“สนธิ” ชี้ศาลจำคุก “สมยศ” หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ “จักรภพ” ต้องผิดด้วย ในฐานะคนเขียนบทความ จี้อัยการเอาผิด เชื่อ “แม้ว” รู้เห็นเป็นใจ เพราะไม่เคยออกมาปฏิเสธเลยว่าไม่เกี่ยวข้องกับหนังสือ “วอยซ์ ออฟ ทักษิณ” พร้อมแนะ “ธรรมกาย” เลิกอ้างพุทธศาสนา ให้ประกาศตั้งเป็นลัทธิใหม่เลย
คลิกที่นี่ สัมภาษณ์ โดย "นายสนธิ ลิ้มทองกุล"
วันที่ 25 ม.ค.เมื่อเวลา 20.00 น.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV ช่วงหนึ่งถึงกรณี นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุกในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ว่า การที่ศาลลงโทษ 1 ส่วน 3 ต้องถือว่าปราณีแล้ว เพราะว่าพยานซึ่งทนายฝ่ายนายสมยศเอามาสืบ กลับเป็นคนยืนยันเองว่านายสมยศเป็นคนสั่งให้ลงบทความของนายจักรภพ เพ็ญแข
ทีนี้ นายสมยศ ให้การซัดทอดถึง นายจักรภพ เพ็ญแข ซึ่งอัยการสามารถฟ้องได้แม้ไม่อยู่ในไทย แต่คำถามคืออัยการจะทำหรือไม่ เพราะว่า นายจักรภพ เคยไปพูดมีลักษณะหมิ่นและจาบจ้วง อัยการกลับดันทะลึ่งสั่งไม่ฟ้อง แต่งวดนี้ผิดชัดๆ อัยการจะทำหรือไม่ทำ
คำถามที่สอง อันนี้น่าจะลึกซึ้งกว่าการที่จะเอานายจักรภพมาหรือเปล่า ก็คือว่า หนังสือนี้ชื่อ วอยซ์ ออฟ ทักษิณ คำว่า วอยซ์ ออฟ ทักษิณ มันก็ชัดเจนเลยว่าเป็นเสียงของทักษิณ ทำในนามตัวแทนทักษิณ แล้วทักษิณ ชินวัตร ไม่เคยออกมาปฏิเสธว่าเขาไม่รู้เรื่อง แสดงว่าในทางอ้อมทักษิณเกี่ยวข้องกับหนังสือเล่มนี้ ทักษิณสมรู้ร่วมคิด ถึงจะไม่สมรู้ร่วมคิดก็จะต้องเห็นด้วย แล้วเรื่องราวของนายจักรภพ ที่เขียนไว้นี่ ทักษิณจะให้คำตอบอย่างไร
ทีนี้อีกประการนายสมยศเขาบอกว่าเขาไม่เกี่ยว เป็นแค่ลูกจ้าง แล้วสำนักพิมพ์ที่ทำวอยซ์ ออฟ ทักษิณ มันนอกจากนายสมยศ มันมีกอง บก.มีฝ่ายต่างๆ มีค่าพิมพ์ ค่ากระดาษ โฆษณาก็ไม่มี วางขายได้ก็ไม่กี่เล่ม คำถามคือค่าใช้จ่ายเดือนเป็นแสนเป็นล้าน ใครเป็นคนออก แล้วจู่ๆ มาออกโดยไม่หวังผลได้อย่างไร
แสดงว่า หนังสือวอยซ์ ออฟ ทักษิณ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ รับรู้ด้วย ได้มีการถูกจัดทุนตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นกระบวนการในการจาบจ้วงสถาบัน และล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ชัดเจน อย่ามองแค่ว่านายสมยศ โดนคุก 10 ปี แต่ต้องดูองค์ประกอบว่านายสมยศจะอุทธรณ์หรือไม่ ซึ่งตอนนี้มันเป็นยุทธศาสตร์ ฝ่ายซ้ายที่ทักษิณเลี้ยงเอาไว้ต้องตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
เขามี 2 ยุทธศาสตร์ ยุทธศาสตร์แรกถ้าอยากให้นายสมยศจบก็จะไม่อุทธรณ์ เท่ากับว่าคำพิพากษาถึงที่สิ้นสุด สามารถถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษได้ แต่เขาต้องบอกว่าเขาสำนึกผิดแต่นั่นเป็นยุทธศาสตร์ที่ฝ่ายซ้ายไม่ต้องการ เพราะต้องการที่จะให้นายสมยศคาไว้ตรงนั้น อุทธรณ์เพื่อเป็นชนวนต่อไปในอนาคต เหมือนกรณีอากง
ถ้า นายสมยศ เสียสละยอมทำเช่นนั้น จะได้รับค่าตอบแทนพอสมควร เช่น ครอบครัวได้รับการดูแล และอีกอย่างหนึ่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นคนของฝ่ายพรรคเพื่อไทย เขาอาจจะถูกดูแลอย่างดี ตอนนี้เขามีอยู่ 2 ยุทธศาสตร์ ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะเลือกยุทธศาสตร์ไหน
ส่วนกรณี นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ทำตัวเหมือนเป็นโฆษกส่วนตัวของฮุน เซน โดยล่าสุด ออกมาอ่านแถลงการณ์ของกัมพูชา กรณีพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา นายสนธิ กล่าวว่า สิ่งที่ นายสุรพงษ์ ทำ เป็นการเมืองทั้งหมด ที่ทำแบบนี้เพราะต้องการเอาแถลงการณ์ของฮุน เซน มาเล่นงานนายอภิสิทธิ์ กับนายสุเทพ จำได้หรือไม่ ตนเคยพูดว่านายสุเทพแอบไปพบ ซก อาน ที่ฮ่องกง ประชาธิปัตย์หาว่าตนใส่ร้าย แต่วันนี้ ฮุน เซน เป็นคนแฉเองเลย เขาพยายามบอกว่าคนที่พยายามจะมาขอเจรจาลับ ก็คือ นายอภิสิทธิ์ กับ นายสุเทพ
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ขอเตือนอะไรไว้อย่างพวกนักการเมือง นายสุเทพ ต้องรู้ตัวว่าทำอะไรไว้ เรื่องโรงพักสร้างไม่เสร็จ 300 กว่าแห่ง เรื่องนี้เรื่องใหญ่มาก พรรคประชาธิปัตย์ไม่พูดสักคำเลย ทุกคนเงียบกริบ เพราะว่ามันเซ็นสัญญาในช่วงที่นายสุเทพ ดูแลตำรวจอยู่ แต่ที่น่าสนใจ ร.ต.อ.เฉลิม ก็เงียบกริบเหมือนกัน เพราะฉะนั้นจะเห็นว่านักการเมืองชั่วทั้งนั้น ไม่ว่าอยู่พรรคไหน เพราะว่าคนที่ประมูลงานได้แล้วผิดสัญญา มันเข้าได้ทุกพรรค ตั้งแต่ นายชูวิทย์ ออกมาโวยวายก็กระโดดโลดเต้นอยู่สักพัก แล้วก็เงียบกริบไป
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงการเสียชีวิตของ นายชุมพล ศิลปอาชา ว่า ต้องโยงเข้าเรื่อง พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ และต้องโยงเข้าหาเรื่องนักการเมืองหลายท่าน ตลอดจนข้าราชการระดับสูงหลายคนที่ตนรู้มาว่าหลายคนกำลังไม่สบายหนัก เป็นเชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม ไม่มีใครหนีพ้น
ขอให้เชื่อเลย คนที่โกงชาติ โกงบ้านโกงเมือง ต้องมีอันเป็นไปทุกคน นับประสาอะไรกับคนที่ขายชาติ ขายบ้านขายเมือง คนที่มีหน้าที่ต้องทำ ต้องปกป้องแผ่นดิน ไม่ว่าข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หรือนักการเมือง ถ้าไม่ปกป้องแผ่นดินแล้วยกแผ่นดินใหักับต่างชาติ แล้วจงใจอยู่เบื้องหลังการทำให้ต้องเสียแผ่นดินให้ต่างชาติ มันจะฉิบหายไม่ใช่เฉพาะตัวมัน แต่ชั่วโคตรมัน ตลอดไปทั้งวงศ์ตระกูล
นายสนธิ กล่าวถึงการเดินธุดงค์ในเมืองของธรรมกาย ว่า เขาทำไปเพื่ออะไร ตนคิดว่าธรรมกาย ไม่ใช่พระพุทธศาสนา แต่เป็นลัทธิไปแล้ว ตนถึงบอกว่าสังคมไทยเป็นสังคมที่หลอกง่าย และที่เสียดายคือว่าคนไม่เข้าใจหลักของพระพุทธศาสนา ตนไม่เคยเชื่อว่าทำบุญมากแล้วคนจะได้ขึ้นสวรรค์ ทำบุญมาก และจะได้เป็นเทพธิดาที่หล่อ เป็นเทพธิดาที่สวย ตนไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับหลักพระพุทธศาสนาของลัทธิธรรมกาย
ลัทธิธรรมกาย คือ ลัทธิที่ทำลายพระพุทธศาสนาอย่างมาก ที่เสียดายคือว่ามีคนชนชั้นกลางอยู่ไม่น้อย ที่ไปหลงใหล คนพวกนี้ไม่ใช้ปัญญาคิด และธรรมกายชอบอ้างหลวงพ่อสด ทั้งๆที่หลวงพ่อสดไม่เคยคิดที่จะให้เอาธรรมกายมาหากินในเชิงพาณิชย์เลย
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ที่จริงแล้วตนไม่ได้ขัดขวางลัทธิธรรมกาย แต่อยากให้ประกาศไปเลยว่าคือ ลัทธิธรรมกาย หรือจะตั้งศาสนาธรรมกายก็ได้ อย่ามาอ้างพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนอย่างนี้ หรือจะตั้งลัทธิธัมชโย ลัทธินะจ๊ะก็ได้ เอาไปเลยตนไม่ว่า
ส่วนประเด็นโรงเรียนอัสสัมชัญ นายสนธิ กล่าวว่า สมัยก่อนอัสสัมชัญเป็นโรงเรียนที่มีวินัย ภาษาอังกฤษชั้นหนึ่ง คนที่จบ ม.8 ก็คือ ม.6 ปัจจุบัน ไม่ต้องเรียนต่ออะไรแล้ว ทำงานกับฝรั่งได้เลย แต่พอมายุคนี้ตกต่ำมาก เพราะหลังจากที่บาทหลวงฝรั่งที่อยู่มูลนิธิเซนต์คาเบรียลกลับไปหมดแล้ว ตอนนี้มีแต่บาทหลวงคนไทยที่ดูแลอยู่ แล้วนิสัยคนไทยไม่ว่าจะเป็นพระ หรือเป็นคนธรรมดา นิสัยเหมือนกันหมด ก็คือว่า ไม่ได้มองส่วนรวมเป็นตัวตั้ง มองแต่ผลประโยชน์ มองโรงเรียนเป็นธุรกิจ สมัยก่อนไม่ต้องเสียแป๊ะเจี๊ยะเลยแม้แต่บาทเดียว แต่พอมาถึงยุค ดร.อานันท์ ปรีชาวุฒิ เดี๋ยวนี้เด็กที่เข้าอัสสัมชัญไม่เสียแปะเจี๊ยะเข้าไม่ได้
นายสนธิ เล่าถึงที่มาของปัญหาว่า ดร.อานันท์ อยากจะสร้างอัสสัมชัญขึ้นอีกที่หนึ่ง เป็นอินเตอร์เนชันแนลสคูล เลยไปลงทุนตรงสมุทรสาคร เนื้อที่ 231 ไร่ โดยเขาโกหกทุกคนว่าจำเป็นต้องไปเอาที่ที่นั่น เพื่อเป็นที่สันทนาการ เนื่องจากอัสสัมชัญบางรักคับแคบ ไม่มีที่เล่นกีฬา ก็มีคนเขาเอาที่มาให้ฟรีๆ ปรากฏว่าไม่เอา แต่เอาเงินอัสสัมชัญบางรักไปซื้อแทน แล้วสร้างสวนสาธารณะ ทะเลสาบ ระบบไฟฟ้าใต้ดิน อาคารเรียนทันสมัย มีสนามกีฬาระดับสเตเดียมนั่งได้ 15,000 คน สนามฟุตบอล สนามบาสเกตบอล สนามวอลเลย์บอล สนามแบดมินตัน สนามตะกร้อ ศูนย์ฟิตเนส มีห้องแอโรบิก มีห้องเซานา ห้องเทควันโด อีกทั้งยังมีสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานโอลิมปิก ฯลฯ ทีนี้อัสสัมชัญบางรักเงินเริ่มหมด ก็เลยจะควบรวมโรงเรียนฝ่ายประถมกับมัธยมเข้าด้วยกัน เพราะจะได้มีสิทธิรวมบัญชีทุกอย่าง และเอาเงินทางนั้นไปใส่ทางโน้น แล้วก็บีบครูด้วยวิธีต่างๆ แต่ครูไม่ยอม จึงเป็นที่มาของการประท้วง
นายสนธิ กล่าวด้วยว่า สมัยที่บราเดอร์อานันท์ เรียนจบปริญญาโทกลับมาสอนหนังสือที่โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี เป็นอธิการบดี เคยโดนครูและผู้ปกครองขับไล่เพราะแกไปทำอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งเขาเห็นว่ามันไม่เข้าท่า
ตนไม่อยากลงรายละเอียด แต่ว่ามีเรื่องบางที่แกไปหมิ่นพระบรมเดชานุภาพขึ้นมา พวกคณะนักบวชภราดาเซนต์คาเบรียล ก็ช่วยกันปกปิด ซึ่งวันหลังตนจะเอาเรื่องพวกคณะนักบวชภราดาเซนต์คาเบรียล นอกจากนี้มีศิษย์เก่าอัสสัมชัญบางคนให้การช่วยเหลือด้วย และส่งไปฟอกตัวเองด้วยการเรียนต่อปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยรัฐเพนซิลเวเนีย ได้ดอกเตอร์มาในเรื่องการออกแบบการศึกษา
คำต่อคำ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 25 ม.ค. 2556
รายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ออกอากาศทางเอเอสทีวี วันศุกร์ที่ 25 มกราคม 2556 เวลา 20.00-22.50 น.ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นางสาวนงวดี ถนิมมาลย์ และ นางสาววรรษมน ช่างปรีชา ร่วมดำเนินรายการ
นงวดี/ วรรษมน - สวัสดีค่ะ
นงวดี- ขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ วันนี้พบกันคืนวันศุกร์ที่ 25 มกราคม 2556 นงวดี ถนิมมาลย์ วันนี้มากับคุณปุ้ย วรรษมน ช่างปรีชา ก็ขออนุญาตมาปฏิบัติหน้าที่แทนพี่แอน จินดารัตน์ สัก 1 สัปดาห์นะคะ
วรรษมน- ใช่ค่ะ ก็จะเป็นพิธีกรรับเชิญ ซึ่งเราก็จะมาในวันนี้มีหลายเรื่องราวที่ต้องมาพูดคุยกับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งวันนี้ก็อยู่กับเราแล้ว สวัสดีค่ะ คุณสนธิ
สนธิ- สวัสดีครับ
นงวดี- วันนี้เจอกัน คืนวันศุกร์ ไปเช็กข่าวรู้สึกว่าวันนี้จะมีแต่เรื่องข้นๆ เข้มๆ ทั้งนั้น
สนธิ- เยอะแยะไปหมด สดๆ ร้อนๆ เมื่อบ่ายนี้ก็มีเรื่องการธุดงค์ของลัทธิธรรมกาย ลัทธิจานบิน ที่สำคัญคือ สำนักพุทธศาสนาเข้าไปร่วมด้วย ก็เลยทำให้คนเริ่มตั้งคำถามว่าพุทธศาสนาเมืองไทยมันเพี้ยน มันไมใช่พุทธศาสนาเมืองไทยยังเพี้ยนนะ คนในคริสตศาสนาก็เพี้ยนเหมือนกัน วันนี้ เพราะฉะนั้นคนอยู่ในวงการศาสนาเริ่มเพี้ยนกันหมดแล้ว สงสัยเราคงต้องหนีพวกนี้ไปให้พ้นแล้วมั้ง
วรรษมน- ฉะนั้นวันนี้ใครที่อยากจะพูดคุยกับรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ สามารถพูดคุยกันได้ผ่านช่องทางสื่อสาร เหมือนเคยส่งมาที่เอสเอ็มเอสพิมพ์ N1 ตามด้วยข้อความส่งมาที่ 4850770 รวมไปถึงเฟซบุ๊ก กดไลท์คุยทุกเรื่องกับสนธิ ฝากคำถามไว้ได้เลย เพราะช่วงท้ายรายการเราจะมาถามคุณสนธิ ถามได้ทุกเรื่อง
นงวดี- ใช่คะ ข่าวสารวันนี้จะมีหลายเรื่อง แต่พยายามที่จะชงให้คุณสนธิตอบให้ครบถ้วนมากที่สุดในหลายๆ เรื่อง เพราะทุกคนตั้งตารอทุกคืนวันศุกร์ แต่ก่อนจะไปเรื่องราวของข่าวข้นๆ เข้มๆ ขออนุญาตเรื่องของคอนเสิร์ตเปิดของขวัญ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พี่น้องพันธมิตรฯ ผู้ชมนี่คือบอกว่า ประทับใจมาก และหลายๆ คนแนะนำบอกว่า ที่คุณสนธิบอกปิดไปเถอะสถานีโทรทัศน์ ไปเปิด ASTV Entertainment น่าจะรุ่งเหมือนกัน
สนธิ- หรือไม่ไปเปิดไนท์คลับไปเลย
นงวดี- ไนท์คลับไปเลย
สนธิ- เรื่องนี้ต้องชี้แจงท่านผู้ชมนิดหนึ่ง นงวดีมีท่านผู้ชมอยู่เยอะเข้าใจผิดว่า การที่เราไม่ถ่ายทอดสด เพราะจะแกล้งเขา บอกว่าทำไมคนที่มาไม่ได้ไม่มีสิทธิดูหรือไง คือเผอิญวันนั้นวันที่ 20 เขามีการเสวนาที่ขอนแก่น บ้านของปุ้ย รถถ่ายทอดสดต้องขึ้นไปวันเสาร์ที่ 19 เลยไม่มีในการถ่ายทอดสด สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี สถานีที่จน ไม่ได้มีรถถ่ายทอดสดหลายคัน รถถ่ายทอดสดใช้มาตั้ง 9 ปีแล้ว นี่กำลังกัดฟันที่หาทางผ่อนคันใหม่ เพื่อที่จะให้สภาพมันดีขึ้น เลยไม่มีการถ่ายทอดสด และอีกประการหนึ่งเราคิดว่า เนื่องจากไม่มีการถ่ายทอดสด ถ้าท่านผู้ชมคนไหนมาได้ก็อยากให้มา แต่ถ้ามาไม่ได้อย่างที่นงบอก เราจะทำดีวีดีออกมา
นงวดี- ใช่คะ แล้วจริงๆ พอวันรุ่งขึ้นก็มีหลายๆ รายการที่เอาแต่ละช่วง แต่ละตอนของคอนเสิร์ตมาไว้ วันเสาร์ที่ผ่านมาก็มาเปิดโดยเฉพาะอย่างรายการของพี่แอน ก่อนจะถึงวันจันทร์คือ เปิดแทบจะเต็มทุกรายการ พยายามรวบรวมคัดสรรที่เกิดขึ้น แต่ละตอนนี้ นะดูดุเด็ดเผ็ดมันทุกช่วง
วรรษมน- ไล่มาตั้งแต่ตอนเช้ามีลำตัด มีทนายสุวัตรที่ขี่ควาย กับป้าหญิงร้องเพลงน่ารักมาก แล้วจะมีละครเหนือเมฆ ที่ไม่ได้ดูจะได้ดูในเวทีของเรา แล้วจะมีโชว์สาวๆ ที่เป็นขาร้อง พี่นงอยู่ในนั้นด้วย ช่วงค่ำนี้จะเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ ซึ่งน้องๆ เพื่อนอย่างคุณเก๋อย่างนี้ ซึ่งเป็นมิสเวเนซุเอลาเธอสวยมาก ไม่คิดว่าเพื่อนจะสวยขนาดนี้ และร้องเพลงได้เพราะทุกคน ต้องยอมรับว่าผู้ประกาศ ASTV ทุกคน นอกจากจะเป็นพิธีกรแล้ว ยังสามารถแสดงละครเวทีได้ ร้องเพลงก็ได้
สนธิ- จริงๆ เบื้องหลังที่แท้จริงไม่มีใครรู้ เราต้องการลดค่าใช้จ่าย เลยต้องใช้พนักงาน
นงวดี- อย่างไรก็ตาม พี่น้องพันธมิตรฯ และคุณผู้ชม เราจะมีการจัดทำดีวีดีคอนเสิร์ตเปิดของขวัญออกมาโดยเร็วที่สุด ก็ติดตามจะออกมาเมื่อไหร่ จะเรียนให้ทราบ
วรรษมน- มาคุยเรื่องข่าวกันเลยพี่นง เป็นประเด็นที่ร้อนมากสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องของสมยศ พฤกษาเกษมสุข ซึ่งถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 10 ปี ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 ที่เสื้อแดงเขารณรงค์ให้มีการยกเลิกค่ะ คุณสนธิ
สนธิ- โดน 2 กรรม กรรมละ 5 ปี และโดนคดีหมิ่นประมาทของ พล.อ.สพรั่ง อีก 1 ปี เป็น 11 ปี โทษของมาตรา 112 ระหว่าง 3-15 ปี การที่พิจารณาให้ 5 ปี ถือว่าคิดแค่ 1 ใน 3 ของโทษ ทีนี้ปัญหาผมคิดว่ามันมีอยู่ 2-3 ประเด็น ที่สังคมไทยหลายๆ ส่วนไม่เข้าใจ ส่วนที่สำคัญที่สุดคือว่า ในการพิจารณาคดีถ้าเราอ่านคำพิพากษาแล้ว เราจะเห็นได้ชัดว่า 1. เป็นการพิสูจน์โดยไม่มีข้อสงสัยว่า คุณสมยศนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบทความที่จาบจ้วง กล่าวหา ตำหนิติเตียน กล่าวร้ายองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างชนิดที่เรียกว่าไม่สามารถจะพูดหรือว่าอธิบายให้ฟังได้เลย พูดไม่ได้เลย เพราะพูดเดี๋ยวคนพูดกันผิดอีก แต่ว่าเป็นข้อความที่ร้ายแรงมากๆ ข้อแรกนะครับ ตรงนี้มีจริง ข้อที่ 2.พยานของฝ่ายคุณสมยศ ซึ่งคุณสมยศเอามาเป็นพยาน คือคนจัดหน้า กลับเป็นคนให้การว่า คุณสมยศเป็นคนสั่งเอง ให้เอาเรื่องนี้ลง เพราะฉะนั้นคุณสมยศจะปฏิเสธความรับผิดชอบตรงนี้ไม่ได้ ข้อที่ 2 นะ คุณสมยศเลยผลักความรับผิดชอบตรงนี้ไป บอกว่าคนที่เขียนนั้นคือ คุณจักรภพ เพ็ญแข สนุกล่ะคราวนี้
วรรษมน- จิตร พลจันทร์
สนธิ- จิตร พลจันทรคือ ชื่อนามปากกาของจิตร ภูมิศักดิ์คือ อัศนี พลจันทร ปุ้ยไม่ทัน อัศนี พลจันทร เป็นอดีตอัยการ แล้วเข้าป่าไปเป็นพรรคคอมมิวนิสต์ ใช้คำว่า อัศนี พลจันทร และใช้ชื่อในทางศิลปวัฒนธรรมว่า จิตร ภูมิศักดิ์ ที่แต่งเพลงเปิบข้าวทุกเช้าค่ำ จงสูจำเป็นอาจิณ เหงื่อกูที่สูกินใช่ไหม เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว คำถามซึ่งจะมีต่อไปคือว่า ถ้ามันเป็นอย่างนี้แล้ว มันผิดมันเห็นชัดเจนทุกอย่าง พิสูจน์โดยที่ไม่มีข้อสงสัย การที่ศาลลงให้ 1 ส่วน 3 แค่ 5 ปี ต้องถือว่าปราณีแล้ว เพราะว่าคำต่อสู้ของคุณสมยศฟังไม่ขึ้นเลย ว่าไม่รู้เรื่อง เพราะว่าพยานคุณสมยศเอง ซึ่งทนายฝ่ายคุณสมยศเอามาสืบ กลับเป็นคนยืนยันคุณสมยศเป็นคนสั่งให้ลง
ทีนี้มันมีต่อเนื่องว่า คำถามว่าเมื่อคุณสมยศให้การเหมือนกับซัดทอดว่า จิตร พลจันทรคือ จักรภพ เพ็ญแข คำถามมีดังนี้ ข้อที่ 1.อัยการจะเอาคุณจักรภพ เพ็ญแข มาเป็นจำเลยได้ไหม
วรรษมน- ไม่ได้
สนธิ- ได้ ทำไมไม่ได้
วรรษมน- เขาไม่อยู่
สนธิ- เขาไม่อยู่ เขาฟ้องได้ เขาออกหมายได้ คำถามว่ามีสิทธิจะต้องเอามา แต่คำถามว่าอัยการจะทำหรือไม่ เห็นไหม เพราะว่าการที่คุณจักรภพ เพ็ญแข เคยไปพูดแล้วมีลักษณะหมิ่นและจาบจ้วง อัยการกลับดันทะลึ่งสั่งไม่ฟ้องบอกว่า ไม่ผิด แต่งวดนี้ผิดชัดๆ อัยการจะทำหรือไม่ทำ นี่คำถามแรกนะ อันที่ 2 ผมคิดว่าคำถามนี้น่าจะลึกซึ้งกว่าการที่จะเอาคุณจักรภพมาหรือเปล่า คือว่า หนังสือนี้มันชื่อ วอยซ์ ออฟ ทักษิณ
คำว่าวอยซ์ ออฟ ทักษิณ มันชัดเจนเลยว่า เป็นเสียงของทักษิณ ทำในนามตัวแทนทักษิณ แล้วทักษิณ ชินวัตร ไม่เคยออกมาปฏิเสธว่า ใครมาทำผมไม่รู้เรื่องนะ หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ของผม ออกมาตั้งนานแล้ว แสดงว่าทักษิณโดยปริยายในทางอ้อมเกี่ยวข้องกับหนังสือเล่มนี้ คือว่าเห็นชอบด้วย เหมือนกับคนทำหนังสือชื่อ วอยซ์ ออฟ สนธิ หรือวอยซ์ ออฟ เอเอสทีวี ถูกไหม ถ้าเราไม่เกี่ยวข้องเราบอกผมไม่เกี่ยว เอเอสทีวีไม่เกี่ยว เราต้องประท้วง ถูกไหม ถ้าเราไม่ประท้วงเท่ากับเรายอมรับว่า เรามีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มากก็น้อย เพราะฉะนั้นแล้วโดยปราศจากข้อสงสัย คุณทักษิณสมรู้ร่วมคิดกับหนังสือชื่อ วอยซ์ ออฟ ทักษิณ เมื่อสมรู้ร่วมคิดกับหนังสือชื่อ วอยซ์ ออฟ ทักษิณ แล้ว หรือว่ารับทราบ ไม่ขัดข้องเห็นด้วย ถึงจะไม่สมรู้ร่วมคิดจะต้องเห็นด้วย เพราะการใช้ชื่อเขา เป็นเสียงของทักษิณ ถ้าเขาไม่ค้านแสดงว่าเขาเห็นด้วยแล้ว ถ้าเห็นด้วยคำถามมีต่อไปว่า แล้วเรื่องราวของคุณจักรภพ เพ็ญแข หรือจิต พลจันทร์ ที่เขียนไว้นี่ คุณทักษิณจะให้คำตอบว่ายังไง ถูกไหม
ทีนี้อีกประการหนึ่งซึ่งน่าสนใจมาก สมยศเขาบอกว่าเขาไม่เกี่ยวเลย เขาเป็นแค่ลูกจ้าง รับเงินเดือนๆ ละ 15,000 คำถามก็มีอยู่เหมือนกัน ถ้าถามต่อ ว่าสำนักพิมพ์ที่ทำวอยซ์ ออฟ ทักษิณ มันไม่ได้มีแค่แขกยามคนเดียว นอกจากสมยศ มันมีกอง บก.มันมีฝ่ายศิลป์ มันมีฝ่ายจัดหน้า มันมีค่าพิมพ์ ค่ากระดาษ แล้วพิมพ์ออกมา โฆษณาก็ไม่มี วางขาย ขายได้ไม่กี่เล่ม คำถามว่าค่าใช้จ่ายเดือนเป็นแสนเป็นล้าน ใครเป็นคนออก เข้าใจหรือยัง แล้วจู่ๆ มาออกโดยไม่หวังผลได้ยังไง ถูกไหม เพราะว่าไม่ใช่หนังสือเชิงพาณิชย์ ไม่ใช่นิตยสารผู้หญิง ที่จะออกเล่มแรกแล้วโฆษณาน้อย แล้วต่อไปค่อยๆ สร้างโฆษณาไปเรื่อยๆ แล้วในที่สุด โฆษณามีรายได้มีมากกว่ารายจ่าย ก็จะมีกำไร ไม่ใช่ออก เล่มแรกก็ใช่อย่างเดียวไม่มีรายได้เข้า แสดงว่าหนังสือวอยซ์ออฟทักษิณ ที่คุณทักษิณรับรู้ด้วย ได้มีการถูกจัดทุนตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นกระบวนการในการจาบจ้วงสถาบัน และล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ชัดเจนเลยงานนี้ เข้าใจยัง ตรงนี้มันมีข้อต่อเนื่องอย่าไปมองว่า คุณสมยศโดยแค่ 10 ปีไม่ใช่ ต้องดูองค์ประกอบ พอดูองค์ประกอบก็ต้องถามต่อ อีกอันหนึ่งผมกำลังดู ว่าคุณสมยศ จะทำไงจะอุทธรณ์หรือไม่ อุทธรณ์ มีคนถามผมวันนี้ตอนเช้า ผมบอกตอนนี้ มันเป็นยุทธศาสตร์ ซึ่งฝ่ายซ้ายที่ทักษิณเลี้ยงเอาไว้ ต้องตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป อีกเรื่องหนึ่งทำไมศาลไม่ให้ประกันตัว ที่ศาลไม่ให้ประกันตัว ท่านอธิบดีศาลอาญา ท่านพูดชัดเจนว่าสมยศถูกจับขณะที่จะหลบหนีเข้าเขมร เมื่อพฤติกรรมของจำเลย แสดงอาการการหลบหนีศาลย่อมไม่ให้ประกันตัว
นงวดี- เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีเจ๋งดอกจิกใช่ไหมค่ะ
สนธิ- ถูกต้องครับ แต่เผอิญศาลอาญาพูดอะไรมากไม่ได้ เลยพูดลงลึกก็ไม่ได้ ก็เลยต้องพูดกว้างๆหลายทาง เลยเป็นเหตุทำให้ต่างชาติมองว่ากฎหมายมาตรา 112 รุนเเรงเกินไป คำถามมันมีอยู่อย่างนี้ สังคมแต่ละสังคมมีกติกา มีกฎเกณฑ์ไม่เหมือนกัน เมื่อไม่เหมือนกันแล้วเขามีกติกาและกฎเกณฑ์แบบนี้ แล้วคุณไปทำลายกฎเกณฑ์เขาคุณก็ต้องโดนโทษ คำถามคุณบอกว่า คุณอยากให้มีการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ได้ เขาไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์ ประชาชนส่วนใหญ่เขาเคารพเทิดทูนพระเจ้าอยู่หัว แล้วคุณจะมาวิพากษ์วิจารณ์ คำตอบคือถ้าอย่างนั้นคุณอย่ามาอยู่เมืองไทย คุณไปอยู่สวีเดน เหมือนกับพวกคุณไปอยู่กัน เหมือนกับพวกคุณใจ อึ้งภากรณ์ หนีไปอยู่อังกฤษ คุณไปเลย แล้วคุณจะพูดอะไรก็เรื่องของคุณ แต่ตราบใดที่คุณยังอยู่ในที่นี้ คนส่วนใหญ่เขาเห็นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ไม่ใช่บุคคลใดก็ตามที่มาจาบจ้วง หรือจะมาพูดเล่น และคำถามที่มีอยู่ตลอดเวลา และเขาชอบถาม แล้วตอบไม่ได้ พระเจ้าอยู่หัวหนักหัวกบาลอะไรมึง ท่านทำอะไรที่หนักหัวกบาลคุณ เข้าใจไหม
ทีนี้ยุทธศาสตร์เขามี 2 ยุทธศาสตร์ ยุทธศาสตร์แรกถ้าอยากให้สมยศจบคือว่า สมยศก็ไม่อุทธรณ์ ปล่อยให้สิทธิการอุทธรณ์ 30 วัน ถ้า 30 วันเขาไม่อุทธรณ์ เขาสละสิทธิ์ในการอุทธรณ์ เมื่อสละสิทธิ์เท่ากับว่าคำพิพากษาถึงที่สิ้นสุด เขาสามารถจะถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ แต่เขาต้องบอกว่าเขาสำนึกผิดแล้ว เพราะในคำพิพากษาบอกว่าสมยศไม่สำนึกผิด เมื่อสมยศไม่สำนึกผิดจะไปขอถวายฎีกาก็ไม่ได้ แต่ถ้าสำนึกผิดขอถวายฎีกาผมเชื่อว่าสำนักพระราชวังคงเสนอเรื่อง และน่าจะออกมาในรูปที่ดีกับสมยศ อาจจะปล่อยตัว อภัยโทษให้เลยถ้าสำนึกผิด แต่นั่นเป็นยุทธศาสตร์ที่ฝ่ายซ้ายไม่ต้องการ เพราะฝ่ายซ้ายต้องการที่จะให้สมยศคาไว้ตรงนั้น อุทธรณ์ เพื่อเป็นชนวนต่อไปในอนาคต เหมือนกรณีอากง แล้วอีกอย่างหนึ่งถ้าสมยศจะทำเช่นนั้น แสดงว่า การเสียสละส่วนตัวของสมยศ จะได้รับค่าตอบแทนพอสมควร เช่น ครอบครัวได้รับการดูแล และอีกอย่างหนึ่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นคนของฝ่ายพรรคเพื่อไทย เขาอาจจะดูแลคุณสมยศดี เพราะฉะนั้นตอนนี้เขามีอยู่ 2 ยุทธศาสตร์ ขึ้นอยู่กับว่า เขาจะเลือกยุทธศาสตร์ไหน
นงวดี- เพราะว่าในด้านหนึ่ง เหมือนกับว่าต้องเลือกอยู่ในระหว่างว่า ถ้าจะขอพระราชทานอภัยโทษ
สนธิ- เขาต้องสำนึกผิด
นงวดี- ต้องสำนึกผิด แต่ว่าในขณะเดียวกัน เส้นทางหรือยุทธศาสตร์อันหนึ่งที่ต้องการจะผลักดัน และป้ายความผิด และเดินหน้าเรื่องมาตรา 112 มันจะเบาลง
สนธิ- เบาลง เพราะฉะนั้นแล้วเขาต้องให้สมยศติด เขาต้องคุยกันให้เรียบร้อยว่า ต้องอุทธรณ์ และต้องไม่สำนึกผิด และเขาจะเดินหน้าเรื่องมาตรา 112 เต็มที่ เพราะว่ามันเป็นกระบวนการทั้งหมดไงเห็นหรือยัง
****สัญญาณหาย *****
นงวดี- มาคุยกันต่อกับคุยทุกเรื่องกับสนธินะคะ เมื่อสักครู่เราต้องตัดในช่วงกลางไปสักนิดหนึ่ง เพราะมีปัญหาเรื่องของสัญญาณ
สนธิ- อุปกรณ์เรามันเก่า
นงวดี- เก่าแล้ว
สนธิ- สถานีโทรทัศน์มันจน
นงวดี- มันก็จะเป็นอย่างนี้นะคะ
สนธิ- มันจะเป็นอย่างนี้ท่านผู้ชมเอ๊ย ทนๆ หน่อยแล้วกัน
นงวดี- คุณผู้ชมคงชินแล้ว
วรรษมน- แต่ปุ้ยว่าดีกว่าสมัยก่อน จำได้ว่าถ้าเกิดฝนตกมาปุ๊บ สัญญาณจะขาดๆ หายๆ
สนธิ- ตอนนี้ดีขึ้น
วรรษมน- ตอนนี้ไม่มีแล้วแบบนั้น
นงวดี- มาต่อเรื่องของนายสมยศกันนะคะ ซึ่งเมื่อกี้คุณสนธิตีประเด็นให้เรามองให้กว้างออกไปว่ามันหมายถึงอะไรอีก
สนธิ- มองหลายมิติ มองให้ลึกลงไป
นงวดี- มีนิดหนึ่งที่อยากจะแก้ไขสักนิด นายอัศนี พลจันทร์
สนธิ- ใช่ อัศนี พลจันทร์ หรือ นายผี
นงวดี- ไม่ใช่นายจิต
สนธิ- ไม่ใช่ๆ โทษที อันนี้ผมผิดพลาดเอง
นงวดี- ส่วนเมื่อสักครู่ที่ค้างไว้คือในแง่มุมของต่างชาติที่เขามองมาในกรณีที่ตัดสินนายสมยศในครั้งนี้ จะมองแล้วรู้สึกว่ามันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือเปล่า มากเกินไปไหม แล้วย้อนกลับไปไม่ใช่นายสมยศเป็นคนแรก ก่อนหน้านี้ก็มีอากง มีดา ตอร์ปิโดมีหนุ่มคนหนึ่งที่ทำเว็บไซต์
สนธิ- ผมว่าด้วยความเคารพต่อศาล ด้วยความเคารพต่อกฎหมาย ผมไม่อยากจะยกตัวผมเป็นตัวอย่าง ผมคิดว่าเจตนามันเป็นเครื่องพิสูจน์ ส่วนกฎหมายกติกาว่า ในประเทศนี้เขาร่างกฎหมายนี้ขึ้นมา เพื่อป้องกันอันโน้นอันนี้ ต่างชาติต้องยอมรับ ต่างชาติไม่ยอมรับไม่ได้ เพราะว่าสภาพสิ่งแวดล้อมของสังคมไม่เหมือนกัน เมื่อไม่เหมือนกันคุณจะให้การร่างกฎหมายในสังคมไทยเหมือนกัน ร่างกฎหมายที่พวกคุณเคยชินในประเทศคุณไม่ได้ เรากินข้าว คุณกินขนมปัง มองแค่นี้ก็เห็นแล้วว่าต่างกัน ถ้ามองในเรื่องของมาตรา 112 ในเรื่องของผมศาลยกฟ้อง ที่ศาลยกฟ้องเพราะว่า ผมพิสูจน์ และศาลเห็นการพิสูจน์ชัดเจน อย่างที่ปราศจากข้อสงสัยว่า ผมไม่ได้มีเจตนาใดๆ ทั้งสิ้น ผมทำไปผมไปเล่าว่า ดา ตอร์ปิโดไปพูดจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ พูดแบบไหน ลักษณะพูดอย่างไร และผมพูดไปเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ สืบกันดุเดือดมาก สู้กันถึงพริกถึงขิง และแม้กระทั่งพยานของฝ่ายโจทก์คือ อัยการหลายคน ยังตอบคำถามเข้าข้างผม
อย่างยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ ว่า อย่าง พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ให้การปรักปรำผม แต่เมื่อทนายสุวัตร ถาม พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโนว่า ถามจริงๆ ถามอย่างตรงไปตรงมา คุณคิดว่าคุณสนธิที่พูดเรื่องดา ตอร์ปิโด พูดโดยมีเจตนาหรือไม่เจตนาเขาบอกว่าเขาขอไม่ตอบ อันนี้พิสูจน์ชัด เขาเอาแม่ค้าคนหนึ่งมา ที่ขายกาแฟอยู่ตรงที่ชุมนุมเขาบอกว่าได้ยิน คุณสนธิพูดไม่ เขาบอกได้ยิน คุณสนธิเป็นคนที่รักพระเจ้าอยู่หัว รักบ้านรักเมือง พูดไปไม่เห็นมีไรเสียหาย ปรากฎว่า อัยการหยุดถามเลย มันอยู่ที่การนำเสนอ ถ้าคุณพิสูจน์ได้แล้ว คุณไม่มีเจตนาก็จบแต่ ถ้าคุณมีเจตนา คุณก็ผิด เพราะอย่างนั้นอย่าไปกังวล ว่าต่างชาติจะพูดอย่างไรกับเรา ข้อที่ 1 คนละประเทศ คนละสิ่งแวดล้อม อย่าไปกังวล ปัญหาใหญ่ที่สุดคือเราขาดการชี้แจงเท่านั้นเองให้เข้าใจ มีอยู่เท่านี้
นงวดี- ใช่คะ ต่างชาติไม่ได้เข้าใจไทยทั้งหมด
สนธิ- เขาจะไปเขาใจได้ยังไง
นงวดี- และมีอยู่หลายที่ที่เอาพระพุทธรูปไปทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ควร
สนธิ- ความจริงเอาพระพุทธรูปซื้อไปประดับร้านอาหาร บางเจ้าเอาไปวางบนพื้น
วรรษมน- บางเจ้าเอาไปติดหน้าห้องน้ำ
สนธิ- ถูกต้อง ถามว่าถ้าสมมติว่าเราจะบอกว่าต่างชาติทำไม่ถูก ต่างชาติเขาบอกเรื่องนี้ธรรมดา อ้าว แล้วเรื่องกูไม่ธรรมดาเหรอ มึงเสือกอะไรด้วย ถ้าพูดแรงๆหน่อย เราอย่าไปกังวลเรื่องต่างชาติ เรากินข้าว เรากินน้ำพริกปลาทู วิถีชีวิตของเรา เรารักษาเอาไว้ อะไรเหมาะเรารักษา อะไรไม่เหมาะเราไม่เอา จบ เท่านั้นเอง เขารับได้ก็ดี เขารับไม่ได้ก็โอเค
วรรษมน- ส่วนนักวิชาการล่ะคะคุณสนธิ
สนธิ- ไอ้นักวิชาการเรียนหนังสือมาจากเมืองนอก มันคิดแบบฝรั่ง มันก็คิดแบบนั้น ถ้าถามว่าถ้าคุณไม่มีมาตรา 112 แล้ว ใครๆ สามารถวิพากษวิจารณ์พระเจ้าอยู่หัวได้ คุณต้องการเช่นนั้นหรือ ถ้าต้องการเช่นนั้นเรามาทำประชามติกันทั่วประเทศไทย ว่าคนไทยทั้งหมดจะเห็นด้วยกับคุณไหม ถ้าเขาไม่เห็นด้วยกับคุณ คุณลาออกจากประชาชนคนไทยแล้วไปอยู่ที่อื่นเลยไหม จบ
วรรษมน- จากเรื่องนี้เราไปต่อกันที่เรื่องของ ดร.ปึ้ง กันต่อดีกว่าเพราะว่า ดร.ปึ้ง เรารู้สึกว่า สถานะของแก ไม่รู้เหมือนกันว่าตกลงจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศไทย หรือว่าเป็นโฆษกส่วนตัวของฮุน เซน เพราะล่าสุดก็มีการอ่านแถลงการณ์ของทางกัมพูชา กรณีพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา บริเวณพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล
สนธิ- คือมันมี 2 มิติ สิ่งที่คุณสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล พูดออกมาคือว่า ประการแรก มันไม่ใช่กงการอะไรของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย ที่จะต้องมาอ่านแถลงการณ์ของฮุน เซน
นงวดี- แปลแถลงการณ์กัมพูชา
สนธิ- แปลแถลงการณ์กัมพูชา เพราะฉะนั้นแล้ว คุณให้สัตย์ ถวายสัตย์กับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าคุณจะรับใช้ชาติ ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต กลายเป็นว่าคุณมารับใช้ฮุน เซน นั่นคือมิติหนึ่ง แต่อีกมิติหนึ่งก็คือว่า สิ่งที่สุรพงษ์ทำ เป็นการเมืองหมด เหตุผลที่เป็นการเมืองก็เพราะว่าเขาต้องการเอาแถลงการณ์ของฮุน เซน มาเล่นงานอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
วรรษมน- กับสุเทพด้วย
สนธิ- กับสุเทพ เทือกสุบรรณ ในข้อเท็จจริงไม่ทราบว่าปุ้ยกับนงวดีจำได้มั้ย ผมเคยอภิปราย และผมเคยพูด บอกว่าสุเทพแอบไปพบซก อาน ที่ฮ่องกง
นงวดี/วรรษมน- จำได้
สนธิ- เงียบกริบ ไม่มีใครพูดสักคำ ประชาธิปัตย์บอกว่าผมใส่ร้าย วันนี้ฮุน เซน เป็นคนพูดเอง
วรรษมน- เอามาแฉ
สนธิ- เอามาแฉเองเลยว่าพบที่ฮ่องกง เห็นหรือยัง เอเอสทีวี แล้วพบกันไม่ได้ไปประชุมด้วย ไปนั่งกินกาแฟคุยกันที่ล็อบบี้โรงแรมเพนนินซูลา ตรงมุมข้างๆ ร้านขายซิการ์เดวิดอส
วรรษมน- ละเอียดกว่าฮุน เซน
สนธิ- ละเอียดถึงขนาดนั้น เพราะฉะนั้นแล้วสิ่งซึ่งฮุน เซน พยายามพูดบอกว่า ไอ้คนซึ่งพยายามที่จะมาขอเจรจาลับ ก็คืออภิสิทธิ์ กับสุเทพ ในขณะซึ่งเขามาปกป้องทักษิณ ว่าทักษิณไม่เคยคิดจะเจรจาลับ เจรจาเปิดเผย คือพูดง่ายๆ ว่าปกป้องทักษิณ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ฮุน เซน อยากปกป้องใครก็ปกป้องไป ไม่หนักกบาลผม แต่ว่าไม่ใช่หน้าที่ของสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ที่แถลงเช่นนี้คือมิติของการล้างแค้นพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นเอง แต่ว่าถ้าฮุน เซน แถลงอยู่ที่เขมร แล้วนักข่าวต่างประเทศแปลออกมา และในที่สุดแล้วหนังสือพิมพ์เอเอสทีวี รับมา แล้วมาลง ไม่เป็นไร แต่ไม่ใช่หน้าที่รัฐมนตรีต่างประเทศ
วรรษมน- ใช่ค่ะ เพราะวันนั้นนักข่าวก็คิดว่า เอ๊ะ เดี๋ยวจะมีการแถลงข่าวความคืบหน้าการประชุมวันนี้หรือเปล่า ปรากฏว่ากลายเป็นไปแถลงข่าวของทางกัมพูชา ไปเป็นโฆษกให้เขา
สนธิ- คือใช้ไม่ได้ แต่ว่าผมเตือนอะไรไว้อย่างพวกนักการเมือง วันนี้สุเทพต้องรู้คุณทำอะไรไว้ คุณสังเกตอะไรอย่างไหมปุ้ย ปุ้ยทำข่าวตอนเช้า ปุ้ยจะต้องรู้ ปุ้ยจำเรื่องโรงพักได้ไหม
วรรษมน- โรงพักที่สร้างไม่เสร็จนั้นหรอคะ จำได้ 300 กว่าแห่ง
สนธิ- เรื่องนี้เรื่องใหญ่มาก พรรคประชาธิปัตย์ไม่พูดสักคำเลยเห็นไหม
วรรษมน- เงียบกริบ
สนธิ- เงียบกริบเลยไหม สุเทพ เทือกสุบรรณ เงียบกริบ อภิสิทธิ์เงียบกริบ สาทิตย์ วงศ์หนองเตย เงียบกริบ ทุกคนเงียบกริบ กริบ เพราะว่ามันเซ็นสัญญาในช่วงไหน ช่วงที่สุเทพ เทือกสุบรรณ ดูแลตำรวจอยู่ เห็นไหม แต่ที่น่าสนใจอย่างเฉลิมก็เงียบกริบ
นงวดี- กริบเหมือนกัน
สนธิ- กริบเหมือนกัน เพราะฉะนั้นแล้วคุณจะเห็นว่า ไอ้นักการเมืองมันชั่วทั้งนั้น ไม่ว่ามันอยู่พรรคไหน เพราะว่าแสดงว่า ไอ้คนซึ่งประมูลงานได้แล้วผิดสัญญา มันเข้าได้ทุกพรรค ตั้งแต่ชูวิทย์ออกมาโวยวายปังๆ ก็กระโดดโลดเต้นอยู่สักพัก แล้วก็เงียบกริบ กริบจริงๆ เห็นชัดเจนแล้วในที่สุดมันจะเข้าอีหรอบเดิม อดุลย์ แสงสิงแก้วบอกว่า ต้องยกเลิกการประมูลครั้งเก่า ขอประมูลใหม่ เจ้าเดียวเลย เหมือนเดิม คือว่าจะทำมาหาแดกกันในกรุงเทพฯ เจ้าเดิมใครได้ไปต้องจ่ายค่าหัวคิวไป
นงวดี- โมเดลเดียวกัน
สนธิ- โมเดลเดียวกัน จริงแล้วงบประมาณตำรวจที่สร้างโรงพัก ถ้าต้องการที่จะกระจายอำนาจจริง ให้ผู้การจังหวัดหรือผู้บัญชาการภาคเขารับไป จังหวัดนั้นรับไปเท่าไหร่ ดีๆ ชั่วๆ ก็ให้ไอ้ผู้รับเหมา กับพวกท้องถิ่นมันได้บ้าง ใช่ไม่ใช่ อย่างน้อยไอ้ผู้การจังหวัดยังมีเศษมีหาเศษหาเลยได้บ้าง แล้วนี่มันงานสร้างตึกสร้างอาคารมันงานโยธาหรือเปล่า ปรากฏว่ากลายเป็นไปแถลงข่าวของทางกัมพูชา ไปเป็นโฆษกให้เขา
สนธิ- คือใช้ไม่ได้ แต่ว่าผมเตือนอะไรไว้อย่างพวกนักการเมือง วันนี้สุเทพต้องรู้คุณทำอะไรไว้ คุณสังเกตอะไรอย่างไหมปุ้ย ปุ้ยทำข่าวตอนเช้า ปุ้ยจะต้องรู้ ปุ้ยจำเรื่องโรงพักได้ไหม
วรรษมน- โรงพักที่สร้างไม่เสร็จนั้นหรอคะ จำได้ 300 กว่าแห่ง
สนธิ- เรื่องนี้เรื่องใหญ่มาก พรรคประชาธิปัตย์ไม่พูดสักคำเลยเห็นไหม
วรรษมน- เงียบกริบ
สนธิ- เงียบกริบเลยไหม สุเทพ เทือกสุบรรณ เงียบกริบ อภิสิทธิ์เงียบกริบ สาทิตย์ วงศ์หนองเตย เงียบกริบ ทุกคนเงียบกริบ กริบ เพราะว่ามันเซ็นสัญญาในช่วงไหน ช่วงที่สุเทพ เทือกสุบรรณ ดูแลตำรวจอยู่ เห็นไหม แต่ที่น่าสนใจอย่างเฉลิมก็เงียบกริบ
นงวดี- กริบเหมือนกัน
สนธิ- กริบเหมือนกัน เพราะฉะนั้นแล้วคุณจะเห็นว่า ไอ้นักการเมืองมันชั่วทั้งนั้น ไม่ว่ามันอยู่พรรคไหน เพราะว่าแสดงว่า ไอ้คนซึ่งประมูลงานได้แล้วผิดสัญญา มันเข้าได้ทุกพรรค ตั้งแต่ชูวิทย์ออกมาโวยวายปังๆ ก็กระโดดโลดเต้นอยู่สักพัก แล้วก็เงียบกริบ กริบจริงๆ เห็นชัดเจนแล้วในที่สุดมันจะเข้าอีหรอบเดิม อดุลย์ แสงสิงแก้วบอกว่า ต้องยกเลิกการประมูลครั้งเก่า ขอประมูลใหม่ เจ้าเดียวเลย เหมือนเดิม คือว่าจะทำมาหาแดกกันในกรุงเทพฯ เจ้าเดิมใครได้ไปต้องจ่ายค่าหัวคิวไป
นงวดี- โมเดลเดียวกัน
สนธิ- โมเดลเดียวกัน จริงแล้วงบประมาณตำรวจที่สร้างโรงพัก ถ้าต้องการที่จะกระจายอำนาจจริง ให้ผู้การจังหวัดหรือผู้บัญชาการภาคเขารับไป จังหวัดนั้นรับไปเท่าไหร่ ดีๆ ชั่วๆ ก็ให้ไอ้ผู้รับเหมา กับพวกท้องถิ่นมันได้บ้าง ใช่ไม่ใช่ อย่างน้อยไอ้ผู้การจังหวัดยังมีเศษมีหาเศษหาเลยได้บ้าง แล้วนี่มันงานสร้างตึกสร้างอาคารมันงานโยธามันไม่ใช่งานสร้างโรงไฟฟ้า มันไม่ใช่งานสร้างโรงกลั่นน้ำมันงานสร้างเขื่อนใครๆ ก็ทำได้ เอางานไปลงกรุงเทพฯ เพราะไอ้เจ้าที่ประมูลได้มันต้องซับเอาไปอยู่ มันต้องไปหาผู้รับเหมาที่โคราชทำ ไปหาผู้รับเหมาที่ขอนแก่นทำใช่ไม่ ถูกไม่ถูก ใครจะไปรู้ เรายกตัวอย่างให้ฟัง แล้วนี้ก็ลงจังหวัดไปเลย ก็ไม่ เพราะทุกอย่างมันมารวมที่นี้มันคลิก แล้วจะอธิบายเรื่องผู้ว่าฯ กทม.ให้ฟังมามันเป็นอย่างนี้ มันถึงทำให้การเมืองไม่เจริญ แล้วตอนคำถามถามผมเรื่องนี้
นงวดี- ได้ค่ะ ตอนคำถามจะถามแล้วกันสรุปว่า เรื่องของสุรพงษ์ ทางฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ออกมาว่า สุรพงษ์ทำตัวเป็นโฆษกเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศเขมร ขณะเดียวกันไม่พูดถึงเนื้อหา ไม่พูดถึงตัวเอง
สนธิ- ว่าที่ไปพบลับที่ฮ่องกงนั้นจริงหรือเปล่า นี้ไงที่ผมจะบอกไอ้พวกนักการเมืองที่พบจะบอกขยะแขยงมันมากจริงๆ มีคนมาถามผมบอกว่าคุณสนธิเลือกผู้ว่าฯ ครั้งนี้จะเลือกใคร ผมบอกว่า เห้ยคุณนี้ยังอ่านผมไม่ออก
วรรษมน- ยังจะมาถามอีกใช่ เพราะจริงๆ เรามีมุกตอนนี้ ไม่เลือกเราเขามาแน่แบบนี้ ค่อยว่ากันมากันที่เรื่องสังขาร ของเรากันดีกว่าคุณสนธิเมื่อช่วงเที่ยงทำข่าวอยู่ว่า มีบุคคลซึ่งเป็นถึงระดับรัฐมนตรีเสียชีวิตนั้นก็คือ คุณชุมพล ศิลปอาชา เป็นรองนายกรัฐมนตรี แล้วก็เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และก็เป็นน้องชายของอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ของประเทศไทย คุณบรรหาร
สนธิ- ธรรมดาแล้วในครอบครัวตามหลักธรรม พ่อต้องตายก่อนลูก พี่ต้องตายก่อนน้อง คุณชุมพลผมรู้จักแต่ไม่สนิทแต่ดูเหมือนเขาเคยพาดพิงถึงผมในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญโดยซักมากเขาบอกว่า ไปถามสนธิดู ซึ่งโทษนะกูเกี่ยวอะไรด้วย
นงวดี- ตอบไม่ได้ให้ไปถามสนธิ
สนธิ- คือตอบไม่ได้ไปถามสนธิดู
วรรษมน- คือคุยทุกเรื่องกับสนธิ
สนธิ- อะไร อะไร ก็สนธิทั้งนั้น ผมคิดว่าเรื่องของชุมพล ต้องโยงเข้าเรื่อง พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ และต้องโยงเข้าหาเรื่องนักการเมืองหลายท่าน ตลอดจนข้าราชการระดับสูงหลายคนที่ผมรู้มา ข้าราชการระดับสูง นักการเมืองหลายคนกำลังไม่สบายหนักคือผมไม่อยากจะพูดถึงเรื่องของจิตวิญญาณ เดี๋ยวจะหาว่าผมเพ้อเจ้อ แต่ผมเป็นคนที่เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม ไม่มีใครหนีพ้น พระพุทธเจ้ายังหนีไม่พ้นเลย ยังโดนหินที่พระเทวทัตทุ่มใส่ หินไปทับหัวแม่เท้าของพระองค์ท่านเจ็บ นี่คือกฎแห่งกรรม เทวทัตก็โดนแผ่นดินสูบ กฎแห่งกรรมมันตามมาทัน มันตามมาเร็ว และช่วงหลังผมไม่รู้ว่าเป็นอะไรนะ อัยการ ผู้พิพากษาบางคนเป็นมะเร็งหนักเลย แล้วก็ไม่ไหว ปรากฏว่าบางคนคิดออก บางคนคิดไม่ออก ว่าตัวเองคงทำอะไรไปในช่วงที่มีอำนาจ นักการเมืองก็เหมือนกัน ทีนี้คุณชุมพลตายไปบทเรียนคุณชุมพลมีง่ายนิดเดียว เหรียญบาทที่เขายัดใส่ปากคุณชุมพลยังไงก็เอาไปไม่ได้ แต่ที่ผมอยากจะเตือนคุณบรรหาร ศิลปอาชา นิดหนึ่งผมเห็นใจคือ คุณบรรหารเคยทบทวนตัวเองบ้างหรือเปล่า ถ้ามองย้อนหลังไปนิดหนึ่ง ผมมองว่าลางร้ายของพวกคุณบรรหารมาตั้งแต่วันที่เขาฉลองมังกรทองแล้วไฟไหม้คนตายไปหลายคน ในทางจิตวิญญาณ มังกรหรือว่า รูปปั้นศักดิ์สิทธิ์อะไรก็ตาม มันจะมีวิญญาณสิงอยู่
นงวดี- ตั้งปลุกไว้คะ ขออภัย
สนธิ- ท่านผู้ชมครับ แฟนเขาไปอยู่ที่ทางใต้ไปทำงานทางใต้ เลยคิดถึงกันเลยโทรมา
นงวดี- ต้องเปิดเรื่องติดต่อไว้ตลอด
สนธิ- คืออะไรก็ตามที่มันเป็นลางร้ายขึ้นมา และมันเป็นลางจริง และมันไม่ใช่ลางธรรมดา ไฟไหม้มังกรทอง ธรรมดาเวลาตั้งมังกรทองต้องมีพิธีการ เขาต้องมีการบวงสรวงมีโน้นมีนี่ แล้วจู่ๆ ไฟลุกพรึบเลย บางคนมองในหลักวิทยาศาสตร์ บอกคุณสนธิคุณเพ้อเจ้อ ไฟมันช็อตได้ ก็ไม่เป็นไรก็ว่ากันไป แต่ผมดูแล้วคุณบรรหาร ผมกลัวว่าคุณบรรหารตอนที่แกตาย แกจะตายอย่างทรมาน หรือว่าจู่ๆ หายไปเลย คือ 1.แกอายุมากแล้ว แกยังไม่รู้จักพอ ตรงนี้ไง 82 เมื่อแกยังไม่รู้จักพอ ความจริงแล้วบทเรียนน้องชายน่าจะเตือนแกได้เหมือนกัน ใช่ไหมครับ จู่ๆ ไม่มีเหตุไม่มีผล ฟุบทันทีเลย และสังเกตอย่างคุณชุมพล คล้ายๆ พล.ต.สนั่นคือ ไม่ตายทันที
วรรษมน- เข้าโรงพยาบาลตั้งแต่ปีที่แล้ว
สนธิ- คุณเสธ.หนั่น เข้าโรงพยาบาลตั้งแต่
นงวดี- พฤศจิกาฯ คุณชุมพลนี่เดือนธันวาฯ
สนธิ- แต่คุณชุมพลเป็นเดือน
นงวดี- 17 ธันวาฯ ก่อนหน้านั้นวูบไปรอบแล้วด้วย
สนธิ- คนที่จู่ๆ แล้วนอนหลับ และไม่ตื่นเลยเขาเรียกตายอย่างสงบ จิตสงบ จิตนิ่งใช่ไหม ทีนี้พอวูบอย่างนี้ตัวเองไม่รู้ตัว แล้วก็ต้องช่วยตลอดเวลา ก็เหมือนกับผักที่เขาเรียกว่า เป็นผักไปแล้วใช่ไหม ผมถึงบอกว่ากฎแห่งกรรมนี่มันมา คือที่ผมพูดไม่ได้แปลว่า คุณชุมพลทำอะไรชั่ว หรือไม่ชั่ว ทำหรือไม่ทำ คุณบรรหารต้องรู้เอง ผมเชื่ออย่างปุ้ย ใครก็ตามที่โกงแผ่นดิน แม่งมีอันเป็นไปหมด เป็นไปอย่างไม่ดีด้วย และผมก็ไม่ต้องรอดูนักการเมืองหลายๆ คน
นงวดี- มีคนรอว่า เมื่อไหร่คนที่ชื่อว่า ทักษิณ วอยซ์ออฟทักษิณ จะไปด้วยสักที
มันจะมีวิญญาณสิงอยู่
นงวดี- ตั้งปลุกไว้คะ ขออภัย
สนธิ- ท่านผู้ชมครับ แฟนเขาไปอยู่ที่ทางใต้ไปทำงานทางใต้ เลยคิดถึงกันเลยโทรมา
นงวดี- ต้องเปิดเรื่องติดต่อไว้ตลอด
สนธิ- คืออะไรก็ตามที่มันเป็นลางร้ายขึ้นมา และมันเป็นลางจริง และมันไม่ใช่ลางธรรมดา ไฟไหม้มังกรทอง ธรรมดาเวลาตั้งมังกรทองต้องมีพิธีการ เขาต้องมีการบวงสรวงมีโน้นมีนี่ แล้วจู่ๆ ไฟลุกพรึบเลย บางคนมองในหลักวิทยาศาสตร์ บอกคุณสนธิคุณเพ้อเจ้อ ไฟมันช็อตได้ ก็ไม่เป็นไรก็ว่ากันไป แต่ผมดูแล้วคุณบรรหาร ผมกลัวว่าคุณบรรหารตอนที่แกตาย แกจะตายอย่างทรมาน หรือว่าจู่ๆ หายไปเลย คือ 1.แกอายุมากแล้ว แกยังไม่รู้จักพอ ตรงนี้ไง 82 เมื่อแกยังไม่รู้จักพอ ความจริงแล้วบทเรียนน้องชายน่าจะเตือนแกได้เหมือนกัน ใช่ไหมครับ จู่ๆ ไม่มีเหตุไม่มีผล ฟุบทันทีเลย และสังเกตอย่างคุณชุมพล คล้ายๆ พล.ต.สนั่นคือ ไม่ตายทันที
วรรษมน- เข้าโรงพยาบาลตั้งแต่ปีที่แล้ว
สนธิ- คุณเสธ.หนั่น เข้าโรงพยาบาลตั้งแต่
นงวดี- พฤศจิกาฯ คุณชุมพลนี่เดือนธันวาฯ
สนธิ- แต่คุณชุมพลเป็นเดือน
นงวดี- 17 ธันวาฯ ก่อนหน้านั้นวูบไปรอบแล้วด้วย
สนธิ- คนที่จู่ๆ แล้วนอนหลับ และไม่ตื่นเลยเขาเรียกตายอย่างสงบ จิตสงบ จิตนิ่งใช่ไหม ทีนี้พอวูบอย่างนี้ตัวเองไม่รู้ตัว แล้วก็ต้องช่วยตลอดเวลา ก็เหมือนกับผักที่เขาเรียกว่า เป็นผักไปแล้วใช่ไหม ผมถึงบอกว่ากฎแห่งกรรมนี่มันมา คือที่ผมพูดไม่ได้แปลว่า คุณชุมพลทำอะไรชั่ว หรือไม่ชั่ว ทำหรือไม่ทำ คุณบรรหารต้องรู้เอง ผมเชื่ออย่างปุ้ย ใครก็ตามที่โกงแผ่นดิน แม่งมีอันเป็นไปหมด เป็นไปอย่างไม่ดีด้วย และผมก็ไม่ต้องรอดูนักการเมืองหลายๆ คน
นงวดี- มีคนรอว่า เมื่อไหร่คนที่ชื่อว่า ทักษิณ วอยซ์ออฟทักษิณ จะไปด้วยสักที
สนธิ- คือผมคิดว่าทักษิณ อย่าไปมองว่าเขามีความสุขสบายนะ ผมเคยถามพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัว ตอนท่านยังมีชีวิตอยู่ ที่สวนแสงธรรมนี่ล่ะ เดินกัน เจ๊หมวยก็เดินอยู่ด้วย เจ๊หมวยคือโยมอุปัฏฐาก เป็นแม่ครัว ทำอาหารให้หลวงตาฉันมาร่วม 30 ปีแล้ว หลวงตาขา ทักษิณมันสบายไปแล้วนะ มันอยู่เมืองนอก .. ไม่ๆ ตอนนั้นอยู่เมืองไทย ทักษิณเขามีความสุข หลวงตาหันมาบอกว่า รู้ได้ยังไง ทักษิณนี่ ใจมันคือไฟสุมขอน เข้าใจคำว่าไฟสุมขอนมั้ย ร้อนรุ่มอยู่ในใจ ไม่มีความสงบ ไม่มีความสุข วันนี้ตื่นมาตอนเช้าก็ กูจะกลับเมืองไทยได้เมื่อไร ตื่นมาตอนเช้า กูจะสั่งใครให้ทำอย่างนี้ให้กู ตื่นมาตอนเช้า กูจะติดต่อนักธุรกิจคนนี้ แล้วเดี๋ยวกูต้องโทรไปหาน้องสาวกูเพื่อให้จัดการเรื่องนี้หน่อย ตื่นมาตอนเช้า เอ้าตายห่า มันไม่เป็นตามแผน อ้าว ตื่นมาตอนเช้า ไม่ได้แล้วงานนี้ .. นี่ความสุขเหรอ
วรรษมน- เหมือนตายทั้งเป็น
สนธิ- ตายทั้งเป็น ไฟสุมขอน เพราะฉะนั้นแล้ว เรื่องของคุณชุมพล ศิลปอาชา กับเรื่องของคุณทักษิณ เป็นเรื่องตัวอย่างที่คลาสสิคที่สุด แล้วขอให้เชื่อผม ขอให้เชื่อเลยนะท่านผู้ชม ขอให้เชื่อเลย คนที่โกงชาติ โกงบ้านโกงเมือง ต้องมีอันเป็นไปทุกคน นับประสาอะไรกับคนที่ขายชาติ ขายบ้านขายเมือง คนที่มีหน้าที่ต้องทำ ต้องปกป้องแผ่นดิน ไม่ว่าข้าราชการ ทหาร ตำรวจ หรือนักการเมือง ถ้าไม่ปกป้องแผ่นดินแล้วยกแผ่นดินใหักับต่างชาติ แล้วจงใจอยู่เบื้องหลังการทำให้ต้องเสียแผ่นดินให้ต่างชาติ มันจะฉิบหายไม่ใช่เฉพาะตัวมัน ชั่วโคตรมัน ทั้งพี่ทั้งน้อง ทั้งลูกทั้งหลานมัน ตลอดไปทั้งวงศ์ตระกูล สืบทอดไปเลย ขอให้ดูเป็นตัวอย่างได้
มีอยู่คนหนึ่ง อยู่กระทรวงการต่างประเทศ ตายห่าไปแล้ว มีอยู่คนหนึ่ง อยู่กรมแผนที่ทหาร ก็ตายห่าไปแล้ว จำได้หรือเปล่า ตายแบบไม่ควรตาย ไอ้คนซึ่งไปวาดแผนที่เข้าข้างเขมร ตายเลย
วรรษมน- แต่ต้องรอเวลาใช่มั้ยคะคุณสนธิ ตายเร็ว ตายช้า
สนธิ- แต่มันเริ่มเร็วแล้วนะปุ้ย มันเริ่มเร็วแล้วนะ อย่าลืมนะช่วงนี้มัน ยุคนี้มันยุคดิจิตอลนะ
นงวดี- ใช่วันนั้น หลังมีข่าวคุณชุมพลเสียชีวิต ก็มีข่าวส.ส.คนหนึ่งที่อยู่ในสภาอายุมากเหมือนกัน คุณ นิยม วรปัญญา อายุ 82 ก็วูบไปเหมือนกัน ทุกคนก็เลยว่าสรุปว่ากงล้อแห่งกรรมเริ่มมาเรื่อยๆ
สนธิ- คือผมอยากจะเตือนคุณบรรหารนิดหนึ่งว่าอายุก็มากแล้ว คือที่ผมเสียดายคือช่วงที่คุณน้องชายตาย คนมาถามว่าจะเอาใครมาเป็นรัฐมนตรีแกมีคนในใจอยู่แล้ว ศพน้องชายยังไม่เย็นเลยพูดเรื่องนี้แล้ว ที่ถูกต้อง ต้องบอกว่าผมขออย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้น้องชายผมเพิ่งเสีย
นงวดี- เพราะน้องชาย คุณชุมพล ก็มาทำหน้าที่เป็นนอมินีให้แก ตอนก่อนหน้านั้นแกไปลงเป็นวุฒิสภาด้วยเป็นวุฒิสมาชิกด้วย พอพี่ชายโดนปุ๊บ ก็เลยต้องกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค
วรรษมน- บางคนบอกว่านี้ อาจเป็นสาเหตุ ปัจจัยอย่างหนึ่ง เพราะการเป็น ส.ส. มันทำงานมันเครียดส่วนหนึ่งด้วย
นงวดี- กรรมด้วยส่วนหนึ่ง ส่วนคุณสนั่นเองเห็นผู้สื่อข่าวก็พยายามถามคุณหมอว่าเป็นอย่างไร
สนธิ- ผมรู้จักแกดีพี่หนั่นแกเป็นผักไปแล้ว ถ้าถอดเครื่องช่วยหายใจก็ตายแล้ว
วรรษมน- อันนี้เป็นโรคถุงลมโป่งพอง
สนธิ- จะเป็นโรคอะไรก็ตามก็คือว่ากรรมมา เป็นการตายอย่างทรมาน แล้วคุณว่า ส.ส. เครียดหนักหรอ คุณดูพี่ลองผมนี้ว่าหนักหรอ จำลอง ศรีเมือง ดูแลโรงเรียนผู้นำ ดูแลการล้างพิษตับ มีโรงพยาบาลฟอกไตราคาถูกให้กับประชาชน ทำร้านขายของราคาถูกร้านอาหารมังสวิรัติลงไปทำปุ๋ยขวัญดิน ไปเสวนาทุกวันอาทิตย์กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเลี้ยงหมาอีก 3,000 กว่าตัว พี่ลองงานไม่ยุ่งกว่าหรอพวก ส.ส.เหรอ
วรรษมน- ปุ๋ยมองว่าเขาเครียดเรื่องเขาจะโกงกินไงคะ
สนธิ- เข้าใจแต่คำถามที่ปุ๋ยบอก ว่ามีคนพูดบอกว่า ส.ส.ทำงานหนักมันถึงอย่างนี้ ผมบอกว่าพี่ลองทำงานหนัก กว่าพวกคุณตั้งไม่รู้กี่ ร้อยเท่า ไม่เห็นเป็นอะไรเลย แข็งแรง เดินเข้ามาจะ80 อายุ77กว่า แข็งแรงเลย ยิ้ม เดินเร็ว คุณสนธิ วันนี้ผมมาสั้นๆ ไม่มีเรื่องอะไรมาก ผมจะบอก ไปละนะ ผมไปละ สไตล์อย่างนี้จริงๆ แล้วพี่ลองแข็งแรง หน้าตาสดใส เพิ่งไปไต้หวันกับ อ.ปานเทพ มา ไปล้างพิษตับด้วยวิธีใหม่สนใจฝึก ค้นคว้าทุกอย่าง 3 ทุ่มพี่ลองก็นอนแล้ว แกบอกมีวันศุกร์วันเดียว คุณสนธิทำให้ผมต้องนอนดึก เพราะผมต้องดูรายการคุณก่อนแล้วค่อยนอน
นงวดี- และอีกด้านก็คือว่า บุคคลเหล่านี้ใช้ชีวิตแบบไม่ดูแลตัวเองด้วย
สนธิ- ไม่ดูแล จะไปดูแลได้อย่างไร ทานอาหาร เดี๋ยวเขาจะบอกว่าเราเนียนอีกแล้วนะ ขายเครื่องทำน้ำด่าง แต่นี่เรื่องจริงจะบอกให้รู้ การทานอาหาร เราจะเป็นอะไรในอนาคตขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทานวันนี้
ภาษาอังกฤษเขาบอกว่า You are what you eat ตอนนี้กำลังทานอะไรอยู่ อร่อยปากถูกปาก เอ็นจอยปากแต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทานไปมันจะเป็นผลที่มันจะเป็นในอนาคตข้างหน้า ทีนี้อย่างที่บอก ผมเป็นคนที่ชอบทานพวกชีส เนย ช่วงหลังผมลดเพราะผมระวัง เนื้อสัตว์ก็ทานน้อยลง พยายามทานปลาให้มากขึ้น และที่สำคัญที่สุดเมื่อ อ.ปานเทพ แนะนำให้ผมทานน้ำด่างผมก็ทานน้ำด่าง ผมทานมาหลายเดือนแล้ว คนอื่นผมไม่รู้ แต่ตัวผมสุขภาพดีมาก ผมพูดตลอดเวลา นงผม 65 แล้ว แต่ผมเหมือนกับว่า ผมไม่ใช่ 65 ผมรับประทานปัสสาวะทุกเช้า เอาน้ำปัสสาวะลูบหัวลูบหน้าล้างหน้า ผิวพรรณยังเต่งตึงอยู่ เสร็จเรียบร้อยแล้วน้ำด่างมันไปบาลานซ์ความเป็นกรดในร่างกาย เพราะกรดมันก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ น้ำด่างมันเป็น Anti-Oxidant เข้าใจยัง แอนตี้อนุมูลอิสระ น้ำด่างมันจะไปล้างลำไส้ ผมเพิ่งจะพูดตรงนี้ตอนเบรก ตอนที่ดาวเทียมเสีย ผมบอกผมตื่นมาตอนเช้าผมลงมาข้างล่าง มาแปรงฟันข้างล่าง จะมีน้ำด่างตั้งให้ผมทาน 3 แก้ว แก้วใหญ่ๆ ผมทานหมด 3 แก้ว เข้าห้องน้ำแปรงฟันเสร็จอีก 2 แก้วในห้องน้ำ 5 แก้ว ไปที่ทำงานทานกาแฟจริง กาแฟใช้น้ำด่างชง ก็ทานน้ำด่างวันหนึ่งผมทาน 9 แก้ว น้ำอื่นไม่ทานเลย น้ำธรรมดาก็ไม่ทาน น้ำอัดลมเราไม่ทานทั้งสิ้น ปรากฏว่า คนอายุ 60 กว่าตอนที่ตื่นมาตอนเช้าๆ สมัยก่อนกว่าจะลุกจากเตียงได้ ข้อมันไม่อยู่ที่ มันหลุดไปตั้งนั้น ปวดไปหมดเลย กว่าจะบิด เดี๋ยวนี้ทานน้ำด่างมันเหมือนกับทะลุทะลวง พอลุกขึ้นมานั่งขอบเตียงสัก 10 วินาที 20 วินาที เดินปร๋อไม่รู้สึกอะไร และการขับถ่ายดีทุกอย่าง มันมีความรู้สึกมันสดชื่น ผมถึงบอกว่า มันคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม และอาจารย์ปานเทพเล่าให้ฟัง คนที่ไต้หวันเกือบครึ่งเกาะทานมังสวิรัติ
วรรษมน- ขนาดนั้นเลย
สนธิ- และที่สำคัญเขามีน้ำด่างขายในเซเว่น-อีเลฟเว่นด้วย เขาเขียนว่า PH9 เซเว่น-อีเลฟเว่นมีน้ำด่างขวด
นงวดี- บรรจุขวด
สนธิ- ใช่ วางขายเลยเหมือนขวดสีอย่างนี้ และเขาขวดคิดเป็นเงินไทย 28 บาท คนไต้หวันกินน้ำด่างกันเป็นแถวเลย และสังเกตอย่างคนไต้หวันสุขภาพดีมาก เพราะฉะนั้นแล้วผมไม่อยากจะเนียนเรื่องโฆษณาเลย เครื่องทำน้ำด่างเดี๋ยวต้องว่าผมอีก แต่ว่าพันธมิตรฯ และพี่น้องที่ชมรายการอยู่ต้องรู้ว่า อะไรที่ดีต่อสังคม อะไรที่ดีต่อพี่น้องพันธมิตรฯ ผมไม่รีรอที่จะอธิบายให้ฟัง และผมใช้ตัวผมเป็นหนูทดลองยา พี่ลองก็ทานน้ำด่าง ทุกคนทานน้ำด่างหมด คุณพิภพทานน้ำด่าง ทุกคนทานน้ำด่างหมดเลยตอนนี้ รู้สึกว่ามันดีกันหมดทุกคน
นงวดี- ที่ต้องถามคุณสนธิเพราะว่า มีคนฝากถามนงมา ชอบแบบดีไหมทานน้ำด่างดีไหม แล้วมันทำอย่างไร พออธิบายว่า มันปรับสมดุลจะเกิดคำถามตามมาว่า ถ้าเราดื่มน้ำด่างเท่านั้น ต่อไปเราต้องกลับมาดื่มน้ำธรรมดาเพื่อให้มันไปสมดุลในร่างกายอีกหรือเปล่า
สนธิ- ไม่ต้องเลย เพราะว่าอาหารที่เรากินทุกวัน มันเป็นกรด อยู่ในร่างกาย ที่เราทานน้ำด่างไปเพื่อไปบาลานซ์กรดตัวนั้น ไม่ให้มันเป็นกรดมากจนเกินไป เข้าใจหรือยัง เท่านั้นเอง และข่าวดีสำหรับคนที่จองเครื่องทำน้ำด่าง ทยอยมาแล้วตอนนี้ อาทิตย์ละ 500 เครื่อง เร็วแล้ว เขาปรับสายพานการผลิตแล้ว เพราะฉะนั้นจะได้เร็วกว่าเดิมเยอะ
นงวดี- ใช่ เพราะว่าก่อนหน้านี้บอก ต้องรีบจองนะ จะได้ล็อตก่อน เห็นบอกล่าสุดไปนู่นแล้ว เดือนเมษาฯ พฤษภาฯ
สนธิ- เดือนเมษาฯ แต่ผมคิดว่ามีนาฯ ก็น่าจะได้แล้ว เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้ายังอยากจะจองล็อตนี้ ยังเหลืออยู่บ้าง ให้รีบโทรไปซะ 02 .. อะไรนะ
วรรษมน- เดี๋ยวขึ้นหน้าจอให้นะคะ โปรดิวเซอร์ น้องใหม่ค่ะ
สนธิ- 02-6535353 มั้ง ผมจำไม่ได้แล้ว
นงวดี- พอดีพี่แอนไม่มาวันนี้
สนธิ- แอนเขาชำนาญ
นงวดี- พี่แอนเขาจำเบอร์ได้
สนธิ- ขึ้นหน้าจอให้ก็แล้วกัน
นงวดี- เดี๋ยวให้คุณใหม่ โปรดิวเซอร์สุดหล่อ ขึ้นเบอร์โทรศัพท์ไว้ที่หน้าจอแล้วกันนะคะ แล้วเราก็พูดเรื่องการเมือง เรื่องอะไรบ้าง
วรรษมน- เรื่องการเมือง เรื่องสุขภาพ มาถึงเรื่องเศรษฐกิจ
นงวดี- อันนี้ขออนุญาตเลยนะคะ เพราะว่ามันเป็นอะไรที่คนจะตกใจ เพราะว่าในปีนี้เรื่องของทอง นี่พูดถึงราคาในประเทศ ก็ลงเรื่อยๆๆๆ แล้วพอมีข่าวว่าทางเยอรมันเอาทองกลับประเทศหมด ที่ฝากไว้กับที่เฟด ที่อเมริกา และธนาคารกลางของทางฝรั่งเศส เอากลับมาตั้งเป็น 700 ตัน แบบนี้ เลยเอ๊ะ! ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น แล้วมันสะท้อนความเคลื่อนไหวในครั้งนี้อะไรบ้าง
สนธิ- สรุปง่ายๆ ผมอธิบายเรื่องราวที่ธรรมดาสามัญที่สุด แล้วทั้งสองคนจะเข้าใจ ผมนี่เป็นขาใหญ่ แล้วจู่ๆ ผมก็บอกว่า ปุ้ย เงินสดอย่าเก็บไว้ที่บ้าน เอามาฝากไว้ที่ผม ทุกคนก็เอามาฝากหมด ไม่ต้องฝากเงินสด เอาเพชรพลอยแล้วกัน ฝากไปฝากมา ผมเป็นขาใหญ่ เวลาคนจะมากู้เงินผม ผมก็ มีอะไรค้ำ ผมก็เซ็นเช็คไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง ปุ้ยกับนงเดินเข้ามา บอก คุณสนธิขา ทองกับเพชรที่ฝากไว้ ปุ้ยขอคืนได้มั้ย นงก็เดินเข้ามาเหมือนกัน ขอคืนได้มั้ย มันแปลว่าอะไร
วรรษมน- แปลว่าบ่จี้
นงวดี- ไม่มั่นใจ
สนธิ- อยากจะรู้ว่าผมยังเก็บทองกับเพชรอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า เข้าใจหรือยัง นี่เป็นคอนเซปต์ที่ธรรมดาสามัญที่สุด ไม่ต้องไปอธิบายทางเศรษฐศาสตร์อะไรให้มากมาย คือเริ่มไม่เชื่อมั่น หนึ่ง มันจะเป็นประเด็นว่าปุ้ยกับนงกำลังคิดว่าตอนนี้อนาคตข้างหน้าสงสัยเงินจะขาดมือต้องเอาทองกลับมาเผื่อจะขายเป็นเงิน นั่นคือมิติแรก มิติที่สองก็คือว่า คุณสนธิแม่งยังมีของกูอยู่หรือเปล่าวะ เพราะฉะนั้นแล้วนี่คือที่มาว่าทำไมเยอรมันถึงขอทองคืนจากอเมริกา 300 ตัน จากฝรั่งเศส 374 ตัน และคุณรู้มั้ยว่า อเมริกาบอกเขาไปแล้วว่าเดี๋ยวจะคืนให้ภายใน 7 ปี อเมริกาเขาบอกว่ามีทองอยู่ในนิวยอร์ก 6,700 กว่าตัน เพราะฉะนั้นของเยอรมันนิดเดียวไม่มีความหมาย แต่ว่าอเมริกาทุกวันนี้ทุกเดือนเซ็นเช็กออกไป จ่ายค่าพันธบัตรที่ถึงดิวต้องขึ้นเงิน รับจำนำพันธบัตร เดือนละเท่าไหร่รู้มั้ย 85,000 ล้านเหรียญ ปีละ ล้านล้านเหรียญ ทุกวันต้องเซ็นเช็กออก และอเมริกาเซ็นเช็กได้ไง เอาอะไรค้ำล่ะ ก็เอาทองคำค้ำ ทองคำที่ตัวเองมีและคนอื่นเอามาฝากไว้ แบงก์อเมริกา รับเช็กจากอเมริกาไปรับพันธบัตร เอาพันธบัตรมาคืนรับเช็กไป เช็กนั้นขึ้นเงินได้เพราะว่าทองนั้นค้ำ นี่ก็เอาเช็กไปขายต่อหลายทอดเลย มันถึงน่ากลัวไง ความรู้สึกของคนเราที่อยากจะเอาทองคืน มันไม่ได้มีเฉพาะเยอรมันนะ รัสเซีย โรมาเนีย พยายามขอให้รัสเซียเอาทองคืนมา เพราะว่าโรมาเนียก็เอาทองไปฝากรัสเซีย รัสเซียก็ยังไม่คืนให้ เวเนซุเอล่าก็ขอทองคืน เอกวาดอร์ก็ขอทองคืน อิหร่าน ลิเบียก็ขอทองคืนมานานแล้ว เกิดอาการนี้ตลอดเวลา ที่สำคัญคือจีน ตอนนี้มีเงินฝากอยู่ที่อเมริกาประมาณ ในรูปแบบพันธบัตร 1.5 ล้านล้านเหรียญ ปรากฏว่าอะไรรู้มั้ยนง จีนกลายเป็นคนซึ่งผลิตทอง แล้วสั่งทองเข้าเยอะที่สุดในตอนนี้ ซื้อ ซื้อจากพันธบัตรซึ่งถึงดิว แล้วไม่ต่อ เอาเงินก้อนมาซื้อทองเข้า แสดงว่าจีนกำลังจะเอาเงินหยวนแบ็กโดยทอง เพราะเขารู้ว่าเงินที่เขาฝากในรูปแบบที่เป็นดอลลาร์ไอ้กันวันหนึ่งจะไม่มีมูลค่าเหลือเลย ตอนนี้ทุกคนประสาทกันหมด ป้องกันตัวเองทั้งนั้น เขาบอกกำลังจะเกิด CurrencyWar สงครามเงินตรา ตอนนี้ทุกคนระวัง แล้วมันโยงไปถึงอะไรรู้มั้ย ปีที่แล้ว 2012 ทั่วโลกซื้อทองเข้าประเทศตัวเอง 512 ตัน นงรู้มั้ยว่าสงครามที่มาลี ประเทศมาลี จำได้มั้ยปุ้ย
วรรษมน- ค่ะ
สนธิ- ที่ฝรั่งเศส่งทหารเข้าไป เพื่อที่จะไม่ให้กบฏทางมาลีรุกคืบเข้าไปได้ ปุ้ยรู้มั้ยว่ามาลีทำอะไร
วรรษมน- ทำอะไรคะ
สนธิ- เป็นแหล่งผลิตเพชรและทองอันดับ 7 ของโลก ทองคำ และกบฏที่เข้าไป เป็นกบฏซึ่งต่อสู้เพื่อจะเรียกร้องตัวเองให้เป็นอิสรภาพ ถ้ากบฏชนะ ทองคำที่มาลีผลิตเขาไม่จำเป็นต้องขายฝรั่งเศสแล้วนี่ เขาขายใครก็ได้ที่ให้เงินดีกว่า เห็นหรือยัง แล้วทหารฝรั่งเศส เครื่องบินฝรั่งเศส ที่ไปโจมตีกบฏฝ่ายมาลี ใครช่วยอยู่ข้างหลัง อเมริกาสิจ๊ะ โอเคหรือยังตอนนี้ ถึงบางอ้อหรือยัง
นงวดี- แสดงว่านี่เพียงแค่จุดเริ่มต้นสิคะ
สนธิ- นี่จุดเริ่มต้น นรกกำลังจะมา แล้ววันนั้น เมื่อกี้ผมดูค่าเงินบาทแข็ง ผมเห็นทางทีดีอาร์ไอมาอธิบายในหลักเศรษฐศาสตร์ ค่าเงินบาทแข็งเป็นผลดี ปัดโธ่เอ๊ย นงจำเอาไว้นะ ไม่ต้องไปเรียนเศรษฐศาสตร์ ไปดูญี่ปุ่น ญี่ปุ่นเงินเยนมันแข็งใช่มั้ยในอดีต เพิ่งจะเริ่มที่จะอ่อนบ้าง ตอนที่อาเบะขึ้นมา ตอนที่เงินเยนแข็งแปลว่าอะไร
วรรษมน- เศรษฐกิจ ..
สนธิ- แย่ เงินเยนแข็ง นงรู้มั้ยว่าเงินตอนนี้เข้ามาเมืองไทยเบ้อเร่อเบ้อร่า เล่นหุ้นกัน ผมจะบอกให้รู้ ผมจะเตือนไว้ในที่นี้นะ ท่านผู้ชมนะ และพันธมิตรฯ นะ ระวังนะ ช่วงนี้จะเป็นช่วงของการเดินตกหน้าผาลงนรกนะ เรื่องหุ้น แมงเม่าเต็มไปหมดเลย คอยดู ประเทศใดก็ตามที่จู่ๆ เงินมันแข็งขึ้นมา มันเป็นเรื่องที่ผิดปกติ แสดงอยู่ได้ 2-3 อย่าง อย่างแรกเงินเข้าไปในประเทศมากเหลือเกิน มากเพื่อเก็งกำไรอย่างเดียว แล้วค่อยถอนออก อันที่ 2 ก็คือว่า ภาวะการณ์เงินแข็ง นั่นคือภาวะการณ์เศรษฐกิจประเทศนั้นกำลังจะตก และประเทศนั้นกำลังจะมีปัญหาในเรื่องโครงสร้างเศรษฐกิจหลายอย่างที่เรามองไม่เห็น แต่ต่างชาติมันมองเห็น แค่นั้นล่ะ
นงวดี- แต่ว่าในแง่มุมของบรรดาพวกนักเล่นหุ้น หรือพวกตลาด เขาจะบอกว่าที่เงินไหลเข้าเพราะว่ามันเป็นยุคของเอเชียไง
สนธิ- ปัดโธ่ นี่ คนเราจะทำอะไร สนับสนุนสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ ความชอบธรรมที่มีอยู่ เหตุผลมีหมดร้อยแปดพันประการ เข้าใจมั้ยปุ้ย
วรรษมน- ฉะนั้นต่อไปนี้สัญญาณของเราก็คือสนธิ- ระวังตัว
วรรษมน- ระวังตัวให้ดี
สนธิ- อย่างมากๆ
นงวดี- จากเรื่องเศรษฐกิจช่วงนี้คุณสนธิ ธรรมะนะจ๊ะ วันนี้ธุดงค์ธรรมกายเข้ากรุง คือเขามีการธุดงค์ตั้งแต่วันที่ 2 จนถึงวันที่ 27
สนธิ- คำถาม เขาทำไปเพื่ออะไร คือผมคิดว่าธรรมกาย ไม่ใช่พระพุทธศาสนาเป็นลัทธิไปแล้ว และที่ผมเสียดายคือว่า วัดหลายวัดโดนเงินธรรมกาย คุณดูมีรถเหมือนกับรถดาวเทียม รถหัวจรวดนำหน้า มันบ้าไปแล้ว พระอาจารย์ผมคือ หลวงตามหาบัว สายหลวงปู่มั่น พระป่า พระป่าเวลาเขาธุดงค์เขาไปวิเวกกัน เขาไปที่เงียบๆ นี่คือการมาหาเสียง ธรรมกาย และมีการเขียนในโบรชัวร์บอกว่า เอาดอกดาวเรืองมาปู และเก็บดาวเรืองไว้ไปบูชา มันจะบ้ากันแล้ว
วรรษมน- บางคนมาทำบุญเขาบอกว่า ถึงกับตื้นตันน้ำตาไหล
สนธิ- ผมถึงบอกว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่หลอกง่าย เป็นสังคมที่หลอกง่ายจริงๆ สังคมที่ต้องให้ปัญญา และที่ผมเสียดายอย่างคือว่า คนนี่ไม่เก็ทไม่เข้าใจ หลักของพระพุทธศาสนาคือ หลักของใจ ใจสงบ ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ใจนิ่ง ผมสวดมนต์ไหว้พระทุกวันๆ ละ 2 เวลา กลางวัน 1 รอบ กลางคืนก่อนนอน 1 รอบ และผมนั่งสมาธิ นั้นแหละคือสิ่งซึ่งพระธรรมสั่งสอนมา ผมไม่เคยเชื่อว่า เรื่องให้ทำบุญมากแล้วคนจะได้ขึ้นสวรรค์ ทำบุญมากและจะได้เป็นเทพธิดาที่หล่อ เป็นเทพธิดาที่สวย ไม่ใช่ คนเรายังคิดว่าทำบุญเพื่อให้ตัวเองหล่อ
นงวดี- ไปใช่แล้ว ไปทำศัลยกรรมดีกว่า
สนธิ- ไปทำศัลยกรรมดีกว่า บ้าไปแล้วตอนนี้ เพราะฉะนั้นแล้วผมคิดว่า ผมกำลังมีปัญหามากกับกระบวนการสอนหลักพระพุทธศาสนาของลัทธิธรรมกาย ผมไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ผมคิดว่าลัทธิธรรมกายคือ ลัทธิที่ทำลายพระพุทธศาสนาอย่างมากๆ ที่เสียดายคือว่า คนชนชั้นกลางอยู่ไม่น้อย คนรวยด้วยที่ไปหลงใหล คนพวกนี้ไม่ใช้ปัญญาคิด ไปศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาพระพุทธเจ้าจะเห็นไดชัด และพวกนี้ชอบอ้างหลวงพ่อสด หลวงพ่อสดท่านสอนธรรมกายคือ การจะปฏิบัติตนเองเข้าธรรม แต่พวกนี้อ้างว่า มาจากสายหลวงพ่อสด เพราะฉะนั้นธรรมกายคือของหลวงพ่อสด อาจจะจริง แต่ถ้าว่าหลวงพ่อสดไม่ได้เคยคิดที่จะให้คุณเอาธรรมกายมาหากินในเชิงพาณิชย์ ตอนนี้เป็นเชิงพาณิชย์ไปแล้ว
นงวดี- คือถ้าจะมาทำบุญ
สนธิ- แล้วคุณมาธุดงค์บ้าอะไรอยู่ในกรุงเทพมหานคร
วรรษมน- คือรถติดกันวินาศสันตะโรตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น
สนธิ- ยิ่งพวกคุณทำเวรทำกรรมไปก่อเวรก่อกรรมกับประชาชนเขา แล้วคุณทำให้ประชาชนเขาเดือนร้อนเมื่อคุณให้ประชาชนเขาเดือนร้อน คุณธุดงค์แทนที่จะได้บุณ คุณทำบาปเพราะมีแต่เสียงด่าที่ตามมา เขาด่ากันทั้งนั้นเลย
นงวดี- คือมันเป็นเหมือนอีเว้นท์ หนึ่ง
สนธิ- คือเป็นการตลาดไปแล้วผมถึงบอกผมว่าไม่ใช่ศาสนาพุทธ มันคือลัทธิ คือจริงแล้วผมไม่ได้ขัดขวาง ประกาศไปเลยว่าคือลัทธิธรรมกาย หรือจะตั้งศาสนาธรรมกายก็ได้ แต่อย่ามาอ้างพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนอย่างนี้ไม่มี ไปถามท่านประยุทธ์ ปยุตโต ซิ
วรรษมน- อย่างที่คุณสนธิบอกต่างประเทศเขาก็มีทำเป็นลัทธิใช่ไม่ค่ะ
สนธิ- มีทำไปเลยลัทธิธรรมไชโย ทำไปเลย ลัทธินะจ๊ะก็ได้ มีเงินไม่จ๊ะ บริจาคนะจ๊ะแล้วจะสวยนะจ๊ะ จะได้ขึ้นสวรรค์นะจ๊ะ เอาไปเลยผมไม่ว่า
นงวดี- แต่อะไรแบบนี้จะงอกงามได้ง่ายมากในประเทศไทย คือนั่งมองอีกมุมหนึ่งคือไม่ต่างกับคนที่เอาต้นไม่เอาผ้าไปผูกขอหวยแรงไปรึปล่าวไม่รู้
สนธิ- ไม่ได้ต่างไปกว่า พงศพัศ พงษ์เจริญ
นงวดี- ไม่ได้ต่าง
วรรษมน- พงศพัศ นี่ผู้สมัครเลยนะ
สนธิ- ทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งป้อนข้าวคนแก่แล้วบอกว่าคิดถึงแม่ ผมก็ไม่รู้ว่าแม่คุณ คุณเคยป้อนอย่างนี้รึปล่าว
วรรษมน- ช่วงนี้ปิดท้ายนะค่ะก่อนที่เราจะเบรคนะค่ะคุณสนธิ มีพันธมิตรจาก USA นะ จากลาสเวกัสที่สัปดาห์ที่แล้ว
สนธิ- ผมลืมพูดถึงเขา เพราะตอนที่ผมไปเขาก็ยกทีมมา แล้วเขาก็ไปทุกครั้งที่ผมไป แล้วก็เร่าร้อนมาก แล้วก็จริงจัง และจริงใจและเต็มใจที่จะมา เขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ ASTV จริงๆ
นงวดี- พูดถึงเรีบยร้อยๆค่ะก็มีแค่เสียงว่าทำไมไม่พูดถึง คุณสนธิไม่ได้ลืมนะค่ะ วันนี้พูดถึงแล้ว แค่ตกหล่นไปนิดแค่นั้นเองนะค่ะวันนี้จัดเต็มแล้วนะค่ะ
วรรษมน- ช่วงหน้าจะมาดู เรื่องของโรงเรียนที่ตอนนี้กำลังเป็นประเด็นอยู่ ที่ผู้ปกครองใส่ชุดดำ คุณครูใส่ชุดดำกันประท้วงค่ะ สักครู่กลับมาติดตามค่ะ
นงวดี- กลับมาในรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ บอกช่องทางการติดต่อสื่อสารให้คุณผู้ชมทราบสักนิดหนึ่ง ทั้ง SMS พิมพ์ N1ตามด้วยข้อความ ส่งมาที่ 4850770 หรือถ้าจะเขาเฟสบุ๊กก็ไปกดไลค์ที่เพจ ชื่อแฟนเพจคือ ชื่อรายการเลยค่ะ คุยทุกเรื่องกับสนธิ ฝากคำถามไว้ได้ หรือมีความคิดเห็นอะไรก็ฝากไว้ได้ แล้วก็นำมาถามคุณสนธิสดๆในรายการเลย
ในเบรกนี้ขออนุญาตแวะมาที่เรื่องราวของการศึกษากันบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้ถือว่าเกิดความวุ่นวายขึ้นมาในโรงเรียนอัสสัมชัญ ซึ่งถือว่าเป็นโรงเรียนเก่าแก่แห่งหนึ่ง พูดถึงคุณภาพก็ไม่เป็นสองรองใคร คุณสนธิ อ.ปานเทพ ก็เป็นศิษย์เก่าที่นี่เหมือนกัน
สนธิ- ผมเป็นศิษย์เก่าอัสสัมชัญ ศรีราชา แต่ว่ามันก็เครือเดียวกัน ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนที่เขาชื่อบราเธอร์อานันท์ แกก็จบอัสสัมชัญศรีราชาเหมือนกัน แต่แกรุ่นน้องผม คุณอานันท์ ปรีชาวุฒิ วันนี้อยากพูด ผมอยากจะพูดในมิติของ 1.ศิษย์เก่า 2.มิติของคนดูในระบบการศึกษา และเปรียบเทียบดูให้เห็น อัสสัมชัญมีมาแล้ว 128 ปี เริ่มตั้งแต่รัชกาลสมัยที่ 5 ท่านบาทหลวงกอลมเบต์ ท่านมาจากฝรั่งเศส มาเผยแพร่ศาสนา และท่านก็ตั้งโรงเรียน มีโรงไม้เล็กๆ โรงเรือนไม้ ตอนนั้นไม่มีใครเรียนหนังสือท่านต้องจ้างคนมาเรียนหนังสือ เชิญเด็กมาเรียน สอนไปสอนมาคนก็เริ่มนิยมขึ้นเพราะเป็นการสอนแบบฝรั่งครั้งแรกตอนนั้นตอนหลังเลยขยาย พอขยายไปเงินทองไม่มี ก็ถวายฎีกาขอให้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าช่วย พระองค์ท่านก็พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์มา พ่อค้า คหบดี ก็ช่วย เลยขยายเจริญเติบโตมา ท่านบาทหลวงกอลอมเบก็เลยงานเยอะขึ้น กลับไปฝรั่งเศสหาคนช่วย เลยมีท่านบาทหลวงบราเดอร์ภราดา 5 คนส่งมา คนหนึ่งคือบราเดอร์ฟอฮีแล ท่านมาที่เมืองไทยในอายุ 20 ปี หนวดเครา ฟ.ฮีแลร์ ท่านมาพูดแต่ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษท่านก็ไม่เก่ง ท่านก็เลยมาเรียนภาษาไทย คุณเชื่อไหมท่านเรียนภาษาไทยจนกระทั่งภาษาไทยท่านเก่งกว่าครูภาษาไทย และท่านเป็นคนที่ทำหนังสือภาษาไทยชื่อ ดรุณศึกษาขึ้นมา ดังมากตอนนั้น และภาษาท่านนี่สวยหรู งามงดงาม ผมยกตัวอย่างให้ฟัง ผมเอาเอกสารใหญ่ของท่านมาดู ท่านเป็นคนแปลภาษาได้ไพเราะเพราะพริ้งมาก ภาษาอังกฤษท่านเขียนอย่างนี้ เขาบอก Two men look out through the same bars : One sees the mud and one the stars ท่านบอกและท่านแปลเป็นคติสอนใจท่านบอกว่า สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกคนหนึ่งตาแหลมคมมองเห็นดวงดาวอยู่พราวพราย
นงวดี- สวยงาม
สนธิ- จากฝรั่งนะ และในที่สุดกรมพระยาดำรงได้เชิญท่านมาอยู่สมาคมวรรณคดี วรรณศิลป์ของไทย ซึ่งนับถือว่าเป็นต่างชาติคนแรกที่ได้ อัสสัมชัญก็เจริญเติบโตรุ่งเรืองมาตลอดมา ในช่วงแรกอัสสัมชัญอยู่ภายใต้มูลนิธิเซนต์คาเบรียล มูลนิธิเซนต์คาเบรียลเพราะว่าเนื่องจากว่า บราเธอร์ฮีแลร์มาจากเซนต์คาเบรียล คือของทางศาสนาคริสต์เขาจะมีหลายเซนต์ มาจนในที่สุดแล้วมูลนิธิเซนต์คาเบรียลมาเกิดในเมืองไทยขึ้นมา อัสสัมชัญเป็นในเครือ และตอนหลังจะมีเซนต์คาเบรียล มีมงฟอร์ตวิทยาลัย จะมีอัสสัมชัญโคราช อัสสัมชัญอุบลราชธานี มีอัสสัมชัญธนบุรี อัสสัมชัญศรีราชา อัสสัมชัญศรีราชาเกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะว่าญี่ปุ่นมันบุกไทย พวกบาทหลวงจะเป็นฝรั่ง เลยต้องอพยพจากกรุงเทพฯ ไปอยู่ศรีราชาไปอยู่ที่ไร่สับปะรด นั้นคือที่มาของโรงเรียนประจำในเครืออัสสัมชัญแห่งแรก และที่นั้นจะเป็นไร่สับปะรดเวิ้งว้างสุดสายตาเลย และมีต้นสนเต็มไปหมดเลย พวกเด็กอัสสัมชัญศรีราชาที่เกเรจะถูกลงโทษให้ไปตัดสับปะรด และเวลากลับบ้านทีต้องขนสับปะรดขึ้นรถไปด้วย ใส่กระชอมใส่ชะลอม และเด็กอัสสัมชัญศรีราชามันเถื่อน มันใส่กางเกงสีฟ้าเหมือนอัสสัมชัญทั่วไป ใส่เสื้อสีขาวปัก อ.ส.ช. แต่เลขประจำตัวมันจะน้อย แล้วมันใส่รองเท้าแตะกันทุกคน แล้วก็นั่งรถ บขส.มา แล้วก็มาปล่อยจุด เช่น ที่มาแตร์ฯ พอเดินกันลงมา พวกผู้หญิงมาแตร์เดอีเขาไฮโซไฮซ้อนี่ ไอ้เด็กอัสสัมชัญ ใส่รองเท้าแตะมา ถือชะลอม โอ๊ย เป็นอะไรที่ขำขัน แต่ในที่สุดอัสสัมชัญก็สร้าง ผลิตบุคลากรที่มีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองมหาศาล อดีตนายกรัฐมนตรี 4 คน ก็มาจากที่นี่ มีพระยามโนปกรณ์นิติธาดา อ.สัญญา ธรรมศักดิ์ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช แล้วก็มีใครอีกคน จำไม่ได้แล้ว แล้วก็มีคนดังทั้งหมด ท่านเจ้าพระยาศรีวิสารวาจา ก็อัสสัมชัญ สมหมาย ฮุนตระกูล ก็อัสสัมชัญ ถ้าปัจจุบันก็คุณประสาร ผู้ว่าการแบงก์ชาติ ก็อัสสัมชัญ ลูกชายของคุณเจริญ ศิริวัฒนภักดี ก็อัสสัมชัญ สุวรรณ วลัยเสถียร ก็อัสสัมชัญ คือมีทั้งดีทั้งเลว ผมก็มาจากอัสสัมชัญ ก็เหมือนธรรมศาสตร์ ธรรมศาสตร์ที่ดีก็มี ที่เลวก็มาก
แต่ว่า เอาเป็นว่าสมัยก่อนอัสสัมชัญเป็นโรงเรียนที่มีวินัย ภาษาอังกฤษชั้นหนึ่ง อัสสัมชัญสมัยก่อน คนที่จบ ม.8 ก็คือ ม.6 ปัจจุบัน ไม่ต้องเรียนต่ออะไรแล้ว ทำงานกับฝรั่งได้เลย ง่ายๆ ผมจบ ม.8 อัสสัมชัญ ศรีราชา ผมไปเรียนต่อเมืองนอก ผมไม่ต้องสอบภาษาอังกฤษ เขาทดสอบ ระหว่างเขารับ เขาคุยด้วย เขาให้เรียนเลย เป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่พอมายุคนี้แล้ว การศึกษาของอัสสัมชัญตกมาก ที่ตกก็เพราะว่า มันตกในช่วงหลัง ในช่วงที่บราเธอร์อานันท์ ปรีชาวุฒิ คนนี้ ภราดา ซึ่งแกก็เป็นเด็กเณร คำว่าเด็กเณรแปลว่าอย่างนี้ เด็กเณรคือ พ่อแม่ที่ยากจน แต่ว่านับถือศาสนาคริสต์ หรืออยากจะให้ลูกเรียนฟรีก็ไปนับถือศาสนาคริสต์ แล้วก็ไปอยู่เป็นเด็กเณร ก็คือเหมือนกับบวชเณร ของไทยก่อนจะเป็นพระต้องเป็นเณรก่อน เด็กเณรนี่วินัยจะสูง จะไม่มีโอกาสไปเที่ยวเตร่ข้างนอก จะไม่ให้ไปเที่ยว จะไม่ให้ไปดูหนัง วันๆ เข้าแต่โบสถ์ เรียนแต่หนังสือ แล้วบราเธอร์อานันท์ก็เลยไปเรียนต่อมัธยมต้น มัธยมปลาย จบที่อัสสัมชัญ ศรีราชา รุ่นน้องผม อย่างน้อยก็ต้องมี 6-7 ปี ผมว่าต้องประมาณ 7-8 ปีได้ ผมไม่เคยเห็นหน้า แต่ผมสังเกตอย่าง บราเธอร์อานันท์ หน้าเหมือนใครรู้มั้ย เรืองไกร
นงวดี/วรรษมน- เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ
สนธิ- ใช่ เหมือนมั้ย
วรรษมน- คล้ายๆ ใช่ค่ะ
สนธิ- แล้วเหมือนใครอีกคนรู้มั้ย สุวรรณ วลัยเสถียร
วรรษมน- คล้ายๆ
สนธิ- คล้ายๆ กัน เอาล่ะ ไม่เป็นไร ก็ไม่ได้มีอะไรที่จะมา .. แต่ก็สร้างจินตนาการกันเองก็แล้วกันว่าทำไมถึงเอารูปมาให้ดู
ทีนี้ อัสสัมชัญในช่วงหนึ่ง เนื่องจากว่านักเรียนเรียนเยอะ พอเรียนเยอะแล้ว เขาก็เลยต้องขยาย แยกชั้นประถมออก ไปสร้างโรงเรียนอัสสัมชัญ ประถม ที่ตรงเซนต์หลุยส์ ซอย 3 ถ.สาทร ซึ่งเป็นที่ๆ ติดกับโรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชย์ อัสสัมชัญพาณิชย์เขาเรียก เอซีซี สมัยก่อนถ้าจบพาณิชย์แล้วต้อง เอซีซี ถ้าจบเอซีซีแล้วทำงานบริษัทฝรั่งได้หมดเลย เงินเดือนสูง แล้วหลายคนก็เจริญเติบโตจากเอซีซี สุทธิชัย หยุ่น ก็จบเอซีซี จบแค่เอซีซีเท่านั้นเอง แล้วหลังจากนั้นก็ไปเป็นนักข่าว เป็น บก. ภาษาอังกฤษดีหมดเลย ก็เลยมีแยกการบริหารกัน
ทีนี้อัสสัมชัญช่วงหลัง ในยุคของบราเธอร์อานันท์ บราเธอร์อานันท์ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าทำไมแกถึงเป็นคนอย่างนั้น แกเกิดมีความรู้สึกว่าแกอยากจะสร้างอัสสัมชัญขึ้นอีกทีหนึ่ง เป็นอัสสัมชัญอินเตอร์เนชันแนล เพราะว่าแกเริ่มมีอิงลิชโปรแกรม (อีพี) คุณคิดดูแล้วกันนะ อัสสัมชัญตกต่ำขนาดไหน อัสสัมชัญหลังจากที่บาทหลวงฝรั่ง ที่อยู่มูลนิธิเซนต์คาเบรียล กลับไปหมดแล้ว ตอนนี้มีแต่บาทหลวงคนไทยทั้งนั้น ภราดา บราเธอร์คนไทย ดูแลอยู่ แล้วนิสัยคนไทยนี่นะ จะเป็นพระหรือเป็นคนธรรมดา นิสัยเหมือนกันหมด ก็คือว่า ไม่ได้มองส่วนรวมเป็นตัวตั้ง กลายเป็นมองผลประโยชน์ มองโรงเรียนเป็นธุรกิจ มองโรงเรียนเป็นธุรกิจไปแล้ว ต่างกันเลย สมัยก่อนบราเธอร์ฮีแลร์เคยมีคำพูดมา ท่านพูดว่ายังไงรู้มั้ย ยากดีมีจน เอ็งอยากจะเรียนก็เข้ามาเถอะ หรือเอ็งจนเงินแต่ไม่จนปัญญาก็เข้ามาเถอะ นี่คือปรัชญาของบราเธอร์ฮีแลร์ ซึ่งท่านเป็นอธิการบดีของโรงเรียนอัสสัมชัญ และเป็นปรัชญาซึ่งมีมาตลอด น้องชายผมก็จบอัสสัมชัญ สอบเข้าอัสสัมชัญ สอบเข้านะ คะแนนถึงก็ติด ไม่ต้องเสียแป๊ะเจี๊ยะเลยแม้แต่บาทเดียว ไม่ต้องเสียเลย อย่างมากก็ไปเรียนพิเศษ ไปจ้างครูอัสสัมชัญมาติวพิเศษเป็นส่วนตัว เสีย 2-3 หมื่นบาท พอมาถึงยุคบราเธอร์อานันท์ ปรีชาวุฒิ จากปรัชญาของบราเธอร์ฮีแลร์ ที่บอกว่า ยากดีมีจนเอ็งอยากจะเรียนก็เข้ามาเถอะ หรือเอ็งจนเงินแต่ไม่จนปัญญาก็เข้ามาเถอะ กลายเป็น เราเลือกพ่อแม่เด็กพอสมควรทั้งในเรื่องของความรู้ และฐานะ และความพร้อมในการเข้าเรียน ทำให้สังคมของนักเรียนแต่ละรุ่นเป็นสังคมที่ถูกกลั่นกรองแล้ว ทำให้เขาสามารถเชื่อใจเพื่อนได้ เพราะมีสังคมเดียวกัน ทีนี้สังคมเดียวกันในคอนเซปต์ของอัสสัมชัญยุคนี้คือสังคมของคนซึ่งพ่อแม่มีเงินเสียค่าแป๊ะเจี๊ยะ เด็กที่เข้าอัสสัมชัญเดี๋ยวนี้ไม่เสียแป๊ะเจี๊ยะเข้าไม่ได้ อย่าไปเชื่อ สมัยก่อนยังมีอยู่ 2-3 ลักษณะของเงื่อนไข เงื่อนไขแรกยังมีให้สอบเข้า วัดกันที่คะแนน 1- 50 ก็ว่าไป เงื่อนไขที่ 2 ถ้าเป็นลูกศิษย์เก่า ก็จะให้สิทธิ์พิเศษ เช่น บวกคะแนนให้ หรือว่าจะเสียเงินอุดหนุนโรงเรียเสียเล็กน้อย เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ลูกศิษย์เก่าก็ไม่มีสิทธิ์ ความที่ไม่มีวิสัยทัศน์พอพวกบราเดอร์ฝรั่งไป ภาษาอังกฤษของเด็กอัสสัมชัญตก อย่าไปเข้าใจผิดนะว่าภาษาอังกฤษเด็กอัสสัมชัญดี เพราะว่าในระยะหลังอัสสัมชัญช่วงหลังโดยเฉพาะบราเธอร์อานันท์ หรือคณะบาทหลวงเซนต์คาเบรียลไม่ได้เน้นในเรื่องของคุณภาพครู ครูนี่โอเค สอนมานาน เก่งทุกคน แต่ไม่ได้ลงทุนในทางครู ไม่ได้ให้สวัสดิการในทางครู ไม่ได้ส่งเสริมเขา แล้วครูในโรงเรียนอัสสัมชัญรายได้โคตรต่ำ คนเข้าใจผิดหมด คนนึกว่าฉันเสียแป๊ะเจี๊ยะตั้ง 5 แสนบาท 3 แสนบาทเอาลูกเข้าอัสสัม ครูต้องเงินเดือนดี ไม่จริง ครูที่โดนกดขี่มากที่สุด แต่ครูอัสสัมชัญเป็นครูที่มีคุณภาพสูงมาก
พอเขาอยากจะตั้งอิงลิชโปรแกรม เป็นอินเตอร์เนชันเเนลสคูล เขาก็ไปลงทุนตรงสมุทรสาคร เนื้อที่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 30 กว่าโล เนื้อที่ 231 ไร่ ในรูป โดยเขาโกหกทุกคน เขาบอกว่าเขาจำเป็นต้องไปเอาที่ที่นั่น เพื่อเป็นที่สันทนาการ เนื่องจากอัสสัมชัญบางรักคับแคบ ไม่มีที่เล่นกีฬา ต้องไปเอาที่นั่น ก็มีคนเขาเอาที่มาให้ฟรีๆ ปรากฏว่า ไม่เอา ไปซื้อที่แทน ที่สาริน เอาเงินอัสสัมชัญบางรักไปซื้อ พอซื้อเสร็จก็เริ่มสร้าง คุณรู้ไหมเขาสร้างอะไรบ้าง 231 ไร่ เขาสร้างสวนสาธารณะ ทะเลสาบ ระบบไฟฟ้าใต้ดิน อาคารเรียนทันสมัย มีสนามกีฬาระดับสเตเดียมนั่งได้ 15,000 คน
นงวดี- นี่จะไปแข่งโอลิมปิกหรือเปล่า
สนธิ- สนามฟุตบอลต่างหากสำหรับซ้อมอีก 2 สนาม โรงยิมเนเซียมมีทั้ง 2 บาสเกตบอล สนามวอลเลย์บอล สนามแบดมินตัน 4 สนาม สนามตะกร้อ 6 สนาม สำหรับที่นั่ง 5,000 ที่นั่ง ศูนย์ฟิตเนสมีห้องแอโรบิก มีห้องซาวน่า ห้องเทควันโด อีกทั้งยังมีสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานโอลิมปิก สามารถบรรจุผู้ชมได้ 1,000 ที่นั่ง อีกทั้งยังมีสนามเทนนิสมาตรฐาน สนามเทนนิสผิวแข็งอีก 8 สนาม มีการลงทุนสร้างห้องปฏิบัติการทั้งศาสตร์และศิลป์ อีกทั้งลงทุนได้เตรียมพร้อมสำหรับอพาร์ตเมนต์สำหรับครูภาคภาษาอังกฤษอีก 200 คน นี่มันสร้างเมืองเลย
นงวดี- มันไม่ใช่โรงเรียนแล้วคะ
สนธิ- ผมไม่รู้ว่า บราเธอร์อานันท์นี่แกจบอัสสัมชัญศรีราชา ม.6 หรือ ม.8 สมัยโน้น และแกไปได้ปริญญาตรีทางด้านเอกอังกฤษ และเทคโนโลยีทางการศึกษาที่ มศว.และหลังจากนั้นแกไปเรียนปริญญาโทต่อที่มหาวิทยาลัยซีเลอร์คิว ที่นิวยอร์ก พอแกได้ปริญญาโทกลับมา แล้วแกกลับมาสอนหนังสือ แกมาอยู่ที่โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี เป็นอธิการบดี แกโดนครู และบรรดาผู้ปกครองขับไล่ออกจากโรงเรียน เพราะแกไปทำอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งเขาเห็นว่ามันไม่เข้าท่า ผมไม่อยากลงรายละเอียด แต่ว่ามีเรื่องบางเรื่องแกไปทำเรื่องซึ่งหมิ่นพระบรมเดชานุภาพขึ้นมา พวกคณะนักบวชภราดาเซนต์คาเบรียล ช่วยกันปกปิด พวกคณะนักบวชภราดาเซนต์คาเบรียลวันหลังผมจะเอาเรื่อง คุณมาปกปิดคนที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพได้อย่างไร คุณผิดหมด มีศิษย์เก่าอัสสัมชัญบางคนช่วยเหลือ เลยส่งไปฟอกตัวเองด้วยการเรียนต่อปริญญาเอกที่ Pennsylvania State University มหาวิทยาลัยรัฐเพนซิลเวเนีย ได้ด็อกเตอร์มาในเรื่องการออกแบบการศึกษาอะไรทำนองนี้ ก็กลับมา เดี๋ยวก่อนเดี๋ยวค่อยเล่าประวัติกันอีกที เพราะมันจะโยงเกี่ยวกัน บราเดอร์อานันท์แกไปสร้างเรื่อง พอสร้างไปสร้างมาเงินไม่มี เงินขาด นั้นเป็นที่มาของการขายพันธบัตร ขายบอนด์
นงวดี- ต้องให้บอนด์
สนธิ- ใครจะเข้าต้องซื้อบอนด์ ซื้อพันธบัตร 3 แสนก็มี 5 แสนก็มี แกพยายามขายโรงเรียนประถมว่า ให้ช่วยซื้อบอนด์ 5 แสนบาท 12 ปี ครูพวกพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีเด็กนักเรียนอยู่เขาไม่อยากจะซื้อสักคนใช่ไหม เขาคิดว่าเขาเสียค่าแป๊ะเจี๊ยะเข้ามาแล้ว คือเด็กประถมเวลาเข้าต้องเสียแป๊ะเจี๊ยะทุกคน ผมจะบอกให้รู้ไม่เว้นเลยแม้แต่คนเดียว ถ้าจะพูดถึงโรงเรียนที่เก็บค่าแป๊ะเจี๊ยะ อัสสัมชัญตัวพ่อเลย จะบอกให้รู้ อัสสัมชัญตัวพ่อในการเก็บแป๊ะเจี๊ยะ ลืมไปประชา มาลีนนท์ก็จบอัสสัมชัญ ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ แต่ละคน ที่นี้พอเงินมันเริ่มขาด ถูกไม่ถูกแกก็อยากจะได้เงินจากโรงเรียนอัสสัมชัญประถมศึกษา
นงวดี- อัสสัมชัญประถมศึกษาแปะเจี๊ยะเยอะ
สนธิ- อัสสัมชัญ ที่บางรักนี้เงินเริ่มหมด ก็ไปบีบเอาที่ครูละ วิธีการก็คือ จะรวม 2โรงเรียนเขามา ก็เลยให้ครู ที่ปีที่แล้วมีการแต่งชุดดำครั้งหนึ่ง ให้ครูที่สอนประถมศึกษาที่อัสสัมชัญสาทร เขียนใบลาออกล่วงหน้า ครูก็ไม่ยอมสิ ครูก็บอกทำไมทำอย่างนี้ หนึ่งให้ไปลาออกแล้วจะไปเข้าที่ใหม่ก็ไม่พูดเรื่องของการชดเชย ไม่พูดเรื่องจะนับเวลาทำงานนับจำนวนปีที่ทำ ที่นี้ครูไม่ยอมเลย แต่งชุดดำประท้วงแกก็เลยได้กำลังหนุนหลังจากนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาในขณะนั้น แก้กฎกระทรวงในเรื่องของโรงเรียนเอกชนซึ่งร่างออกมาแล้วเมื่อปี 2551 แต่เมื่อปี 2555 แก้เพิ่มเติมว่า โรงเรียน 2 โรงเรียนถ้าอยู่ห่างกันไม่เกิน 3 ก.ม.ให้ถือว่ารวมกันได้ มันเป็นกฎกระทรวงที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้กับเรื่องนั้นโดยเฉพาะ ผมนี้ในอนาคตอาจจะต้องคิดเช็กบิล กับไอ้สุชาติ ธาดาธำรงเวช ให้ได้ ในฐานะสิทธิเก่าอัสสัมชัญคนหนึ่ง แก้กฎกระทรวงส้นตีนอย่างนี้ได้ไง ที่ทำเช่นนี้เพราะอะไร เพราะจะได้มีสิทธิรวมบัญชีทุกอย่าง และเอาเงินทางนั้นไปใส่ทางนั้น ใช่ไหม เพราะฉะนั้นปัญหามันก็มีสิ ครูไม่ได้รับการความเป็นธรรม อยู่จะให้ครูจะลาออก อาละวาดครู เวลาประชุมผู้ปกครองก็เบ่ง คุณรู้จักนักเลง ผมก็รู้จักนักเลง คุณก็รู้จักผู้ใหญ่คือใหญ่ฉิบหายเลย จะทำไรก็ได้ ผมจะเล่าประวัติแกอีกทีว่าทำไมแกถึงทำแบบนี้ ผมเป็นพิธีกรและในฐานะเป็นรุ่นพี่เขาด้วย ผมจำไม่ได้ว่าเป็นใคร ถ้าผมรู้ว่าชีวิตนี้ มันต้องเป็นแบบนี้นะ ผมจะเขกกบาลไม่ให้มันเติบโตเลย ผมก็นักเลงพอตัวคนหนึ่งเหมือนกัน เพราะโรงเรียนที่มันสร้างมันไม่ใช่โรงเรียนแล้ว มันเหมือนมหาวิทยาลัยไปแล้ว คือเขาไม่เข้าใจว่าคุณภาพการศึกษามันอยู่ที่ครูมันอยู่ที่การลงทุนเรื่องเนื้อหา มันอยู่ที่หาคนที่ดีที่สุดมาสอนไม่ได้อยู่ที่ฮาร์ดแวร์ มันไม่ได้แปลว่า คุณมีโรงยิม คุณมีนี้คุณดู มันไม่ใช่คุณมีโรงยิมคุณจะมีสถานที่สเตเดียมคนจุ 15,000 คน แล้วการศึกษามันจะดีไม่ใช่ นี่คือที่มาว่าทำไมช่วงหลังภายใต้การบริหารของบราเธอร์อานันท์คนนี้ การศึกษาของอัสสัมชัญถึงตกต่ำมหาศาล
นงวดี- เน้นเรื่องวัตถุ
คลิกอ่านต่อ