รอยเตอร์/เอเอฟพี - ตำรวจอินเดียสั่งห้ามประชาชนชุมนุมเกิน 5 คนในบริเวณใจกลางกรุงนิวเดลีเมื่อวันอาทิตย์ (23) ภายหลังเกิดการปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนที่โกรธแค้นเหตุการณ์นักศึกษาหญิงถูกรุมโทรมบนรถเมล์เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน ทว่ายังคงมีผู้คนนับพันทะลักเข้าไปพื้นที่ดังกล่าวเพื่อแสดงความขุ่นเคืองของพวกตน ขณะเดียวกันมีรายงานว่าตำรวจได้ยิงตากล้องทีวีผู้หนึ่งเสียชีวิตระหว่างเกิดการประท้วงกรณีพยายามข่มขืนอีกรายหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
ตำรวจในเมืองหลวงนิวเดลี ได้ใช้แก๊สน้ำตา, รถฉีดน้ำ และกระบอง เข้าสกัดกั้นฝูงชนที่พยายามเดินหน้าเข้าไปในทำเนียบประธานาธิบดี เหมือนกับที่ได้เคยกระทำมาในวันเสาร์ (22) โดยที่มีแพทย์ 2 คนแจ้งกับรอยเตอร์ว่า มีผู้บาดเจ็บต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลใกล้เคียงราว 30-35 คน ในจำนวนนี้เป็นตำรวจ 2-3 นาย
ผู้ประท้วงซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา แต่ก็มีแม่บ้านและกระทั่งเด็กๆ ด้วย กำลังเรียกร้องให้ทางการผู้รับผิดชอบของอินเดียดำเนินการให้มากกว่านี้ เพื่อรับประกันความปลอดภัยของผู้หญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการตรวจตรารักษาความปลอดภัย ในขณะที่บางส่วนยังต้องการให้เพิ่มโทษถึงขั้นประหารชีวิตผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานข่มขืน
ในวันอาทิตย์สถานีรถไฟใต้ดินหลายแห่งปิดทำการ และถนนจำนวนมากซึ่งไปสู่ศูนย์กลางการบริหารของนิวเดลีก็ถูกปิดกั้นจากเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประท้วงรวมตัวชุมนุมกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงตอนเย็นก็ยังมีฝูงชนจำนวนหลายพันคน รวมตัวอยู่รอบๆ อนุสาวรีย์ “ประตูแห่งอินเดีย” (India Gate) ซึ่งปกติแล้วเป็นสถานที่เตร็ดเตร่หาความรื่นรมย์ของผู้คนในวันอาทิตย์
ได้เกิดการต่อสู้กันอย่างชุลมุนหลายๆ จุดในบริเวณใกล้ๆ กับอาคารสถานที่ของรัฐบาล โดยพวกผู้ประท้วงวัยรุ่นพากันตะโกนด่าทอตำรวจนิวเดลี และขว้างขวดเข้าใส่แถวตำรวจซึ่งพยายามกดดันให้พวกเขาถอยกลับไป ต่อมาผู้ประท้วงที่โกรธกริ้วจำนวนหนึ่งได้ช่วยกันพลิกคว่ำรถคันหนึ่ง และยึดรถตำรวจเอาไว้หลายคัน
ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เกิดคดีข่มขืนขึ้นในกรุงนิวเดลีถึง 661 คดี เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 17% และนับเป็นสถิติสูงสุดเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่อื่นๆ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่าสาเหตุเกิดจากรสนิยมชอบความรุนแรงทางเพศ, ความไม่กลัวเกรงกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมที่หย่อนยาน
แต่กรณีข่มขืนนักศึกษาหญิงวิชากายภาพบำบัดบนรถโดยสารประจำทางเมื่อคืนวันอาทิตย์ ที่แล้ว (16 ธ.ค.) เป็นไปอย่างอุกอาจและทำให้ความเดือดดาลในสังคมอินเดียถึงจุดปะทุ
ตำรวจบอกว่า กลุ่มชายเมาสุรา 6 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีคนขับรถโดยสารประจำทางอยู่ด้วย ได้ขับรถโดยสารตระเวนไปในเมืองในช่วงหลังเลิกงานแล้ว และได้จอดรับนักศึกษาหญิงวัย 23 ปีพร้อมกับเพื่อนชายของเธอภายหลังที่ทั้งคู่กลับจากการชมภาพยนตร์และไม่ได้สงสัยอะไรเลย
จากนั้นคนร้ายได้ช่วยกันทำร้ายเพื่อนชายของเธอ ก่อนจะผลัดกันรุมโทรมหญิงสาว และจับเหยื่อทั้ง 2 คนโยนลงจากรถที่กำลังแล่นด้วยความเร็ว
นักศึกษาหญิงเคราะห์ร้ายยังถูกฟาดด้วยท่อนเหล็กตามลำตัวจนบอบช้ำภายในอย่างรุนแรง
ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัย 5 รายหลังเกิดเหตุการณ์ไม่นานนัก ส่วนรายที่ 6 ถูกรวบตัวได้เมื่อวันศุกร์ (21) ที่ผ่านมา
เหยื่อที่เป็นนักศึกษาหญิงซึ่งอาการสาหัสมาก เพิ่งสามารถให้การกับตำรวจเป็นครั้งแรกในคืนวันเสาร์ (22) จากโรงพยาบาลที่เธอพักรักษาตัวอยู่ โดยคำให้การของเธอก็สอดคล้องกับข้อเท็จจริงซึ่งทราบกันก่อนหน้านี้
ประท้วง “โซเนีย คานธี”
ตั้งแต่ประชาชนแสดงความเดือดดาลหนักหลังเกิดกรณีการข่มขืนบนรถเมล์ในสัปดาห์ที่แล้ว พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบก็ได้ให้สัญญาเพิ่มมาตรการตรวจตราเฝ้าระวัง เป็นต้นว่า จัดกำลังตำรวจออกตรวจตราลาดตระเวนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อรับประกันความปลอดภัยให้ผู้หญิงที่กลับจากทำงานหรือย่านบันเทิง, ติดตั้งระบบจีพีเอสบนรถขนส่งสาธารณะทั้งหลาย, จัดรถประจำทางในช่วงกลางคืนเพิ่มมากขึ้น และจัดให้ศาลพิจารณาคดีแบบรวดเร็วในคดีข่มขืนและการทำร้ายทางเพศ
อย่างไรก็ดี มาตรการเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะสร้างความพึงพอใจให้แก่พวกผู้ประท้วงทั้งในนิวเดลีและตามเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศ โดยที่การประท้วงเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์ที่แล้วด้วยการจัดพิธีจุดเทียนรำลึกอย่างสงบในช่วงกลางคืน แต่แล้วก็กลายเป็นการประท้วงอย่างรุนแรงในเมืองหลวง
ผู้ประท้วงส่วนหนึ่งได้ไปชุมนุมค้างแรมตลอดคืนวันเสาร์ที่บริเวณด้านนอกบ้านพักอาศัยของโซเนีย คานธี หัวหน้าพรรคคองเกรส ซึ่งเป็นแกนนำคณะรัฐบาลผสมชุดปัจจุบันของอินเดีย
มีรายงานว่า โซเนียได้ออกจากบ้านพักของเธอในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน เพื่อพูดคุยกับพวกผู้ประท้วง เธอได้ออกจากบ้านอีกรอบหนึ่งในวันอาทิตย์ พร้อมกับบุตรชายของเธอ ราหุล คานธี ผู้ซึ่งถูกจับตามองว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีของอินเดียในอนาคต
“เธอให้คำมั่นแก่เราว่าจะได้รับความยุติธรรม” หนึ่งในนักศึกษาที่ได้พูดคุยกับสองแม่ลูกตระกูลคานธี บอก
ทว่าคนอื่นๆ ยังคงตะโกนด้วยความไม่พอใจว่า “โซเนีย คานธี จงพินาศ” และกล่าวหาพวกนักการเมืองล้วนแต่ไม่แยแสต่อชะตากรรมของพลเมืองสามัญชน
“ถึงเวลาแล้วที่เธอ (โซเนีย คานธี) ต้องกล้าเผชิญกับปัญหา และทำให้ประเทศของเราเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจตราลาดตระเวนที่ดีขึ้นกว่าเดิม หรือการลงโทษพวกทำผิดอย่างแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม” รุขมณี ดุตตา นักศึกษารัฐศาสตร์ปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัยเดลี กล่าว
พวกผู้ประท้วงบอกว่าจะชุมนุมเดินขบวนกันต่อไปจนกว่าจะได้รับหลักประกันที่หนักแน่นจากรัฐบาล
ช่างภาพทีวีเสียชีวิต”
นอกจากที่กรุงเดลีแล้ว สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานโดยอ้างโฆษกตำรวจผู้หนึ่งแจ้งว่า ช่างภาพวัย 36 ปี ของดูร์ดาร์ชาน เครือข่ายโทรทัศน์ระดับชาติในอินเดีย ถูกฆ่าตายจากการยิงปืนของตำรวจ ขณะทำข่าวการประท้วงที่กลายเป็นความรุนแรงในเมืองอิมภาล รัฐมณีปุระ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย
การประท้วงที่อิมภาล เกิดขึ้นภายหลังนักแสดงและนางแบบสาววัย 22 ปี ที่รู้จักกันในนาม “โมโมโกะ” ได้ร้องเรียนออกโทรทัศน์ว่า เธอถูกชายติดอาวุธในท้องถิ่นคนหนึ่งกระชากลากตัวออกไปในระหว่างงานแสดงคอนเสิร์ตในวันที่ 18 ธันวาคม จากนั้นชายผู้นี้ได้พยายามข่มขืนเธอ แต่เธอดิ้นรนต่อสู้และหลบหนีออกมาได้