข้ามาแทรกแซงไม่ได้ แล้วยังห้ามวิพากษ์วิจารณ์มหาคณิสสรด้วยนะ ถ้าวิพากษ์วิจารณ์ ติดคุก คือทำตัวเหมือนกับเป็นสถาบันกษัตริย์ไปเลย เสร็จแล้วมหาคณิสสรมีอำนาจล้นฟ้า รวมไปจนถึงสามารถจะดูแลกิจการทรัพย์สินของวัดทั่วประเทศ แล้วทรัพย์สินของวัดทั่วประเทศไทยประมาณสี่ล้านล้านบาท รายได้เมื่อรวมแล้วปีละประมาณแสนกว่าล้าน ยุคนั้นเป็นยุคที่รัฐบาลชุดทักษิณ ต้องการจะกินรวบพระ แล้วเกมต่อไปก็คือว่า เนื่องจากว่าสมเด็จญาณสังวร (พระสังฆราช) ท่านไม่สบาย พวกนี้ก็เลยถือโอกาสโดยผ่าน นายวิษณุ เครืองาม ตั้งคณะทำงานของสมเด็จพระสังฆราชมาแล้วก็ตั้งสมเด็จเกี่ยว คือสมเด็จพุฒาจารย์ วัดสระเกศ เป็นประธานคณะทำงานขึ้นมา โดยที่อ้างว่าสมเด็จพระสังฆราชไม่สบาย ควรจะไปรักษา ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวเรื่องการงาน ให้คณะทำงานเป็นคนทำงาน ตั้งมา
ปรากฏว่าเดิมทีตั้งไว้ มกราคมแล้วจะสิ้นสุดกรกฎา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับ นาย วิษณุ เครืองาม แอบปรึกษาลับแล้วก็ไปร่าง พ.ร.ก.ต่ออายุ ให้มาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ บนพื้นฐานที่ว่าสมเด็จญาณ พระองค์ท่านไม่สบาย แต่ทุกคนตอนนั้นก็เถียงกัน ทักษิณก็บอกว่า สมเด็จญาณก็ยังเป็นสังฆราชอยู่ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร แต่ว่าสมเด็จเกี่ยว เป็นผู้ปฏิบัติการแทนพระสังฆราช
วันนี้สมเด็จเกี่ยวก็ไม่สบาย ทำงานไม่ได้ แต่ทำไมสมเด็จเกี่ยวถึงไม่ลาออกมา แล้วถ้าใช้ลักษณะเดียวกัน ก็ตั้งอีกคนหนึ่งขึ้นมาแทนตัวเองสิ หรือไม่อีกทีก็คืนตำแหน่งนี้ คืนยกคณะนี้ไป แล้วให้สมเด็จพระสังฆราชตั้งคณะทำงานของพระองค์ท่านเองขึ้นมา
ตอนนั้นหลวงตามหาบัวฯค้านเรื่องมหาคณิสสร ตนก็เป็นหนึ่งในคณะที่เดินขบวน ไปค้านเรื่องนี้ ร่วมกับพระเป็นหมื่นรูป จนในที่สุดเลยส่งไปให้กฤษฎีกาพิจารณา แล้วเรื่องก็เงียบหายไป
นายสนธิ กล่าวอีกว่า หลวงตามหาบัวฯ เคยเทศนาไว้ว่าชาติไทยเราถือพระมหากษัตริย์เป็นจอมหัวใจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช เป็นความราบรื่นดีงามตลอดมา แต่ทักษิณกำลังก่อให้เกิดความขัดแย้ง ตั้งแต่เรื่องของมหาคณิสสร จนถึงเรื่องตั้งผู้ทำหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน
ท่านบอกว่าชาติประกอบด้วย ศาสนา พระมหากษัตริย์ เมื่อใดศาสนาอ่อนแอ พระมหากษัตริย์อ่อนแอ เมื่อใดพระมหากษัตริย์ ศาสนาอ่อนแอ ชาติจะล่มสลาย แล้วกลับไปดูสมเด็จเกี่ยว คือเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ซึ่งผูกพันกับตระกูลดามาพงศ์มาก เพราะว่ากระดูกของตระกูลดามาพงศ์ พ่อของคุณหญิงอ้อไว้อยู่บนทางเดินขึ้นไปข้างบนภูเขาทอง พูดง่ายๆว่า ตระกูลดามาพงศ์กับวัดสระเกศแนบเเน่นเป็นเนื้อเดียวกัน หรือถ้าจะพูดนัยหนึ่งว่า ตอนนั้นทักษิณอยากจะมีสังฆราชเป็นของตัวเอง ก็คือสมเด็จเกี่ยว แต่ว่าเป็นไม่ได้เพราะว่าสมเด็จญาณฯยังมีชีวิตอยู่ ก็เลยตั้งคนขึ้นมาแล้วเอาคณะทำงานซึ่งเป็นคนของสมเด็จเกี่ยวเอาพวกพระในสายตัวเองเข้ามา
นอกจากนี้พระสังฆราชทรงมีพระลิขิตเซ็นให้พระธัมมชโยวัดธรรมกายปาราชิกแล้ว ปรากฏว่าคนที่ค้านคือสมเด็จเกี่ยว และคนที่ช่วยธรรมกาย และช่วยธัมมชโย ก็คือสมเด็จเกี่ยว แล้วทักษิณก็ใช้อำนาจของรัฐบาลจัดการจนกระทั่งสำนักงานอัยการสูงสุดถอนฟ้องธัมมชโย ทั้งๆที่คดีความกำลังย่างเข้าสู่ศาลในกรณีเรื่องเงินเรื่องทอง นี่คือความเสื่อม
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงกรณีกนง.ไม่เชื่อกระทรวงการคลัง โดยให้คงดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม ว่า เพื่อไทยต้องการให้คนจับจ่ายใช้สอย จะได้ดูเหมือนเศรษกิจบูม ก็เลยอยากลดดอกเบี้ย คนจะกู้ยืมมาใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมอสังหาฯจะคึกคักมาก และทำให้เศรษฐกิจเติบโต แต่ก็มีเสีย คือมันโตมากจนเกินไปจนเกิดฟองสบู่หรือเปล่า นี่คือความเป็นห่วงของแบงก์ชาติ และมองว่าอสังหาฯโตเร็วมากจนน่ากลัว หากลดดอกเบี้ยกลัวเกิดฟองสบู่เหมือนปี 40 แม้ในขณะนี้ยังไม่เกิดเหตุ แต่มีสัญญาณอะไรบางอย่างที่บอก
ทางการเมืองอยากคุมแบงก์ชาติทั้งหมด ถ้าปลด นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ได้ก็จะปลด และเอาคนตัวเองไปนั่ง จะได้ล้วงลูกดึงทุนสำรองมาใช้ เนื่องจากความฟุ่มเฟือยและประชานิยมเต็มไปหมด จนรัฐบาลหาเงินไม่ได้แล้ว แต่ยังอยากขยับในเรื่องการลงทุน จะได้เกิดโครงการต่างๆแล้วนักการเมืองจะได้คอร์รัปชั่น
นายสนธิ กล่าวอีกว่า ตอนนี้รัฐบาลกำลังปวดหัว ไม่สามารถล้มนายประสารได้ เพราะวันนี้ถ้าปลดประชาชนจะเห็นชัดเลยว่าใช้การเมืองรังแก เอาความเห็นส่วนตัวเข้ามากลั่นแกล้ง ที่สำคัญหลังบ้านกำลังไหม้ เอสเอ็มอีแบงก์ ไอแบงก์ ถ้ารื้อไอแบงก์ออกมาจะเห็นได้ชัดว่าไม่ว่าพรรคไหนก็ตาม ไอแบงก์ฉิบหายเพราะมีผู้จัดการที่ชื่อว่า นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท นางเยาวเรศ ชินวัตร และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ฉะนั้นทั้งประชาธิปัตย์ และสายนางเยาวเรศ ล้วนมีคอนเน็คชั่นสู่ไอแบงก์ทั้งหมด ไปรื้อยอดหนี้เสียมาดู จะโยงได้ทั้งสองฝ่าย แล้ววันนี้คนถอนเงินจากไอแบงก์เกือบ 5-6 พันล้าน ธกส.เหลือ 2 หมื่นล้านหมุนเวียน แล้วจำนำข้าวล็อตใหม่ 1.5 แสนล้าน จะเอาเงินที่ไหน แล้วกำลังจะใช้เงินอีกแล้ว 2.2 ล้านล้านบาท เป็นการเอาชาติบ้านเมืองไปกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เพียงเพื่อจะได้อ้างจีดีพี และบอกว่าตัวเองทำให้เศรษฐกิจโต นี่คือความฉิบหายของนักกาเรมือง
กรณีพม่าหยุดส่งก๊าซซึ่งอาจทำให้ประเทศไทยไฟดับ นายสนธิ กล่าวว่า ฟันธงงานนี้คือวิธีทำมาหาแดกของนักการเมือง ปริมาณไฟฟ้าที่ต้องใช้และที่มีอยู่ข้อมูลผิดหมด จริงๆแล้วปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตและมีสำรองหากหักลบหนี้กันแล้วยังเหลือ 7 พันเมกกะวัตต์ แต่รัฐบาลบอกเหลือ 700 เมกกะวัตต์ นอกจากนี้การซ่อมไฟฟ้าทำกันทุกปี คนที่ไม่มีวาระซ่อนเร้นก็จะบอกให้ซ่อมช่วงสงกรานต์ เพราะโรงงานปิด 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ทำไมไม่ทำ อีกทั้งมีการปิดซ่อมกันทุกปีอยู่แล้ว
เหตุผลทั้งหมดที่ตีโพยตีพายเพียงเพื่อหาเหตุเปิดโรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันเตาและน้ำมันโซล่า เพราะจะได้สั่งซื้อน้ำมันเตาและน้ำมันโซล่า เขาเรียกว่าสั่งซื้อสปอต ไม่ได้ซื้อระยะยาว แต่เป็นการซื้อตรงนั้นเวลานั้นเลยเพราะมันแดกง่าย รีบซื้อรีบจ่าย สรุปทั้งหมดนักการเมืองทำมาหายัดห่าจากการซื้อน้ำมัน ไม่ต้องคิดอะไรมาก
คำต่อคำ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 22 ก.พ. 2556
รายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ออกอากาศทางเอเอสทีวี วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 20.00-22.30 น.ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และ นางสาวนงวดี ถนิมมาลย์ ร่วมดำเนินรายการ โดยมีนายสามารถ มังสัง เป็นแขกรับเชิญ
จินดารัตน์- สวัสดีค่ะคุณผู้ชม ขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิค่ะ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศวันจันทร์ที่จะถึงนี้เป็นวันมาฆบูชา วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คุณผู้ชมอย่าแปลกใจนะคะว่าแขกรับเชิญพิเศษวันนี้ของคุณสนธิ ต้องเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญรู้เรื่องราวของพระพุทธศาสนาดี เพราะ ณ เวลานี้ ต้องยอมรับว่าหลายคนกำลังกังวลใจเรื่องความเสื่อมของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ก็เลยต้องเชิญอาจารย์ท่านนี้มาคุยกัน ไม่ใช่ใครที่ไหนค่ะ อ.สามารถ มังสัง ค่ะ อาจารย์สวัสดีค่ะ และเจ้าของรายการ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล สวัสดีค่ะ
สนธิ- สวัสดีครับ
จินดารัตน์- วันนี้แอนเหลือตัว 2 นิ้ว
สนธิ- ทำไมล่ะ
จินดารัตน์- รุ่นใหญ่ทั้งคู่ ที่ต้องเชิญอาจารย์มา อย่างที่เรียนคุณผู้ชมไปว่าวันจันทร์เป็นวันมาฆบูชา ขอประทานโทษนะคะอาจารย์ หนูเอง เมื่อสักครู่ก่อนเข้ารายการ หนูยังถามน้องว่าตกลงวันมาฆะนี่วันอะไรนะ
สามารถ - นี่ตกลงเป็นพุทธ หรือเป็นอะไร
สนธิ- 15 ค่ำ เดือน 3
สามารถ- เดือนกุมภาฯ นี่นะ คนไทยหรือคนไหนก็แล้วแต่ จะรู้จักวันวาเลนไทน์มากกว่าวันมาฆบูชา เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะว่าวัยรุ่นจำวาเลนไทน์ได้แต่จำวันมาฆะไม่ได้
สนธิ- ขออนุญาตพี่มารถ โทษนะครับท่านผู้ชม ผมกับ อ.สามารถ สนิทกันมาก เรียกกันพี่มารถ ขอเติมเอาตำนานมานิดหนึ่ง วันมาฆบูชา คือวันที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมเป็นครั้งแรก โอวาทปาติโมกข์ แต่นัยของธรรมในวันมาฆบูชามันคือ การให้ความรักให้คนเท่าเทียมกัน มันยิ่งใหญ่กว่าวันวาเลนไทน์เยอะ เพราะว่าตามตำนานแล้วในศาสนาฮินดู พี่มารถไปเรียนอินเดียมาใช่ไหมครับ พี่มารถก็ต้องรู้ เขาบอกว่าในตำนานมหากาฬรามเกียรติ์ที่เขาเรียกว่า รามยณะ ศรพระรามเป็นศรที่มีฤทธินุภาพสูงส่ง ตกลงไปในทะเลตกลงไปในแม่น้ำจะเกิดหายนะกับแม่น้ำ ถ้ายิ่งปักอกใครแล้วถอดไม่ออกใช่ไหมครับพี่มารถตามตำนานเขาบอกนะครับ พระรามคนเดียวเท่านั้นที่จะถอนออกได้ เข้าใจไหมครับ ทีนี้ใครก็ตามคันธนูของพระรามหนักมาก มีแต่พระรามคนเดียวที่จะถือได้ วันมาฆบูชาเนื่องจากสมัยก่อน วรรณะของพวกอินเดียคือ วรรณะพราหมณ์วรรณะกษัตริย์ใช่ไหมครับพี่มารถ
สามารถ- พราหมณ์ แพศย์ ศูทร
สนธิ- แล้วก็จัณฑาล
สามารถ- จัณฑาลไม่ใช่วรรณะ แต่เป็นการผสมระหว่างวรรณะทั้ง 4 ออกลูกมาจัณฑาล
สนธิ- โอเคครับ นัยมีอยู่ว่า เนื่องจากว่าตามลักษณะเดิมคือ ศรของพระรามมันยิงเข้าคนๆ นี้เป็นแพศย์ คนนี้เป็นพราหมณ์ คนนี้เป็นศูทร เป็นไปเรื่อยๆ ศรนี้มันถอดไม่ออก ไม่มีใครถอด คือพูดง่ายๆ ถ้าเป็นจัณฑาลก็เป็นจัณฑาลไป ใช่ไหมครับพี่มารถ
สามารถ- คือวรรณะ 4 ยึดถือการเกิดเป็นหลัก เกิดจากพราหมณ์ก็เป็นพราหมณ์ เกิดจากกษัตริย์ก็เป็นกษัตริย์ แต่ถ้ากษัตริย์ไปผสมกับวรรณะอื่น ไม่เรียกจัณฑาล แต่ถ้าวรรณะอื่นนอกจากนี้เรียกจัณฑาล
สนธิ- เพราะฉะนั้นแล้วถ้าลูกจัณฑาลเกิดก็ต้องจัณฑาลตลอดไป
สามารถ- ถูกต้อง แต่ทีนี้มีปัญหาว่า ทำไมกษัตริย์เกิดแต่งงานกับวรรณะอื่นแล้วไม่เป็นจัณฑาล คำตอบคือว่า ชนชั้นปกครองเป็นคนกำหนดกฎเกณฑ์
สนธิ- ตำนานเลยบอกว่า นี่คือศรพระรามที่ยิง ทำให้คนเกิดในวรรณะไหนก็เป็นวรรณะนั้นไป วันที่พระพุทธเจ้าแสดงโอวาทปาติโมกข์ 15 ค่ำเดือน 3 โดยที่มีพระสงฆ์ 1,250 รูป แอนรู้ใช่ไหม มาฟังธรรมโดยไม่ได้นัดหมาย แล้ว 250 รูปใช่ไหมพี่มารถ ที่พระพุทธเจ้าบวชทรงอุปสมบทให้เอง
สามารถ- เอหิ ภิกขุ คือพระพุทธเจ้าบวชให้เอง แล้วเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด
สนธิ- วันนั้นโอวาทปาติโมกข์ที่ออกมาแสดงธรรม เท่ากับเป็นการถอนศรพระรามออก ก็คือว่าคุณจะอยู่วรรณะไหนก็ตาม เมื่อนับถือพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้วเท่าเทียมกันหมด
สามารถ- คือโอวาทปาติโมกข์เหมือนกำหนดแนวทาง กำหนดหัวใจพระพุทธศาสนาลงมา 1.ไม่ทำบาป 2.ทำกุศล และทำจิตให้ผ่องแผ้ว 3 อันนี้เป็นหัวใจพุทธ เป็นแนวทางประกาศศาสนาด้วย ใครมาก็ไม่รู้ถ้าไม่ทำ 3 อย่างนี้ไม่เข้าถึงพุทธ ไม่ทำบาป
จินดารัตน์- จากที่พุทธประวัติมาจวบจนกระทั่งวันนี้ ประเทศไทยถือว่าเป็นประเทศที่ศาสนาพุทธเข้มแข็งและยิ่งใหญ่มาก
สามารถ- ศาสนาพุทธเข้าสู่ประเทศไทยตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีวิชัย ก็คือก่อนสุโขทัย ในสุโขทัยตั้งขึ้นไปเอาสังฆราชจากศรีวิชัยมาสุโขทัย ฉะนั้นพระพุทธศาสนาเข้ามาก่อน แต่พุทธศาสนาที่เข้ามาในครั้งนั้น สันนิษฐานได้ว่า เป็นมหายาน ไม่ใช่หินยาน เพราะว่ามีโพธิสัตว์พระอวโลกิเตศวรก็ดี แล้วเจดีย์บุโรบุโดที่อินโดนีเซียนี่ชัดว่าเป็นมหายาน ไม่ใช่หินยาน หินยานมาเข้าก็ชัดเจนตอนระยะหลังแล้สว ตอนที่พระโสณะ พระอุตตระ ส่งเข้ามา
จินดารัตน์- แต่วันนี้ที่หลายคนเขาเป็นห่วงนอกจกาเด็กที่รู้จักวันวาเลนไทน์มากกว่าวันมาฆบูชามากแล้ว มันยังเกิดความเสื่อมหมู่พระสงฆ์ในความศรัทธาของผู้คน ประพฤติปฏิบัติตนของสงฆ์ หลายวันมานี่เราได้ข่าว
สามารถ- อันนี้เป็นที่มาที่ผมกับคุณสนธิต้องมาคุยเรื่องนี้ ผมอยู่บ้าน มีคนมาถามว่า พุทธศาสนาจะหมดหรือยัง จะเจ๊งหรือยัง จะอันตรธานหรือยัง วันหนึ่งผมก็เคยอ่านพระไตรปิฎกแล้วเจอ เมื่อพระกิมพิละไปถามพระพุทธเจ้าว่า เมื่อตถาคตปรินิพพานแล้วคำสอนยังจะมีอยู่หรือไม่ หรือถ้าไม่อยู่ อะไรเป็นเหตุ พระพุทธเจ้าบอกว่า เมื่อเราตถาคตปรินิพพานแล้ว ถ้าพุทธบริษัท 4 คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ยังยึดมั่นในพระธรรมวินัย เคารพในสงฆ์ เคารพในการศึกษา เคารพซึ่งกันและกัน พระธรรมยังอยู่ แต่ถ้าตรงกันข้าม ไม่เคารพนะ อันตรธาน ถ้าถามว่า คำว่าเคารพในศาสดา เคารพในพระธรรม เคารพในสงฆ์ เคารพในการศึกษา ยำเกรงซึ่งกันและกัน วันนี้หมดเลยนะ จำได้เลยว่าในนี้ไม่มีพระวินัยใช่มั้ย ทำไมถึงไม่มีคำว่าเคารพในวินัย ก็เพราะว่าเมื่อพระอานนท์ถามว่า เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ใครจะเป็นศาสดา พระพุทธเจ้าบอกว่า ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่พระองค์แสดงแล้ว บัญญัติแล้ว เป็นศาสดา ดังนั้นวันนี้ถ้าสงฆ์คนไหนไม่ทำตามวินัย ก็ถือว่าไม่ทำตามศาสดา
สนธิ- ก็ถือว่านอกรีต
สามารถ- ถือว่านอกรีต ทีนี้คำว่าสงฆ์ในที่นี้คืออะไร สงฆ์มี 2 ประเภท 1. อริยสงฆ์ 4 คู่บุคคล 8 ในอิติปิโส คุณสนธิรู้ดี แล้วต่อมาสมมติสงฆ์ คืออะไร ก็คือสงฆ์ที่ไม่ได้บรรลุธรรมอันใดๆ แค่มีศีล
จินดารัตน์- แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า ...
สนธิ- แล้วมีสงฆ์อีกประเภท สงฆ์ที่ห่มเหลือง
สามารถ- อันนั้นรูปแบบ เป็นเพียงรูปแบบ
สนธิ- ห่มเหลืองอย่างเดียว
จินดารัตน์- ที่เขาเรียกเสือเหลืองเหรอคะ
สามารถ- ทีนี้มาดูว่าสงฆ์ที่เป็นสมมติสงฆ์ ทำไมถึงมีปัญหา อริยสงฆ์ไม่มีปัญหา เพราะ 1. ท่านมีสติสมบูรณ์ จะพูด จะคิด จะทำ ท่านรู้ว่าท่านทำอะไร ผิด/ไม่ผิด
จินดารัตน์- ก่อนจะไปถึงตรงนั้น เราจะรู้ได้อย่างไรคะ อย่างปุถุชนคนธรรมดา พุทธศาสนิกชนธรรมดา จะรู้ได้อย่างไรว่ารูปไหนเป็นอริยสงฆ์ รูปไหนเป็น ...
สามารถ- จริงๆ แล้วคนธรรมดาไม่รู้หรอก ไม่รู้ว่าองค์ไหนเป็น เพราะในนั้นบอกเป็นปัจจัตตัง คืออริยสงฆ์รู้อริยสงฆ์ด้วยกัน แต่ปุถุชนไม่รู้อริยสงฆ์ แต่ที่เรารู้นะ อนุมานได้จากพฤติกรรม
สนธิ- สังเกตไง แอน วัตรปฏิบัติ ว่าเป็นยังไง สำรวมมั้ย แล้วเป็นคนซึ่งชอบแสดงออกอะไรหรือเปล่า
จินดารัตน์- อวดอุตริหรือเปล่า
สนธิ- อวดอุตริก็ส่วนหนึ่ง ใช่มั้ยพี่มารถ ที่สำคัญก็คือว่า โอ้อวด ชอบแสดงออก ชอบแสดงความอหังการ มมังการ แทนที่จะนั่งเงียบๆ หรือว่า ความเมตตากรุณาที่มีให้ต่ออุบาสก อุบาสิกา แสดงออกได้ทางสายตา และวัตรปฏิบัติจริงๆ
สามารถ- คือเรามามองอย่างนี้ ว่าทำไมถึงเกิดปัญหา วันนี้สงฆ์ ในเมืองไทย หรือที่ไหนก็ตาม จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คืออรัญวาสี คือพระป่า คามวาสี คือพระบ้าน หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่าปริยัติ กับปฏิบัติ พระปริยัติเสี่ยงต่อกันต้องอาบัติสังฆาทิเสสข้อ 13 มาก เพราะท่านพบคนเยอะมีคนมาหาเยอะ แล้วชาวบ้านเองพอใจกับการที่พระให้การบริการ ยิ่งพระไปบริการขนาดนั้นผิดสังฆาทิเสสข้อ 13 คือ ทอดตัวรับใช้ชาวบ้านคือ ประจบสอพลอชาวบ้านอะไรอย่างนี้ ผิด
จินดารัตน์- แค่ประจบสอพลอก็อาบัติแล้ว
สามารถ- เขียนไม่ชัดไง ประจบสอพลอเพื่อให้ชาวบ้านพอใจ และให้ผลประโยชน์
สนธิ- ฉะนั้นการตั้งพระพายัพเป็นพระครูปลัด คือการประจบสอพลอ
จินดารัตน์- เอาใจคฤหัสถ์
สามารถ- แต่นี่ท่านบอกว่า ท่านมีสิทธิตั้งเพราะว่า อ้างกฎหมายสงฆ์ไง ว่าฐานะลูกกรมเจ้าของตำแหน่งมีสิทธิแต่งตั้งไม่เถียงนะ ถูก แต่ว่าถามว่า กฎหมายมาหลังพระวินัยหรือเปล่า กฎหมายมาหลังพระวินัย พระวินัยมาก่อน
สนธิ- กฎหมายต้องอยู่หลังพระวินัย
สามารถ- ถูกต้อง ทีนี้พระวินัยว่าอย่างไร พระวินัยโดยตรงไม่มีนะ เพียงแต่ว่าดูจากการแต่งตั้งพระสุเทพก็ดี พระปริตรก็ดีนะ แต่งตั้งคณะวินัยธรก็ดีนะ ต้อง 5 พรรษาขึ้นไป 2.ต้องเป็นผู้ทรงไว้ซึ่งศีลคือ รู้เรื่องปาติโมกข์ เข้าใจศีลเฉพาะ 27 ข้อ ตัวเองมีพรรษา 5 พรรษาขึ้นไปถึงจะตั้งกัน ถามว่าวินัยตัวนี้มีไม่มี แล้วต้องถูกนำมาใช้โดยอนุโลม ต้องนำมาใช้โดยอนุโลมในการแต่งตั้งตรงไหน อะไรเรามาว่า ไปดูมหาพระเทพ 4 ข้อ 1.เลยบอกว่า อะไรที่ไม่ได้ทรงบัญญัติไว้ว่าไม่ควรนะ ไม่ได้ทรงบัญญัติไว้ว่า ไม่ควร แต่มันเข้ากับสิ่งที่ควรก็ควร อะไรที่มันอยากได้ว่า ควรแต่มันเข้ากับสิ่งที่ไม่ควรก็ไม่ควร อันนี้ไม่ได้บัญญัติไว้ห้ามไว้นะ แต่ว่าไปอนุโลมเข้ากับสิ่งที่ไม่ควรก็ไม่ควร
สนธิ- ก็ไม่ควร
จินดารัตน์- งั้นแสดงว่าสิ่งที่พระพยอมพูดบอกว่า อาตมาเห็นว่า เราไม่ควรจะไปยึดเรื่องพรรษากันได้แล้ว
สามารถ- นี่คุณกำลังจาบจ้วงพระวินัย สมัยก่อนเขาทำสังคายนานะถ้าพูดอย่างนี้
สนธิ- คืออย่างนี้แอน พี่มารถช่วยบอกผมที คฤหัสถ์วันแรกที่บวชเป็นพระต้องทิ้งชีวิตคฤหัสถ์แล้วนับ 1 ใหม่
สามารถ- ถูกต้อง
สนธิ- ด้วยเหตุนี้คนอายุมากขนาดไหนก็ตาม ถ้าเพิ่งบวชพระวันนี้ แล้วมีพระซึ่งอายุน้อยกว่าตัวเอง 40 ปี แต่บวชมาแล้ว 10 พรรษา ก็ต้องไปกราบพระซึ่งบวชมาแล้ว 10 พรรษา นั้นคือพระวินัย เพราะว่าเขาได้เริ่มชีวิตการเป็นสงฆ์มาก่อนคุณ เพราะนี่คือชีวิตของความเป็นสงฆ์
สามารถ- คือการที่เป็นศากยบุตรคือ ลูกพระพุทธเจ้านับจากการบวช
สนธิ- การบวช เพราะฉะนั้นแล้วการที่พระพยอมพูดผิดหมดเลย ผมยังสงสัยเลยว่า ท่านพูดออกมาได้อย่างไร
สามารถ- ถ้าคุณไม่นับถือพรรษาเท่ากับไม่เคารพพระวินัย อันนี้คุณไม่เคารพพระศาสดานะ
สนธิ- ถูกต้อง
สามารถ- เพราะว่าวินัยก็ดี ธรรมก็ดีคือศาสดาแทนตัว
จินดารัตน์ - อย่างนี้เข้าข่ายข้อ 13 ได้เลย
สามารถ - ไม่ๆ ยังไม่ถึงเข้าข่าย เพียงแต่จาบจ้วงพระวินัย
จินดารัตน์ - แต่พระพยอมพูดด้วยนะคะว่า ปัญหานี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น ถ้าพระพายัพไม่ได้เป็นน้องชายคนชื่อทักษิณ
สนธิ - แต่ปัญหานี้มันเกิดขึ้น แล้วได้เป็นพระครูปลัดก็เพราะเป็นน้องชายทักษิณ เข้าใจหรือยัง ปัดโธ่
สามารถ - ปัญหาเนี่ย ผมถามกลับ ถ้าคนๆ หนึ่ง เป็นนาย ก. นาย ข. นะ ไปบวชวันเดียวจะได้รับการแต่งตั้งไหม
จินดารัตน์ - ถ้าไม่ได้นามสกุลชินวัตรอ่ะได้ไหม
สามารถ - เออได้ไหม
สนธิ - พี่มารถ ถ้ายึดถือหลักพระพยอมขึ้นมาหรือแม้กระทั่ง สมเด็จพระมหาธีรญาณมุนี ว่า พระพายัพทำคุณประโยชน์ให้กับพุทธศาสนา ตอนที่ผมบวชผมแล้วไปจำวัดที่วัดป่าบ้านตาด เนี่ยผมบวชที่วัดโพธิสมพร ใช่ไหมพี่มารถ
สามารถ - ใช่ๆ
สนธิ - โดยหลวงปู่ใหญ่ วัดโพธิสมพรเป็นวัดที่ทำญัตติให้กับพระสายมหานิกายที่เปลี่ยนเป็นธรรมยุตที่เป็นพ่อ แม่ ครู อาจารย์ ที่เป็นอริยสงฆ์เยอะแยะไปหมดเลย ถ้าผมบวชวันนั้นเนี่ย ถ้ายึดถือตามหลักอันนี้ ผมต้องได้เป็นพระครูปลัดสิ เพราะทำไมรู้ไหม เพราะก่อนบวช ผมสร้าง ผมซื้อที่เกือบๆ 100 ไร่ ให้วัดกุดโพนทันของหลวงพ่อญาจำได้ไหม จำได้ไหมพี่มารถ
สามารถ - ได้ๆ
สนธิ - ผมสร้างอุโบสถให้ ผมก็สร้างอุโบสถนิ แล้วทำไมผมไม่ได้เป็นพระครูปลัดอ่ะ คือ เลอะเทอะงานนี้ แปลพระวินัยเข้าข้างตัวเอง แล้วเข้าข่ายสอพลอคฤหัสถ์
สามารถ - เอาง่ายๆ เนี่ย ความดีที่คฤหัสถ์ทำ ความดีนั้นกลายเป็นบุญกุศลที่ผู้นั้นได้รับไปแล้ว แล้วคุณจะเอาความดีมาต่อยอดให้กับความเป็นพระไม่ได้
สนธิ - ไม่ได้
สามารถ - จะต่อได้ไง
สนธิ - คือ คุณทำความดีก็ทำไปสิ
จินดารัตน์ - ให้ยศให้ตำแหน่งไม่ได้ต่อไม่ได้
สนธิ - ถ้าคุณมาเป็นพระ สิ่งแรกที่คุณจะต้องทำ คือ คุณต้องถือศีลให้ครบ 227 ข้อ
สามารถ - นั้น ถูกต้อง
สนธิ - 227 ข้อเนี่ยสำคัญมาก คุณรักษาพรหมจรรย์ของคุณไว้ให้ดี คุณปฏิบัติธรรม คุณศึกษาธรรม แล้วคุณศึกษาด้วยการอ่านสายปริยัติและปฏิบัติไปด้วย เพื่อควบคู่กันไปหรือถ้าคุณจะปฏิบัติอย่างเดียวก็ปฏิบัติไป นั้นคือการต่อยอด นั้นคือการต่อเริ่มสร้างปักหลักเสาเข็มของคุณในวันแรกที่คุณเป็นพระ ใช่ไหมพี่มารถ
สามารถ - ใช่ แล้วมีปัญหาอีกข้อหนึ่ง ถ้าสมมุติคุณบอกว่า เอาความดีของฆราวาสมาต่อให้กับความเป็นพระเนี่ยนะ และอภิณหปัจจเวกขณ์ข้อหนึ่ง บอกว่า จึงพิจารณาบัดนี้ว่า เพศและภาวะของเราได้เปลี่ยนจากคฤหัสถ์ไปแล้ว อะไรที่คฤหัสถ์ทำได้ไม่ได้แปลว่า พระทำได้ ก็แปลว่าไร แปลว่า เริ่มต้นใหม่ แล้วคุณจะเอาความดีเก่ามาต่อได้กับอันใหม่ได้ไง มันไม่ใช่
จินดารัตน์ - นั้นหมายถึงว่า ตอนสร้างโบสถ์ สร้างวิหารทั้งหลาย ตอนเป็นคฤหัสถ์
สามารถ - นั้น คือความดีส่วนหนึ่ง
สนธิ - คือ ที่น่ากลัวที่สุด สิ่งที่พระพยอมพูดเนี่ย เป็นเรื่องน่ากลัวมากนะ พี่มารถ แสดงว่า คนอย่างพระพยอมยังไม่เข้าใจพระธรรมวินัยเลย การที่บอกว่า เลิกนับถือพรรษากันได้แล้วเนี่ย
สามารถ - โอ้ยนั้น หนักเลย หนักๆ
สนธิ - ผมตกใจเลยนะเนี่ยงานนี้ ท่านพูดมาได้ยังไง คือ ถ้าท่านจะสอพลอพวกชินวัตร ก็สอพลอไป แต่ไม่ควรมาจาบจ้วงพระธรรมวินัย
สามารถ- คือการนับถือพรรษาถือว่า คือการเกิดในความเป็นพระ หรือศากยบุตร เป็นการเริ่มต้น ณ วันบวช ไม่เอาอายุต่อเนื่องจากเป็นคฤหัสถ์มานะ เพราะฉะนั้นพรรษาจะนับอายุ 1 2 3 4 5 นับจากวันบวช และถ้าคุณไม่นับอายุแล้วคุณจะนับอะไร
สนธิ- อีกอันหนึ่งนะแอน ไม่เชื่อถามพี่มารถดู พระครูปลัด ที่พระพายัพได้รับแต่งตั้ง ถ้าสมมติต้องเข้างานพระราชพิธีเขานั่งเรียงพัดยศ พระครูปลัดฯ ยังนั่งก่อนหน้าก่อนที่จบเปรียญ 9 ประโยค นะ
สามารถ- ไม่ใช่ธรรมดานะ
สนธิ- และผมก็ไม่แน่ใจว่าพระครูปลัดฯองค์นี้ ณ วันนี้ ณ เวลานี้ สามารถจะสวดโอวาทปาติโมกข์ได้หรือเปล่า สามารถจะสวดธรรมจักกัปปวัตนสูตรได้หรือเปล่า
สามารถ- ไม่ได้หรอก อนุศาสน์ 8 ข้อ ยังจะจำได้หรือเปล่า
สนธิ- แล้วไปนั่งก่อนหน้าคนที่จบเปรียญ 9 ประโยค ตลกไหม
จินดารัตน์- เปรียญ 9 ประโยคเขาใช้เวลาศึกษากัน
สามารถ- เอาง่ายๆว่าถ้าคุณไม่ตกเลย ก็ 9 ปี หมายความว่าคุณฉลาดสุดแล้วนะ แต่ถ้าธรรมดาก็เป็น 10 ปี
จินดารัตน์- อย่างอธิบดีกรมการศาสนาบอกว่า พระครูปลัดเป็นเพียงแค่ฉายา
สามารถ- ฉายานี่คือนามสกุลพระ แปลว่าชื่อนี้ นามสกุลนี้ เปลี่ยนจากของฆราวาสมาเป็นของพระ เรียกฉายา แต่นี่ชื่อนะ ตำแหน่งนะ
จินดารัตน์- ซึ่งฉายาของพระพายัพควรจะเป็น เขมะคุโณ อันนี้คือฉายา ท่านเป็นอธิบดีกรมการศาสนาได้อย่างไร
สามารถ- ประเทศไหนเนี้ย
สนธิ- พี่มารถพูดในเชิงของธรรม และพระธรรมวินัย แอนจะถามอะไรพระธรรมวินัยเพิ่มเติมไหม เดี๋ยวผมจะพูดในเชิงการเมืองให้ฟัง
จินดารัตน์- คุณสนธิพูดในเชิงการเมืองก่อน เพราะว่ามันสืบเนื่องกันว่า อ.สามารถ พูดถึงเรื่องความเสื่อมมันเกิดมาจากหลายปัจจัย
สนธิ- ถ้าพี่มารถจำได้สมัยนานมาแล้วประมาณปี 2547 หรือ 45 ตอนนั้นมี พ.ร.บ.สงฆ์เกิดขึ้นมา แล้วมีความพยายามโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผ่านมาทางนายวิษณุ เครืองาม ร่าง พ.ร.บ.สงฆ์ ชุดใหม่ แล้วก็ร่าง พ.ร.บ.อีกตัวหนึ่ง พี่มารถจำได้มั้ย ตำแหน่งมหาคณิสสร คือมันจะมีมหาเถรสมาคม และเขาจะร่างอีกชุดหนึ่ง เขาเรียกว่ามหาคณิสสร มหาคณิสสร นี่อุปมาอุปไมยเหมือนเป็นคณะรัฐมนตรีเลย มหาเถรสมาคมอยู่ข้างบน มหาคณิสสรอยู่ล่าง
สามารถ- ตัวทำงานคือมหาคณิสสร
สนธิ- ตัวทำงานคือมหาคณิสสร แล้วในร่าง พ.ร.บ.นี้ ให้อำนาจมหาคณิสสรถึงขั้นขนาดที่เรียกว่ามหาเถรสมาคมเข้ามาแทรกแซงไม่ได้ แล้วยังห้ามวิพากษ์วิจารณ์มหาคณิสสรด้วยนะ ถ้าวิพากษ์วิจารณ์ ติดคุก กี่เดือน กี่ปี ก็ว่ากันไป คือทำตัวเหมือนกับเป็นสถาบันกษัตริย์ไปเลย เสร็จแล้วมหาคณิสสรมีอำนาจล้นฟ้า รวมไปจนถึงสามารถจะดูแลกิจการทรัพย์สินของวัดทั่วประเทศ
สามารถ- นี่น่าเป็นห่วงนะ
สนธิ- วัดทั้งหมดนี้ แอนรู้ไหมว่าทรัพย์สินของวัดทั่วประเทศไทยประมาณเท่าไร สี่ล้านล้านบาท
สามารถ- เยอะมาก
สนธิ- รายได้ที่ได้จากวัดนี่นะ เมื่อรวมแล้วปีละประมาณแสนกว่าล้าน นั่นคือยุคนั้นเป็นยุคซึ่งทักษิณ หรือรัฐบาลชุดทักษิณ ต้องการจะกินรวบพระ แล้วเกมต่อไปก็คือว่า เนื่องจากว่าสมเด็จญาณสังวร ท่านไม่สบาย พวกนี้ก็เลยถือโอกาสโดยผ่านวิษณุ เครืองาม ตั้งคณะทำงานของสมเด็จพระสังฆราชมาแล้วก็ตั้งสมเด็จเกี่ยว คือสมเด็จพุฒาจารย์ วัดสระเกศ เป็นประธานคณะทำงานขึ้นมา โดยที่สมเด็จพระสังฆราช อ้างว่าไม่สบาย คุณทักษิณพูดเลยบอกว่า เอ้า ไม่สบายก็ควรจะไปรักษา ให้พระองค์ท่านไปรักษาตัวอย่างดี ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวเรื่องการงาน ให้คณะทำงานเป็นคนทำงาน ตั้งมา ปรากฏว่าเดิมทีตั้งไว้ 6 เดือน มกราคม แล้วจะสิ้นสุดกรกฎาฯ ทักษิณ ชินวัตร กับวิษณุ เครืองาม แอบปรึกษาลับแล้วก็ไปร่าง พ.ร.ก.ต่ออายุ ให้มาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ บนพื้นฐานที่ว่าสมเด็จญาณ พระองค์ท่านไม่สบาย แต่ทุกคนตอนนั้นก็เถียงกัน ทักษิณก็บอกว่า สมเด็จญาณก็ยังเป็นสังฆราชอยู่ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร แต่ว่าสมเด็จเกี่ยว เป็นประธานคณะทำงานให้พระองค์ท่าน
สามารถ- เรียกว่าผู้ปฏิบัติงานแทนพระสังฆราช
สนธิ- ผู้ปฏิบัติการแทนพระสังฆราช โดยใช้ตรรกที่ว่าสมเด็จญาณไม่สบาย วันนี้สมเด็จเกี่ยวก็ไม่สบาย ทำงานไม่ได้ ทำงานไม่ได้นะ คำถามมีอยู่ว่า เมื่อสมเด็จเกี่ยวทำงานไม่ได้ ทำไมสมเด็จเกี่ยวถึงไม่ลาออกมา แล้วถ้าใช้ลักษณะเดียวกัน ก็ตั้งอีกคนหนึ่งขึ้นมาแทนตัวเองสิ หรือไม่อีกทีก็คืนตำแหน่งนี้ คืนยกคณะนี้ไป แล้วให้สมเด็จพระสังฆราชตั้งคณะทำงานของพระองค์ท่านเองขึ้นมา เข้าใจหรือยังแอน ทีนี้ผมจำได้ ผมไปค้นเรื่องมหาคณิสสร มหาคณิสสรนี่น่าสนใจมาก คือคนค้านมากนะพี่มารถ ตอนนั้น
สามารถ- มันก็ควรจะค้าน
สนธิ- คนค้าน หลวงตามหาบัว ผมเองนี่เป็นหนึ่งในคณะที่เดินขบวน ไปค้านเรื่องนี้ มีพระเป็นหมื่นรูปมาค้านเรื่องนี้ ทั้งพระทั้งเณรมาค้านเรื่องนี้ จนในที่สุดเขาเห็นว่าการค้านแรงมาก ก็เลยเอา พ.ร.บ.มหาคณิสสร ส่งไปให้กฤษฎีกาพิจารณา แล้วก็เงียบหายไป ทีนี้มีอันหนึ่ง ผมอยากให้แอนและพี่มารถฟังนิดหนึ่ง 22 กรกฎาคม 2547 ประมาณเกือบ 10 ปีที่แล้ว 9 ปีแล้ว ที่สวนแสงธรรม หลวงตามหาบัว พระธรรมวิสุทธิมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ได้เทศนาอบรมคณะศิษยานุศิษย์และฆราวาสทั่วไปว่า เวลานี้ประชาชนผู้จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ กำลังโกลาหลอลหม่าน วุ่นวายเรื่องการแต่งตั้งคณะผู้ทำหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เพราะไม่มีประชาชนและพระ-เณรที่ไหนเห็นด้วย เขามาร้องทุกข์ เราเป็นจุดศูนย์กลาง เลยจะเป็นจะตาย ไม่ทราบว่าจะพูดยังไง ถ้าจะพูดว่าไอ้พวกที่ปีนป่ายกำลังอยากเป็นสมเด็จพระสังฆราช อยากได้ยศได้ลาภ ดินเหนียวติดหัวมากๆ ให้พวกนี้เอาไป ทีนี้ประชาชนก็จะลุกฮือขึ้นมาอีก จะว่ายังไง
หลวงตากล่าวต่อ ชาติไทยเราถือพระมหากษัตริย์เป็นจอมหัวใจ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช เป็นความราบรื่นดีงามตลอดมา จนกระทั่งปัจจุบันที่กำลังเป็นแนวแผนใหม่ขึ้นมานี้ จะเป็นแผนอะไร ท่านทั้งหลายก็ทราบแล้ว กำลังตั้งขึ้นมาเพื่อก่อให้เกิดความขัดแย้งกันมาเป็นลำดับ ตั้งแต่เรื่องของมหาคณิสสร จนถึงเรื่องตั้งผู้ทำหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน เวลานี้กำลังวุ่นในเรื่องชาติ เรื่องศาสนา จะเอาชาติ เอาศาสนา ให้จมจนได้กับคนพวกนี้ ว่างั้นเลยนะ มีแต่ตัวเก่งๆ ทั้งนั้นล่ะที่เข้ามาทำลายชาติอยู่เวลานี้ การบ้านการเมืองเราก็ตั้งมานาน รัฐบาลชุดไหนก็ไม่เคยมีมาก้าวก่ายพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เอาตามอำนาจตนเองอย่างนี้ไม่มี แต่รัฐบาลชุดนี้กำลังเริ่มแล้ว ก็คือรัฐบาลชุดทักษิณ ชินวัตร
ขณะนี้ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ และพระสงฆ์ทั่วสังฆมณฑล ซึ่งมีความจงรักภักดีต่อพระพุทธศาสนา ต่อพระมหากษัตริย์ จะมีการคัดค้านกันขึ้นในไม่ช้านี้ ที่จะออกมาคัดค้านสิ่งกาฝากซึ่งเป็นอันตรายต่อชาติ ต่อศาสนา ที่เด่นชัดที่สุดคือนายวิษณุ เครืองาม หลวงตาพูดเลย กำลังเป็นตัวสำคัญตัวแสบของทั้งชาติและศาสนา และเป็นตัวแสบทำลายจิตใจประชาชน พระเณรทั้งหลายให้หวั่นไหว ให้โยกคลอน ให้ระส่ำระส่าย ในนามรัฐบาล รวมกันแล้วมีกี่ท่าน ท่านเหล่านั้นไม่ได้แสดงตัวอะไรออกมา แต่ผู้นี้แสดงออกมาอย่างหน้าด้านทีเดียว ไม่มียางอายกับใคร จะเอาอย่างนั้นเอาอย่างนี้ นี่ไงพี่มารถ
สามารถ- คือ ที่บอกว่าสถาบันหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จริงๆ แล้ว 2 อันผูกพันกัน คือศาสนากับพระมหากษัตริย์ ต่างอิงอาศัยกัน พระมหากษัตริย์ไทยทุกองค์เป็นพุทธมามกะ เป็นศาสนูปถัมภก พุทธมามกะคืออะไร คือถือพุทธ สอง ศาสนูปถัมภก คืออะไร คือสนับสนุนทุกศาสนา ในฐานะผู้นำ
สนธิ- พระเจ้าอยู่หัวเป็นเจ้าอาวาสใหญ่
สามารถ- ถามว่าวันนี้ถ้าคุณไปทำให้ศาสนจักรสั่นคลอน สถาบันกษัตริย์สั่นคลอน ธงไตรรงค์เหลือ 1 นะ
สนธิ- นี่ไงพี่มารถ หลวงตาเคยพูดกับลูกศิษย์ท่าน ผมได้ยินกับท่าน ท่านเคยพูดกับผม ท่านบอกว่าสนธิ ชาติประกอบด้วย ศาสนา พระมหากษัตริย์ เมื่อใดศาสนาอ่อนแอ พระมหากษัตริย์อ่อนแอ เมื่อใดพระมหากษัตริย์ ศาสนาจะอ่อนแอ ทั้ง 2 อย่างอ่อนแอเมื่อไหร่ ชาติถึงจะล่มสลาย แล้วพี่มารถมาดู พระมหากษัตริย์ถูกจาบจ้วงมาตลอดเลย ด้วยระบอบทักษิณ พยายามจะล้มเจ้า พยายามล้มพระราชอำนาจของพระองค์ท่าน แม้การตั้งสังฆราชก็ไม่ให้ท่านตั้ง ซึ่งเป็นพระราชอำนาจมาตั้งแต่โบร่ำโบราณการซึ่งสมเด็จญาณฯ ซึ่งท่านไม่สบาย ท่านเป็นพระพี่เลี้ยงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตอนทรงผนวช การที่สมเด็จญาณฯไม่สบายแทนที่จะตั้งคณะทำงานให้สมเด็จญาณฯ ท่านตั้งท่านเองคณะทำงานท่าน กลับไปตั้งคณะทำงานโดยให้สมเด็จเกี่ยว สมเด็จเกี่ยวคือใคร คือเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ซึ่งผูกพันกับตระกูลดามาพงศ์มาก เพราะว่ากระดูกของตระกูลดามาพงศ์ พ่อของคุณหญิงอ้อไว้อยู่บนทางเดินขึ้นไปข้างบนภูเขาทอง พูดง่ายๆว่า ตระกูลดามาพงศ์กับวัดสระเกศแนบเเน่นเป็นเนื้อเดียวกัน หรือถ้าจะพูดนัยหนึ่งว่า ตอนนั้นทักษิณอยากจะมีสังฆราชเป็นของตัวเอง ก็คือสมเด็จเกี่ยว แต่ว่าเป็นไม่ได้เพราะว่าสมเด็จญาณฯยังมีชีวิตอยู่ ก็เลยตั้งคนขึ้นมาแล้วเอาคณะทำงานซึ่งเป็นคนของสมเด็จเกี่ยวเอาพวกพระในสายตัวเองเข้ามา พี่มารถสมเด็จพระสังฆราชทรงมีพระลิขิตนะ มีพระวินิจฉัยเซ็นไปแล้วนะ ให้พระธัมมชโยวัดธรรมกายปาราชิกแล้วนะ เสร็จแล้วนะปรากฏว่าคนที่ค้านคือสมเด็จเกี่ยว และคนที่ช่วยธรรมกาย และช่วยธัมมชโย ก็คือสมเด็จเกี่ยว คือสมเด็จเกี่ยว เพราะฉะนั้น จากวันนั้นจนถึงวันนี้ แล้วทักษิณก็ใช้อำนาจของรัฐบาลจัดการจนกระทั่งสำนักงานอัยการสูงสุดถอนฟ้องธัมมชโย ทั้งๆที่คดีความกำลังย่างเข้าสู่ศาลในกรณีเรื่องเงินเรื่องทองทุกอย่าง นี่ไง นี่คือความเสื่อม แล้วการซึ่งธรรมกายเอาเดินธุดงค์ในเมือง
พี่มารถอธิบายได้มั้ยธรรมกายเดินธุดงค์ในเมืองหน่อย
สามารถ- คือธุดงค์ 13 ข้อ มันเป็นวัตรปฏิบัติของพระป่า คือธุดงค์ในป่า ถ้าธุดงค์ในเมืองเป็นย่านอโคจร มันขัดแย้งกับสามัญสำนึกของผู้ปฏิบัติธุดงค์ เพราะว่าธุดงค์เดินในป่าได้ แต่เดินในเมืองมันเป็นอโคจร ที่ไม่ควรไปนี่คืออย่างที่ 1 อย่างที่ 2 พระที่จะไปธุดงค์ได้ปลีกวิเวกได้ เขียนไว้ชัดเลย ต้องพ้นจากนิสัย แปลตรงตัวนะ คืออยู่ใต้ปกครองของอุปชาอาจารย์ มันต้อง 5 พรรษาขึ้นไปได้นะถึงจะออกธุดงค์ได้ แต่นี่บวชมา 2 วัน ห่มผ้ายังไม่เป็นเลย ออกธุดงค์แล้ว
สนธิ- แอน พี่มารถจำได้ไหม ผมบวชอยู่ พอครบเดือนผมก็จะเดินทางจากวัดป่าบ้านตาดเพื่อมาเยือนพันธมิตรต่างๆ ตามจังหวัดต่างๆ จำได้ไหมแอน ไปชลบุรี ไปเพชรบุรี ไปสมุย ผมยังต้องมีพี่เลี้ยงเลย คือพระอาจารย์นพดล ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าที่จังหวัดกำแพงเพชร
สามารถ- อันนี้เป็นไปตามวินัยนะ พระธรรมวินัยบอกว่า เมื่ออุปัชฌาย์บวชให้สัทธิวิหาริก หรืออาจารย์ปกครองกันจะต้องอยู่กัน 5 ปีขึ้นไป คือดูแลเรื่องวินัย ดูแลเรื่องธรรม ดูแลเรื่องทิฏฐิความเห็นให้อยู่ในกรอบพระวินัย พระจะไปไหนต้องมีพี่เลี้ยงอย่างว่า
สนธิ- ต้องมีพี่เลี้ยง เพราะฉะนั้นแล้วจะมาเดินธุดงค์บวช กันไม่กี่วันมาเดินธุดงค์ในกรุงเทพฯ ได้อย่างไร แล้วเดินธุดงค์โดยมีดอกไม้โปรยเพื่อเหยียบดอกไม้ ทำตัวเป็นเทวดาหรือไงงานนี้ บ้ากันไปแล้ว
สามารถ- อันนี้เป็นธุดงค์สร้างภาพ
สนธิ- เป็นธุดงค์สร้างภาพจริงๆ แล้วอย่างนี้เรียก ดูๆ ในภาพตลกไหม มีที่ไหนที่พระภิกษุสงฆ์ พระธุดงค์ที่ไหน ตั้งแต่ผมเกิดมาผมไม่เคยเห็น ผมเจอพระธุดงค์มาเยอะ ผมนี่ลูกศิษย์สายพระป่า พระป่านี้พระธุดงค์ทั้งนั้น ท่านไปไหนมาไหนจะไม่เห็นต้องมีคนมาโปรยดอกไม้ให้เหยียบเลย บ้าหรือเปล่า ผมถึงบอกว่า นี่เป็นลัทธิธรรมกาย ไม่ใช่ศาสนา เอาหลักธรรมกายของหลวงพ่อสดมาแล้วเอาการตลาดเข้ามาใส่ แล้วลักษณะเหมือนกับการที่ เหมือนกับวันนี้เลย เหมือนกับซึ่งพระพยอมพูด หรือสมเด็จพระมหาธีรญาณมุนีมอบให้ มอบตำแหน่งให้ เพียงเพราะอ้างว่า พระพายัพสนับสนุนพระพุทธศาสนา คือพูดง่ายๆ ว่า ถ้าอย่างนั้นคฤหัสบดีคนไหนเอาเงินช่วยพระพุทธศาสนา สร้างอุโบสถให้ พอบวชให้ก็ให้เป็นพระครูปลัด
สามารถ- คุณสนธิพี่มีอีกข้อพูดให้ดูนะ พระพุทธเจ้าพูดถึงโจร 5ประเภทเทียบกับภิกษุ บอกโจร 500 โจร 5 ประเภท ข้อที่ 1.มหาโจรผู้หนึ่งเข้าตีเข้าปล้นชาวบ้านชาวเมือง เทียบได้กับพระ รวบรวมพระคุณพวกขึ้นมา แล้วทำให้ชาวบ้านศรัทธาทำให้ชาวบ้านบริจาค เหมือนกับปล้นเขาอันที่ 1. ข้อที่ 2.บอกภิกษุบางรูปเรียนคำสอนพระพุทธเจ้าแต่อ้างว่า รู้เอง อันนี้อันที่ 2 แต่เดี๋ยวอันสุดท้าย ภิกษุชั่วบางรูปประพฤติพรหมจรรย์ แต่ไปตั้งข้อหาว่า ทำผิดอันนี้ก็ผิด ต่อมาอันที่ 4.น่าสนใจ ภิกษุบางรูปเอาของสงฆ์ที่เป็นครุภัณฑ์ ครุบริขาลที่ห้ามแจกห้ามจ่ายห้ามแบ่งกัน เช่น อาราม ที่ตั้งอาราม ที่ตั้งวิหาร เป็นต้น ไปสงเคราะห์คฤหัสถ์ ประจบคฤหัสถ์ แล้วพวกที่ดินอันนั้นมันใช่เปล่า มีพระสมคบกับชาวบ้านเอาที่ดินวัดมาขายนี่คือประเภทนี้
สนธิ- ก็คือโจร
สามารถ- ใช่
สนธิ- พระพุทธเจ้าพูดเลย เพราะฉะนั้นวันนี้เราคิดเอาเองว่า พระองค์ไหนเป็นโจรบ้าง
สามารถ- แล้วมีข้อสุดท้ายน่าสนใจมาก ภิกษุ ผู้บวชวิเศษที่ไม่มีจริงไม่เป็นจริง เชื่อว่าเป็นยอดมหาโจรในโลก เพราะบริโภคก้อนข้าวของราษฎรเรียกการขโมย ใครละ การที่บอกว่านิพพานมี อัตราก็ดี การที่บอกว่าตัวเองติดต่อกับพระพุทธเจ้าได้ก็ดีอันนี้เข้าข่ายอันนี้
สนธิ- เข้าข่ายโจรข้อ 5
จินดารัตน์- แถวๆ ปทุมฯ
สามารถ- ที่ไหนก็แล้วแต่ที่พูดอย่างนี้ คืออวดที่ตัวเองทำไม่ได้และไม่มีอยู่จริง มหาโจรเลย เพราะหลอกลวงชาวบ้าน เพื่อหวังผลประโยชน์
จินดารัตน์- นี่ทั้งหมดทั้งหลายทั้งปวงที่พูดมา คือแอนคงจะประมวลได้ว่า ความเสื่อมของพระพุทธศาสนาเกิดมาจากพระสงฆ์สมมุติ การเมืองถูกไหมคะอาจารย์
สนธิ- คือพี่มารถขออนุญาตนะ คือเมื่อกี้พูดค้างอยู่ การที่ตอนนั้นระบอบทักษิณ หรือพรรคไทยรักไทยต้องการจะครอบงำมหาเถรสมาคมก็ต้องการที่จะยึดพระให้เป็นหัวคะแนนตัวเอง
สามารถ- ใช่ ถูก
สนธิ- ใช่มั้ยพี่มารถ เพื่อผลทางการเมือง
สามารถ- อันนี้ก็เรียกว่าฝ่ายการเมืองเข้าแทรกแซงศาสนจักร
สนธิ- ซึ่งการเข้าแทรกแซงศาสนจักรในวันนี้ จาก พ.ร.บ.สงฆ์ อันใหมที่ออกมาและใช้มาหลายปีแล้ว มันพิสูจน์ชัดเลยว่า วันนี้มหาเถรสมาคมไม่ได้ต่างไปกว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สามารถ- คุณสนธิพูดนี่ เป็นพุทธพจน์ การบูชามี 2 อย่าง อามิสบูชา ปฏิบัติบูชา คือทำตามคำสอน วันนี้นะ
สนธิ- อามิสบูชาทั้งนั้น
สามารถ- อามิสบูชา ใครจะแต่งตั้งใครต้องดูกันว่าสร้างโบสถ์หรือยัง
สนธิ- ถูกต้อง ต่างกันตรงไหน พระตอนนี้วิ่งเต้นจากพระครู เจ้าอาวาส วิ่งเต้นไปเป็นเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาค แล้วก็วิ่งเต้น แล้วตำแหน่งแห่งที่ ยศ ก็ขึ้นมาเป็นชั้นราช ชั้นเทพ ชั้นธรรม และชั้นพรหม แล้วขึ้นมาสมเด็จ มันต่างอะไรกับการเป็นผู้กำกับ ผู้การจังหวัด ผู้บัญชาการ ผู้ช่วย ผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ แล้วก็ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
สามารถ- ที่สำคัญที่คุณสนธิพูด มันเหมือนตำรวจอยู่อันนะ พระใดก็ตามที่มีอามิสไปให้หน่วยเหนือขึ้นไปได้ ทำผิดก็ไม่ผิดนะ
สนธิ- เดี๋ยวนี้วัดบางวัดที่มีสมเด็จบางองค์อยู่ พระจากบ้านนอกเข้ามาหากันทุกเย็นเลยนะ เอาข้าวเอาของมาฝาก เอาเงินมาถวาย เพียงเพื่อต้องการให้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง วันนี้เป็นอย่างนี้ไปแล้ว แล้วเราจะมีมหาเถรสมาคมไปทำไม คือมหาเถรสมาคมจะต้องส่งเสริมพระพุทธศาสนา ให้พระเน้นการปฏิบัติ ให้พระเข้าใจในคำสั่งสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า และไม่ทำผิดพระธรรมวินัย วันนี้ผิดพระธรรมวินัยหมดเลย ชอบรถเก๋งคันใหญ่ๆ ชอบกุฏิมีติดแอร์ ชอบไปไหนมาไหนมาคนห้อมล้อม ชอบมีพัดยศ พัดยศจะต้องเป็นชั้นราช ชั้นโน่นชั้นนี่ ไม่ได้ต่างกว่าราชอาณาจักรเลยแม้แต่นิดเดียว
สามารถ- คุณสนธิ อันหนึ่งที่น่าคิด คนที่จะแต่งตั้งคนๆ เดียวได้ให้เป็นโน่นเป็นนี่ มีพระพุทธเจ้าองค์เดียวนะ นอกนั้นจะต้องใช้สงฆ์ เพราะว่าไม่เชื่อคนมีกิเลสคนเดียวไง ต้องใช้สงฆ์มารวมชุมนุมกันแล้วตัดสินว่าใครควรจะเป็น แต่วันนี้พระที่มีกิเลส สมมติสงฆ์ ใช้ดุลพินิจคนเดียวแต่งตั้งคน ถามว่าสอดคล้องกับวินัยมั้ย ไม่สอดคล้อง เพราะพระพุทธเจ้าองค์เดียวเท่านั้นที่ตั้งคนเดียวได้
สนธิ- การเมืองก็เลย ข้อที่หนึ่ง เอามหาเถรสมาคมเป็นของตัวเอง เป็นยังไง ก็เอาผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ ซึ่งตัวเองเป็นคนตั้ง ไปเป็นเลขาฯ มหาเถรสมาคม อธิบดีกรมศาสนาเป็นคนของตัวเอง เหมือสมัยหนึ่ง สมัยที่เขาจะออกกฎหมายเรื่องเกี่ยวกับคณะมหาคณิสสร เขาใช้ พล.ต.อ.อุดม เจริญ พี่จำได้มั้ย อดีตตำรวจสันติบาล มาเป็นผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ พล.ต.อ.อุดม เจริญ เป็นคนของทักษิณ เพราะฉะนั้นคนพวกนี้ก็จะมีอิทธิพลเข้าไปในมหาเถรสมาคม แล้วยิ่งได้ประธานคนที่ทำงานในมหาเถรสมาคม ซึ่งเกี่ยวพันกับทางด้านตระกูลของคุณหญิงอ้อ และเกี่ยวพันกับทักษิณ ชินวัตร และเกี่ยวพันกับลัทธิธรรมกาย ก็ยิ่งไปใหญ่เลย เพราะฉะนั้นอีกหน่อยถ้าสมมุติว่าเกิดจำเป็นต้องตั้งสมเด็จพระสังฆราชใหม่ ก็หมายความว่าอาณาจักรจะเป็นคนตั้งสมเด็จพระสังฆราช ผมนี่กลับคิดว่าสมเด็จพระสังฆราชต้องโอนกลับไปเป็นพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วมหาเถรสมาคมไม่จำเป็นต้องมี
สามารถ- คือถ้าดูวินัยนะ คุณสนธิ การที่เกิดเรื่องขึ้นมา หรือที่เขาเรียกว่าเกิดเรื่องเกิดคดีความขึ้นมา สมัยก่อนก็ใช้สงฆ์ตั้งคณะวินัยธรขึ้นมา ไม่ต้องใช้กรรมการแบบนี้ คือตั้งผู้ทรงคุณวุฒิทางวินัยขึ้นมาสอบสวน แล้วก็ลงโทษตามวินัย โดยไม่ต้องมีกฎหมายเลยนะ แต่วันนี้พอคุณมาใช้ มส. กฎหมายนำหน้าวินัยนะ ถูกกฎหมาย ทำได้
สนธิ- พี่มารถ ไม่ได้ชำระพระธรรมวินัยนานหรือยัง
สามารถ- ถ้าผมจำไม่ผิดนะ สุดท้ายในประเทศไทย น่าจะเป็นรัชกาลที่ 7
สนธิ- เกือบร้อยปีแล้วสิ
สามารถ- แต่การชำระพระธรรมวินัยจริงๆ แล้ว มันต้อง 1. เกิดเหตุจากเรื่องพระธรรมวินัย แล้วต้องมีการชำระเอาความผิดออกไป ให้เหลือแต่ความถูก
สนธิ- ก็นี่ไง อย่างพระพยอมนี่ สำหรับผมถือว่าจาบจ้วงพระธรรมวินัยแล้ว ที่มาบอกว่าไม่ให้ยึดถือพรรษา นี่ถือว่าจาบจ้วงสุดๆ แล้ว
สามารถ- ถ้าเทียบกับครั้งแรกนะ ที่พระมหากัสสปะ ทำสังคายนา แค่ถูกภัททะซึ่งบวชตอนแก่ บอกพระทั้งหลายว่าพระพุทธเจ้านิพพานน่ะดีแล้ว จะต้องไม่มีคนมาสอนว่านั่นสิ่งที่ถูก พวกเราทำอะไรก็ตามใจชอบ แค่นี้เป็นเหตุให้ท่านทำสังคายนานะ มันอ่อนกว่านี้เยอะเลยนะ แค่บอกว่า ดีแล้ว พระพุทธเจ้าไม่อยู่
จินดารัตน์- แล้วก่อนหน้านี้อีกตั้งหลายกรณี
สามารถ- พระพุทธเจ้าไม่อยู่ ดีแล้ว เราทำอะไรก็ได้
สนธิ- พระพยอมนี่ ผมอยากจะเรียนผ่านไปที่ตัวพระคุณเจ้า พระคุณเจ้าสึกดีกว่า อย่าเป็นพระพยอมเลย เพราะท่านทำให้ศาสนาเสื่อม
สามารถ- มันกฎอย่างนี้คุณสนธิ การที่สงฆ์จะไม่ยึดถืออะไรที่วินัยบัญญัติ พระพุทธเจ้าบอกไว้เหมือนกัน ถ้าสงฆ์จะถอนสิกขาบทเล็กน้อย ให้ทำได้แต่ต้องประชุมสงฆ์ ไม่ใช่คนๆ เดียวตัดสินนะ วันนี้เรื่องปัญหาไม่ใช่สิกขาบทเล็กน้อยนะ เป็นที่มาของสังฆกรรมเยอะแยะเลย ปัญหาทั้งนั้นเลย บวชนาคก็ใช่ ตั้งอะไรในสงฆ์ คณะวินัยธรก็ใช่ ใช่หมดเลย ปัญหาหมดเลย ที่สำคัญการนับถือพรรษานั้นเป็นการลดทิฐิมานะของคนบางคนที่มีมาจากตระกูลสูงแต่เพิ่งบวช ให้ไหว้คนที่อยู่ก่อน ไม่มีสกุลนะ แต่บวชก่อน
สนธิ- แอนสังเกตมั้ย พี่มารถสังเกตมั้ย พระสายอรัญวาสี จะไม่สนใจเรื่องวัตถุเลย ไม่สนใจอุโบสถจะสวย/ไม่สวย ไม่สนใจ ไปดูพระป่า ไม่ว่าจะเป็นวัดป่าบ้านตาด ไม่ว่าจะเป็นป่านานาชาติที่หนองปะกง ของหลวงพ่อชา จะเป็นเรือนไม้ธรรมดา ศาลาเรือนไม้ธรรมดาและข้างล่างโล่ง สำหรับนั่งฉัน แล้วก็ให้ญาติธรรมมาร่วมฟังธรรม
จินดารัตน์- ให้แค่กันฝนกันแดด
สนธิ- กันฝนกันแดด แค่นั้น เมื่อใดก็ตามถ้าเข้าวัดไหน จะมีพู่ร้อย มีรูปหงส์ มีโน่นมีนี่ สวยสดงดงาม ให้รู้เลยว่าวัดนั้นไม่ควรเข้า แล้วมหาเถรสมาคมก็เหมือนกับ ก.ตร. ตั้งเจ้าอาวาส เหมือนกับผู้กำกับโรงพัก พวกตัวเองไปลงบางรัก พื้นที่ดีๆ มีผลประโยชน์หมด ลงพญาไท มีบ่อนเยอะแยะไปหมด เพราะฉะนั้นแล้ว วัดโสธร วัดที่มีผลประโยชน์เยอะมาก ก็กลายเป็นทั้งเจ้าอาวาส ทั้งรองเจ้าอาวาส ก็มาจากสายของมหาเถรสมาคม ใครที่ไปวิ่งเต้นมหาเถรสมาคม หรือว่าทำอะไรที่ทำให้มหาเถรสมาคม หรือพระผู้ใหญ่ที่นั่น เข้าไปใกล้ชิดก็จะถูกแต่งตั้งไปอยู่ที่นั่น
สามารถ- นี่คือวัดที่มีการบริจาคเยอะ แต่ต่อไปจะตามมาด้วยอะไร วัดที่มีที่ดินเยอะๆ จะตามมา
จินดารัตน์- ความเสื่อมมันจึงบังเกิด
สนธิ- เพราะว่าเจ้าอาวาสสามารถเอาที่ดินไปทำธุรกิจได้
สามารถ- ที่จริง โดยข้อเท็จจริงแล้วเจ้าอาวาสไม่มีอำนาจเลยนะ ในการทำที่ธรณีสงฆ์ หรือที่ของสงฆ์ ไปทำอะไร
สนธิ- ตามหลักพระธรรมวินัย
สามารถ- ไม่มี เพราะต้องประชุมสงฆ์ นี่หนึ่ง สองถ้าในแง่กฎหมาย การเอาที่ดินไปทำอะไร ที่ดินที่เป็นของสงฆ์นะ จะต้องออกเป็น พ.ร.บ.นะ ไม่ใช่ พ.ร.ก. ต้องออกเป็น พ.ร.บ.เวนคืน นำไปเพื่อใช้สาธารณประโยชน์อย่างเดียวนะ ขายไม่ได้
สนธิ- คือสรุปวันนี้พระสงฆ์ไทยเริ่ม ... ไม่ใช่เริ่ม ถลำลึกเข้าไปสู่อามิสบูชามาก แล้วที่น่าเสียดายว่า แต่ก่อนอามิสบูชาจะเน้นหนักที่คามวาสี คือพระที่อยู่ในเมือง แต่วันนี้เริ่มขยายตัวไปสู่อรัญวาสี พระที่อยู่ต่างจังหวัดแล้ว มากขึ้นๆ เพราะฉะนั้นแล้ว เดี๋ยวนี้ถึงบอกว่าจะหาพระดีๆ ไหว้สักองค์ กราบสักองค์ หายากมาก ถึงบอกว่าที่แอนพูดว่าจะรู้ได้ยังไง พี่มารถก็บอกว่ามันเป็นเรื่องปัจจัตตัง รู้ด้วยตัวเอง พระอริยสงฆ์ พระอริยสงฆ์เหมือนกับ...ผมอยากให้เอาภาพของสมเด็จญาณ กับหลวงตาบัว เอาขึ้นให้ดู อย่างนี้ปัจจัตตังทั้งคู่ ไม่พูด แต่รู้กัน และอีกรูปหนึ่ง ที่เป็นรูปหลวงตาบัวไปเยี่ยมสมเด็จญาณ ไม่พูดเลย แค่จับมือและมองตากัน จิตถึงกัน นี่คืออริยสงฆ์ที่แท้จริง
สามารถ- คือวันนี้นะ เราไปเน้นตรงวัตถุ แล้วก็มองข้ามคุณธรรมข้อที่ว่าไปหมด ไปมองว่าวัตรปฏิบัติมาทีหลัง แต่ว่าวัตถุมาก่อน โบสถ์ใหญ่ๆ ศาลาการเปรียญใหญ่ๆ คนขึ้นเยอะๆ เป็นตัวชี้วัด มันผิดนะ
สนธิ- ผิดหมด
สามารถ- ผิดหมด แต่ถ้าเป็นพระป่า ถามว่าวัดคืออะไร แค่เป็นที่อยู่ของสงฆ์เพื่อปลีกวิเวก มีต้นไม้เยอะๆ อันที่ 2 โบสถ์ในแง่ของพระป่าก็แค่วิสุงคามสีมา และบวชพระได้ก็พอแล้ว ไม่ต้องมี...
สนธิ- ข้างล่างว่าง ให้ญาติธรรมมานั่งฟังธรรม แอน ผมไปบวชวันนั้นแอนไปใช่มั้ย ผมเข้าไปอยู่กุฏิในป่าเลยนะ อยู่กุฏิเดียว ไม่มีไฟฟ้า มีเทียนไข มอบเทียนไขมาให้ ตื่นตี 4 ขึ้นมาเพื่อปฏิบัติธรรม ทำวัตรเช้าด้วยตัวเอง เสร็จแล้วพอ 6 โมงเช้า เกือบ 7 โมง ค่อยห่มจีวร เดินออกมาเท้าเปล่ามาบิณฑบาต พอบิณฑบาตเสร็จ ญาติโยมก็เต็มเลยหน้าวัดป่าบ้านตาด พอบิณฑบาตเสร็จก็เดินเข้ามา เอาบาตรมาวาง ผมอายุขนาดนั้นแล้ว ผมนั่งต่อท้ายสุด เพราะอะไร เพราะผมเป็นพระบวชใหม่ นี่ไง เขานับพรรษาไง มีพระซึ่งหนุ่มกว่าผมเยอะเลย นั่งข้างหน้าผม ผมต้องกราบท่าน พอฉันเสร็จเรียบร้อย ผมก็เห็นญาติโยมนั่งกันเต็มไปหมดเลย พอพระเริ่มฉัน ฉันเสร็จเรียบร้อยก็เอาบาตรไปล้าง หลวงตาท่านก็ขยับตัว ท่านก็เริ่มเทศน์ ท่านเริ่มสนทนาธรรมกับญาติโยม พอสนทนาจบเรียบร้อย ท่านสอนธรรม คนนั้นถามท่าน ท่านตอบ ตอบเสร็จเรียบร้อยท่านก็ลุก แล้วท่านก็เดินจากข้างล่างเข้ากุฏิท่านเลย ข้างในเลย เขตสงฆ์ หลังจากนั้นอีกไม่เกินชั่วโมง ชาวบ้านก็ออกจากวัดหมด ออกเลยนะ ออกไปเลย เสร็จเรียบร้อยประตูวัดก็ปิด เงียบ สนิท มีแต่พระอยู่ แล้วมาก็มากวาดลานกัน ทำความสะอาดกัน ทำงานกัน
สามารถ- ทำไมถึงต้องเป็นอย่างนั้น เพราะว่าคนที่จะปฏิบัติให้บรรลุผล อันแรกเลย เรียกเสนาสนะ ก็คือที่อยู่ต้องสงัด วิเวก ปราศจากการคลุกคลีของหมู่คณะ ก็คือผู้ปฏิบัติต้องไม่คลุกคลีกับหมู่คณะ ไม่ใช่คนโน้นไป คนนี้มา จนกระทั่งไม่ทำกิจสงฆ์ ไม่ได้ อย่างที่คามวาสีเป็นอยู่ ไม่ใช่ นี่ล่ะคือปัญหา เพราะฉะนั้นพระป่าต้องการมี เขาเรียกว่าเสนาสนะสัปปายะ คือที่อยู่ในสงัด สงบ เอื้อต่อการปฏิบัติธรรม แต่ของวัดประเภทเช้าก็คน เย็นก็คน นี่ไม่ใช่ ปฏิบัติธรรมไม่ได้หรอก
สนธิ- ไม่ได้ ไม่มีทาง
จินดารัตน์- ตกลงวันนี้คำถามที่มีคนถาม อ.สามารถ อ.สามารถคิดว่าอย่างไร ถึงคราวเสื่อมที่สุดแล้วหรือยัง
สามารถ- ถามว่าคำสอนเสื่อมไหม สมัยก่อนเสื่อมจริง ถ้าสมมุติเมื่อก่อนนี้ไม่มีการจารึกคำสอนนะ ถ้าคำสอนอันตรธาน คือไม่มีคนสืบต่อ หายจริงนะ แต่วันนี้มันอาจจะเหลือในหนังสือหรือซีดี แต่ไม่มีผู้ปฏิบัติ
สนธิ- ผมเห็นด้วยกับพี่มารถ แต่ผมอยากจะพูดฝากก่อนที่จะจบเบรคนี้นิดหนึ่งว่า ผมไม่เข้าใจญาติพี่น้องของพระพายัพ ถ้าพระพายัพตั้งใจจะบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลที่ตัวเองทำบุญให้กับญาติพี่น้อง ให้กับพ่อแม่ หรือให้กับพี่ชายตัวเองซึ่งเร่ร่อนอยู่ ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นจิตที่ต้องการบริสุทธิ์ ที่ต้องการธรรม แต่ทำไมแค่บวชอย่างเดียวก็น่าจะจบแล้วนะ
สามารถ- คุณสนธิพูดเข้าประเด็น วัตถุประสงค์ในการบวชคืออะไร
สนธิ- เออ มันน่าจะจบแล้วนะ ใช่มั้ยพี่มารถ
สามารถ- ใช่ คนบวชนี่นะ ต่างกับบวดกล้วย บวดมันนะ 1. เปลี่ยนเพศภาวะ จากคฤหัสถ์มาเป็นพระ นุ่งเหลืองห่มเหลือง โกนคิ้ว โกนหนวด โกนผม โอเค นี่บวชร่างกายนะ จิตใจต้องบวชด้วย คือสงัด สงบ จากกิเลส
สนธิ- ถูกต้อง
สามารถ- แต่วันนี้ถ้าบวชกายไม่บวชใจ แปลว่าอะไร แปลว่าไม่ได้บวชนะ
สนธิ- คือผมเชื่อว่า ... เอาล่ะ สมมุติว่ามองในแง่ดีว่า ถ้าสมมุติว่าพระพายัพเป็นคนไม่ต้องการตำแหน่งนี้
สามารถ- ก็ปฏิเสธได้นี่
สนธิ- ปฏิเสธ ก็น่าจะคุยกับพระมหาเถระ หรือว่าท่านสมเด็จมหาธีรญาณมุนี บอกพระคุณเจ้า กระผมขอไม่รับได้มั้ย เพราะกระผมเข้ามาบวชเพื่อตั้งใจจะปฏิบัติธรรม ผมไม่ต้องการอะไร และผมก็ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง เนื่องจากผมเพิ่งบวช ผมท่องได้เฉพาะนะโมตัสสะ เท่านั้นเอง มากกว่านั้นผมยังท่องไม่ได้
สามารถ- แล้วตลกดี ใครพูดผมจำไม่ได้ บอกว่าตำแหน่งนี้มันเหมือนให้ดุษฎีบัณฑิต ก็คือปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ มันใช่ที่ไหนเล่า!!
สนธิ- ก็นี่ไงล่ะ เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าพระพายัพไม่รู้จักปฏิเสธตรงนี้ ก็แสดงว่าเจตนาการบวชพระพายัพไม่ใช่เจตนาที่ต้องการจะรักษาพรหมจรรย์ในฐานะที่จะเป็นพระภิกษุ
สามารถ- คือ 20 วันของการบวชนี่นะ สิ่งที่พระได้บวชทั้งกายทั้งใจ คือ 1. เปลี่ยนเพศภาวะจากคฤหัสถ์เป็นพระ 2. จิตใจที่เคยฟุ้งซ่าน สงบลง โกรธน้อยลง รักน้อยลง หลงน้อยลง ก็โอเค
สนธิ- ถูกต้อง และที่น่าเกลียดที่สุด รู้สึกจะเป็นใครไม่รู้ อาจจะเป็นพระพยอมก็ได้ เขาว่า โอ๊ย อีกไม่นานก็สึกแล้ว ถ้าอย่างนั้นเอาตำแหน่งไปทำไม หรือว่ามันเป็นอะไรกับพวกชินวัตร ที่จะเข้าวงการไหนต้องใหญ่หมด
สามารถ- ทำให้เขามองอย่างนั้นจริงๆ นะ
สนธิ- ทำให้เขามองอย่างนั้นจริงๆ แม้กระทั่งวงการสงฆ์ ฝืนพระธรรมวินัยก็จะทำ แล้วก็ที่น่าอับอายขายหน้ามาก พระมหาเถระก็ยอมที่จะทำผิดพระธรรมวินัย
สามารถ- คือถ้าเรามองว่าวินัยโดยตรง ที่ห้ามการตั้งฐานานุกรม มันไม่มีหรอก เพราะยุคนั้นไม่มีฐานานุกรม คนที่จะแต่งตั้งใครเป็นอะไรได้ พระพุทธเจ้าองค์เดียวแต่งตั้ง อันที่ 2 ถ้าแต่งตั้งเพื่อปฏิบัติภารกิจของสงฆ์ ประชุมสงฆ์แล้วแต่งตั้ง ไม่ใช่สงฆ์คนเดียวนะ เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าไม่เคยให้ปัจเจกตั้งใครเลยสักคนเดียว
จินดารัตน์- พระฐานานุกรมก็แปลกเลย ไม่ใช่ในพระธรรมวินัย
สนธิ- ด้วยเหตุนี้รู้สึกจะผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาหรืออธิบดีกรมศาสนาอธิบายว่า สมเด็จพระมหาธีรญาณมุนี ท่านมีสิทธิ์ตั้งตามกฎหมาย แต่โดยพระธรรมวินัยแล้ว โดยประเพณีปฏิบัติในพระไตรปิฎก ต้องรู้ว่าการที่อยู่ๆท่านไปตั้งแบบนี้เท่ากับท่านทำตัวเป็นพระพุทธเจ้า
สามารถ- ไม่เคยมีตำแหน่งไหนที่สงฆ์แต่งตั้ง
สนธิ- เท่ากับท่านไปทำตัวเป็นพระพุทธเจ้าไปเลย
จินดารัตน์- คนที่บอกเป็นสิทธิ์และเป็นอำนาจของสมเด็จพระมหาธีรญาณมุนี ก็คือนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล
สามารถ- การแต่งตั้งบุคคลเดียวให้ดำรงตำแหน่งเอตทัคคะ คือพระพุทธเจ้าคนเดียวทำ ส่วนตำแหน่งอื่นที่แต่งตั้งเพื่อปฏิบัติภารกิจของสงฆ์ สงฆ์ตั้งไม่ใช่ปัจเจกตั้ง ปัจเจกตั้งไม่เคยมี แต่บังเอิญกฎหมายมันเกิดทีหลัง เลยอนุญาตให้ปัจเจกตั้ง แต่ถามว่ามันต้องพ้นโลกพระวินัยนะ ดูพระวินัยว่าทำได้ไหม แม้แต่แต่งตั้งการปลดปล่อยให้พระไปไหนโดยไม่มีพระพี่เลี้ยงใน 5 พรรษาขึ้นไป เพราะฉะนั้นมาตรฐาน 10 วันรู้อะไรล่ะ
สนธิ- นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ชื่อเดิม นิวัฒน์ บุญทรง ก็พยายามจะเอาใจพวกชินวัตรหมดทุกเรื่อง หาความชอบธรรมอธิบายเหตุผลไปหมด ตั้งแต่จำได้ไหม เรื่องงานเฉลิมพระชนมพรรษา เรื่องการห้ามจุดพลุ ก็มาจากคนๆนี้ เพราะฉะนั้นแล้ว การเมืองต้องการจะทำลายสถาบันกษัตริย์ให้อ่อนแอ แล้วก็มาแทรกแซงศาสนจักร เพื่อให้ศาสนจักรอยู่ในมือตัวเอง ก็เท่ากับว่าสถาบันกษัตริย์อ่อนแอ ศาสนจักรอ่อนแอ ตัวเองจะได้ยึดชาติได้ไง
สามารถ- การทำลายศาสนาด้วยการมองว่าพระยึดติดในกิเลศ ก็คือการทำลาย ย้อนไป พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์ ซึ่งเป็นอธิบดีกรมการศาสนาในยุคสฤษดิ์ ท่านเขียนหนังสือไว้เล่มหนึ่ง เรื่องอาณาจักรกอไผ่ ต้นไผ่ประชุมกันว่า อะไรเป็นอันตรายของกอไผ่ ไอ้ไผ่หนุ่มๆก็บอกว่า น้ำบ้าง ไฟบ้าง ลมบ้าง ไอ้ไผ่แก่บอกว่าไม่ใช่ ไผ่ที่เป็นศัตรูก็คือต้นไผ่ ก็คือใบไผ่ที่ไปทำด้ามไผ่ ตัดต้นไผ่ นี่เหมือนกัน คนที่ทำลายศาสนาก็คือพระด้วยกันเอง ฉะนั้นทักษิณใช้พระทำลายพระ ถูกแล้ว ทฤษฎีนี้
จินดารัตน์- คือวันนี้ก็บอกว่า ไปอยู่วงการไหนเราก็หนีตระกูลชินวัตรไม่พ้น วันนี้ต้องขอบคุณ อ.สามารถมาก มีโอกาสคงได้เชิญ อ.สามารถ มา
สนธิ- ผมกะจะนิมนต์ อ.สามารถ มาสักเดือนละครั้งมาสนทนาธรรมกัน ผมเชื่อว่าท่านผู้ชมรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิจะสนุกสนาน แต่พี่มารถทวนอีกนิดได้ไหม โจรที่มาในรูปแบบพระมี 5 ข้ออะไรบ้าง
สามารถ- ข้อที่ 1 มหาโจรพวก 1 คิดรวบรวมตั้งพวกตั้งร้อยตั้งพันเพื่อเข้าไปฆ่า ปล้น เอาไฟเผาคามนิคมชาติธานี ต่อมาก็รวบรวมพวกตั้งร้อยตั้งพันเข้าไปฆ่า ปล้น เอาไฟเผาคามนิคมชาติธานี เทียบด้วยภิกษุบางรูป คิดรวบรวมพวกตั้งร้อยตั้งพันปล้น เอาไฟเผาคามนิคมชาติธานี ให้คฤหัสถ์และบรรพชิตสักการะเคารพนับถือบูชาอ่อนน้อมและได้จีวร บาตร ที่อยู่อาศัย ตลอดยารักษาโรค ต่อมาก็รวบรวมพวกเป็นร้อยเป็นพันมาเพื่อจะปล้นเอาสิ่งเหล่านี้อีก
สนธิ- ก็เท่ากับว่าภิกษุใดก็ตามถ้าตั้งแก๊ง ตั้งลัทธิขึ้นมา แล้วรวมพวกไปเพื่อหลอกลวงให้ประชาชนให้ชาวบ้านศรัทธา พวกนี้ก็เปรียบได้กับเป็นโจร
สามารถ- พวกที่สอง ภิกษุชั่วบางรูป เรียนพระธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้วก็โกงเป็นของตัวเองแสดงว่าคิดเองได้เอง ไม่ได้เรียน หรือไม่ได้ศึกษาจากใคร นี่เป็นมหาโจรพวกที่ 2
สนธิ- มหาโจรพวกที่ 2 คือพวกที่มองว่นิพพานคืออัตตา คิดเองทำเอง ว่านิพพานเป็นอัตตา
สามารถ- และบอกว่าพระพุทธเจ้าสอน
สนธิ- 2 ข้อนี่อยู่ในธรรมกาย
สามารถ- มาข้อที่ 3 ภิกษุชั่วบางรูปใส่ความเพื่อนพรหมจารีย์ผู้บริสุทธิ์ ผู้ประพฤติพรหมจรรย์บริสุทธิ์ด้วยข้อหาว่า ประพฤติผิดพรหมจรรย์อันไม่มีมูล อันนี้เป็นพวกที่ 3 พวกใส่ร้าย ยุคก่อนมี ยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัช มี ไปกล่าวหาวัดราชา วัดมหาธาตุ
ต่อมาข้อที่ 4 ภิกษุชั่วบางรูปเอาของสงฆ์ที่เป็นครุภัณฑ์ของหนักๆขายไม่ได้ ครุบริขาร ที่ห้ามแจกห้ามแบ่ง เช่น ที่ตั้งอาราม วิหาร เตียง ตั่ง เป็นต้น
สนธิ- ก็คือเอาที่ดินวัด เอาไปให้คฤหัสถ์ เซ้ง เช่า เอาไปทำตึกแถว
สามารถ- ประจบคฤหัสถ์เพราะเห็นแก่ลาภ
สนธิ- ไปตั้งเป็นพระครูปลัดทั้งที่เพิ่งบวชได้แค่ 10 วัน ถ้าพูดภาษาชาวบ้านคือ สอพลอ นี่คือมหาโจรประเภทที่ 4
สามารถ- ประเภทที่ 5 ภิกษุผู้โอ้อวดคุณพิเศษ ที่ไม่มีจริง เชื่อว่าเป็นยอดมหาโจรในโลก เพราะบริโภคก้อนข้าวของราษฎรด้วยอาการแห่งขโมย อันนี้หนักที่สุด ไม่มีตัวเองไม่รู้อะไรสักอย่าง บอกรู้ บอกเห็น เพื่อสร้างศรัทธาให้คนมาศรัทธา อันนี้ถือว่าเป็นยอดมหาโจร มีเยอะมากพระสมัยนี้ มีอยู่ในพระไตรปิฎกในส่วนของพระวินัย เล่มที่ 1 ชื่อเรื่องมหาวิภังค์ คือ วินัยของพระ อันนี้เป็นภิกขุวิภังค์ เล่มที่ 1 ว่าด้วยปาราชิกข้อที่ 4
สนธิ- เรื่องมันก็เลยเป็นดังฉะนี้เอง
สามารถ- ดังนั้นมหาโจร 5 ประเภท เกลื่อนเมืองไทยเลย
สนธิ- เราเพิ่งเห็นประเภท 3 ประเภท 4 ประเภท 1 ประเภท 2 เราเห็นอยู่ตลอด อยู่แถวปทุมธานี
สามารถ- แล้วยังมีอะไรหลายๆอย่าง วันต่อไปผมจะมาให้ดูว่าไอ้สังฆาทิเสส ข้อ 13 มันยิ่งกว่านี้ วันหลังมีเวลาจะเอามาให้ดู ว่าอันไหนเรียกสอพลอ
จินดารัตน์- ขอบคุณ อ.สามารถ นะคะ
สนธิ- เดี๋ยวเดือนหนึ่งจะนิมนต์ อ.สามารถ มาครั้งหนึ่ง
จินดารัตน์- เเต่เมื่อสักครู่แอบกระซิบถามอาจารย์ว่าบวชมากี่พรรษาแล้ว 10 กว่าพรรษา
สนธิ- พี่มารถได้เปรียญ 6 ประโยค บวชมา 10 กว่าพรรษา เรียบจบปรัชญาจากอินเดีย เพราะฉะนั้นพี่มารถจะทะลุในเรื่องฮินดู พราหมณ์ และพระพุทธศาสนาที่อยู่ในอินเดีย ตลอดจนการที่บวชในประเทศไทย แล้วศึกษาพระธรรมคำสั่งสอน ศึกษาพระพุทธศาสนามา ได้ถึงเปรียญ 6 ประโยค
สามารถ- คือวันนี้ถ้าถามผมว่า อะไรที่ผมเป็นห่วงที่สุดคืออะไรรู้ไหม คือการที่ฆราวาสไปแทรกแซงพระ แล้วก็เอาพระเป็นเครื่องมือมาเป็นพวกตัวเอง
จินดารัตน์- งั้นเดี๋ยวได้ชมตอนต่อไปนะคะ เดี๋ยวเราพักกันก่อน ช่วงหน้ากลับมา เป็นเรื่องเศรษฐกิจกันบ้างนะคะ คงจะเป็นปัญหาเรื่อง กนง.เรื่องธนาคารแห่งประเทศไทย อัตราดอกเบี้ย และที่สำคัญช่วงท้ายเบรก แอนอาจจะต้องถามคุณสนธิ คนถามเข้ามาเยอะ เรื่องทองคำ สักครู่ค่ะ
ช่วงที่ 2
จินดารัตน์- กลับมาช่วงที่ 2 คุยทุกเรื่องกับสนธิค่ะ เรื่องเศรษฐกิจก็ต้องยกให้คนๆ นี้นะคะ คุณนงวดี ถนิมมาลย์ สวัสดีค่ะ
นงวดี- สวัสดีค่ะ
จินดารัตน์- ก่อนที่จะไปคุยเรื่องเศรษฐกิจ ต้องเอาเจ้าแม่ทางด้านเศรษฐกิจของเอเอสทีวีมา
นงวดี- โอ๊ย ไม่ขนาดนั้น พี่แอน อย่า
จินดารัตน์- ก็ต้องไปคุยเรื่องสุขภาพก่อน เพราะมีข่าวดีนะคะคุณสนธิ ข่าวดีว่าเครื่องทำน้ำด่างเรามาแล้วค่ะ เราจะเปิดให้ผ่อนกันแล้ว
นงวดี- หลายๆ คนถามมาค่ะพี่แอน
จินดารัตน์- ก็คือจะแจ้งว่าจะมีธนาคารไหนบ้างที่จะให้ผ่อนชำระได้ เป็น 6 เดือน กับ 10 เดือน ก็จะมีกสิกรไทย
สนธิ- ใช้บัตรเครดิตใช่มั้ย
นงวดี- บัตรเครดิตค่ะ
จินดารัตน์- กรุงเทพ กรุงไทย และกรุงศรีฯ รวมไปถึงเฟิร์สช้อยส์ด้วย
สนธิ- คือถ้าไม่มีบัตรก็ไม่ได้ใช่มั้ย
นงวดี- ไม่ได้คุณสนธิ ต้องมีบัตรเครดิตของธนาคารเหล่านี้ก่อน แต่ว่าเดือนที่จะผ่อนชำระ ก็จะตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 เดือน ก็เลือกไป ระดับอัตราดอกเบี้ยก็จะแล้วแต่ธนาคาร ก็ส่วนมากก็ประมาณสัก 0.8 เปอร์เซ็นต์ ที่สูงหน่อยก็จะเป็นเฟิร์สช้อยส์ อันนี้ทุกคนทราบอยู่แล้ว 1.3 เปอร์เซ็นต์
จินดารัตน์- อัตราดอกเบี้ยต่อเดือนในราคา 35,000 บาท อย่างกสิกรไทยดอกเบี้ยก็จะตกอยู่ที่เดือนละ 280 บาท เท่ากับธนาคารกรุงเทพ ส่วนกรุงไทย กับกรุงศรีฯ ก็จะแพงขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง คือ 311.50 บาท
สนธิ- ผมกลัวว่าถ้าเปิดให้ผ่อนแล้ว ตอนนี้เครื่องทยอยมาเร็วมากแล้ว แต่ว่าถ้ามีการผ่อน จำนวนคนสั่งจะเยอะมาก ผมกลัวคิวมันจะยาว นี่ผมไม่ได้ขู่นะ เพราะฉะนั้นผมคิดว่าถ้าใครมีเงินสดอยากซื้อก่อน ตอนนี้อย่ารอเลยตอนนี้ ผมยืนยันได้ว่าที่เริ่มสั่งตั้งแต่เดือน 11-12 เริ่มทยอยส่งไปให้แล้ว ของเริ่มมาแล้ว เพราะฉะนั้นมันจะเร็วขึ้น เพราะธรรมดาเดือน 11 เดือน 12 กว่าจะส่งของได้เดือนเมษาฯ แต่ตอนนี้มีนาฯ ปลายกุมภาฯ ก็เริ่มส่งได้แล้ว เพราะฉะนั้นจะเร็ว ผมไม่อยากให้รายการคนที่สั่งเพิ่มเติมจากการผ่อนจะเข้ามาแล้วต่อคิว พอต่อคิวแล้วคนจะซื้อเงินสดที่คิดรีรออยู่ ก็ต้องต่อคิวอีก เพราะฉะนั้นในขณะซึ่งก่อนที่จะเริ่มผ่อน 1 มีนาฯ ถ้าท่านผู้ใดต้องการจะซื้อเงินสด เอาเงินสดมาวางได้ทันทีเลย เพื่อจะได้คิวตอนต้นไปเลย เพราะมีจากวันนี้จนถึงสิ้นเดือนเท่านั้นเอง แล้วจะเริ่มผ่อน 1 มีนาฯ
นงวดี- 1 มีนาฯ เริ่มด้วยแบบผ่อน
จินดารัตน์- ใครมีบัตรเครดิตธนาคารเหล่านี้ก็เตรียมได้ ก็จะมีแบบ 6 เดือน กับ 10 เดือนให้เลือก
นงวดี- ทีนี้ก็เรื่องพระค่ะพี่แอน
จินดารัตน์- เรื่องพระพุทธพิทักษ์ไทยทศทิศ เราจะปิดจองวันที่ 20 มีนาคม เพราะจะมีพิธีพุทธาภิเษกในวันที่ 30 มีนาคม
สนธิ- ที่วัดบวรฯ ในอุโบสถเก่า
จินดารัตน์- ซึ่งฐานจะมีพระนามของสมเด็จพระสังฆราชด้วย ได้ทั้งพระและทั้งฐานไป ก็อย่างที่เคยคุยกันนะคะว่าพระนี้มีคุณค่าทางจิตใจสำหรับพวกเรามาก
สนธิ- คือหมดแล้วนะครับ วันที่ 20 มีนาฯ เท่าไรเท่านั้น ผมคิดว่าเราไม่ได้สั่งทำไว้เยอะ เราสั่งเพิ่มมากจากที่มีจองไม่กี่ร้อยองค์เอง แต่ถ้าใครสั่งจองเข้ามา เราจะสั่งเพิ่มได้ทัน แต่ถ้าเริ่มเข้าวันที่ 20 มีนาฯ หรือวันสุดท้ายแล้ว ถ้าเกิดตัดสินใจวินาทีสุดท้ายจะไม่มีพระให้ เพราะไม่ทำเพิ่มแล้วครับ ทั้งองค์ 5 นิ้ว และ 9 นิ้ว พระศักดิ์สิทธิ์หมด เพราะเริ่มด้วยจิตที่บริสุทธิ์ และพระพุทธพิทักษ์ไทยทศทิศ ซึ่งเป็นองค์ใหญ่ เอาไปตั้งไว้ที่ตามพรมแดนไทย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงมาอยู่ด้วย
จินดารัตน์- แล้ววันอาทิตย์ที่จะถึงนี้นะคะ รายการก่อนจะถึงจันทร์ จะเชิญมาหมดเลยค่ะผู้ที่เกี่ยวข้อง อ.ชัยพันธุ์ ซึ่งเป็นพ่องาน จะเอาอาจารย์ที่ช่วยกันปั้นพระหลังเวทีที่มัฆวานฯ มาคุยกัน แล้วก็จะพูดถึงพิธีพุทธาภิเษก ว่าจะยิ่งใหญ่ ศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหนด้วย ติดตามชมในรายการก่อนจะถึงจันทร์
นงวดี- ถึงวันสุดท้ายแค่วันที่ 20 มีนาคม
สนธิ- 20 มีนาฯ รีบๆ จองเข้ามาก่อนแล้วกันนะครับ จะได้มีองค์ที่ชัดเจนว่าทั้งหมดกี่องค์
นงวดี- ทีนี้ก็แวะมาที่เรื่องเศรษฐกิจนะคะ ก็รู้สึกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาประเด็นเศรษฐกิจรู้สึกว่าจะฮอตๆ ร้อนๆ ทั้งนั้นเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของความขัดแย้ง เกี่ยวกับเรื่องนโยบายการเงิน หรือดอกเบี้ย ระหว่างฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายการเมือง กับทางฝั่งธนาคารแห่งประเทศไทย ถึงกระทั่งว่าจะต้องมีการรับลูกกันเป็นทอดๆ เลยทีเดียว ตั้งแต่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ คือคุณกิตติรัตน์ ทำจดหมายส่งมายังคุณโกร่ง ซึ่งเป็นประธานบอร์ดของแบงก์ชาติ เพื่อที่จะส่งต่อไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย โดยผู้ว่าฯ ประสาร ไตรรัตน์วรกุล แต่ท้ายที่สุดผลการประชุม กนง.ก็ออกมา ก็คือแบงก์ชาติยังสามารถแข็งไว้ได้ด้วยมติคงดอกเบี้ยที่ 6 ต่อ 1 เสียง เรื่องนี้มันสะท้อนอะไรหลายๆ อย่าง เกี่ยวกับเรื่องของเศรษฐกิจและการเงินในประเทศไทย
สนธิ- เรื่องนี้จะมองมิติเดียวไม่ได้เลย ถ้าเรื่องนี้มองต้องเข้าใจจุดยืนของแต่ละฝ่าย คุณกิตติรัตน์ กับ ดร.โกร่ง เป็นนักการเมืองพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยต้องการให้มีคนจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ยิ่งจับจ่ายใช้สอยมากเท่าไร เขาก็จะมองว่าเศรษฐกิจมันบูมมากเท่านั้น เพราะฉะนั้นการจับจ่ายใช้สอยในสายตาของเขา ก็คือว่าทำยังไงให้ดอกเบี้ยมันลงอีก เพราะเขามองว่าถ้าดอกเบี้ยมันลงปั๊บ การกู้ยืมจะเพิ่มขึ้น เมื่อการกู้ยืมเพิ่มขึ้น การจับจ่ายใช้สอยก็มากขึ้น มีคนซื้อบ้านมากขึ้น พรรคเพื่อไทยมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับอุตสาหกรรมการสร้างบ้าน การขายบ้าน พวกอสังหาริมทรัพย์สูง ไม่ว่าจะเป็น ว.5 ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ของคุณเศรษฐา ทวีสิน ตอนนั้น หรือเครือแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ซึ่งเป็นเครือซึ่งสนิทสนมกับพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว หลายๆ คนซึ่งทำอสังหาริมทรัพย์ ก็พอใจถ้าดอกเบี้ยมันลง เพราะถ้าดอกเบี้ยมันลงก็แสดงว่าแบงก์จะได้ปล่อยกู้มากขึ้น เสร็จแล้วคนก็จะไปซื้อบ้านมากขึ้น คนก็จะสร้างบ้านมากขึ้น อสังหาริมทรัพย์นี่โดยอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ ในการที่จะทำให้เศรษฐกิจเจริญเติบโต ทีนี้การว่าเศรษฐกิจเจริญเติบโตมันก็มีข้อเสีย ข้อเสียตรงที่ว่ามันโตมากจนเกินไป จนเกิดภาวะฟองสบู่หรือเปล่า อันนี้ก็คือความเป็นห่วงของคนซึ่งดูแลเรื่องการเงิน คือบทบาทหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย
ทีนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยก็มองว่า อสังหาริมทรัพย์ตอนนี้มันโตเร็วมาก โตเร็วจนน่ากลัว เพราะฉะนั้นแล้วการคงดอกเบี้ยเอาไว้ขณะนี้เขาถือว่ายังใช้ได้อยู่ ยังดีอยู่ ถ้าจะให้ลดลงกว่านี้ สิ่งที่เขากลัวก็คือว่า เขากลัวว่าฟองสบู่มันจะเกิดขึ้น แล้วมันจะย้อนกลับไปก่อนปี 2540 เหมือนกัน ถึงแม้ว่าในขณะนี้ยังไม่เกิดเหตุนี้ขึ้นมาจริง แต่ว่ามันมีทิศทาง มันมีสัญญาณอะไรบางอย่างที่บอก
ทางการเมืองถ้าถามในทางลึกแล้ว ทางการเมืองอยากจะคุมแบงก์ชาติหมดเลย ก็คือว่าถ้าปลดประสารได้ก็จะปลด แล้วเอาคนของตัวเองไปนั่ง เหตุผลก็เพราะว่าต้องการจะล้วงลูกเข้าไปในธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อดึงเงินสำรองออกมาใช้ เนื่องจากว่าตัวเองนั้นใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ใช้นโยบายประชานิยมลด แลก แจก แถมไปหมด จำนำข้าวอันโน้นอันนี้ จำนำข้าวจนกระทั่งธนาคาร ธ.ก.ส.จะเจ๊งอยู่แล้ว นะครับเหลือเงินหมุนเวียนอยู่แค่ 20,000 ล้าน แต่จะต้องรัฐบาลให้ ธ.ก.ส.ไปจำนำข้าวเพิ่มอีก 1.5 แสนล้าน ธ.ก.ส.บอกว่าไม่มีตังค์ เอสเอ็มอีแบงก์ก็เจ๊ง ไอแบงก์ก็เจ๊ง เพราะฉะนั้นแล้วคนพวกนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร หาเงินไม่ได้แต่ว่าใจอยากจะขยับในเรื่องการลงทุน เพราะการลงทุนในสายตานักการเมืองข้อที่ 1.มันจะก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนสะพัดมากขึ้น
ข้อที่ 2.สำคัญที่สุด เมื่อมีโครงการแล้ว นักการเมืองจะกำไรจากคอมมิชชั่นจะคอร์รัปชั่นได้ร้อยนึง ล้านนึงก็คอร์รัปชั่นไปสัก 20-30 เปอร์เซ็นต์คือ 3-4 แสน สิบล้านเท่าไหร่ ร้อยล้านเท่าไหร่ หมื่นล้านเท่าไหร่ แสนล้านเท่าไหร่ ล้านล้านเท่าไหร่ คืออันนี้มันคล้ายๆ ว่าต้องการกลืนชาติกันไปเลยงานนี้ แบงก์ชาติทำได้อย่างเดียวคือ ให้สถานะการเงินไม่พังทลายลงไป ทีนี้การที่จะปลดประสารได้ ก็หมายความว่า ถ้าประสารยอมทำตาม เหตุผลของการเก็บประสารก็ยังมี นั้นคือถ้าประสารยอมลดดอกเบี้ยลงไป นั้นคือที่มาของจดหมายเป็นครั้งแรกเลยนะ ธรรมดาจะไม่มี คือธรรมดาแล้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกับผู้ว่าแบงก์ชาติ เขาจะยกหูโทรศัพท์คุยกัน หรือเขาจะกินข้าวกันตัวๆ แล้วเขาจะบอกว่า ผู้ว่าแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยได้ไหม ผู้ว่าฯ จะบอก ผมว่าอย่าเพิ่งเลยตอนนี้ เอานะลดสักหน่อยดีไหม คือเขาจะต่อรองกันบนโต๊ะกินข้าว ไม่ได้ทำจดหมายกันเป็นทางการ เสร็จแล้วพอ กนง.มีมติบอกว่า ไม่ลด พอไม่ลดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ประสารเองในฐานะผู้ว่าแบงก์ชาติ ก็ต้องการที่จะอธิบายความ แล้วต้องการที่จะคุยกับรัฐมนตรีคลังว่า ดอกเบี้ยไม่ลดแต่มีอะไรที่แบงก์ชาติจะช่วยรัฐบาลได้บ้าง กิตติรัตน์ปฏิเสธที่จะขอพบ แสดงออกชัดเจนว่า ไม่พอใจ
แต่จริงๆ แล้วกรณีแบงก์ชาติกับกระทรวงการคลัง การลดดอกเบี้ย หรือการไม่ลดดอกเบี้ยมันมีเบื้องหลังเยอะมาก นงจำเอาไว้อย่างนะ ในเมืองไทย human factor เป็นเรื่องสำคัญมาก ความสำคัญส่วนบุคคล ประวัติแต่ละคนเป็นไปมาอย่างไรมันมีส่วนเกี่ยวข้องหมดเลย ข้อแรกกิตติรัตน์ก่อนที่จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อดีตเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ใครเป็นคนคุมตลาดหลักทรัพย์ตอนนั้น
นงวดี- ก.ล.ต.ค่ะ
สนธิ- ใครละ
นงวดี- วิจิตร สุพินิจเปล่าคะ
สนธิ- ประสาร เข้าใจไหม ทีนี้ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ท่านเป็นอดีตเลขา ก.ล.ต.ถึงจะเป็นรองเลขา ก.ล.ต. แต่ท่านเป็นเลขา ก.ล.ต. ก.ล.ต.คือพี่ใหญ่ของตลาดหลักทรัพย์ เหมือนกับคนที่ชี้
นงวดี- กำกับดูแล
สนธิ- คุณดูทำอย่างนั้นไม่ได้ คุณผิดตรงนี้ คุณส่งเรื่องมาให้ผมอนุมัติเข้าใจเปล่า เพราะฉะนั้นแล้วโดยพื้นฐานคือ เจ้านายของกิตติรัตน์เข้าใจไหม ช่วงนั้นใครเป็นประธานบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ วิจิตร สุพินิจ
นงวดี- ค่ะ
สนธิ- ต้องรู้นิดนึง วิจิตร สุพินิจเขาเรียกว่า แก๊งออฟโฟร์มีใครบ้าง วิจิตร สุพินิจ นิพัทธ์ พุกกะณะสุต นายวีรพงษ์ รามางกูร และตอนนี้มีเพิ่มอีกคนก็คือ พันศักดิ์ วิญญรัตน์ พันศักดิ์ วิญญรัตน์กับวิจิตร สุพินิจ เขาเป็นเนื้อเดียวกัน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะว่าวิจิตร สุพินิจได้เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เหตุผลเพราะ พันศักดิ์ วิญญรัตน์ เป็นคนขอ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ช่วงที่พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี พันศักดิ์เป็นประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ตอนนั้นต้องการจะตั้งผู้ว่าแบงก์ชาติ เลยเอาเสนอวิจิตร สุพินิจ เพราะฉะนั้นวิจิตรเลยเป็นหนี้บุญคุญพันศักดิ์ แล้วพันศักดิ์บอกวิจิตรเป็นเด็กของเขา ใช่ไหมครับ วิจิตรก็ขึ้นไป วิจิตรไม่ถูกกับใคร เอกกมล คีรีวัฒน์ อดีตเป็นรองผู้ว่าแบงก์ชาติ และในที่สุดผันตัวเองเป็นเลขา ก.ล.ต. เพราะไม่อยากอยู่แบงก์ชาติ เพราะสองคนนี้ไม่ถูกกันอย่างแรง เหมือนน้ำกับน้ำมันเลย
จินดารัตน์- ไม้เบื่อไม้เมา
สนธิ- ไม้เบื่อไม้เมา ปรัชญาการทำงานก็คนละแบบ แนวคิดก็คนละแบบ ความมองการไกลก็คนละแบบ ผลประโยชน์ต่างตอบแทนก็คนละแบบ วาระซ่อนเร้นก็คนละแบบ ผมไม่บอกว่า ใครมีวาระซ่อนเร้น หรือใครไม่มีวาระซ่อนเร้น เอกกมลเลยหนีไปอยู่แบงก์ชาติ และใครบ้างไม่ถูกกับวิจิตร สุพินิจ และต้องตามเอกกมลไปอยู่ ก.ล.ต. ไปเป็นรองเลขา ก.ล.ต.ก็คือ ประสารไงละ เข้าใจหรือยัง ประสารเลยหนีแบงก์ชาติจากวิจิตร สุพินิจ ไปเป็นรองเลขาธิการ ก.ล.ต. ไปเป็นลูกน้องเอกกมลต่อก็คือว่า เอกกมลกับประสารพวกเดียวกัน นึกออกไหม เขาก็ไม่ถูกกันไง พอไม่ถูกกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว มันเลยเป็นไม้เบื่อไม้เมา แล้วมีช่วงนึงที่วิจิตรไปเป็นประธานตลาดหลักทรัพย์ ก็อยู่ภายใต้ ก.ล.ต.เข้าใจไหม
เพราะฉะนั้นแล้ว นิพัทธ์ พุกกะณะสุตแต่ก่อนอยู่กระทรวงการคลัง แล้วไปจับมือกับวิจิตร นิพัทธ์สนิทสนมกับวิจิตรอย่างไร จริงๆ แล้วเศรษฐกิจ 2540 ที่ล่มสลาย คนบอกว่าล่มสลายเพราะว่าอันโน้นอันนี้ จริงๆ แล้วเขาเรียกภาษาอังกฤษคือ ตัวคลิกเกอร์ ตัวเหตุที่ทำให้มันเกิดภาวะการล่มสลายแบบคืออะไรรู้ไหม ธนาคารบีบีซี การล่มของบีบีซีนั้นคือจุดเริ่มต้นของการล้มของเศรษฐกิจ เพราะการล้มของบีบีซีนั้นมันกระเทือนไปหมด และคนที่จะต้องรับผิดชอบการล้มของบีบีซีนั้นมี 2 คน แต่ว่าไม่มีใครพูดถึงเลยแม้แต่นิดเดียว และทุกคนลืมไปหมดแล้ว คนนั้นหนึ่งในนั้นคือ วิจิตร สุพินิจ อีกคนคือ นิพัทธ์ พุกกะณะสุต เพราะว่าบีบีซีมีปัญหา เมื่อแบงก์ชาติเข้าไปตรวจสอบแล้ว เขาค้นพบว่า บีบีซีสภาพคล่องไม่มีและ เพราะว่าปล่อยกู้อย่างฟุ่มเฟือย และอย่างที่ไม่รอบคอบ ปล่อยกู้ให้ราเกซ สักเสนา ปล่อยกู้ให้กลุ่ม 16 สุชาติ ตันเจริญ พวกนี้เยอะแยะไปหมดเลย ก็คือว่าเป็นแหล่งฟอกเงิน เอาที่ดินตาบอดมาวางราคา 10 บาทกู้ไป 100 บาท อะไรทำนองนี้ นึกออกไหมครับตลอดเวลา
วันนั้นธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องสั่งให้บีบีซีลดทุน คือการลดทุนสำหรับท่านผู้ชมที่ไม่เข้าใจ สมมุติว่าธนาคารแห่งหนึ่ง หรือบริษัทแห่งหนึ่งขาดทุนมาก มีทุนจดทะเบียนอยู่ 10 ล้าน วิธีที่จะทำให้บริษัทหรือธนาคารนั้นอยู่ได้ คือต้องลดทุนจาก 10 ล้านให้เหลือ 1 บาท แล้วเพิ่มกลับอีกทีนึง ก็คือไอ้ทุน 10 ล้าน เอาไปล้านขาดทุนเสียก่อน และเพิ่มกลับไป เอายอดที่เพิ่มกลับไปเอาไปบาลานซ์ยอดขาดทุนที่ยังเหลืออยู่ ธนาคารบีบีซีจะต้องถูกลดทุนเหลือแค่ 1 บาท หรือ 1 สตางค์ต่อหุ้น และค่อยเข้าไปเพิ่มทุน แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ธนาคารแห่งประเทศไทยกลับไม่สั่งให้ลดทุน กลับเพิ่มทุนโดยวิธีการสั่งให้กิจการในเครือธนาคารแห่งประเทศไทย หรือว่าธนาคารด้วยกันไปเพิ่มทุน แล้วหนึ่งในนั้นคือ ธนาคารออมสิน คนที่เป็นประธานออมสินตอนนั้นคือ นิพัทธ์ พุกกะณะสุต เข้าใจหรือยัง ด้วยเหตุนี้นี่คือ ต้นเหตุของการล่มสลายทางเศรษฐกิจ เป็นจุดเริ่มต้นจริงๆ แต่ไม่มีใครพูดถึง วันนี้ต้องจำเป็นที่จะพูดถึง
จินดารัตน์- คนไม่กี่คนนี่เอง
สนธิ- คนไม่กี่คนนี่เอง ประเทศไทยเจ๊งออกมาเพราะว่าคนไม่กี่คน
นงวดี- แถมยังลอยนวลด้วยซ้ำ
สนธิ- แถมยังลอยนวลอยู่ด้วยซ้ำเลย และอยู่เบื้องหลังอยู่ได้มาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิพัทธ์ พุกกะณะสุต วิจิตร สุพินิจพวกนี้ ยิ่งผูกกับ พันศักดิ์ วิญญรัตน์ และวีรพงษ์ รามางกูร คือสายของเพื่อไทยเต็มตัวเลย และยังหลบซ่อนอยู่ได้ สมัยที่พรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมา ก็ยังอยู่ตรงโน้นอยู่ตรงนี้ เพราะว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็คือพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ยอมตัดสินใจอะไรทั้งสิ้น ไม่กล้าเดี๋ยวจะหาว่าแทรกแซงนึกออกไหม เดี๋ยวจะหาว่าแทรกแซงตลกมาก ซึ่งประเดี๋ยวถ้ามีเวลาเราจะพูดถึงชุดภาษาพรรคประชาธิปัตย์ แล้วจะทำให้เห็นด้วยเหตุนี้ 2 กลุ่มไม่ถูกกัน วิจิตร พันศักดิ์ พันศักดิ์ตอนนี้ไม่มีตำแหน่ง พันศักดิ์ลึกๆ อย่างจะเปลี่ยนกิตติรัตน์ ณ ระนอง เพราะพันศักดิ์มองว่า กิตติรัตน์ไม่มีปัญญาไม่เหมาะ ถ้าเป็นไปได้ผมเดาพันศักดิ์อาจจะเอาให้ วิจิตร สุพินิจ เป็นรัฐมนตรีคลังด้วยซ้ำ ทำไมละ แต่ว่าเผอิญกิตติรัตน์ กลายเป็นเพื่อนสนิทของ เศรษฐา ทวีสิน แล้วเขาเป็นกลุ่มเดียวกับยิ่งลักษณ์ เพราะฉะนั้นยิ่งลักษณ์บอกมาตลอดเวลา ปรับ ครม.อย่างไรก็ตาม กิตติรัตน์ยังต้องอยู่ที่เก่า
นงวดี- เหนียว
สนธิ- ยังเหนียวอยู่ เพราะฉะนั้นแล้วด้วยวิธีนี้ความไม่ถูกกันระหว่างประสารกับวิจิตรผ่านมาทางเอกกมล เลยเป็นเหตุที่ทำให้พวกนี้เข้ามาจับมือร่วมกัน เพื่อจะบีบให้ประสารลดดอกเบี้ยไป ประสารไม่ยอม เพราะประสารพูด และวิธีที่จะให้ลดดอกเบี้ยต้องอ้าง ข้ออ้างของฝ่ายนี้คือฝ่ายกิตติรัตน์ กับฝ่ายวิจิตร สุพินิจ ฝ่ายพันศักดิ์อ้างบอกว่า ดอกเบี้ยเมืองไทย 2.75 มันสูง ดอกเบี้ยต่างประเทศมันแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ บางประเทศ 0.5 เปอร์เซ็นต์ เงินนอกมันเลยไหลเข้ามาเพื่อมากินส่วนต่างของดอกเบี้ย มันเลยทำให้บาทแข็งเอาแข็งเอา พอบาทมันแข็งผู้ส่งออกก็เดือดร้อน ผู้ส่งออกก็เริ่มโวยวาย พอเริ่มโวยวายกระทรวงพาณิชย์ก็เดือดร้อน เข้าใจไหม ก็มาอธิบายให้ฟัง พวกนี้เลยบอกว่า นี่เห็นไหมเพราะว่าดอกเบี้ยคุณ
นงวดี- สูงไป
สนธิ- แต่ความที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะอย่างไรก็ตาม เขามีข้อดีของเขา ข้อดีของเขาเนื่องจากว่า เขาเป็นคนที่มองเห็นตัวเลขของเงินที่ไหลเข้า คือเขานี่มอนิเตอร์เงินที่มาตลอดเวลา เขารู้หมดเลย ไอ้เงินที่ไหลเข้าต่างประเทศ วันนี้ไหลเข้าเท่าไรวันนี้เข้าออกเท่าไร เข้าเท่าไรออกเท่าไรเขารู้ และเขารู้ด้วยว่า เงินที่เข้ามามันไปไหน เพราะฉะนั้นเขาเห็นว่า เงินที่เข้ามาช่วงนี้เป็นเงินทุนระยะสั้นเอาไปเล่นหุ้น เพราะฉะนั้นเงินที่มาเล่นตลาดหลักหุ้นไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาอะไรทั้งสิ้น มันเป็นเงินเข้าสั้นออกสั้น เข้าสั้นแล้วก็ออก ซึ่งค่าเงินบาทที่มันแข็งมันเลยทำให้คนเริ่มเข้ามาเล่นหุ้นมากขึ้น วันนี้เมืองไทยอย่าเดินไปแถวตลาดหลักทรัพย์
จินดารัตน์- ทำไมคะ
คลิกอ่านต่อ