เอเจนซีส์ - ทางการอินเดียยังคงปิดถนนและสถานีรถไฟใต้ดินย่านใจกลางเมืองหลวงนิวเดลีเมื่อวันจันทร์ (24 ธ.ค.) ภายหลังเกิดเหตุปะทะในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงหลายหมื่นคนซึ่งโกรธแค้นกรณีรุมโทรมนักศึกษาหญิงบนรถเมล์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ ผู้นิ่งเฉยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ออกมาปรากฏตัวทางทีวีเรียกร้องให้สังคมกลับสู่ความสงบ รวมทั้งประกาศจะคุ้มครองความปลอดภัยของสตรี และลงโทษผู้ก่ออาชญากรรม “ชั่วช้า”
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการประท้วงทั่วอินเดียเพื่อประณามตำรวจและรัฐบาลกรณีรุมโทรมนักศึกษาหญิงบนรถโดยสารประจำทางในเมืองหลวง ซึ่งเป็นตัวอย่างล่าสุดของเหตุรุนแรงต่อสตรีที่ระบาดหนักข้อขึ้นทุกที
ทั้งนี้ ตัวเลขของทางการอินเดียระบุว่า ปีที่แล้วมีการก่อความรุนแรงต่อผู้หญิงถึง 228,650 คดี จากคดีอาญาเกี่ยวกับความรุนแรงทั้งหมด 256,329 คดี ขณะที่คดีข่มขืนในนิวเดลีเพิ่มขึ้น 17% เป็น 661 คดีในปีนี้
การประท้วงครั้งใหญ่สุดนั้นปะทุขึ้นในนิวเดลีเมื่อวันเสาร์ (22) และส่งผลให้ตำรวจปิดล้อมทางเข้าออกอาคารรัฐบาล ตลอดจนเกิดการปะทะรุนแรงโดยที่ตำรวจใช้เครื่องฉีดน้ำ แก๊สน้ำตา และไม้กระบอง เข้าสลายผู้ชุมนุมซึ่งจำนวนมากเป็นนักศึกษา กระนั้น ในวันอาทิตย์ (23) ยังคงการปะทะรุนแรงต่ออีกวันหนึ่ง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 100 คน ในจำนวนนี้เป็นตำรวจ 60 นาย
นอกจากนี้ยังมีการประท้วงในอีกหลายเมืองทั่วประเทศ และมีรายงานว่า ช่างภาพทีวีคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิตในเมืองอิมภาล ขณะที่ตำรวจพยายามควบคุมการชุมนุม
ในวันจันทร์ (24) ตำรวจยังคงปิดถนนสายต่างๆ ที่มุ่งหน้าสู่ “อินเดีย เกต” หรืออนุสาวรีย์รำลึกสงคราม ซึ่งตั้งอยู่กลางกรุงนิวเดลี และกลายเป็นศูนย์กลางการประท้วงระลอกนี้ นอกจากนั้นสถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่งในเมืองหลวงยังปิดให้บริการเช่นกัน รวมถึงมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเส้นทางผ่านของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ที่อยู่ระหว่างการเยือนอินเดีย
“ผมขอให้พลเมืองที่วิตกกังวลทุกคนอยู่ในความสงบ และผมรับประกันว่าจะพยายามทุกวิถีทางที่ทำได้เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของสตรีในประเทศนี้” ซิงห์แถลงทางทีวีในวันจันทร์ หลังจากถูกโจมตีรุนแรงค่าที่นิ่งเฉยมาตลอดนับแต่เกิดเหตุรุมโทรมนักศึกษาหญิงบนรถเมล์กลางเมืองหลวงเมื่อวันที่ 16 ที่ผ่านมา ขณะที่ โซเนีย คานธี หัวหน้าพรรคคองเกรสซึ่งเป็นแกนนำคณะรัฐบาลผสมชุดปัจจุบัน ได้ออกมาพบปะเพื่อรับฟังข้อเรียกร้องจากผู้ประท้วงบางส่วนในคืนวันเสาร์
ล่าสุดเหยื่อวัย 23 ปีที่ถูกทุบตีและข่มขืนเกือบชั่วโมงก่อนโยนร่างทิ้งจากรถเมล์ที่วิ่งอยู่ ยังมีอาการสาหัสและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
ขณะเดียวกัน ความคิดเห็นของนักวิจารณ์การเมือง นักสังคมวิทยา และผู้ประท้วง ต่างระบุว่า การประท้วงล่าสุดสะท้อนความไม่พอใจของชาวอินเดียจำนวนมากที่มีต่อความอ่อนด้อยด้านธรรมาภิบาล รวมทั้งการขาดแคลนความเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาสังคมและเศรษฐกิจ
บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์มินต์ ก็วิจารณ์ว่า รัฐบาลไม่รู้เลยว่าประชาชนต้องการอะไร
นิวเดลีนั้นมีสถิติอาชญากรรมทางเพศสูงสุดในบรรดาเมืองใหญ่ของอินเดีย โดยจากรายงานของตำรวจระบุว่า เกิดเหตุข่มขืนเฉลี่ยทุก 18 ชั่วโมง ขณะที่ผลสำรวจทั่วโลกของธอมสัน รอยเตอร์ ฟาวน์เดชันพบว่า อินเดียเป็นประเทศที่เลวร้ายที่สุดสำหรับผู้หญิงเนื่องจากมีการฆ่าทารกหญิง การบังคับเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปีแต่งงาน ตลอดจนการปฏิบัติต่อสตรีแบบทาส ในอัตราที่สูง
นับจากเหตุข่มขืนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการให้สัญญาว่าจะเพิ่มการตรวจตราของตำรวจเพื่อรับประกันความปลอดภัยของผู้หญิงที่กลับจากทำงานหรือสถานบันเทิง ติดตั้งอุปกรณ์แสดงพิกัดดาวเทียมบนระบบขนส่งมวลชน เพิ่มจำนวนรถโดยสารตอนกลางคืน และเร่งรัดกระบวนการพิจารณาคดีสำหรับคดีข่มขืนหรือทำร้ายทางเพศ
ทว่า ผู้ประท้วงมองว่า มาตรการเหล่านั้นยังไม่เพียงพอ และต้องการให้รัฐบาลมีจุดยืนแข็งขันขึ้นต่อกรณีการทำร้ายทางเพศ ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่ไม่ได้ไปแจ้งความกับตำรวจ
ทั้งนี้ ผู้ประท้วงที่ส่วนใหญ่ได้รับการนัดแนะผ่านเครือข่ายสื่อสังคมอย่างทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กนั้นมาจากทุกชนชั้น แต่จำนวนมากเป็นหนุ่มสาวและชนชั้นกลางที่มีแรงกระตุ้นมากขึ้นหลังจากช่วงทศวรรษแห่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ