xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำ : แกนนำพันธมิตรฯ ร่วมวิพากษ์ วิภาษ “พล.ต.จำลอง ศรีเมือง” (ต่อ)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพจากเฟซบุ๊ก ลุงจำลองแฟนคลับ
ปานเทพ- เดี๋ยวปิดท้ายครับ ท่านถัดมาครับ อ.สมเกียรติ ครับ ในช่วงปิดท้าย เชิญสรุปครับ

สมเกียรติ- ผมจะตอบคำถามพี่พิภพนะ ว่าผมอ้างตำรา ผมเนี่ยเชิญ พล.ต.จำลอง ไปที่โคราช แล้วหญิง นั่งข้างๆ ลุงจำลอง ผมให้พาผมกับบำรุง คะโยธา ไปพบลุงที่บ้าน ผมต้องการที่จะให้ลุงมาเป็นแสงสว่างนำทางการเปลี่ยนแปลง เรื่องที่ดินที่พี่เสนอไป ผมเห็นด้วย ว่าประเทศไทยมันทำไม่ได้ ที่ดินมันอยู่ในมือของคนรวย มันไม่รวยธรรมดาด้วย มันรวยกับต่างชาติ ต่างชาติมาเอาที่ดินไทยแล้วมันต้องใช้วิธีที่พี่เสนอในสังคมอินเดียในสมัยก่อน ผมคิดว่าลุงจำลองก็คงไปคิดอีกนานว่าจะทำงานนี้เป็นชิ้นสุดท้ายดีมั้ย ผมยืนยันว่า การเคลื่อนไหวไม่ใช่ พล.ต.จำลอง หรือลุงจำลอง หรือมหา 5 ขัน เป็นคนหายากนะ หาไม่มีครับ ไม่ใช่หายากอย่างเดียวนะ ผมจะถามว่าคนไหนที่ไล่นายกฯ ได้ 5 คน มีที่ไหนในโลกบ้าง ไม่มี มีคนเดียว และผมยังไม่ถึงเลยมาร่วมไล่กับแกตอนหลัง อันนี้อันหนึ่ง แล้ว 193 วันมีมั้ย ไม่เคยมีใครประท้วงได้นานขนาดนั้น 158 วันก็ไม่มียาวขนาดนั้น ผมจึงถือว่าประสบการณ์ของท่านสูงส่งมาก แล้วผมขอพูดว่า คานธี เขาพูดว่า ความไม่รุนแรงไม่ใช่เครื่องอำพรางของความขี้ขลาด แต่เป็นคุณธรรมอันสูงสุดของความกล้า ลุงจำลองนี่อหิงสาตลอด จนบางครั้งผมโมโห ผมออกมาข้างนอก เมื่อไรจะเลิกอหิงสา แต่ผมอ่านพบคานธีแล้วมันเป็นคุณธรรมอันสูงสุดของความกล้าหาญ ผมจึงเชื่อว่าอหิงสาจะนำมาซึ่งชัยชนะอย่างเด็ดขาดด้วย ไม่เชื่อก็คอยดูในเดือนเมษายนนี้ มีคนหนึ่งถามผมเมื่อเช้านี้ว่าเมื่อไรจะเคลื่อนไหวอีก ผมบอกว่าให้รอฟังลุงจำลองคนเดียว

เรื่องอีกเรื่องหนึ่งนะครับ ผมต้องพูดเรื่องกองทัพธรรม กับสันติอโศก ผมไปพบพ่อท่านที่สีมาอโศก พ่อท่านเปรียบเทียบพรรคคอมมิวนิสต์ เปรียบเทียบว่าชาวอโศกเป็นแอปโซลูทคอมมิวนิสต์ เป็นสมบูรณ์ที่สุดเลย พวกคอมมิวนิสต์ล่มสลายหมดแล้ว แต่เป็นไปได้ยังไงที่สันติอโศก หรือชาวอโศกใช้สาธารณะโภคี ไม่รับแรง แต่ถือทำบุญ เอาบุญไปสู้กับทุน บุญสู้กับทุนได้มั้ย สู้ได้ เดี๋ยวนี้การเติบใหญ่ของสันติอโศก มี 2 ตอนที่คนรู้จักมาก ตอนแรกที่พ่อท่านพูดว่า เขารู้จักสันติอโศกมากเพราะ พล.ต.จำลอง ครั้งที่ 2 ผมพูดเองว่า ชาวสันติอโศกคนรู้จักมากที่สุดไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้น เมื่อลุงจำลองมาเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มวลชนของสันติอโศก กองทัพธรรมผมว่า มีไม่ต่ำกว่า 40,000 คน ที่ใจให้ และพร้อมจะลุยทุกที่ ผมจะยกงานเขียนชิ้นหนึ่งที่บอกว่า การรัฐประหาร 19 กันยาฯ 2549 ความโดดเด่นมาอยู่ที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ภาพความเป็นผู้นำชัดขึ้นตามลำดับ เมื่อภาพชัดแล้วเป้าหมายของการโจมตีจากฝ่ายรัฐบาล และผู้สนับสนุนชัดขึ้นมิได้เลือนลาง แต่การเด็ดหัวเป็นภารกิจเร่งด่วน เขาจะเด็ดหัว พล.ต.จำลอง แต่เด็ดด้วยกระสุนทำไม่ได้ เพราะขืนทำจำลองตาย แต่กองทัพธรรมยังไม่ตายใช่ไหมครับ

เขาพูดว่า แต่กองทัพธรรมยังไม่ตาย มีแต่จะเพิ่มขึ้นทั้งพลานุภาพและกำลังพล ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการปฏิวัติ สังคมเขาเขียนมาผมถือว่า การปฏิวัติ หรือ หลายคนเรียกปฏิรูป แต่ผมไม่ชอบคำว่าปฏิรูป ผมอยู่กับมันมานานแล้ว ศัพท์พวกนี้ผมต้องใช้ปฏิวัติเลย แต่ปฏิวัติมันจะต้องเกิดเหตุเพศภัยอะไรต่างๆ และกองทัพธรรมเป็นทัพนำในการขึ้นสู้กับประชาชน และทหารมาคุ้มครองประชาชน และองค์การศาสนาอย่างพ่อท่านเข้ามาร่วมเป็น 3 สถาบันหลัก เหมือนการปฏิวัติของมาร์กอสผมจะจบลงด้วยประโยคของผมที่ว่า คติประจำใจของ พล.ต.จำลองบอกผมเมื่อปี 2535 กินน้อย ใช้น้อย ทำงานให้มาก ที่เหลือจุนเจือสังคม ต่อมาลุงจำลองพูดอีกว่า ชีวิตนี้เป็นของผม ผมขอยืนยันว่า จะซื่อสัตย์และเสียสละตลอดชีวิต ซึ่งได้ปฏิบัติตนเช่นนี้มานานแล้ว แม้มีอะไรมาข่มขู่กดดันบีบคั้น ก็ไม่มีวันที่ผมจะยอมสยบโอนอ่อนผ่อนตามให้กับความไม่ถูกต้อง ถ้ายอมเท่ากับผมทรยศต่อตัวเอง และสังคมประเทศชาติ ทรยศประเทศชาติ ชีวิตนี้เป็นของผมๆ จะเป็นคนซื่อสัตย์เสียสละตลอดไป โดยไม่หวั่นว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผม เป็นอะไรเป็นกัน ท่านชอบพูดคำว่า เป็นอะไรเป็นกัน เพราะผมคือจำลอง ศรีเมือง

ปานเทพ- ช่วงสุดท้ายเรียนเชิญ อาจารย์พิภพ ธงไชยครับ

พิภพ- ขอบคุณครับ ที่พูดทั้งหมดพยายามที่จะเอามหาตมะ คานธี เป็นตัวหลักระบุชีวิตของท่าน พล.ต.จำลองมาเปรียบเทียบ สิ่งที่เหมือนกันอีกอันหนึ่งที่ผมไม่ได้พูดคือ มหาตมะ คานธี สร้างอาศรม แล้วท่านใช้ชีวิตในอาศรมเมื่อว่างเว้นจากการเคลื่อนไหวทางการเมือง คือมาถอดผ้าและทำงานหนัก ผมคิดว่าปฐมอโศก หรือ สันติอโศก เป็นฐานไม่ใช่แต่ด้านนิติทางด้านจิตวิญญาณ เป็นฐานในหลายเรื่องให้กับท่าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง บทเรียนนี้คืออะไร ไม่ว่าเราจะไปสู้อะไรก็แล้วแต่ เราต้องมีหลังพิง ครอบครัวเราต้องเรียบร้อย เพราะเมื่อเราสู้ไม่ว่าแพ้หรือชนะ หรือมีความทุกข์ความสุขอะไร กลับมาแล้วหันแล้วมั่นใจว่า จะก้าวต่อไปได้ เพราะฉะนั้นผมมักจะเปรียบเทียบตรงนี้ และคนที่เป็นมหาบุรุษ หรือคนที่เป็นนักสู้ต้องมีฐาน

เพราะฉะนั้นถ้าผมจะบอกว่า ความสำเร็จของท่าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นับตั้งแต่เลิกปฏิบัติการทางการทหาร มาปฏิบัติการทางธรรม และออกไปสู้ทางการเมือง ผมคิดว่าความสำเร็จนั้นต้องยอมรับว่า มีปฐมอโศกและสันติอโศก และท่านพ่อโพธิรักษ์หนุนอยู่ข้างหลัง เพราะฉะนั้นผมอยากพูดถึงปฐมอโศกสักนิดเดียวนาทีสองนาที คือผมเองท่าน พล.ต.จำลอง บอกท่านเป็นคนสุดโต่ง ผมเรียนเลยนะครับ คนมีอุดมคติต้องสุดโต่งอันนี้ได้คำมาจากอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ และต้องไม่ประนีประนอมกับสิ่งที่ไม่เป็นอุดมคติ อันนี้คือท่าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ถ้าใครรู้จักท่าน ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ถึงแม้ว่าท่านจะไม่ปฏิบัติธรรมเหมือนลุงจำลอง ท่านยังกินเหล้าบ้างอะไรอย่างนี้ แต่ในเรื่องธรรมะอย่างอื่นไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้นฐานะการเงินการคลังที่ดีอยู่ขณะนี้ ฐานหนึ่งมาจาก ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ผู้ว่าราชการแบงก์ชาติ เผอิญผมรู้จักท่านเป็นการส่วนตัวด้วย และเปรียบเทียบกันได้

เพราะฉะนั้นปฐมอโศก สันติอโศก ก่อนที่ผมจะรู้จักปฐมอโศก และสันติอโศก ผมรู้จักชุมชนอามิชของเพื่อน เออ เวลาพูดภาษาอังกฤษทีไรลิ้นมันพันเหลือเกิน ที่อเมริกาละกันง่ายๆ และก็แต่นั้นสุดโต่งจริงๆ เลย แต่สำหรับปฐมอโศกเนื่องจากพ่อท่านได้เป็นนักปฏิบัตินิยมด้วย ไม่ใช้นักปฏิบัติธรรม คือทำจากสิ่งที่จะเป็นจริงได้ ขนาดนี้ยังบอกว่าเป็นสุดโต่งเลยนะครับ การเป็นสมาชิกสันติอโศก หรือ อโศกก็ยากอยู่แล้ว แต่สามารถแพร่หลายไปได้ และผมคิดว่านี่คือเป็นทางออกของโลก และประเทศไทยด้วย ไม่ใช่แต่ประเทศไทยเท่านั้น และเมื่อกี้ผมพูดเลือนๆ เมื่อวานไม่ได้พูดเล่นนะครับ จำได้ไหมตอนน้ำท่วม ปรากฏว่าสันติอโศกก็น้ำท่วม ไม่ใช่สันติอโศก อโศกที่หนึ่งนะครับ ที่อุบลฯ หรือที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ไม่เคยมีปัญหาเลย กลับสามารถยืนอยู่บนน้ำท่วมและไปช่วยเหลือคนอื่นได้ เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ 40 ไม่มีปัญหาเลย สำหรับคนอื่นมีปัญหาหมด ผมจึงเปรียบเทียบว่า ไม่ว่าโลกจะวิกฤตจัญไร เรือโนอาห์ลำนี้ ที่ชื่อว่าอโศก จะเป็นที่พึ่งไม่แต่เฉพาะท่าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กับพวกเราทุกคนเช่นกัน ขอบคุณครับ

ปานเทพ- ในช่วงสุดท้าย ขออนุญาตประชาสัมพันธ์พันธมิตรฯ นนท์ ขอเชิญร่วมงานเสวนาน้ำมันแพง ใครได้ใครเสีย วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2556 เวลา 09.00-18.00 น. ณ สโมสรกรมชลประทานปากเกร็ด รายได้มอบให้กองทุนช่วยเหลือเอเอสทีวี อาหารเครื่องดื่มฟรี พร้อมกับวิทยากร และแกนนำหลายท่าน ในช่วงสุดท้ายเราคงมาฟังความเห็นจากผู้ที่ถูกวิพากษ์ตลอดนับชั่วโมงที่ผ่านมานี้นะครับ และเรียนให้ทราบว่า ไม่ใช่แค่อารยะขัดขืนตั้งแต่ตอนหนุ่ม คือตั้งแต่ตอนเรียนอารยะขัดขืนกับจอมพลเท่านั้นนะครับ ต่อมาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีก็ลาออก เพื่อประท้วงเรื่องกฎหมายทำแท้ง ต่อมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาล คัดค้านเรื่อง สปก-401 แม้แต่คนที่รู้จักกันอย่างดีในยามทำผิดอย่างคุณทักษิณ ออกมาคัดค้านและประท้วง ในยามเหล้าเบียร์เข้าตลาดก็ออกมาคัดค้าน ในยามที่บางจากจะขายให้ต่างชาติก็ออกมาลุกขึ้นสู้ ขอเสียงปรบมือกับคำตอบวิพากษ์วิจารณ์ครั้งสุดท้ายจาก พล.ต.จำลอง ศรีเมืองครับ

พล.ต.จำลอง- เวลามีน้อยผมจะพยายามพูดให้สั้นนะครับ เพราะว่ามีหลายข้อ แต่ข้อที่อาจารย์พิภพพูดว่า ผมมีที่ดินน้อย ที่จริงไม่น้อยนะเยอะ แต่ไม่ใช่ที่ดินของผม ที่ อ.เมืองกาญจนบุรี 336 ไร่ ได้มาเพราะใคร ได้มาเพราะฉันถูกด่า คือที่ตรงนั้นตอนนั้นจะย้ายโรงเรียนผู้นำจากกรุงเทพฯ ไปหนองปรือที่กาญจนบุรี เตรียมและที่จะก่อสร้างที่นั้น ขณะนั้นผมยังเป็น ส.ส.และเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ และมี ส.ส.ปากจัดคนหนึ่งเขาเกลียดผมจังเลย เพราะเขาสู้ผมมาทีไรเขาแพ้ผมทุกทีเลย เขาก็ไปพูดอภิปรายในสภาฯ บอกให้ท่านประธานสภาฯ ทราบว่า มีนักการเมืองคนหนึ่งกำลังตัดไม้ทำลายป่าอยู่ที่กาญจนบุรี เขาไม่เอ่ยชื่อผม แต่เขาบอกว่าตัดผมสั้นๆ กินข้าววันละมื้อ เจ้าของที่ดินที่ อ.เมืองไม่รู้จักกับผมเป็นการส่วนตัว แต่ติดตามงานการของผมเป็นลำดับมา อุตส่าห์ไปถึงบ้านผม ไปเอาที่ อ.เมืองดีกว่า ให้ทันทีตอนต้น 220 ไร่ เลยได้มา ได้มาเพราะเขาไปด่า คนๆ นั้นไม่ใช่ใคร ตอนนั้นเขาเป็นมะเร็งหนักมาก ผมอโหสิกรรมให้เขาตั้งนานแล้ว ผมจะไปเยี่ยมเขาผมกลัวว่า เขายังไม่หายโกรธเดี๋ยวโงหัวมาด่าผมอีก เดี๋ยวเขาไปตายต่อหน้าต่อตาผมๆ เลยไม่ได้ไป เขาชื่อคุณสมัคร สุนทรเวช

เพราะฉะนั้นผมไม่ใช่มีที่ดินน้อยนะครับ มีเยอะ แต่ที่อาจารย์พิภพว่า คือเราแบ่งที่ดินให้กับเกษตรกรมาบุกเบิกเป็นตัวอย่างตั้งแต่ 2536 ต้องไม่สูบบุหรี่ไม่กินเหล้า ไม่เล่นการพนัน ไม่กินเนื้อสัตว์ และไม่ใช้สารเคมีเลย ได้ผลสำเร็จอย่างที่อาจารย์พิภพว่า ส่วนภูผาทีนั้นมันเป็นเรื่องของการรบทัพจับศึก และนี่เรามาพูดกันสักหน่อยก็ได้ คือผมไปลาวตอนนั้นสนุกมากในการเป็นหัวหน้าทีม ไปหาข่าวพาลูกน้องไปอยู่เส้นยุทธศาสตร์ ดูว่าข้าศึกมันเคลื่อนย้ายอะไรไปบ้าง และส่งข่าวกลับเข้ามา เรื่องนี้เมื่อมาเป็นผู้บังคับช่วยรบภูผาทีแล้ว ตอนหลังมีหลายเรื่องหลายราวที่โอ้โหขนาดนั้นเชียวหรอ ตอนผมเข้าเรียนเสนาธิการทหารบกนั้น เมื่อถึงวิชาการรบบนภูเขา อาจารย์เรียกผมเลย จำลองครูให้คะแนนเต็ม จำลองมาสอนงานครู เพราะครูไม่เคยไปรบบนภูเขาจริงๆ เลย และท่าน พล.อ.สายหยุด เกิดผม เขียนหนังสือเล่มเบ้อเร่อเลย พล.อ.ปรีชาก็รู้ ชีวิตนี้มีค่ายิ่ง บทหนึ่งบอกไว้ว่า ผมเลือกภูผาทีพูดถึงวีรกรรมของ ร.อ.โยธิน คือผมนั้นเอง ที่สมรภูมิภูผาที

เรื่องมันเป็นอย่างนี้นะครับ เอาสั้นๆ คืออเมริกันเขาไปตั้งสถานีเรดาร์ ที่มีประสิทธิภาพมากเหลือเกิน อยู่บนยอดภูเขาสูงลิบเลยชื่อ ภูผาทีอยู่ในตอนเหนือของลาว อยู่ใกล้กับชายแดนติดต่อกับเวียดนาม เขาคงจะต้องให้ไทยไปป้องกันให้ได้ ส่วนข้าศึกมันจะต้องยึดให้ได้ ถึงขนาดบอกว่า เตรียมขุดหลุมฝังศพไว้แล้วว่า จะต้องยึดให้ได้ เขาเลยมีการฝึกในประเทศไทย ฝึกเพื่อการรบบนภูเขา ผมไม่ได้ไปฝึกกับเขา ผมยังเป็นหัวหน้าทีมหาข่าวสนุกๆ อยู่เลย ต่อมาผู้บังคับช่วยรบที่ได้รับการฝึกแล้วไปอยู่บนภูผาทีแล้ว ถูกย้าย และคนต่อมาก็ย้ายมาได้ไม่นาน มีการวิ่งเต้นการครับเพราะอะไร ขึ้นมาดูแล้วมันตายแน่ๆ ไม่มีทางรอดออกมาเลย เขาเลยหานักสู้รบมาได้

ท่าน พล.ต.ท.วิทูรย์ ยะสวัสดิ์ ซึ่งท่าน พล.อ.ปรีชารู้ดี ท่านเรียกผมไป ท่านพูดภาษาไทยเดิม ไอ้โยธินมึงนั้นแหละเหมาะ ที่จะไปเป็นผู้บังคับช่วยรบภูผาที ถึงแม้มึงไม่ได้ผ่านการฝึกรบบนภูเขามาก็ได้ เพราะว่าภาวะผู้นำมึงสูงมาก พูดอย่างนี้นะ ผมไปทันทีไม่ใช่ไปเพราะบ้ายอหรอกครับ แต่ผมนึกได้ว่า ไม่ถึงคราวไม่ตายหรอกเห็นไหม ผมผ่านมาได้ตั้งหลายคราว แต่คราวหน้าอาจไม่แน่ ผมว่าตาย ตายเสร็จแล้วตายแน่ๆ มีเฮลิคอปเตอร์ประจำตัว ไปที่ไหนหัวหน้าชุดรบมีเฮลิคอปเตอร์ประจำตัวเลย แล้วบนนั้นมันล้อมไว้หมดแล้ว มันพร้อมที่จะเข้าตีเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ผมตั้งแต่ไปพอไปถึงก็ วันหนึ่งวันหนึ่งไม่มีอะไร มีแต่ซ้อมรบ ซ้อมรบ ซ้อมรบ และวันที่ปะทะข้าศึกอย่างจริง ที่นั้นมีหน่วยอยู่ 3หน่วย 1.ไทย เป็นผู้บัญชาการหมดของการป้องกันภูผาที ป้องกันสถานีเรดาร์ 2.ทหารอเมริกันเป็นทหารที่มีความรู้เรื่องเรดาร์ 3.ลูกน้องของนายพลวังปาว ทหารแม้วมีเป็นร้อยเลย วันที่เขาเข้าตีนั้น เขาฉลาดครับ ผมไม่ขึ้นทางที่ไทยอยู่ เพราะไทยรบเก่ง เขาขึ้นทางลาว 2 ทุ่มลาวมันก็หนีหมดแล้ว มันก็เลยปีนขึ้นมา ทิ้งพลุส่องแสง พอผมเห็นเท่านั้นแล้วโอ้โหหัวใจผมมาอยู่ที่หัวแม่เท้าเลย มันกลัวสุดขีดเลยครับ เพราะมันขึ้นมาตั้ง 50 กว่าคน หน่วยจู่โจมมันนะครับ และอาวุธดีกว่าเราอีก เรามีแค่คาร์บิ้น M2 เขามีอาก้ามีอะไรสารพัดเลย แต่แสดงความหวาดกลัวไม่ได้ โชคดีที่มันมืดนะครับ ลูกน้องไม่เห็นหน้าผมว่า มันซีดขนาดไหน ว่าผมเสแสร้งนะครับคุยกับลูกน้อง ที่อยู่ชุดเครื่องยิงลูกระเบิดลอบผา ตามยุทธวิธีผมอยู่ตรงกลางมีอยู่ 7 คน ไอ้ลูกน้องอยู่ริมผาซึ่งมันไกลกันมาก ผมพูดคล้ายๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

พอปฏิบัติภารกิจเสร็จแล้ว มีคนมาชมผมโอ้โหไอ้ ร.อ.โยธิน หัวหน้าโยธินนี่มันเก่งเหลือเกิน แค่นั้นเราว่ายังไม่ไหวแล้วนะ โอ้โหเราพูดเหมือนกับไม่มีอะไร แท้จริงแล้วผมแกล้งทำเป็นกล้า ผมทำไงดีอย่างที่ พล.อ.ปรีชา ผมตัดสินใจไม่รอดแน่ เพราะเขาเข้ามา 50 กว่าคน อาวุธชั้นดีเลย เมื่อเป็นอย่างนั้นผมเลยสั่งให้ลูกน้องยิงหัวผม อย่างนี้เขาเรียกว่า ยิงในที่มั่น ใช้เครื่องยิงลูกระเบิด 4 ชุด ระดมยิงขึ้นมา แต่ต้องยิงให้แม่นเดี๋ยวถึงผมมานะ ถึงไอ้ตรงกลางที่ไอ้ข้าศึกมันอยู่ แล้วเลยไปก็ลูกน้องผมนี่แหละที่ต้องยิงลูกระเบิด พอยิงได้สักพักหนึ่ง ผมขอพลุส่องแสงอีก เขาหนีกันจ้าละหวั่นเลย เขาไม่คิดว่าผมจะกล้าทำถึงขนาดนั้น ไม่กล้าได้อย่างไงผมก็ถูกเชือดสิ จนถึงเช้าพวกเรา ผมและลูกน้อง 40 กว่าคน กวาดต้อนข้าศึกลงจากผาหมด เขาทิ้งรอยเลือดไว้เป็นหย่อมๆ เขาถือวินัยเคร่งครัดมากเลยนะครับ ไม่ยอมทิ้งผู้บาดเจ็บ หรือคนตายในสนามรบ เราเลยไม่รู้ว่าเขาเจ็บเขาตายเท่าไหร่

นั้นแหละครับท่าน พล.อ.สายหยุด เกิดผล เลยเขียนไว้ว่า สมรภูมิเลือดภูผาที ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก ไม่น่าจะเอาชนะได้ อย่างที่ท่าน พล.อ.ปรีชาว่า กำลังพลเราก็น้อยกว่า อาวุธเราก็น้อยกว่า น้อยกว่าทั้งนั้น แต่มันมาจากว่า ไม่ถึงคราวตรายเลยไม่ตาย ผมเล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่า เคยได้ยินไหม นอนอยู่ในเรือแล้วรถมันทับตาย รถมันตกจากสะพานมาทับเรา

พล.อ.ปรีชา- ตายยากพี่ลองขอขัดตอนหน่อย อย่าถ่อมตัวถ่อมตน ต้องยกให้สัจจะธรรม พี่ลองเขาได้รับการเลือกตั้งเป็นหัวหน้านักเรียน เขาได้คะแนนที่ 1 ได้รับความเป็นผู้นำทางทหาร เขาเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำ แล้วสิ่งที่เขาทำไม่ใช่ปอดหรอก เขาคิดอย่างชาญฉลาดของหน้าที่ผู้นำจะพึงกระทำ ขอตบมือครับ

พล.ต.จำลอง- เพื่อนผมมันชอบยอผมนะ

พล.อ.ปรีชา- ไม่ยอ ผมไม่ยอใคร ผมพูดความจริงครับ

พล.ต.จำลอง- มีเพื่อนอีกคนหนึ่ง วันนั้นมีการประชุมคนไทยที่ได้รับรางวัลแมกไซไซ อาจารย์หมอประเวศก็เข้าประชุมด้วย แล้วอาจารย์ประเวศคุยถึงเพื่อนผมคนหนึ่ง ตอนนั้นเขากำลังจะได้รับการเลือกเป็นประธานวุฒิสภาคือ มนูญกฤต ท่านหมอประเวศท่านก็บอกผมว่า คุณจำลอง ผมถามมนูญเขาว่า ทำไมปฏิวัติไม่สำเร็จวันนั้น มนูญตอบว่า เพราะไม่มีคนชื่อจำลอง ผมรีบออกไปโทรศัพท์เลย บอกอาจารย์เดี๋ยวผมโทรศัพท์ถึงนูญจริงๆ เลย บอกนูญบอกอาจารย์ประเวศอย่างนั้นเลย บอกใช่เพราะไม่มีคนชื่อจำลอง ไม่ใช่ผมจะเก่งนะ คราวหน้าอาจจะพลาดก็ได้นะ เพราะฉะนั้นอย่าไปหวังมาก

พล.อ.ปรีชา- พี่ลองเขาชื่อจำลอง แต่เขาของจริง

พล.ต.จำลอง- อาจารย์พิภพ เดี๋ยวอาจารย์สมเกียรติบอกว่า เอ๊ะผมไปช่วยขายปุ๋ยเอเอสทีวีให้ขวัญดิน คงจะได้กำไรรวมแล้วคงจะเป็น 100 ล้าน ฟังให้ดีนะครับ ค้าขายมา 3ปีเศษ ไม่ต้องลงทุนสักบาท มีพนักงาน 6 คน โทรศัพท์เคลื่อนที่ 6 เครื่อง 3 ปีเศษ ยอดขายทั้งหมด 1,000 ล้านบาท เดี๋ยวก่อนพูด

พล.อ.ปรีชา- เดี๋ยวก่อนผู้จัดการใหญ่คือ ป้าลักษณ์ และสุนัขงานนี้ร่อนเร่ไปทั่ว

พล.ต.จำลอง- คือ 22 เปอร์เซ็นต์ก็รวมแล้ว 200 กว่าล้าน จริงอย่างที่ว่า คุณลักษณ์เขาแนะผมว่า คุณสนธิเอาสินค้าอะไรมาขายเยอะแยะ เธอไปบอกให้ขายปุ๋ยอินทรี ผมมีประสบการณ์คือ ผมเป็นเจ้าของบริษัทเท่าทุน คุณลักษณ์อีกแล้วบอกเธอเลิกขายสินค้าต่างๆ ขายปุ๋ยอินทรี เลยขายปุ๋ยอินทรีแต่เอาเท่าทุน แต่เอาเท่าทุนก็ตังค์ครับ คนภาคอีสานพอเห็นเครื่องหมายเขาเรียกปุ๋ยนี้ว่า ปุ๋ยตราเด็กน้อย เพราะคุณประยูร จรรยาวงษ์ วาดผมคล้ายๆ ผมยังเด็กอยู่เลย เป็นเครื่องหมายเท่าทุน ขายมา 5 ปีกว่าๆ มีผู้จัดการอยู่คนเดียวทั้งบริษัทคือ คุณกอบกุลนี่ก็ยังอยู่มาด้วยนะครับ ไหนเอาประสบการณ์นี้ไปเล่าให้คุณสนธิฟัง คุณสนธิเห็นด้วยแต่ไม่รู้จะขายยังไง เพราะไม่เคย จนกระทั่งแกนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ผมกับคุณลักษณ์ก็ไป คุณสนธิบอกพี่ลองช่วยขายปุ๋ยอินทรีให้ที เลยมีการประชุมกัน เอเอสทีวีเป็นคนเลือกทราย โดยมีที่ปรึกษาคือ อาจารย์ขวัญดิน เลยเรียกตามว่า ปุ๋ยเอเอสทีวีตราขวัญดิน และขอยืนยันได้นะครับ ไม่น่าเชื่อว่า เรากำลังจะทำประชาสัมพันธ์ต่อไปว่า ส่งไปขายต่างประเทศเป็นพันตันแล้วครับ

ต้องขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ชนวน รัตนวราหะ ที่ให้การสนับสนุนมาตลอดเวลา ซึ่งท่านมาในงานนี้ด้วย เลยบอกให้ทราบว่า คงจะเป็นอย่างนั้นจริง แต่เยอะนะครับ ต่อต้านทุนนิยมทำไมมาสนับสนุนทักษิณ เอาสั้นๆ ละกัน ทักษิณมันแวะไปที่บ้านผมด้วย บอกพี่ทำธุรกิจพอและ กินใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมด เออจริง อยากจะเป็นนักการเมือง ผมบอกว่าไปตั้งพรรค จะได้ไม่ต้องทำตามกฎเกณฑ์ของพรรคเก่า คุณกำหนดเลยว่า พรรคใหม่คุณจะเป็นยังไง หายไปพักนึงบอกพี่ตั้งไม่ได้ ผมนึกแล้วว่า ปัญหาที่ตั้งไม่ได้ปัญหาหนึ่งคือ แกต่างจากผม เพราะแกเป็นคนรวยใช่ไหม คนไปเข้าพรรคก็ขอเงิน เข้ามาสมัครกับผมๆ เป็นหัวหน้าพรรค มาก็มีแต่จะช่วยผม โดยผมไม่ต้องขอร้อง เสร็จแล้วผมมานึกว่า ผมเป็นหัวหน้าพรรค โอ้โหเสียงดีมาก แต่คะแนนมันได้ครึ่งๆ กลางๆ เป็นหัวหน้าพรรคได้ ส.ส.47 คน เขาก็ว่าเยอะแล้วนะ ไม่ซื้อเสียงเลย ในจำนวน ส.ส.ทั้งหมดตอนนั้นเพียง 330 คนเท่านั้นเอง ผมเลยนึกว่า ผมถึงทางตันแล้ว คือถ้าไม่ได้เป็นแกนนำรัฐบาล ไม่สามารถที่จะเข้าไปอยู่กระทรวงสำคัญ และแก้ไขปัญหาของชาติได้ เป็นเพียงแต่ไม้ประดับอยู่กระทรวงนั้นบ้าง กระทรวงนี้บ้าง เลยนึกถึงเขาว่า เขาเป็นคนที่หนุ่มกว่าผมนะ และตัดสินใจฉับไวคล้ายๆ กับผมด้วย และกว้างขวางในวงธุรกิจด้วย ในวงราชการด้วย เลยไปบอกเขาเอาไหมจะเสนอให้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ เพราะตอนนั้นเราจะปรับทั้งพรรค เพื่อได้มีรัฐมนตรีใหม่ของเราเข้าไปอีก 11 คน เมื่อเขาตกลงเลยเสนอให้เขาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ

เสร็จแล้วต่อมาตอนหลัง เขาลงหาเสียงทั่วประเทศเลยนะครับ เอาจริงเอาจังเลย ได้ ส.ส.23 คน เขามาบอกผม พี่ทำเคร่งครัดอย่างพี่นะ เคร่งครัดคืออะไร ไม่ซื้อเสียง ไม่แจกข้าวของเพื่อแลกคะแนนเสียง ไม่พูดปดมดเท็จ จ้วงจาบใส่ร้ายป้ายสี ไม่ใช่วิชามาร ผมได้ครึ่งหนึ่งของพี่ก็ถูกต้องดี ผมเป็นหัวหน้าพรรคได้ 47 ก็เป็นหัวหน้าพรรคได้ 23 47 หาร 2 ได้ 23 ผมรู้แล้วว่า เขาถึงทางตัน เขาก็งอน งอนยังไงรู้ไหม ประกาศจะขอลาออกจากหัวหน้าพรรค สมาชิกพรรคขออยู่ พอขอเขาอยู่ปั๊บ เขาไม่ลงเลือกตั้งเพราะรู้แล้วว่า นี่มันคือทฤษฎีฝ่อผมคิดในใจนะ คือมันจะฝ่อลงไปเรื่อยๆ ถ้าเราไม่ซื้อเสียง เขาส่งลงสมัครรับเลือกตั้งเต็มเลยนะแต่เขาไม่ลงเลือกตั้ง ปรากฏว่าเกือบได้ทั้งนั้นเลย มีได้มาคนเดียวคุณสุดารัตน์ เห็นไหม ทฤษฎีฝ่อคือ 47 23 1 ผมเลยเชิญทั้งสุดารัตน์ทั้งทักษิณมาบอกว่า เราได้ทำดีที่สุดแล้วนะ แต่สังคมส่วนใหญ่เขาไม่พร้อมที่จะสนับสนุนพรรคดีๆ อย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นไม่ว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรคต่อไปก็ตาม มันก็จะเป็นอย่างนี้แหละ นี่คือทำไมผมไปสนับสนุนนายทุนทั้งๆ ที่ต่อต้านนายทุนตลอดมา

โดยส่วนตัวยังยืนยันนะครับว่า ผมยังชอบเขาหลายอย่างโดยส่วนตัว ผมยังนึกว่าเขาเป็นน้องผม แต่ผมต้องตัดใจ ถ้าผมอยู่เฉยๆ ผมสบายเลยใช่ไหม เรื่องอะไรผมจะต้องไปต่อต้าน มันเป็นน้องผม มันผิดมันถูกมันเรื่องของมัน และผมอยู่เฉยๆ ผมสบายดี ไม่ใช่นะ และวันนี้ผมถูกเขาฟ้องด้วย ผมถูกขึ้นลงขึ้นศาลไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ไอ้น้องผม ไอ้ทักษิณมันฟ้องผมด้วย มีอยู่คดีหนึ่งไม่ไปฟ้อง ผู้พิพากษาก็จับผมเข้าไปด้วยคือ ทนายเสนอให้ผมเป็นจำเลยไปด้วย เอาละครับ เรื่องนี้อีกเรื่องหนึ่ง และเรื่องที่สิกขะถามเมื่อวานนี้ มาปฏิบัติธรรมที่อโศกแล้วได้อะไรบ้าง ผมพูดกับท่านแล้วทำให้คนอื่นเขาได้คิดด้วย ได้ก็คือ จากบ้าน 2 ชั้นใหญ่ๆ โตๆ เหลือชั้นเดียว ที่เหลือ 50 ตารางวา จาก 199 ตารางวา และอีกทีหมดไปเลยไม่เหลือเลย อันนี้แหละครับที่ได้มาคือ ได้ชนะจิตใจ ทำให้ผมเสียสละเพื่อสังคมได้ ผมยืนยันนะครับ จะมีสักกี่คนในประเทศนี้ที่เจอเรื่องแปลกๆ อย่างผม

เรื่องแรกหมอญี่ปุ่นที่มีโรงพยาบาลมากที่สุดในญี่ปุ่น เมื่อ 3ปีที่แล้วมี 66 โรงพยาบาล และมีคลินิกอีก มีสถานที่ดูแลคนป่วยเยอะแยะ มาคาดคั้นให้ผมเป็นเจ้าของโรงพยาบาล 1,000 เตียง จะซื้อที่ในกรุงเทพฯ จะซื้อเครื่องมือให้ จะสร้างอาคารให้ ไม่ใช่ผมรู้คนเดียวนะ ให้ผมเชิญอาจารย์หมอเชน เชนใครๆ ที่ผมรู้จัก ซึ่งอยู่ในวงการรักษาพยาบาล ไปดูงานบริษัทใหญ่โตของเขาที่รักษาพยาบาลในญี่ปุ่น เพื่อมาเตรียมสร้างโรงพยาบาลในนี้และให้ผมเตรียมเป็นเจ้าของ จะได้รักษาคนรวยมาช่วยคนจน ผมเห็นใจเขาครับ หมอโซกูดะไม่ว่าจะไปสร้างโรงพยาบาลที่ไหนก็ตาม ต้องไปกู้เขามา แต่แกมีความเชื่อถือดี แล้วแกผ่อนหมด แกมาสร้างให้เรา แกต้องมาเป็นหนี้เขาอีก แล้วแกเป็นโรคภัยไข้เจ็บมากเลยในตอนหลัง ผมเลยปฏิเสธเรื่อยมา ก็บอกกับลูกน้องว่า ประเทศไทยนี่แปลกที่สุด มีแต่ประเทศอื่นไปขอให้แกมาสร้าง และก็ไปสร้างมาแล้ว ที่ไหนๆ ก็สร้าง แต่ผมเห็นใจแก และอีกอย่างหนึ่งโรงพยาบาลเราก็มีมากแล้ว พอแกรู้ว่าผมและคุณธีระเป็นเจ้าของสถานพยาบาล ที่มีการฟอกไต มีเครื่องไตเทียมใช่ไหม เรามีทั้งหมด 12 เครื่อง ยืมเขามา 11 มีจริง 1 แกเลยส่งมาให้ทีเดียว 11 เครื่อง และเท่านั้นไม่พอส่งมาให้อีก 50 พอเราเกิดน้ำท่วม ขณะที่แกสั่งอะไรไม่ได้พูดไม่ได้แล้ว ใช้ภาษาตาสั่งลูกน้องส่งมาให้อีก 20

ตอนนี้สหคลินิกมูลนิธิ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง มีเครื่องฟอกไตทันสมัยมากที่สุดในประเทศไทย เห็นไหมครับ มีใครเคยเจอเรื่องนี้บ้าง ให้เป็นเจ้าของโรงพยาบาลพันเตียงก็ไม่เอา และมีเครื่องฟอกไตมากที่สุด แล้วฟอกโดยราคาต่ำสุดครั้งละ 1,000 บาท โรงพยาบาลเอกชนที่พยาบาลบอกผมนะครับ แห่งหนึ่งครั้งละ 5,000 บาท อีกแห่งหนึ่งครั้งละ 5,900 อ้าวมหาสุนทรตอนนั้นท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดไทยในชิคาโก ท่านมาชวนญาติโยมในเมืองไทยสร้างพระพุทธรูป องค์เบ้อเร่อเลยจะส่งไปทางเรือมันช้า จะส่งทางเครื่องบินไม่ไหวค่าระวางแพง และไม่รู้มีใครไปแนะท่านว่า มาหาผมสิ ให้ผมทำหนังสือให้ฉบับ ผมไม่รู้จักนะครับ เจแปนแอร์ไลน์ ผมไม่รู้จักใครเป็นใครก็ไม่รู้ ผมมีหนังสือเข้าไป เชื่อไหมครับ พระพุทธรูปหนัก 2,500 กิโลกรัม หนังสือธรรมะอีก 1,000 กิโลกรัม ไปโดยสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ ไปถึงชิคาโกโดยไม่เสียค่าระวางสักบาทนึง มีใครเจออย่างผมบ้าง มีไหมครับ

และตอนนั้นตอนที่เกิดแผ่นดินถล่มที่โกเบประเทศญี่ปุ่น ผมเป็นรองนายกฯ ผมถามทักษิณ รัฐมนตรีต่างประเทศ ทักษิณว่าไงเขาถล่มไปแล้ว เราจะไปช่วยไหม ทักษิณบอกนายกฯ ตอนนั้นผมไม่เอ่ยชื่อใครนะ นายกฯ บอกว่าไม่ต้องไปช่วยญี่ปุ่นรวยแล้ว ผมบอกไม่ใช่นะ ผมต้องไปเพราะในทางสังคมเพราะเขาช่วยผมมาเยอะเหลือเกิน ผมต้องไปแล้วผมถามรัฐบาลว่า ผมจะไปเป็นการส่วนตัว หรือจะให้ผมเป็นหัวหน้าชุด เขาก็ให้ผมเป็นหัวหน้าชุด ตกลงว่าที่โกเบรองผู้ว่าฯ ญี่ปุ่นมารับของด้วยน้ำตาซึมเลยว่า ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่เข้าไปถึงโกเบ โดยเขาไม่ได้ร้องขอเลย ไปพร้อมกับผ้าห่มอย่างดี 4,000 กว่าผืน อาหารแห้งเยอะแยะไปหมดเลยไปที่นั้น และผมไปอย่างไงรู้ไหมครับ ผมไปโดยไม่ได้ใช้เงินหลวง ไม่ได้ใช้เงินหลวงเพราะอะไรขนผ้าห่มอย่างดี อาหารแห้งเยอะแยะ ไปเต็มลำเรือเลยโดยเจแปนแอร์ไลน์ฟรี และไปถึงโอซากาที่จะเข้าไปโกเบ ผมเกิดรู้จักกับประธานอีก ประธานคนนั้นชอบผมมากเลย ประธานบริษัทใหญ่มากเลย แกมีรถโรลสรอยซ์นะที่แพงในญี่ปุ่น ถ้าแกรู้ว่าเมื่อไหร่ผมจะผ่านโอซากา ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม แกจะให้ผมนั่งรถแก แล้วแกไปนั่งรถญี่ปุ่นเก่าๆ แกบอกถือเป็นเกียรติของแกที่ผมไปนั่งรถของแก แกออกค่าใช้จ่ายให้หมดเลยครับ ตกลงจับเสือมือเปล่าครับ อัฐยายซื้อขนมยาย โดยมีผมนำไป

นี่ก็เหมือนกันเคยมีใครเจอแบบนี้บ้าง ทั้งหมดที่ว่ามานี้นะครับ เนื่องมาจากผมมาอโศก และได้ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด เลยผิดแปลกแตกต่างจากใครๆ ทั้งหลายแหล่เขา และที่บอกว่า คานธี ขออนุญาตรับความจริงนะครับ ไม่ใช่อวดตัวอวดตนนะ ผู้ใหญ่ของอินเดีย มีอยู่ครั้งหนึ่งพูดในที่ประชุมเลย ซึ่งผมนั่งอยู่ด้วยบอก คนไทยนี่นิยมมหาตมะ คานธีมาก แต่ไม่รู้หรอกว่า เมืองไทยก็มีคานธีแล้วชี้มาที่ผม ผมไม่ถึงท่านนะครับ มหาตมะ คานธีเหนือกว่าผมเยอะแยะ ผมเป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวเท่านั้นเอง เลยเล่าให้ฟังนั้นเป็นคำตอบที่ท่านสิกขะถาม ไม่มีอะไรแล้วนะครับ เดี๋ยวแถมนิดนึงนะครับ เมื่อกี้อาจารย์ปานเทพบอกไป มีเสื้อตราขวัญดินนะครับ วันนี้อาจารย์ขวัญดินก็มาด้วย เสื้อตราขวัญดินขอเชิญท่านตัวแทนจำหน่าย หรือผู้ใช้ปุ๋ยขวัญดินไปรับเสื้อขวัญดิน และคู่มือ รับแจกฟรีนะครับ อย่าโกหกถ้าคุณไม่ใช่ผู้ใช้ปุ๋ย ถ้าคุณไม่ใช่ตัวแทนจำหน่าย ไปรับคู่มือพร้อมกับเสื้อขวัญดินแจกฟรีที่หน้าศาลานี้ ส่วนผู้อื่นที่ไม่อยู่ในกฎเกณฑ์นี้ไปซื้อได้ขายตัวละ 100 บาท ขอบคุณทุกคนครับ สวัสดีครับ

ปานเทพ- 77 ปี 7 เดือนกับอีก 7 วันของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ถือเป็นตัวเลขมหัศจรรย์ที่วันนี้ทางปฐมอโศกจัดงานครั้งนี้ขึ้น อยากจะเรียนพี่น้องประชาชน และทุกท่านได้ทราบว่า ผมทราบจาก พล.ต.จำลอง ศรีเมืองว่า มีหลายคนพยายามจะเขียนประวัติ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ตอนนี้เราใช้เวลา 2 ชั่วโมง 45 นาที ในการคุยเรื่อง พล.ต.จำลองก็ยังไม่หมด เพราะว่าสิ่งที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมืองได้ทำ ชีวิตงานคือชีวิต และชีวิตคืองานนั้น มันมีมากมายเหลือเกินที่ยากจะเล่าได้ ภายในระยะเวลา 2-3 ชั่วโมง อาจจะหลายวัน จนกระทั่งคนเขียนประวัติ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่มาสอบถามทุกวันนั้น ได้ถอดใจและเลิกการเขียนไม่รู้กี่รายแล้ว ด้วยเหตุผลนี้หวังว่า รายการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งนะครับ ที่เล่าถึงความเป็นมาของแกนนำท่านนี้ของพวกเราที่ทำให้เราถือว่า มีโอกาสเชื่อมโลกกันระหว่างชาวอโศก กับชาวพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยให้เป็นหนึ่งเดียวกันนะครับ และหวังว่ารายการนี้คงจะทำให้ท่านได้คิด และได้รู้จักพวกเรามากขึ้น ในฐานะที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือนะครับ ขอเจริญธรรมมีแด่ทุกท่าน และสวัสดีนะครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น