xs
xsm
sm
md
lg

“สมชัย” ชี้ผู้สมัครบางรายหาเสียงเสี่ยงผิด กม. ชูนโยบายเกินงบและอำนาจ กทม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมชัย จึงประเสริฐ (แฟ้มภาพ)
“สมชัย” ติวเข้มเจ้าหน้าที่การข่าวจับทุจริตเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ระบุการซื้อเสียงยุคใหม่เปลี่ยนไปใช้วิธีให้ไปซื้อของร้านสะดวกซื้อแล้วตามไปจ่าย หรือมีการโอนเงินผ่านเอทีเอ็ม พร้อมติงผู้สมัครหาเสียงเสี่ยงผิดกฎหมาย ระบุบางรายชูนโยบายเกินงบฯ ของ กทม. หรือไม่ก็เกินอำนาจตามกฎหมายที่มีอยู่ เตือนระวังติดคุก จ่ายค่าเสียหายเลือกตั้ง 170 ล้าน

นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวมอบนโยบายในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ให้แก่เจ้าหน้าที่การข่าวว่า ชุดหาข่าวคัดเลือกจากบุคคลในพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ทราบดีหากมีการกระทำผิดของผู้สมัคร หรือผู้สนับสนุนผู้สมัครเกิดขึ้นในชุมชน จึงอยากขอให้ทุกคนได้ศึกษาข้อกฎหมายและเทคนิคต่างๆ เพื่อนำมาใช้ในการตรวจสอบ

นายสมชัยกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญ เพราะผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจะมาเป็นผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งจะมาบริหารงบประมาณหลายหมื่นล้านที่มาจากภาษีของประชาชน หากบริหารจัดการดี ประโยชน์ก็จะตกแก่ประชาชน แต่หากบริหารไม่ดี ไม่เลือกคนที่เสียสละเพื่อส่วนรวมเข้ามาทำหน้าที่ก็นับว่าเป็นสิ่งที่น่าเสียดาย เพราะประชาชนก็จะรู้สึกว่าไม่ได้ทำหน้าที่ที่ดีเท่าที่ควร อีกทั้งปัจจุบันการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้แข่งขันกันเฉพาะผู้สมัครเท่านั้น แต่เป็นการแข่งขันของพรรคการเมืองต่างๆ ด้วย เบอร์ 9 เป็นผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย เบอร์ 16 เป็นผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่เบอร์ 11 ก็เป็นอดีตนายตำรวจใหญ่ ส่วนคนอื่นๆ ก็เคยเป็นบุคคลที่มีอำนาจทางการเมืองมาก่อน กกต.ในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมการจัดการเลือกตั้ง ก็คาดหวังว่าหลังจากจบการแข่งขันการเลือกตั้งครั้งนี้ทุกคนทุกฝ่ายจะยอมรับผลการเลือกตั้งว่าเป็นไปอย่างสุจริตเที่ยงธรรม

“อยากให้ชุดหาข่าวศึกษาข้อกฎหมายและเทคนิคต่างๆ ให้ดี เพราะปัจจุบันรูปแบบการทุจริตเปลี่ยนแปลงไป ผู้สมัครไม่ไปเดินซื้อเสียงเหมือนอดีต เดี๋ยวนี้เขาอาจจะให้ไปซื้อของร้านสะดวกซื้อแล้วตามไปจ่ายให้ทีหลัง หรือเอาหมายเลขเอทีเอ็มมาหลังลงคะแนนเลือกตั้งแล้วจะเอาเงินเข้าให้ในภายหลัง ซึ่งชุดหาข่าวต้องเรียนรู้วิธีการเหล่านี้ ต้องสืบว่าใครเป็นตัวแทนของผู้สมัครรายไหน แล้วทำเป็นรายงานไว้แจ้งให้ กกต.ทราบ หากมีการกระทำผิดแล้วหลักฐานชัดเจนก็จะนำไปสู่การให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม หรือไม่ก็จะรวบรวมไว้หากมีผู้ร้องเรียน กกต.ก็จะหยิบขึ้นมาพิจารณา”

นายสมชัยยังให้สัมภาษณ์ถึงการหาเสียงของผู้สมัครในขณะนี้ว่า กกต.ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการติดตามพฤติกรรมของผู้สมัครอย่างต่อเนื่อง ถ้ามีการออกทีวี ออกสื่อ หรือมีเดียต่างๆ ก็จะบันทึกเทปเอาไว้ ซึ่งในกรณีที่มีการกล่าวหากันว่าผู้สมัครบางรายหาเสียงเกินจริงนั้นจากข้อมูลที่มี คิดว่ายังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าเป็นเช่นนั้นหรือไม่ แต่ก็พบว่านโยบายของผู้สมัครที่นิยมมาหาเสียงหลายๆ คนนั้น พูดเกินงบประมาณที่กรุงเทพมหานครมีไปมากมาย หรือถ้าเกี่ยวข้องกับกฎหมาย ก็ทำให้รู้สึกว่า หากได้รับเลือกเข้าไปแล้วก้ต้องไปแก้กฎหมายอีก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะแก้ได้หรือเปล่า แต่หาเสียงชูเป็นนโยบายไปแล้วอย่างนี้มันก็เสี่ยง

ส่วนกรณีที่ศูนย์นักรบไซเบอร์ของ กกต.มีข้อมูลของผู้สมัครที่อาจนำไปสู่การพิจารณาให้ใบเหลือง ใบแดง แก่ผู้สมัครได้นั้น นายสมชัยกล่าวว่า 2 รายที่เก็บข้อมูลไว้ ยังต้องสืบสวนสอบสวน เพราะที่เก็บไว้เนื่องจากเห็นว่ามีข้อน่าคิดและอาจนำไปสู่การร้องเรียนร้องคัดค้านในอนาคตได้ แต่ถ้าจะให้วิเคราะห์ว่าผิดหรือถูกจะทำให้ผู้สมัครโดนใบแดงหรือไม่ คิดว่ายังเร็วเกินไปที่จะตัดสินเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม ในช่วงโค้งสุดท้ายเชื่อว่าผู้สมัครแต่ละคนจะงัดกลยุทธ์การหาเสียงมาใช้กันเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าติดตามพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด และอยากเตือนให้ผู้สมัครหาเสียงด้วยความระมัดระวัง เพราะหากกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งและถูกเพิกถอนสิทธิ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย และหาก กกต.ส่งเรื่องให้ศาล หาศาลตัดสินเห็นตาม กกต. ผู้สมัครรายนั้นจะต้องพ้นจากตำแหน่งและต้องชดใช้ค่าเสียหายในการเลือกตั้งกว่า 170 ล้านบาท ตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ก็จะไม่ได้เป็น แล้วยังต้องมาติดคุกอีก ชื่อเสียงจะเสียหมด


กำลังโหลดความคิดเห็น