xs
xsm
sm
md
lg

เสียงของทักษิณ Voice of Taksin เสียงที่อาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไม่รู้ว่าเป็นความเข้าใจผิดหรือเป็นเจตนาบิดเบือนของ นักวิชาการเสื้อแดงและเหล่าสาวกผู้ไร้เดียงสาซึ่งตั้งข้อสงสัยต่อคำพิพากษาศาลอาญาที่ตัดสินจำคุกนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข 10 ปี ในความผิดตามมาตรา 112 เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา

พวกเขาตั้งคำถามว่านายสมยศเป็นบรรณาธิการนิตยสาร Voice of Taksin เหตุใดจึงต้องรับผิดชอบต่อข้อเขียนของนายจักรภพ เพ็ญแข เจ้าของนามปากกา จิตร พลจันทร์ ผู้เขียนบทความเรื่องแผนนองเลือดกับยิงข้ามรุ่น ในนิตยสาร วอยซ์ ออฟ ทักษิณ ปักษ์หลัง วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 และบทความเรื่อง 6 ตุลาคม 2553 ในฉบับปักษ์แรก มีนาคม 2553 ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้นายสมยศต้องติดคุกเพราะนายสมยศไม่ใช่ผู้เขียนและตาม พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550 ก็ไม่ได้ระบุให้บรรณาธิการต้องรับผิด หากเนื้อหาในหนังสือไปละเมิดบุคคลอื่น

ข้อเท็จจริงที่คนเหล่านี้ปกปิดหรือไม่เข้าใจก็คือ คดีนี้ อัยการซึ่งเป็นโจทก์ฟ้องนายสมยศในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรืออาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ตามมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ไม่ได้ฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามมาตรา 328 จึงไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์แต่อย่างใด

นายสมยศเองก็ได้ยกประเด็นนี้ขึ้นต่อสู้ว่า พระราชบัญญัติจดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550 ได้มีบทบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.2484 ดังนั้น จำเลยย่อมพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง แต่ศาลมีความเห็นว่า จำเลยพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการพิมพ์หรือไม่ ไม่ได้ถูกยกเลิกโดยผลของกฎหมายดังกล่าวด้วย ที่จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยไม่ใช่ผู้เขียนบทความที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นคดีนี้นั้น เห็นว่าโจทก์ฟ้องจำเลยว่า จำเลยหมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ด้วยการจัดพิมพ์ จัดจำหน่ายและเผยแพร่นิตยสารเสียงทักษิณ ข้อต่อสู้ของจำเลยจึงไม่ใช่การกระทำที่ถูกฟ้อง

นายสมยศถูกศาลลงโทษจำคุก 10 ปีไม่ใช่เพราะว่านายสมยศ เป็นบรรณาธิการนิตยสาร Voice of Taksin แต่เพราะนายสมยศ เป็นผู้จัดพิมพ์ จัดจำหน่าย และเผยแพร่บทความดังกล่าว

ในขั้นตอนการสืบพยานโจทก์ อัยการนำพยานซึ่งเป็นเจ้าของและผู้บริหารโรงพิมพ์ออฟเซ็ต บริษัทโบนัสฟรีเทรด ซึ่งเป็นร้านทำเพลต บริษัท เอเอ พับลิชชิ่ง ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายนิตยสาร วอยซ์ ออฟ ทักษิณ ซึ่งพยานทุกปากต่างให้การว่า นายสมยศ เป็นผู้มาติดต่อว่าจ้าง ให้พิมพ์และจัดจำหน่ายด้วยตัวเอง

นอกจากนั้น ยังมีพยานที่เป็นพนักงานในกองบรรณาธิการ นิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณ เอง ที่เบิกความในขั้นสอบสวนต่อดีเอสไอว่า ได้พิมพ์บทความเรื่อง 6 ตุลา ที่มีผู้ส่งมาทางอีเมล์ไปให้นายสมยศตรวจ

ประจักษ์พยานหนักแน่นชัดเจนเช่นนี้ทำให้ข้ออ้างของนายสมยศที่ว่า ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่เกี่ยวข้องกับบทความทั้งสองเรื่อง ฟังไม่ขึ้น และถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกทั้งสองกระทง กระทงละ 5 ปี รวม 10 ปี บวกกับโทษจำคุกอีก 1 ปี ในคดีหมิ่นประมาท พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ที่ศาลอุทธรณ์ให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 2 ปี แต่นายสมยศทำความผิดลักษณะเดียวกันจึงให้ระงับการรอลงอาญา

สำหรับเนื้อหาของบทความทั้งสองเรื่อง ที่นายจักรภพ เพ็ญแขเป็นผู้เขียนนั้น ทั้งนายสมยศและพยานซึ่งเป็นนักวิชาการเสื้อแดง อย่างนายปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารยน์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในกลุ่มนิติราษฎร์ นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย นายสุดสงวน สุธีธร อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อ้างว่า ไม่ได้พูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่หมายถึงอำมาตย์ หมายถึง พล.อ.เปรม และอ้างแม้กระทั่งว่าหมายถึงนายสนธิ ลิ้มทองกุล

แต่ใครที่ได้อ่านบทความทั้งสองชิ้นนี้ ย่อมเข้าใจได้ว่านายจักรภพมีเจตนาหมายถึงใคร ศาลเองก็เห็นว่า บทความในนิตยสารเสียงทักษิณทั้งสองฉบับ มีเนื้อหาที่ไม่ได้กล่าวถึงชื่อบุคคล แต่เขียนโดยมีเจตนาเชื่อมโยงเหตุการณ์ในอดีต เมื่อนำเหตุการณ์ในอดีตมาเชื่อมโยงแล้วสามารถระบุได้ว่าหมายถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื้อหาของบทความเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์

วอยซ์ ออฟ ทักษิณ เปิดตัวครั้งแรกในวาระวันเกิดครบรอบ 60 ปี ของ นช.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2552 แม้ นช.ทักษิณและผู้บริหารนิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณ จะปฏิเสธว่า นช.ทักษิณ ไม่ได้ให้การสนับสนุนหนังสือเล่มนี้ แต่ใครจะเชื่อ เพราะทั้งชื่อหนังสือ ทั้งที่ทำการที่ตั้งอยู่ที่ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ กองบัญชาการของคนเสื้อแดง บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นประธานบริหาร คือ นายสุธรรม แสงประทุม คอลัมนิสต์ประจำการอย่างนายสุธาชัย นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นานจักรภพ ล้วนแต่เป็นสมุน หรือแนวร่วมของ นช. ทักษิณ ในสายล้มเจ้า

นช.ทักษิณไม่เคยคัดค้าน แสดงความไม่เห็นด้วยกับชื่อ หนังสือวอยซ์ ออฟ ทักษิณ แต่กลับแสดงความชื่นชม อย่างน้อยที่สุด นายจักรภพผู้เขียนบทความที่ทำให้นายสมยศต้องติดคุก ก็เป็นคนใกล้ชิดที่ได้รับการอุปภัมภ์จาก นช.ทักษิณในการหลบหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอยู่ในขณะนี้ เนื้อหาหลักของวอยซ์ ออฟ ทักษิณ ทุกฉบับคือการแก้ตัวให้ นช.ทักษิณ และให้ร้ายโจมตีฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะองคมนตรี ศาล และสถาบัน ทั้งโดยโจ่งแจ้งและการใช้ภาษา รูป เป็นสื่อสัญญลักษณ์

บทความของนายจักรภพทั้งสองเรื่อง ที่ทำให้นายสมยศติดคุกถูกเผยแพร่ในช่วงที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาคดีร่ำรวยผิดปกติของ นช.ทักษิณ

คำฟ้องของอัยการตอนหนึ่งระบุว่า นิตยสารเสียงทักษิณ ปีที่ 1 ฉบับที่ 15 ปักษ์หลังกุมภาพันธ์ 2553 บทความคมความคิดของผู้ใช้นามปากกา จิตร พลจันทร์ เรื่อง แผนนองเลือด กับ ยิงข้ามรุ่น หน้าที่ 45-47 โดยเนื้อหาของบทความสื่อให้เข้าใจว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นผู้วางแผนตระเตรียมสร้างสถานการณ์เพื่อสังหารประชาชนจำนวนมากอย่างโหดเหี้ยมรุนแรงภายหลังวันพิพากษายึดทรัพย์ของพลตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ซึ่งไม่มีมูลความจริง

เมื่อศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ นช.ทักษิณ ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณ ฉบับปักษ์แรก เดือนมีนาคม 2553 ก็ตีพิมพ์ภาพปกเป็นภาพพญาครุฑสีทอง ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ ถูกปิดหน้าด้วยรังผึ้ง บนปกมีข้อความระบุว่า ปิดหน้าปล้น แตกหัก ขณะที่บนโปรยด้านล่าง ระบุข้อความว่า “โหด 6 ตุลาแห่งปี 53 ...บ้านจะดีต้องเริ่มที่พ่อ ... GT200 เครื่องจับแรงกดดันอนุพงษ์” อันเป็นชื่อบทความในเล่ม โดย “โหด 6 ตุลาแห่งปี 53” เป็นบทความ 1 ใน 2 ชิ้นที่นายจักรภพเขียน และทำให้นายสมยศติดคุก

ขณะที่ปกหลังของหนังสือเป็นรูป นช.ทักษิณ พร้อมข้อความภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นคำแปลโคลง ธรณีนี่นี้เป็นพยาน ของศรีปราชญ์ ซึ่ง นช.ทักษิณยกขึ้นอ้างในการให้สัมภาษณ์โจมตีศาลไทยหลังทราบคำพิพากษายึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท

วอยซ์ ออฟทักษิณ จึงไม่ใช่แค่ชื่อนิตยสารที่เอาชื่อทักษิณมาเป็นจุดขายแต่วอยซ์ ออฟ ทักษิณ คือเสียงของทักษิณที่บอกกับคนไทยว่า เขาคิดอย่างไรกับในหลวง

วันนี้ ถ้านายสมยศกับครอบครัวและมิตรสหาย จะร้องขอความเป็นธรรม ต้องไปขอจาก นช.ทักษิณว่า ครั้งหนึ่งเคยใช้ตนเป็นกระบอกเสียงโจมตีอำมาตย์ โจมตีพลเอกเปรม ตินสูลานนท์ ให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ เหตุใดวันนี้ เสียงของทักษิณจีงเงียบหายไป ปล่อยให้ตนต้องรับโทษทัณฑ์แต่เพียงผู้เดียว หนำซ้ำ กลับปล่อยให้น้องสาวไปเกี้ยเซี้ยะ ยิ้มระรื่นสานสัมพันธ์กับอำมาตย์อย่างพลเอกเปรม ที่เป็นผู้ร้ายตลอดกาลของนิตยสาร Voice of Taksin



กำลังโหลดความคิดเห็น