xs
xsm
sm
md
lg

พวกล้มเจ้าเหิมเกริม บิดเบือนขู่ศาลกระทบชิ่งสถาบัน!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

เป็นเรื่องที่ผิดปกติและน้อยครั้งที่จะมีมวลชนจำนวนหนึ่งจะกล้ายกขบวนไปข่มขู่กดดันศาล ที่ตัดสินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จำคุกจำเลยที่กระทำความผิดอาญาตามมาตรา 112

แน่นอนว่าการไปชุมนุมที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันก่อนของพวกที่ใช้ชื่อเสียโก้หรูว่าแนวร่วมประชาธิปไตยภาคประชาชน อะไรนั่น ย่อมมีเป้าหมายสำคัญที่ “ซ่อน”อยู่ข้างหลัง ไม่ใช่เพียงแค่ข้ออ้างมากดดันให้ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ทวีประจวบลาภ ขอโทษและลาออกเท่านั้น

และที่สำคัญคนพวกนี้ล้วนเป็นเครือข่ายพวกหนึ่งของคนเสื้อแดง ที่เคลื่อนไหวสอดคล้องคู่ขนานกันไปกับกลุ่มคนเสื้อแดงในเครือข่ายของ ทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ เพียงแต่ว่า ระดับการให้ความสำคัญของ “เจ้าของ” อาจอยู่ในระดับปลายแถว แต่บางโอกาสก็สามารถเรียกใช้เพื่อสร้างกระแส หรือมี “เป้าหมายเฉพาะ” ก่อความรำคาญได้อยู่เสมอ

เหมือนกับกรณีที่มีการเคลื่อนไหลล่าสุดที่หน้าศาลอาญา หลังจากศาลตัดสินคดี สมยศ พฤกษาเกษมสุข ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นเวลา 10 ปี บวกกับคดีที่ไปหมิ่นประมาท พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหมที่เคยสั่งรอลงอาญาไว้ก่อนหน้านี้ อีก 1 ปี รวมเป็น 11 ปี

สำหรับรายละเอียดของคดีในคำพิพากษาศาลก็ได้ให้รายละเอียด มีการนำสืบให้เห็นชัดเจนว่า สมยศ ขณะที่เป็นบรรณาธิการนิตยสาร “วอยซ์ ออฟ ทักษิณ” ได้เผยแพร่บทความและข้อเขียนที่จาบจ้วงใส่ร้ายพระเจ้าอยู่หัวอย่างไรบ้าง ไม่ใช่จู่ๆการสั่งจำคุกของศาลกระทำกันแบบไม่มีที่มาที่ไป หรือเจตนากลั่นแกล้ง ซึ่งความผิดของเขาก็มีการระบุเอาไว้ชัดเจน ว่ามีสองกระทงๆละ 5 ปี

ขณะเดียวกัน โทษทัณฑ์ดังกล่าวก็มีการระบุเอาไว้ล่วงหน้า ว่าหากมีการกระทำจ้วงจาบหยาบช้า ต่อสถาบันเบื้องสูง มันก็ต้อง “โดน” อีกทั้ง พระมหากษัตริย์ เป็นประมุขของชาติ เป็นที่เคารพเทิดทูนของคนไทย ย่อมต้องมีกฎหมายคุ้มครอง เหมือนกันทุกประเทศ เพียงแต่ว่าในรายละเอียดจะแตกต่างกัน ตามความเหมาะสมในแต่ละสังคมและวัฒนธรรม

เหตุผลของกลุ่มคนที่สนับสนุน สมยศ ซึ่งเป็น “กลุ่มล้มเจ้า” จะว่าไปแล้วก็มีมานานแล้วทุกยุคสมัย เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาไม่เคยเหิมเกริมโจ่งแจ้งกันขนาดนี้ เพราะมีอำนาจรัฐ และกลไกรัฐบางกลุ่มคอยให้ท้าย “ขยิบตา” ให้ตลอดเวลา และอย่าได้แปลกใจที่พฤติกรรมและคำพูดของ ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นหัวโจกคนเสื้อแดงมีหลักฐานจาบจ้วงให้ร้ายพระเจ้าอยู่หัวมาหลายครั้ง ไม่นับพวกลิ่วล้อทั้งประเภท “มีชื่อ” และปลายแถว ต่างก็เถื่อนถ่อยไม่แพ้กัน

หากพิจารณาเฉพาะคดีของ สมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่บังอาจจนให้อภัยไม่ได้แล้ว ในคำพิพากษายังบรรยายให้เห็นอีกว่า บทความที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพแล้วนำมาลงในนิตยสาร วอยซ์ ออฟ ทักษิณ นั้นยังโยงใยไปถึง จักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรี และพูดได้เต็มปากว่าต้องเชื่อมโยงไปถึง ทักษิณ ชินวัตร ด้วย

ดังนั้น การวิพากษ์วิจารณ์ศาล ทั้งกรณีที่เกิดขึ้นหลังมีคำพิพากษาจำคุก สมยศ 10 ปี มีเจตนาก้าวล่วงศาล หากพิจารณาให้ดีไม่ใช่มีเจตนาบริสุทธิ์ หรือเป็นความเห็นทางวิชาการ ที่มีความเห็นต่างกันได้ รวมไปถึงไม่ใช่เป็นการละเมิดเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยตามที่อ้างใดไม่ แต่เป็นเจตนาที่ต้องการสร้างกระแสให้สังคมเกิดการเข้าใจผิดและคล้อยตามให้เห็นว่า ทำไมแค่วิจารณ์หรือแสดงความเห็นแค่นี้ถึงถูกจำคุกถึง 10 ปี ทั้งที่ไม่ดูบริบท และย้อนกลับไปดูพฤติกรรมของ สมยศ รวมไปถึงคนพวกนี้ว่าเป็นอย่างไร ได้สร้างผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตรย์มากแค่ไหน ซึ่งในคำพิพากษาก็ได้ระบุรายละเอียดเอาไว้พอสมควรทำให้พอมองเห็นภาพได้ไม่น้อย อีกทั้งเหตุผลที่ศาลไม่ให้ประกันก็เพราะ สมยศ มีเจตนาหลบหนี และที่ผ่านมาถูกจับกุมได้คาด่านตรวจด้านชายแดนตะวันออกมาแล้ว

ความเคลื่อนไหวที่เกิดคราวนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากกรณีที่เคยนำเอากรณีของคดี “อากง” ที่เคยถูกตัดสินจำคุกในคดีเดียวกัน คราวนั้นมีความพยายามยกเอาเรื่อง “สังขาร” ในวัยชรา และมีโรคร้ายประจำตัว ซึ่งต่อมาก็เสียชีวิตในคุก ทำให้พวก “ขบวนการล้มเจ้า” นำศพออกมาหากินได้พักหนึ่ง สามารถสร้างกระแสเชื่อมโยงไปถึงต่างประเทศได้อยู่ระยะหนึ่ง ลักษณะไม่ได้แตกต่างกัน

เหตุผลของคนพวกนี้มีความต้องการอย่างเดียวคือ ต้องการให้แก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายอาญา มาตรา 112 อ้างว่าการมีกฎหมายดังกล่าวขัดขวางสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ไม่เป็นประชาธิปไตย ความหมายก็คือต้องการให้ยกเลิกเพื่อสามารถวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ได้ แต่คำถามก็คือ สถาบันฯ ไปขัดขวางประชาธิปไตยตรงไหน เพราะหากจะวิจารณ์นักการเมืองหรือรัฐบาล จะตรวจสอบการทุจริตก็ทำได้โดยเสรีอยู่แล้ว ที่ผ่านมารัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร ต่อเนื่องมาจนถึงรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการทุจริต เอาเปรียบไปจนถึงผลงาน “ห่วยแตก” ไม่สมราคาคุยอย่างไรบ้างก็ทำได้เต็มที่ ไม่เห็นจะเกี่ยวกับการปิดกั้นเสรีภาพตรงไหน

อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวของคนกลุ่มดังกล่าวมีเจตนาเพียงแค่ต้องการสร้างกระแส “บิดเบือน” เพื่อชี้นำสังคมให้คล้อยตามว่าการตัดสินจำคุก สมยศ อย่างไม่เป็นธรรม

ดังนั้น บุคคลที่ต้องการให้แก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยอ้างเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ก็ฟังไม่ขึ้น เพราะมาตราดังกล่าวมีขึ้นเพื่อเป็นเกราะป้องกันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นประมุขของชาติอันเป็นที่เคารพเทิดทูนของคนไทย ความหมายตรงๆ ก็คือการแก้ไขมาตราดังกล่าวก็มีเจตนาเพื่อหวังวิจารณ์สถาบันฯ เพราะหากจะแสดงความคิดเห็นทางการเมืองก็ทำได้เต็มที่ แต่เป้าหมายของคนพวกนี้มีเจตนาสร้างกระแสบิดเบือนเพื่อหวังทำร้ายสถาบันเท่านั้น และที่สำคัญพฤติกรรมเหิมเกริมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งก็เป็นเพราะอยู่ในเครือข่าย ทักษิณ ที่กลไกรัฐบางส่วน “ขยิบตา” ให้ท้าย!!
กำลังโหลดความคิดเห็น