xs
xsm
sm
md
lg

“คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 8 ก.พ. 2556 (ต่อ)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สนธิ- มหาศาล แต่พูดให้ดีใจ เด็กที่จบราชภัฏแล้วมาอยู่ ASTV พัฒนาและฉลาดขึ้นทุกคน อันนี้เรื่องจริง เพราะเข้ามาในบรรยากาศ เข้ามาในวัฒนธรรมที่เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ เขาเลยพัฒนาตัวเองได้ นี่ไม่ได้พูดเชียร์คนของเรา

จินดารัตน์- ถ้ามองมุมกลับกัน เด็กที่เข้าราชภัฏมีโอกาสน้อยอยู่แล้ว ถ้าเจออาจารย์ห่วยๆ

สนธิ- ของเราไม่สนใจเรื่องคุณจบมาจากไหน แต่เข้ามาคุณเข้าใจวัฒนธรรมเราไหม สองคุณพร้อมเรียนรู้ปัญญาที่เราให้ไหม

เพราะว่าได้เข้ามาในบรรยากาศ ได้เข้ามาในวัฒนธรรม ที่เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ เขาเลยพัฒนาตัวเขาเองไปได้ นี่เรื่องจริงเราไม่ได้เชียร์คนของเรา

จินดารัตน์- จริงๆ ถ้ามองมุมกลับกัน เด็กที่เข้าราชภัฏเขามีโอกาสน้อยอยู่แล้ว ถ้าไปเจออาจารย์ห่วยๆ

สนธิ- ยิ่งห่วยมากขึ้น ของเราไม่สนใจเลยคุณจบมาจากไหน แต่เข้ามาคุณเข้าใจวัฒนธรรมเราไหม 2.คุณพร้อมจะเรียนรู้ปัญญาที่เราให้ไหม ทุกอย่างเพอร์เฟค

เติมศักดิ์- เป็นเรื่องหนึ่งที่แวดวงการศึกษาเราต้องเอาไปคิดพิจารณา

จินดารัตน์- เด็กเรียนราชภัฏก่ายหน้าผากเลย ได้รู้ความจริงแล้ว

สนธิ- ไม่ใช่ความผิดของเขา เป็นความผิดของอาจารย์ เป็นความผิดของทุกอย่าง เป็นความผิดของระบบเขา เป็นความผิดของอธิการบดี รองอธิการบดี ที่มุ่งมั่นในเรื่องของลาภยศอย่างเดียว ไม่ได้สนใจเรื่องคุณภาพการศึกษาแต่บางเรื่องของราชภัฏดี เช่น สวนดุสิตยังถือว่า คณะครุศาสตร์เขา ครูยังถือว่ายังใช้ได้อยู่ ของเขากับจุฬาฯ ไม่ห่างกัน แต่ปัญญาใหญ่คือ เขาไปขยายเพื่อความยิ่งใหญ่เขา เข้าใจหรือยัง

เติมศักดิ์- จนเป็นธุรกิจการศึกษาไปแล้ว

จินดารัตน์- ทำจนไม่รู้ว่าตัวเองควรจะอยู่ตรงไหน

สนธิ- ทำจนไม่รู้ว่าตัวเองควรจะอยู่ตรงไหนจริงๆ คุณไปดูสวนสุนันทา จันทรเกษม สวนดุสิตสมัยก่อนเขามีชื่อเรื่องอะไร ครูแค่นั้นเอง

เติมศักดิ์- วิทยาลัยครู

สนธิ- วิทยาลัยครูแล้วมีชื่อมาก โชคยังดีที่เขายังพอจะรักษาคุณภาพตรงนี้ไว้ได้อยู่ แต่คณะอื่น Say Goodbye ไป

เติมศักดิ์- ที่พูดทั้งหมดเพื่อให้ติเพื่อก่อ เพื่อให้ปรับปรุงโครงสร้างให้มันดี

สนธิ- ไม่เป็นไร จะติเพื่อติก็ได้ผมไม่แคร์ ผมเป็นคนคิดอะไรพูดอย่างนั้น ใช่ไหมครับ อยากได้ความจริง เติมศักดิ์พูดไม่ใช่หรอ เอเอสทีวีเป็นสื่อมวลชนที่ไม่เป็นกลาง เอ๊ะเราคุณมาติเพื่อก่อได้อย่างไร เรามันติเพื่อติโว้ยเติม

เติมศักดิ์- เดี๋ยวน้อยใจกัน

สนธิ- ไม่ต้องน้อยใจพูดความจริงก็ต้อง ก็มันเป็นธรรมต้องยอมรับกัน และไปแก้ไขกัน

จินดารัตน์- อะไรดีก็ชม

สนธิ- จะเอาเรื่องอะไรอีก

จินดารัตน์- เรื่องนี้ไม่รู้มีดีบ้างหรือเปล่านะคะ

สนธิ- เรื่องอะไร

จินดารัตน์- อดีตที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เคยทำให้ชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งต้องไป

สนธิ- เชิญคุณจินดารัตน์เลย

จินดารัตน์- แอนดีใจมาก

สนธิ- วันนี้ให้คุณเป็นนางเอกเลย

จินดารัตน์- ที่แอนได้คุยกับพี่ราตรีคือรู้เลยว่า มันมีอะไรอยู่ในใจเขาที่เขาได้พูดได้ระบายออกมาว่า เขารอวันนี้เพื่อที่จะมาพูดให้สังคมไทยรู้ว่า เขาต้องไปอยู่ในคุกเขมร โดนยัดเยียดทั้งที่เขามีโอกาสที่จะได้กลับบ้านในวันนั้นเลย ถ้ารัฐบาลเข้มแข็งพอยืนหยัดกับเขาว่า ตรงนั้นมันเป็นพื้นที่ของคนไทยจริงๆ เขาไม่ต้องไปทนทุกข์ในคุกเขมรตั้ง 2 ปี 1 เดือน วันนี้กลับมายังโดนข่มขู่สารพัด ครั้งนั้นโดนโดดเดี่ยวแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คุณกษิตไปหาถึงในคุกแต่กลับบอกว่า วันนี้มาฐานะเพื่อนไม่ได้มาในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศ เขายังดีใจว่า วิธีการนี้คงไปเจรจากัน แต่ในความหมายคำพูดของคุณกษิต แอนไม่รู้ว่าคุณกษิตคิดอะไรอยู่วันนั้น มันเลยกลายเป็นว่า เขาอยู่ไป 4 เดือนจนเขาหมดหวังแล้ว ว่าคุณกษิตไม่ได้ทำอะไร

สนธิ- โชคดีที่เขาเป็นชาวอโศกนะ

จินดารัตน์- ใช่คะ คุณสนธิ

สนธิ- ชาวอโศกหนักแน่นปล่อยวางได้ ผมนี่อยากให้แม่ยกพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นหม่อม ไม่ว่าจะเป็นอีติ๊งต๊องอะไรพวกนี้ ลองเอาตัวเองมาเปรียบเทียบกับคุณราตรีดู คุณค่าพวกคุณ โทษนะครับหยาบคายนิดนึง ส้นตีนมากเมื่อเทียบกับคุณราตรี คุณราตรีสำหรับผมเป็นเทพธิดา พวกคุณเป็นพวกนางมารร้าย คุณไม่รู้ว่าคุณราตรีเขาต้องได้รับกรรมที่เขาไม่ได้เป็นคนสร้าง แต่ไอ้พรรคส้นตีนคุณเป็นคนสร้าง และผลของการที่พรรคคุณไปสร้างกรรมให้คุณราตรี เท่ากับคุณไปยกแผ่นดินที่เป็นของประเทศไทยไปให้เขมรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นผมพูดได้ชัดเจน พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ขายชาติ เหมือนพรรคเพื่อไทยก็พรรคขายชาติเช่นกัน เพราะฉะนั้นไอ้สองพรรค มันเป็นพรรคขายชาติ ทำไมผมจะต้องไปสนใจสองพรรค ผมขออยู่กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผมขอยืนอยู่บนความถูกต้องไม่ดีกว่าเหรอ เหมือนอย่างเติมพูด เราเป็นสื่อที่ไม่เป็นกลางจบ

เติมศักดิ์- คุณราตรีบอกเอกสารที่เขาเอาไปยืนยันกับศาลว่านี่คือแผ่นดินไทย ม่ได้การรับรองจากราชการไทย ไม่ยอมรับรองให้กระทรวงต่างประเทศรัฐบาลไทย

จินดารัตน์- ไปเหยียบซ้ำเขาอีกนะ แอนนับถือน้ำใจผู้หญิงคนนี้จริงๆ แอนถามพี่ราตรีว่า โกรธเขามั้ยที่เขาไม่ช่วย เขาบอกว่า ไม่โกรธแต่เสียใจ

สนธิ- ที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ อันนี้เจ็บ คุณอภิสิทธิ์ กษิต ต้องฟัง นายสุเทพ พล.อ.ประวิตร ต้องฟัง ความเป็นชายชาติทหารของคุณไม่ได้แม้กระทั่ง 1 ในล้านของความกล้าหาญของคุณราตรี

จินดารัตน์- และแอนว่าพี่เขายังยืนหยัดที่จะต่อสู้ในสิ่งที่เขาพูดมาตั้งแต่วันแรกที่เขาโดนจับจนกระทั่งวันนี้นะ

สนธิ- เขาไม่เคยเปลี่ยน พวกเรามีอยู่อย่างหนึ่งนะ ผมคิดมาเรื่อย สังเกตอะไรอย่างพวกเราเวลาพูดอะไร เราพูดวันนี้พูดสิบปี เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เราไม่ต้องดูโพยเลย เพราะเราพูดความจริง ส่วนไอ้พวกนักการเมืองส้นมือส้นเท้าพวกนี้พูดอย่างกลับอย่างตลอด จับผิดได้หมดทุกเรื่องเลยนะ ไม่ต้องใช้เวลานานเป็นสิบปี ผ่านไป 2 เดือนที่แล้วก็พูดอย่างนี้ เหมือนกัน อภิสิทธิ์ กับไอ้พวกนี้สนามกีฬาดินแดงว่าไง วันนั้นพูดไง หลังจากนั้นพูดไง เสร็จเรียบร้อยแล้วพอเป็นฝ่ายค้าน ดันมาพูดเหมือนเราแล้ว นักการเมืองไม่ว่าพรรคไหนก็ตาม มันไม่มียางอายเลย มันหน้าด้านมาก มันพร้อมจะพลิกตัวแล้วพูดอีกอย่างหนึ่ง ทั้งๆที่ลึกๆตัวเองรู้ ว่าสมัยก่อนที่เราประท้วงกันอยู่มันพูดอีกแบบ แต่มันไม่แคร์ กูจะพูดอย่างนี้ใครจะด่ากูกูไม่ฟัง เพราะว่ามนอ่านใจคนไทยถูกว่าคนไทยโง่ พันธมิตรฯเลยเป็นที่โกรธและที่เกลียดของไอ้พวกนักการเมืองทั้งหลาย เพราะว่าเราไม่โง่ และพูดความจริง

จินดารัตน์-ไม่รู้มีคลิปที่คุณอภิสิทธิ์พูดที่ศูนย์เยาวชนไทยญี่ปุ่น - ดินแดง

สนธิ- เอาสิ ดูสักหน่อยให้พี่น้องฟังสักหน่อย

( VTR อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)

สนธิ- ถ้าคุณอภิสิทธิ์ทำตามที่แกพูด คุณราตรีไม่ติดคุกเขมร

จินดารัตน์- มีอดีต รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

(VTR พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ)

เติมศักดิ์- ไม่เคยให้สหประชาชาติใช้เป็นพื้นที่พักพิง

จินดารัตน์- หลักฐานทั้งรูปภาพทั้งอะไร

สนธิ- คนพวกนี้ทำเวรทำกรรมกับชาติบ้านเมือง พวกนี้แก่เฒ่าลงไป พอตายมีแต่คนสาปแช่ง หลักฐานพวกนี้ไม่เหมือนโบราณที่เป็นใบข่อยใบลาน ฝนตกน้ำท่วมก็หายลอยไปตามน้ำ ไฟไหม้บ้านก็ไหมด้วย แต่นี้อยู่ในฮาร์ดดิสก์ อยู่ในเว็บ อยู่ในเมมโมรี่ อยู่ในเซิร์ฟเวอร์ เรียกขึ้นมาเมื่อไหร่ก็เห็นเมื่อนั้นว่าเคยพูดอะไรไว้ ไม่ว่าจะเป็นอภิสิทธิ์ กษิต ภิรมย์ ไม่ว่าจะเป็นประวิตร วงษ์สุวรรณ ข้อเท็จจริงชัดเจน เพราะฉะนั้นแล้วเหมือนคนทรยศต่อชาติ วันหน้าวันหลัง ผมเชื่อในกฎแห่งกรรม ผมเชื่อว่า คนแรก กระทรวงการต่างประเทศ ที่ต้นคิดเรื่อง MOU 2543 จะต้องได้รับกรรมสักวัน

คุณรู้ไหมถ้าคุณจะเล่นงานพวกนี้ ถ้าคุณมีอำนาจ คุณต้องโยงกลับไป 2543 กระทรวงการต่างประเทศ ผมเรียกกระทรวงการขายชาติ ต้องรื้อให้หมดว่าใครเริ่มคิด 2543 ใครร่าง 2543 ร่างได้อย่างไร 2543 โดยที่ยอมรับ 1 ต่อ 200,000 อยากรู้ปรัชญาความคิด ถ้าไม่รับเงินเขมร รับเงินฝรั่ง ก็ขายชาติ แล้วไล่มาเรื่อยจนกระทั่งถึง สุขุมพันธุ์ บริพัตร และสุรินทร์ พิศสุวรรณ ว่าคุณเห็นด้วยได้อย่างไร มาถึงคุณชวน คุณเซ็นได้อย่างไร จนกระทั่งปัจจุบันรัฐบาลทุกรัฐบาลคุณปล่อยให้เป็นอย่างนี้ได้อย่างไร แล้วจบลงตรง 50 ข้อที่กระทรวงการต่างประเทศเขียน ผมอยากรู้ว่า คณะกรรมการชุดไหน อธิบดีคนไหน อ้ายอีคนไหนในกระทรวงการต่างประเทศที่ต้นคิดเรื่อง 50 ข้อ ลากหัวมากุดให้หมด จับติดตาราง ติดป้าย"คนขายชาติ" ต้องมีที่มาที่ไป จู่ๆ จะมี 50 ข้อได้อย่างไร มาจากหัวคิดใคร จะต้องโดนคนไทยกระทืบ เพราะเป็นคนขายชาติ เป็นกระทรวงขายชาติ

เติมศักดิ์- กลัวไม่มีหลักฐานขายชาติ เขียนไว้เลยว่า สันปันน้ำ ไม่รู้อยู่ตรงไหน ทั้งๆ ที่เขาบอกมาตั้งนานแล้ว อยู่ตรงหน้าผา

สนธิ- พวกนี้กบฏ ทรยศ ต้องติดคุก นี่ยกแผ่นดินให้เขา แล้วรัฐบาลปล่อยเฉย เห็นด้วย คือเมืองไทยเดี๋ยวนี้ไม่มีคนสร้างชาติ มีแค่ขายชาติ กับรักชาติ ใครรักชาติยืนข้างเรา ใครขายชาติไปยืนข้างกระทรวงการต่างประเทศ พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์

จินดารัตน์- จบสั้นๆ ง่ายๆ

สนธิ- สุดท้ายเรื่องดอกเบี้ย

จินดารัตน์- กลายเป็นเรื่อง คือกำลังหวาดหวั่นคนในแวดวงการเงินว่า ตกลงก้าวต่อไปรัฐบาลจะบีบยังไงต่อ

สนธิ- คือผมจะให้ข้อคิดนิดนึง เวลาเราดูการเงินเมืองไทย หรือเราดูเศรษฐกิจเมืองไทย เราต้องดูภาพรวมให้ดีๆ วันนี้รัฐบาลจะดิ้นรนกู้ 2.2 ล้านล้านบาทให้ได้ โดยที่ธงที่รัฐบาลชู รัฐบาลชูว่าเพื่อเอามาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้สมบูรณ์แบบ แม้กระทั่งธนาคารโลกเขาบอกว่า ควรที่จะทำเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน อย่าไปเน้นประชานิยม แต่ไม่เป็นไร เราเอาเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน โครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลคิดเมื่อคุณมาวิเคราะห์ 2.2 ล้านล้านแล้ว เติม 50 เปอร์เซ็นต์คือ เงินที่เอาไปใช้เรื่องการสร้างรถไฟความเร็วสูง ไอ้นี่มันโครงสร้างขั้นพื้นฐานอะไรของคุณ เมืองไทยมันไม่ต้องการรถไฟวิ่งชั่วโมงละ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันอ้างบอกว่า เพื่อให้เป็นรถที่ขนสินค้า คงจะเป็นรถไฟในโลกนี้ขบวนแรกที่ใช้ความเร็วสูง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อขนสินค้า แค่คิดก็ผิดแล้ว ลักษณะนี้คือลักษณะที่หลอกคนที่โง่ เมืองไทยไม่ต้องการรถไฟอย่างนั้น และเมืองไทยไม่ต้องการรถไฟ 1.1 ล้านล้านบาท เมืองไทยต้องการเปลี่ยนรางรถไฟเป็นรางคู่ทั้งหมดทั่วประเทศไทยใช้เบ็ดเสร็จไม่เกิน 1-2 แสนล้านบาท และเปลี่ยนหัวจักรรถไฟให้มันเร็วขึ้นจาก 80 กิโลฯ ต่อชั่วโมง เป็นแค่ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็พอแล้ว

สมัยก่อนรถสินค้ามันวิ่งจากเชียงใหม่ ขนส่งสินค้าการเกษตรมาถึงกรุงเทพฯ ใช้เวลา 48 ชั่วโมง หรืออย่างน้อย 36 ชั่วโมง เพราะอะไร เพราะมันเป็นรถไฟรางเดียว พอมีรถด่วนมามันก็ต้องวิ่งเข้าไปพักสถานี เพื่อให้รถด่วนไปก่อนแล้วค่อยวิ่งออกมา ทีนี้ถ้ามันเป็นรถไฟรางคู่แล้วมันวิ่ง 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งส่งสินค้าเกษตรกรรมจากเชียงใหม่ไปกรุงเทพฯ ใช้เวลาไม่ถึง 6 ชั่วโมง 6 ชั่วโมงกับ 36 ชั่วโมงพอแล้ว รถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ คุณคิดว่าประชาชนมีปัญญาขึ้นสักกี่คน คุณตอบผมหน่อย สรุปง่ายๆ คือว่า เพื่อทำมาหาแดกกันแค่นั้นเองใช่ไหม ทีนี้ไอ้กระทรวงการคลังมันตลก ข้าราชการกระทรวงการคลังบางคนมันบางไม่กล้าเซ็นไม่อยากติดตะราง โอเคคุณพูดก็ถูก แต่ไอ้บางคนก็ยังปั้นจิ้มปั้นเจ๋อออกมาเสนอหน้าบอกว่า เราถึงจะกู้ 2.2 ล้านล้าน ยังเป็นหนี้ต่อจีดีพียังไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ธนาคารโลกเขาบอกมาแล้ว ยังไม่ต้องถึง 2.2 ล้านล้านหรอก เมืองไทยตอนนี้ 50.7 เปอร์เซ็นต์แล้ว

เติมศักดิ์- เกินแล้ว

สนธิ- เกิน 50 ไปแล้ว เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะเป็น 55 เปอร์เซ็นต์นี่สูงมาก หรือ 60 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็อีกโกหกไว้ลาย โกหกว่าฝรั่งเศสเงินกู้ต่อจีดีพี หนี้ต่อจีดีพีตั้ง 70-80 เปอร์เซ็นต์ เกาหลี 200 กว่าเปอร์เซ็นต์ ญี่ปุ่นเท่าโน้นเท่านี้ แต่มันไม่ได้บอกว่า เขามีความสามารถในการเก็บภาษีมากกว่าเรา 3-4 เท่า

เติมศักดิ์- พูดความจริงไม่หมด

สนธิ- อันที่ 3.ฝรั่งเศสที่มีเงินกู้ และมีความสามารถเก็บภาษีมากกว่าเรา 3-4 เท่าตัว วันนี้ฝรั่งเศสใกล้จะล้มแล้ว เพราะเงินไม่มีถึงขนาดเก็บภาษีคนรวย จนกระทั่งคนรวยมันหนีหมดแล้ว เจ้าของ Louis Vuitton ย้ายออกจากฝรั่งเศส ไอ้นักแสดงชาวฝรั่งเศสย้ายไปอยู่เบลเยียม หนีหมด เพราะฉะนั้นแล้ว หลักการประเทศเหมือนบ้าน คุณมีหนี้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด แต่ไม่มีหนี้ไม่ได้ เพราะจะต้องเอาเงินมา 2 เด้งที่ต้องใช้ อันแรก เอามาเพื่อประชานิยม อันที่สอง สร้างโครงการเพื่อแดกกัน ถ้าเอามาเพื่อประชานิยมแล้วไม่แดกกันยังพอทำใจได้ นี่เอา 2 อย่าง รัฐบาลชุดนี้มองเศรษฐกิจที่ตลาดหุ้น พอหุ้นขึ้น มีความรู้สึกว่าต้องลดดอกเบี้ยเพื่อให้คนเล่นหุ้นมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ บอกว่า การลดดอกเบี้ยครั้งนี้ไม่ควรจะลด เพราะเงินที่เข้ามาไม่ใช่เงินระยะยาว เป็นเงินเข้ามาเล่นหุ้นระยะสั้น คุณจำหลักเกณฑ์ไว้อย่าง เท่าที่ผมสังเกตในอดีต ประสบการณ์อ่านหนังสือพิมพ์ ศึกษาข่าว เมื่อใดก็ตามที่ค่าเงินแข็ง เมื่อนั้นคือสัญญาณนำไปสู่การล่มสลาย สมัยญี่ปุ่นเศรษฐกิจตก เงินเยนแข็ง แสดงว่าต่างชาติเริ่มรู้แล้วว่าถึงเวลากระทืบเงินบาท เงินแข็งเมื่อไหร่ เงินต่างชาติเข้ามาเพื่อซื้อหุ้น เพราะจะกิน 2 เด้ง เด้งแรก กำไรจากหุ้น เด้งสอง พอเงินออกแลกเป็นดอลลาร์ออก กำไรสองต่อ และเงินบาทนอกประเทศ ผมเดา มีระหว่าง 6 แสนล้าน - 1 ล้านล้าน เงินสดๆ ขนออกไปกัน

เคยมีนักการเมืองทางใต้ สมัยน้ำมันปาล์มขาดตลาด เอาเงินบาท แบงก์พันใส่ตู้คอนเทนเนอร์วิ่งข้ามไปมาเลเซีย สมัยที่ทักษิณยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ มีคนบางคนใน SME สสว. ซึ่งเป็นญาติชินวัตร หิ้วกระเป๋าไปสิงคโปร์อาทิตย์ละ 2 เที่ยว เที่ยวละ 5 ใบ ข้างในเงินสดเอาไปฝากสิงคโปร์ สถานภาพของเอสเอ็มอีแบงก์ หนี้เพิ่มจาก 15,000 ล้าน เป็น 40,000 ล้าน เพิ่มจากการปล่อยกู้ให้พวกตัวเอง ให้นักการเมือง แล้ววันนี้เอสเอ็มอีเจ๊ง หนี้เพิ่ม ทำไมต้องรวมกับแบงก์ออมสิน จะได้ดึงเงินแบงก์ออมสินมาใช้ในโครงการประชานิยมได้ สถานภาพธนาคารอ่อนแอมาก เจอ ธ.ก.ส.ตอนนี้ รัฐบาลหน้ามืดไม่ค้ำประกันหนี้ให้แล้วเพราะไม่มีปัญญา ให้ ธ.ก.ส.กู้เงินเองเพื่อโครงการจำนำข้าว ธ.ก.ส.ก็อ่อนแอ ออมสินกำลังจะโดนสูบเงินออก ถ้าพูดในหลักการ เอสเอ็มอีแบงก์เจ๊งแล้ว

เงินบาทแข็ง หุ้นกำลังขึ้น แล้วเงินบาทอยู่ข้างนอกหลายแสนล้านบาทจะต้องมีการกระทืบค่าเงินบาทแน่ภายในไม่เกินปีนี้ ผมทำนาย เชื่อไม่เชื่อแล้วไป

เติมศักดิ์- คล้ายๆ ปี 40 ไหม

สนธิ- มีหลายๆ ส่วนคล้ายกัน

จินดารัตน์- เราต้องเตรียมตัวอย่างไร แต่ละภาคส่วน คนทั่วๆ ไป

สนธิ- เงินบาท เราอยู่ในประเทศไทย เงินบาทอ่อนค่าไม่มีผลกับเราถ้าเราไม่ซื้อของเมืองนอก ผมคิดว่าที่น่ากลัวคือ ดอกเบี้ยจะขึ้น ถ้าดอกเบี้ยขึ้น สิ่งแรกที่น่าจะทำได้คือ อะไรที่เคลียร์หนี้ได้เราเคลียร์ไปก่อน จะกลับไปสู่ยุคดอกเบี้ยแพงเพราะเงินจะขาด แต่ครั้งนี้จะไม่เลวร้ายเท่าครั้ง 2540 เพราะเงินสำรองต่างประเทศเรามีมากพอสมควร แต่จะทำให้เราฮวบ แล้วมีช่องว่าง ช่องโหว่ และอ่อนแอมากพอจะให้เขาโจมตีเราได้ในอนาคต

ส่วนตัวผมยังเชื่อในหลักพอเพียง อะไรไม่จำเป็นอย่าไปซื้อ โดยเฉพาะรถยนต์มีคันไหนก็ใช้ไป มันก็ไม่ได้ทำให้เราตายเพียงแต่ว่าทำให้เราไม่เท่เท่านั้นเอง แต่ความเท่มันกินไมได้นี่ ความเท่มันเป็นกิเลส ถ้าคิดในเชิงธรรมะได้ เราพอใจในสิ่งที่เรามีอะไรที่เคลียร์หนี้ได้ เคลียร์ไปซะ จบเท่านั้นเอง

จินดารัตน์- ไหนๆ ก็เรื่องเศรษฐกิจแล้ว ถามเลยแล้วกัน คุณประมวลถามว่า ผมตกงานมีเงินก้อนสุดท้ายประมาณแสนกว่าบาท อยากให้คุณสนธิแนะนำหน่อยครับว่าจะลงทุนอะไรดี

สนธิ- อย่าไปลงทุนหางานทำใหม่และเก็บแสนกว่าบาทไว้ แสนกว่าบาทจะไปทำอะไรได้แอน

จินดารัตน์- เขาบอกว่ามีทุนอยู่ 4 แสนบาท ควรลงทุนอะไรดีขอคำแนะนำจากคุณสนธิหน่อย เพราะกำลังจะคิดลงทุนในบริษัทอีซีแคช รับเทรดหุ้น มีเงินปันผลดีมากเลยครับ ปันผลรายวันไม่ทราบว่าจะถูกหลอกหรือเปล่า

สนธิ- อันนั้นก็คือคาสิโนเคลื่อนที่ ถูกหลอกแน่นอน ผมว่ามีเงินอยู่ 4 แสนบาท ถ้าคุณไม่รังเกียจตัวคุณเองนะ แล้วคุณมีความรู้สึกพอใจในตัวคุณเอง ผมคิดว่าคุณไปหาผู้หลักผู้ใหญ่ คุณย่าคุณยายอาม่าที่ทำกับข้าวเก่งๆสอนเขาทำก๋วยเตี๋ยวอร่อย ขายของกินที่อร่อยจริง สะอาด อยู่ได้ 4 แสนกว่าบาทอยู่ได้

จินดารัตน์- น่าจะเป็นคำตอบของคุณแม่ลูกหนึ่งที่บอกว่าอยากทราบว่าเศรษฐกิจแบบนี้จะค้าขายอะไรดี เรื่องกินเป็นเรื่องที่ทุกคนยังต้องกินอยู่

เติมศักดิ์- ที่รัฐมนตรีคลังกดดันข่มขู่ให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยเพื่อแก้ปัญหาเงินทุนต่างชาติไหลเข้า เป็นวิธีการที่ถูกต้องมั้ย

สนธิ- อย่างที่ผมบอก ประสารเขามองเรื่องเงินไหลเข้าไม่เหมือนกับที่คุณกิตติรัตน์มอง คุณประสารเขามีข้อมูล เขาจะรู้ว่าเงินไหลเข้ามาเงินไปไหน แบงก์ชาติจะรู้ว่าเงินไปไหนบ้าง เงินที่ไหลเข้ามาเป็นเงินระยะสั้น เล่นหุ้น เมื่อเล่นหุ้นแล้วพวกนี้ไม่ได้มาฝากในระยะยาวเพื่อกินดอกเบี้ย เมื่อเขาจะลดดอกเบี้ยสิ่งที่เกิดขึ้นคือว่า จะมีการกู้ในประเทศอีกมาก แล้วจะทำให้เงินเฟ้อ จะทำให้คนหันไปซื้ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้น ฟองสบู่ทันที

จินดารัตน์- และจะถึงขั้นปลดผู้ว่าการแห่งประเทศไทย

สนธิ- ผมว่าเขามีสิทธิ์นะ คิดอยู่ เขารอจังหวะมากกว่า

จินดารัตน์- คุณธัญญะบอกว่า อยากให้พูดถึงเรื่องค่าเงินบาทแข็งว่าจะแข็งต่อไปอีกนานมั้ย เพราะเก็บเงินดอลลาร์เอาไว้บานเลยค่ะ ควรถือต่อไปหรือขายไปก่อน

สนธิ ถ้าแนวโน้มทิศทางไปอย่างนี้ ต้องถือ ทุบเงินบาทแน่นอน ถือไว้สักปี

จินดารัตน์- พักก่อนนะคะ ช่วงหน้ากลับมาเรื่องการเมือง การศึกษาบ้างค่ะ สักครู่ค่ะ

ช่วงที่ 3

จินดารัตน์- กลับมาช่วงสุดท้ายแล้วนะคะ เราจะไปที่คำถามคุณผู้ชมทางบ้านฝากไว้ที่หน้าเฟซบุ๊กด้วย โทรศัพท์มาด้วย

เติมศักดิ์- คุณชาญศิริถาม ทำไมคนไทยถึงทนทานอะไรได้มากเหลือเกิน เช่น ทนผู้นำห่วยๆ ทนคนหน้าด้านหน้าทน ทนรถติด ทนข้าวของแพง ทนการถูกเอารัดเอาเปรียบ ยอมก้มหน้าก้มตาทนกันต่อไป ทำไม

สนธิ- คุณชาญศิริใช่ไหม คุณชาญศิริเป็นชนกลุ่มน้อยเหมือนพวกเราที่ไม่ค่อยทนอะไร แต่เผอิญพวกเรายังมีทางระบายออกทีวีชี้แจง คุณชาญศิริทำได้อย่างเดียวคือ ต้องนั่งดูพวกเราพร้อมกับพยักหน้า แล้วก็บอกว่าใช่เลย ใช่เลย คุณทำเพียงแค่นี้ เพราะว่าคนไทยที่ทนไปอย่างนั้นเพราะว่าเขาเป็นคนซึ่งอับจนปัญญา เขาหาทางออกเขาไม่ได้ แต่ว่าพวกเราหาทางออกได้ แอนจำได้ไหมว่าผมจะเป็นคนแรกที่พูดกับพันธมิตรฯ นานแล้วบอกว่า พวกเราต้องรวมกลุ่มกันไว้จำได้ไหม

จินดารัตน์- ให้รักกันมากๆ

สนธิ- พวกเราต้องรักกันเอาไว้ ต้องสร้างชุมชนพันธมิตรฯ ขึ้นมาได้ เพราะว่าชุมชนพวกเราคือ ชุมชนทางปัญญา นั้นแหละคือที่มา

จินดารัตน์- จริงๆ พวกเรามีความอดทนสูง

สนธิ- อดทนสูง

จินดารัตน์- มีเกี่ยวกับการเมืองอีกไหมคุณเติม คุณเติมชอบละสิ มันตรงใจ

เติมศักดิ์- ถ้าชอบถามเรื่องการเมืองก็ไม่เป็นไร อยากรบกวนคุณสนธิช่วยอธิบายเรื่องนักการเมืองว่า ทำไมชอบไปพัวพันในการคุมทีมฟุตบอลสงสัยมานานแล้ว

สนธิ- ผมคิดว่าประการแรกเป็นเรื่องชื่อเสียง นักการเมืองเป็นคนที่หลงตัวเอง มีความรู้สึกว่าถ้าเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลแล้ว ถ้าทีมฟุตบอลประสบความสำเร็จแล้ว จะทำให้ตนเองมีชื่อเสียงมากขึ้น ประการที่ 2.ชอบเป็นจ่าฝูง ประการที่ 3.อาจจะมีความรู้สึกว่า ถ้าเล่นทีมฟุตบอลมืออาชีพอาจจะมีโอกาสทำเงินได้ ผลประโยชน์

จินดารัตน์- มีฟ้องกันด้วยไหมคะ

สนธิ- มีสูงมาก คุณจำไว้อย่างไอ้คนที่บอกว่า จะสร้างสนามกีฬาสร้างอันโน้นอันนี้ เป็นเงินเป็นหลายพันล้าน ต้องหัดถามว่าคุณเอาเงินมาจากไหนวะ ใช่ไหม ไม่รู้เป็นยังไงผมมีความรู้สึกว่า บ้านเมืองทุกวันนี้ที่ฉิบหายกันทุกวันนี้ 99 เปอร์เซ็นต์ ฝีมือนักการเมืองทั้งนั้น 1 เปอร์เซ็นต์ ฝีมือพวกเผด็จการทหาร

เติมศักดิ์- นักการเมืองด้วยไหม

สนธิ- สมัยก่อนมันเป็นเรื่องของเทียนทอง จังหวัดเทียนทอง บรรหารบุรี นครชิดชอบ เมืองคุณปลื้ม พวกนี้จะมีจังหวัดเป็นของตัวเอง มีบ้าน 2 บ้าน บ้านนึงอยู่จังหวัดโน้นอีกบ้านนึงอยู่กรุงเทพฯ และมารวมตัวกันในกรุงเทพฯ ตั้งเป็นพรรคการเมือง เอาจังหวัดนั้นมาร่วมเอาจังหวัดนี้มาร่วม แต่พอช่วงหลังมันเกิดมีนายทุนใหญ่ คือทักษิณ ชินวัตร ทุกคนเลยมาเฮที่นี่หมด และทุกคนเล่นไปตามเกมที่กำหนดเอาไว้หมด

จินดารัตน์- รวมหัวกัน

สนธิ- รวมหัวกัน ตัวเองได้ส่วนแบ่งในที่ตัวเองควรจะได้ อาจจะน้อยกว่าเก่าแต่ว่า ได้รับการปกป้องทางกฎหมาย ได้รับการปกป้องในเรื่องของ ป.ป.ช. ได้รับการปกป้องในเรื่องโน้นเรื่องนี้ มีอำนาจวาสนามากขึ้น กำไรได้น้อยลงแต่ว่า กำไรที่ได้น้อยลงเพราะว่าส่วนที่ได้น้อยลงต้องไปเสียค่าคุ้มครองให้เขา

จินดารัตน์- กำไรได้น้อยลง กินอย่างมั่นคงขึ้น จริงๆ เรามีอีกหลายคำถาม เดี๋ยวยกไปสัปดาห์หน้าละกันคุณเติม เพราะว่าเรื่องนี้สูตรอาหารมีคนขอมาเยอะ อย่างคุณนิรันดร์บอกว่า อยากขอสูตรอาหารต่างๆ ที่คุณสนธิชอบทำในเฟซบุ๊กด้วยครับ

สนธิ- คืออย่างนี้ คือเรื่องอาหารเติมทำกับข้าวเปล่า

เติมศักดิ์- ไม่ทำครับ มีบ้างครับ

จินดารัตน์- จริงหรอ

เติมศักดิ์- จริงครับ

สนธิ- ผมเป็นชอบทำอาหารมานานแล้วตั้งแต่สมัยผมเรียนเมืองนอก เพราะว่าอยู่กันหลายคน อยู่กับพวกฝรั่งอพาร์ทเมนท์อยู่กัน 6 คน 3 ห้อง ผลัดกันทำ ทำโน้นทำนี่นั้น แล้วปรากฏว่าผมเป็นคนทำอาหารแล้วรูมเมทชอบ ผมเลยถูกกำหนดให้ทำอาหารตลอดเวลา พอถึงจุดหนึ่งก็รวมหัวกันบอกว่าผมไม่ต้องล้างชาม มีหน้าที่ทำอาหาร ข้าวของที่ซื้อเข้าตู้เย็นไม่ต้องออก เขาซื้อให้

ทีนี้การทำอาหารผมมาเรียนรู้ทีละนิดจากการที่ผมอยู่เมืองนอก อาหารที่อร่อย มันต้องเกิดจากจินตนาการไม่ได้เกิดจากเมนู ไม่ใช่ว่ายายเคยทำอย่างนี้ก็ต้องทำอย่างนี้ เอาโครงของยายมา แล้วทำตามอารมณ์ตัวเอง เขาเรียกว่า อิมเเมจิเนชั่น ผมเรียกภาษาอังกฤษว่า อิมแมจิเนทีฟฟู้ด บางอย่างผมก็เอาสูตรของครอบครัวมาอย่างเช่น ผมเคยทำหมูโค้ว เป็นหมูที่ทางสุโขทัยเขาทำกัน ทางใต้เขาเรียกหมูค่อง บางคนก็บอกเป็นหมูกระเทียมพริกไทยหรือเปล่า บอกไม่ใช่และก็ใช่ มันหลายอย่าง หมูโค้วคนสุโขทัยเขาทำกันตอนนั้น วิธีการก็คือว่า เขาจะเอาหมูสามชั้นมาหั่นชิ้นโตๆ จากนั้นจะเอากระเทียมรากผักชีโขลก แล้วก็เอาหมูวางในกระทะและเอาน้ำซุปที่เราต้มไว้เรียบร้อยแล้ว น้ำกระดูกหมู หรือโครงไก่เทเข้าไปในกระทะให้ท่วมหมูปริ่มๆ หรือครึ่งหนึ่งก็ได้ แล้วเอากระเทียมรากผักชีคนเข้าไป แล้วเกิดไฟอ่อน ในช่วงเปิดไฟอ่อนน้ำมันจะระเหยไปทีละนิด ไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นเราก็คนไปเรื่อยๆ ความเค็มของเกลือ ผมก็จะใช้เกลือทะเล กระเทียมรากผักชีมันจะซึมเข้าไปในเนื้อหมู จนกระทั่งน้ำที่อยู่ในกระทะมันเหือดไปหมดแล้ว มันหมูสามชั้นก็จะออกมาแทนน้ำมัน มันก็จะเริ่มทอดทำให้หมูนั้นกรอบ สีเหลือง ค่อยๆพลิกไปเรื่อยๆ ถึงจุดหนึ่งก็ยกขึ้นมากิน

หมูโค้วข้อดีอยู่ว่ากินไม่หมดใส่หม้อปิดฝาทิ้งเอาไว้ กินต่อได้อีก 3- 4 วัน ไม่เสีย แล้วยิ่งเก่ายิ่งอร่อย เข้าเนื้อมากเลย แต่ว่าที่อยากจะให้ดูคือคนเขางงว่าผมทำต้มนำสามก๊ก คนเขาถามว่าต้มยำสามก๊กคืออะไร ทีนี้ก่อนที่เราจะทำต้มยำนะ เราต้องพิจารณาก่อนว่า พริกขี้หนู ผมใส่พริกขี้หนู เครื่องต้มยำ ข่าตะไคร้ ผมใส่กระชายด้วยใส่หมดเลย หอม ใส่เห็ดฟาง คือนี้ พอเราคิดถึงจินตนาการของต้มยำ ต้มยำอร่อย ไม่อร่อยมี 2 อย่าง อย่างหนึ่งก็คือรถชาติมันต้องแซบ มันถึงจะเป็นต้มยำ อย่างที่ 2 น้ำต้มยำต้องอร่อย ถูกไหมถูก ส่วนใหญ่ที่ทำต้มยำนั่นก็คือว่า แซบ แต่น้ำนี่จะเป้นน้ำที่เอาจากน้ำก๊อกใส่เข้าไป ผมนี่จะบอกทุกคนเลยที่มีบ้าน ผมจะบอกว่าที่บ้านทุกหลัง ให้จำไว้เลย ผมเคยพูดเอาไก่บ้านมาตุ๋น ใส่น้ำเยอะๆ สัก 2 ตัว ทิ้งไว้เลย ตุ๋นไฟอ่อนๆ ทิ้งไว้ทั้งวันเลย ทำวันเสร์ วันหยุดก็ได้ทิ้งไว้ แล้วใส่แฮมยูนนาน แฮมยูนนานเป็นตัวแทนของเกลือและน้ำปลา แต่รสเค็มของมันเนี้ย จะหอมหวาน จะไม่เค้มเหมือนเกลือและจะไม่คาวเหมือนน้ำปลา เข้าใจยัง แฮมยูนนานใส่สัก 2-3 ขีด และตุ๋นไปเรื่อยๆ

จินดารัตน์- และไม่ซื้อที่ไหนคะคุณสนธิ มีขายทั่วไปเหรอค่ะ

สนธิ- พอดีผมไปหาแถวเยาวราชคงมี เสร็จแล้วพอต้มเสร็จเรียบร้อยแล้ว จนกระทั่งไก่มันเปื่อยหมดแล้ว คุณลองชิมน้ำดู น้ำมันจะหวานมาก ต้องไก่บ้านนะ และทิ้งเอาไว้ๆ จะผัดกับข้าว จะทำน้ำแกงก็ตักๆ จะกินก็อุ่นให้ร้อน เพราะแล้วเมื่อดูอย่างงี้แล้ว ต้มยำ 3 ครกท่าจะอร่อย 1 ต้องแซบ แล้ว 2 น้ำต้องหวาน ผมก็เลยใช้น้ำไก่ตุ๋นที่ผมตุ๋นไว้ล่วงหน้าแล้ว เป็นน้ำต้มยำ และผมก็ใส่เครื่องทุกอย่างที่ควรจะใส่ไป ใส่เข้าไป รสเปรี้ยวผมใช้น้ำมะขาม เพราะฉะนั้นผมจะหนักที่ ต้มยำผมจะกลายเป็นเปรี้ยว เค็มนิดหน่อย และก็เผ็ด เผ็ดนี่จะใช้พริกสด ใส่ไปและพริกแดงคั่ว แล้วตบสุดท้ายด้วยการใส่

จินดารัตน์- อันนี่คือน้ำมะขามใช่ไหมค่ะ

สนธิ- น้ำมะขามๆ ใส่ไป และก็เคี่ยวมะเขือเทศ ต้องมีมะเขือเทศต้องมีอย่างน้อย ถ้าหมอขนาดนั้น ผมต้องใส่ประมาณ 3-4 ลูก เพราะมะเขือเทศมีความเปรี้ยวและความหวานอยู่ในตัว ความเปรี้ยวความหวานอยู่ในตัว ที่สำคัญอย่าลืมเด็ดขาด คนจะลืม น้ำตาลปี๊บ

จินดารัตน์- อ่อ ใส่น้ำตาลปิ๊บ

สนธิ- ใส่น้ำตาลปี๊บประมาณ 2 ช้อนคาว และคน นี่คือเกลือทะเล เห็นไหม เหมือนเชฟมืออาชีพไหม

จินดารัตน์ - นี่เหมือนท่าทางแบบ ชอบมากเลย

สนธิ- แล้วในที่สุดแล้ว พอคนไปทุกอย่างลงตัว สิ่งที่คุณจะเกิดขึ้นคืออะไรรู้ไหม คุณยังมีเป็นต้มยำครั้งแรก ที่คุณมีรสเปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ด ครบถ้วนหมด และมันอร่อยมาก แล้วไก่ที่คุณตุ๋นไว้ คุณยกออกไปก่อน และคุณก็ฉีกเนื้อไก่ลง แล้วก็ใส่ไป อย่างวันอังคารนี่ ผมจะทำต้มยำ ไก่ตุ๋นและก็ขาไก่ตุ๋น ตีนได่และข้อไก่

จินดารัตน์- อันนี้มีคนรีเควสมา มีคนขอ

สนธิ- มีคนรีเควส นี่ไง คุณต้องให้มันเดือดอย่างงี้ ต้มยำเนี้ย มันไม่หมูโค้ว นะคุณ คุณต้องให้น้ำมันเดือด น้ำยิ่งเดือดมากเท่าไร ทุกอย่างที่มันอยู่ข้างในนั้นรสชาติมันจะเริ่มออกไป ออกไป เสร็จเห็ดก็ออก พริกก็ออก ทุกอย่างก็ออก นี่ต้มยำน้ำใส ถ้าคุณไม่พอใจ คุณจะใส่น้ำพริกเผาสัก 2 ช้อนสูงๆก็ได้ มันก็จะหอม รับรองอร่อย คุณทำหม้อเนี้ย คุณกินได้ 3 วัน และวิธีการกิน 3 วันก็คือว่า เข้าสวยร้อนๆกับไข่เจียว

จินดารัตน์- จบละ

สนธิ- จบเท่านี้เอง ข้าวสวยร้อนๆและไข่เจียว

จินดารัตน์ - ก็ถึงขั้นอร่อย มีอยู่

สนธิ- นี่ดูๆ สุรวิชช์ พยักหน้า เห็นไหม บอกอ่อนเปรี้ยว เอ็งอยากได้เปรี้ยว กูเพิ่มให้ เอา อยากได้เปรี้ยวไม่ยากอะไร เป็นการทำกับข้าวที่ต้องใช้จินตนาการ อย่าไปยึดติดอะไรทั้งสิ้น อยากใส่อะไรใส่

จินดารัตน์- ใช้จิตสัมผัส

สนธิ- ใช้จิตนาการสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้น คุณเติมเคยกินข้าวหน้ากะหรี่ของญี่ปุ่นไหม จริงๆ ทำง่ายมาก เราทำเองได้อร่อยด้วย

จินดารัตน์- ขอสัปดาห์ละเมนู

สนธิ- ได้ๆ อันนี้ต้มยำ 3 ก๊ก ทำไมต้อง 3 ก๊ก ผมไม่รู้มีอะไรข้างๆ จับใส่หมด

จินดารัตน์- แฟนรายการจะได้รู้ว่าทุกศุกร์จะมี 1 เมนู

สนธิ- จะพยายาม

เติมศักดิ์- ทีมงานบอกหมดเวลาแต่ผมอดไม่ได้ คือทีมงานส่งภาพพาดหัวข่าวของแนวหน้า หน้า 1 พรุ่งนี้ มาให้ดู

จินดารัตน์- เหลืองแดงจูบปาก ซุ่มนิรโทษเล็งออก พ.ร.บ.2ฉบับ

สนธิ- แนวหน้า เป็นหนังสือพิมพ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ความจริงลูกชายเจ้าของเพื่อนปั๊บ แต่ความคิดคนละความคิด ลูกชายผมแนวความคิดพันธมิตรฯ 100% ผมคิดว่า ประชาธิปัตย์วันนี้ใช้สื่อในมือตัวเองพยายามดิสเครดิตเสื้อเหลือง พันธมิตรฯ ในข้อเท็จจริงเขาดิสเครดิตไม่ได้ อย่างที่ผมบอกให้ทราบว่า อ.ปานเทพ ไป ผมส่งไปเอง เพื่อแสดงจุดยืนไม่ได้ตกลง ไม่มีการจูบปาก เพราะฉะนั้นแนวหน้ากับเครือเนชั่นคล้ายๆ กัน คนพวกนี้จะเหมือนกับสาวกประชาธิปัตย์ไม่ต่างกันเลย คือ พรรคประชาธิปัตย์เป็นเทวดา ไม่เคยทำอะไรผิด เป็นเทพชั้นสูง เพราะฉะนั้นแล้วพร้อมทุกอย่าง ให้เลวขนาดไหน หลับตาข้างนึง ต่อให้เป็นข้าวผสมขี้ก็กิน อย่างน้อยที่สุดยังอ้างได้ว่าถึงมีขี้ก็ยังมีข้าว ซึ่งพวกเราไม่เอา นิสัยพรรคประชาธิปัตย์คือ ชอบเอาดีใส่ตัวชั่วใส่คนอื่น เป็นที่สุมหัวของคนอกหักจาก ASTV ทั้งนั้น ดูรายชื่อคอลัมนิสต์เหมือนกัน ผมยืนยันได้อย่างหนึ่ง อย่างน้อยที่สุด ASTV ผู้จัดการของเรามีจุดยืน มีหลักการมั่นคงและสู้เพื่อความถูกต้อง เราไม่สนใจว่าพรรคใดเป็นพวกเรา เราไม่มีพรรค เรามีแต่ประเทศไทยเป็นตัวตั้ง นี่ไม่ได้เป็นจุดที่แอบพลายเฉพาะตัวผมหรือลูกชายผม เติมศักดิ์ แอน-จินดารัตน์ เก๊-กมลพร รัตติกรณ์ เก๊-อุษณีย์ นุ๊ก ทุกคน ถ้าหลักการเราไม่มี แอนก็ไม่อยู่ เติมก็ไม่อยู่ ทุกวันนี้ที่เราผูกพันกันและเรารักกันเพราะ หนึ่ง เราถูกมัดตราสังข์ด้วยอุดมการณ์อันเดียวกัน ทำให้เราเป็นหนึ่งเนื้อเดียวกันหมด ส่วนหนังสือพิมพ์อย่างแนวหน้า เจ้าของคือ พูนศิริวงศ์ ผลประโยชน์เขามี เขามีสนามกอล์ฟ เราไม่มี เรามีแต่เครื่องทำน้ำด่างอย่างอื่นเราไม่มี กับปุ๋ยลุงจำลอง มีโอกาส มีช่องว่างเมื่อไหร่เขาก็ทำ

จริงๆ วันนั้นถ้าไม่ให้ อ.ปานเทพ ไปก็ไม่มีข่าวลืออย่างนี้ออกมา แต่ไม่ให้ไปไม่ได้ อ.ปานเทพ ไม่อยากไป ผมเป็นคนบอกให้ไป ผมบอก ที่ต้องไปเพราะว่าเราต้องบอกเขาว่าจุดยืนเราอย่างนี้ แต่ผมบอกอย่าไปตกลงอะไรมาก แล้ว อ.ปานเทพ ไม่ได้ไปตกลงอะไร ไปเล่าจุดยืนให้ฟัง เพราะฉะนั้นแล้ว ในที่สุดแนวหน้าต้องพังทลายเหมือนพรรคประชาธิปัตย์พังทลาย ไม่มีอะไรน่าแปลกใจแม้แต่นิดเดียว คนอ่านของเราเยอะกว่าเขาเยอะ คนละเรื่องกัน เว็บเรามีคนเข้าวันละ 2 - 3 ล้านคน เว็บเขามีคนเข้าเท่าไหร่ผมไม่รู้กระจิ๊ดริด เพราะฉะนั้นอิทธิพลเขาไม่มีอะไรเลยกับเราแม้แต่นิดเดียว

จินดารัตน์- คงไม่ต่างจากวิชามารเดิมๆ ที่เคยใช้

เติมศักดิ์- ถ้าอยากรู้ว่าจูบปากจริงๆ เป็นอย่างไรระหว่างแดงกับฟ้า โอกาสหน้าจัดให้

สนธิ- โอกาสหน้าจัดให้ จัดหนักด้วย

เติมศักดิ์- จูบปากของจริงเป็นอย่างไร ไม่ถอดยศ รวมหัวกัน

สนธิ- อยากให้แนวหน้าคอยดูรายการนี้หน่อยว่า อาทิตย์หน้าสีแดงกับสีฟ้าจูบปากกันอย่างไรตามที่คุณเติมศักดิ์บอก

จินดารัตน์- จะได้เอามาเทียบกันได้ วันนี้ขอบคุณสำหรับการติดตามชม ต้องสวัสดีปีใหม่จีนกับคุณผู้ชมทางบ้าน ชาวไทยเชื้อสายจีนที่น่ารักของเราทุกคนด้วย

เติมศักดิ์- ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้

สนธิ- ซินนี้ฮวดใช้

จินดารัตน์- วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น