หน.ปชป.ตอก พท. ยัน “ชวนนท์” พูดจริง “พงศพัศ” ร่วมโกงงบสร้างโรงพัก ท้าฟ้องยุบเจอแจ้งร้องเท็จ ชี้ “จูดี้” ตัวแทงเรื่องถึง ผบ.ตร.ก่อน “สุเทพ” เซ็น อย่าบอกไม่รู้ทำทีโออาร์ บี้ “เหลิม” หยุดจับแพะชนแกะ ชี้ “จูดี้” รอด “สุเทพ” ต้องรอด ติง “ธาริต” ตั้งธงเอาผิด หลับตาดูข้อเท็จจริง-ปลุกนายกฯ ชูจุดยืน หลังถอดใจเป็นเจ้าภาพเอ็กซ์โป ยุคนอยุธยาบี้ เหตุชาติเสียโอกาส ดักอย่ากลัว ปชป.ได้หน้า หรือเอาใจดูไบ ย้อนคุ้มทุนมากกว่านโยบายผลาญงบ
วันนี้ (12 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยขู่ยื่นเรื่องยุบพรรคประชาธิปัตย์ โดยกล่าวหาว่านายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ใส่ร้าย พล.ต.อ.พงพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.พรรคเพื่อไทย ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างโรงพักทั่วประเทศว่า หากนายพร้อมพงศ์ยื่นเรื่องร้องเรียนจริง ตนจะให้ทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ยื่นร้องยุบพรรคเพื่อไทยในข้อหาร้องเท็จ เพราะนายชวนนท์พูดในข้อเท็จจริง ถ้านายพร้อมพงศ์นำไปกล่าวร้ายพรรคประชาธิปัตย์ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็คงต้องยื่นว่าเป็นความจงใจร้องเท็จ เพราะสิ่งที่นายชวนนท์พูดมีเอกสารยืนยันชัดเจน นอกจากนี้ความเกี่ยวข้องของ พล.ต.อ.พงศพัศกับโครงการนี้ก็มีความชัดเจนว่าเป็นผู้เสนอให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นอนุมัติการจ้างบริษัทพีซีซีฯ มาก่อสร้างเอง แต่ถ้านายพร้อมพงศ์ไม่ได้ยื่นเรื่องต่อ กกต. แค่เพียงให้สัมภาษณ์ก็คงปล่อยไปไม่ดำเนินการอะไร แต่ถ้าไปร้องต่อ กกต.ตนก็คิดว่าเป็นการร้องเท็จ และที่ผ่านมาพรรคอดทนมาโดยตลอดแทบไม่เคยยื่นเรื่องร้องเลย มีแต่พรรคเพื่อไทยยื่นเรื่องร้องพรรคประชาธิปัตย์อยู่ตลอด
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยพยายามกล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ใส่ร้าย พล.ต.อ.พงศพัศนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทุกอย่างที่นายชวนนท์พูดเป็นเรื่องจริงตามเอกสารซึ่งพล.ต.อ.พงศพัศ ในขณะเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.เสนอเรื่องถึง ผบ.ตร. ถึงรองนายกฯ ตามขั้นตอน แต่ดีเอสไอกลับบอกว่าคนอนุมัติผิด คนเสนอไม่ผิด ก็จะกลายเป็นการเลือกปฏิบัติ ถ้า พล.ต.อ.พงศพัศคิดว่าไม่ควรนำเรื่องนี้มาพูดก็ต้องไปอธิบายกับดีเอสไอ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ว่าการทำสัญญาไม่ผิดอย่างไร เพราะถ้าการทำสัญญาผิดทั้ง พล.ต.อ.พงศพัศและนายสุเทพต้องไปชี้แจงด้วยกัน ทั้งนี้ยังเห็นว่า พล.ต.อ.พงศพัศจะตัดตอนพูดเฉพาะความเกี่ยวข้องในร่างทีโออาร์ฉบับแรกไม่ได้ เพราะมีส่วนรับรู้โครงการนี้มาตั้งแต่ต้นจนจบคือเป็นผู้ร่างทีโออาร์ฉบับแรก และเป็นผู้ลงนามเสนอเรื่องของ ผบ.ตร.หลังจากที่บริษัทพีซีซีฯ ได้รับการคัดเลือกจากการเสนอราคาต่ำสุดด้วย ซึ่งตรงนี้เป็นหัวใจสำคัญเพราะ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวหาว่าการอนุมัติจ้างบริษัทดังกล่าวมาก่อสร้างเป็นต้นตอของปัญหาเมื่อตรวจสอบก็พบว่า พล.ต.อ.พงศพัศเป็นผู้แทงเรื่องขึ้นมาถึง ผบ.ตร.ส่งให้ รองนายกฯ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันเป็นอย่างน้อย ตนจึงไม่เข้าใจว่าหากดีเอสไอกล่าวหาว่านายสุเทพผิดจะบอกว่าพล.ต.อ.พงศพัศไม่ผิดได้อย่างไร เพราะเป็นผู้เสนอให้เซ็น
ส่วนกรณีการทำทีโออาร์ฉบับแรกที่ พล.ต.อ.พงศพัศลงนามนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายชวนนท์ ได้ชี้ให้เห็นว่าร่างทีโออาร์ดังกล่าวมีการระบุถึงการจ่ายเงินล่วง 15% ไว้ด้วย เพราะดีเอสไอกล่าวหาว่าเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดแรงจูงใจที่จะทิ้งงาน และเห็นว่าในขณะนี้ ร.ต.อ.เฉลิมคงพยายามที่จะดำน้ำไม่ชี้แจงข้อเท็จจริงแต่ทำแบบจับแพะชนแกะคือเอาหลายเรื่องตอนแรกมาปนกับตอนที่สอง การที่ทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ออกมารับประกันว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร.และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ไม่ผิดนั้น จึงมีความชัดเจนแล้วว่าการทำงานของดีเอสไอฟังรองนายกฯ จึงเห็นว่าหากรองนายกฯ เห็นว่าการจ้างบริษัทพีซีซีเป็นความผิดก็ต้องถามว่าทำไม พล.ต.อ.พงศพัศจึงไม่ผิด อย่าเอาเรื่องเก่ามาปนกับเอกสารใหม่ที่ปรากฏ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายธาริตแถลงคู่กับ พล.ต.อ.พงศพัศ จะถือเป็นการใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นรัฐบาลอยู่ในขณะนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นอีกประเด็นที่ต้องพิจารณา เพราะหากมีการใช้อำนาจรัฐมาเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัครผู้ว่า กทม.ก็ถือว่าผิดกฎหมาย ซึ่งฝ่ายกฎหมายของพรรคก็พิจารณาอยู่ แต่ในส่วนของตนต้องการให้เห็นมาตรฐานความเป็นธรรม และอยากให้ ร.ต.อ.เฉลิมกลับไปทำการบ้านใหม่ หรือความจริงอาจจะรู้แล้วแต่แกล้งทำให้คนอื่นสับสนมากกว่า และต้องถาม พล.ต.อ.พงศพัศด้วยว่า เหตุใดจึงไม่ให้ข้อมูลที่ตัวเองเป็นผู้เสนอให้ ผบ.ตร.ให้ความเห็นชอบการว่าจ้างบริษัทพีซีซีฯ ต่อดีเอสไอและสาธารณชน โดยควรชี้แจงความเกี่ยวข้องในทุกขั้นตอน หากคิดว่าการเสนอในขณะเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.ถูกต้องก็ต้องชี้แจงว่าถูกต้องอย่างไร ซึ่งหากเรื่องนี้ถูกต้องนายสุเทพก็ต้องถูกต้องด้วย แต่ขณะนี้เพราะดีเอสไอเอาตัวบุคคลเป็นตัวตั้ง ไม่ได้เอาเรื่องเป็นตัวตั้ง คือจะต้องให้นายสุเทพหรือให้มาถึงตนว่าเป็นคนผิด แต่ถ้าเป็นคนฝ่ายเดียวกันต้องไม่ผิดจึงขัดต่อความเป็นจริง ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าบทสรุปของดีเอสไอในเรื่องนี้จะจบอย่างไร เพราะไม่รู้ว่าดีเอสไอจะใช้มาตรฐานไหน ทั้งนี้ยืนยันว่าหากมีการแจ้งข้อกล่าวหาตนก็จะมีการดำเนินคดีกับนายธาริตแน่นอนเพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากหากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตนและนายสุเทพในขณะดำรงตำแหน่งนายกฯ และรองนายกฯ ก็ต้องส่งให้ ป.ป.ช.
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิมท้าให้พรรคประชาธิปัตย์ตั้งกระทู้สดถามเรื่องปัญหาการก่อสร้างโรงพักในสภาว่า ไม่ต้องมาท้า แต่ขอให้ ร.ต.อ.เฉลิมพูดความจริง อย่าจับแพะชนแกะ
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบคำให้สัมภาษณ์ของนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาระบุว่ารัฐบาลจะทบทวนเรื่องการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โปว่าเป็นเพราะอะไร เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลมีเวลาพิจารณาเรื่องนี้ปีครึ่งแล้ว และหน่วยงานที่เกี่่ยวข้องก็ทำงานจนเป็นที่ยอมรับของต่างชาติแล้วในหลายอย่าง แต่ในขณะนี้ถึงเวลาที่ต้องหาเสียงเพื่อขอเสียงสนับสนุนให้กับประเทศไทย รัฐบาลกลับบอกว่าจะไม่ทำแล้ว จึงต้องอธิบายให้ได้ว่าเพราะอะไร เนื่องจากรัฐบาลได้มีการอนุมัติงบประมาณให้ดำเนินการในเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ในปัจจุบันกลับหยุดไปเสียดื้อๆ ซึ่งพรรคกำลังตรวจสอบอยู่ว่ามีเหตุผลอะไร แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรก็ตามตนเห็นว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะมีการวิจารณ์กันมากว่ามีเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงให้คู่แข่งบางรายหรือไม่ หรือเป็นความใจแคบเพราะไม่ได้เป็นผู้เริ่มต้นเอาไว้ แต่ตนเสียดายโอกาสประเทศเพราะรัฐบาลไม่ควรมาคิดเรื่องแบบนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีข้อครหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เอาผลประโยชน์ของชาติไปแลกกับการตอบแทนบุญคุณให้ดูไบซึ่งเป็นคู่แข่งขันในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานนี้ด้วยคิดอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะยังไม่มีหลักฐาน แต่ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งนี้มี 5 ประเทศ และดูไบก็เป็นหนึ่งในคู่แข่งของไทย ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะต้องมีจุดยืนในเรื่องนี้ให้ชัดเจน และอยากให้ชาวอยุธยาได้ออกมาเรียกร้องเพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ชาวบ้านได้ประโยชน์หลายอย่าง เพราะจะมีการพัฒนาต่อเนื่องทั้งโครงการตามแนวพระราชดำริ การป้องกันน้ำท่วม การจะมีระบบขนส่งมวลชน และยังเป็นหน้าเป็นตาแต่อยู่ดีๆ รัฐบาลจะถอย อีกทั้งเห็นว่า ส.ส.อยุธยาของพรรคเพื่อไทยควรออกมาเรียกร้องว่ารัฐบาลต้องเดินต่อเพื่อรักษาประโยชน์ให้กับประชาชนด้วย แต่ก็คิดว่าคงไม่ง่ายแล้วเพราะในระดับนโยบายแสดงอาการอย่างนี้ในช่วงที่กำลังมีการหาเสียงกันอยู่
ส่วนที่อ้างว่าจะต้องใช้เงินลงทุนกว่า 3 หมื่นล้านบาททำให้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุนนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในเรื่องของตัวเลขความคุ้มทุนนั้น ฝ่ายที่รับผิดชอบได้พิจารณาหมดแล้ว จนมีการเสนอโครงการกับต่างประเทศไปแล้ว จึงไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลจึงมาตั้งคำถามในเรื่องนี้ เพราะการลงทุนดังกล่าวไม่สูญเปล่า แต่เป็นการเริ่มต้นการพัฒนาต่อเนื่องซึ่งเป็นหลักคิดของเวิล์ดเอ็กซ์โป ที่ไม่ได้เลือกพื้นที่จัดงานโดยดูแค่ว่าที่ไหนมีความพร้อมแต่จะสนับสนุนแนวคิดให้นำงานนี้ไปสู่กันพัฒนาต่อเนื่องด้วย เราจึงต้องการให้ใช้งานนี้พัฒนาอยุธยาด้วย ซึ่งหากมองในมุมความสามัคคีของคนในชาติก็เห็นว่าการจัดงานใหญ่เช่นนี้จะช่วยให้คนในชาติมารวมพลังกัน และถ้าจะนำเงินก้อนนี้ไปเปรียบเทียบกับการกู้เงิน 3.5 แสนล้าน และที่เตรียมจะกู้อีก 2.2 ล้านล้านบาท รวมถึงความสูญเสียจากโครงการรับจำนำข้าวแสนล้านบาทต่อปี ทำไมจึงไม่ตั้งคำถามเรื่องความคุ้มทุนบ้าง แต่กลับพยายามเดินหน้าใช้เงินต่อไป แต่การลงทุนในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โปจะเป็นการสร้างโอกาสให้กับประเทศรัฐบาลกลับยกเลิก