เครือข่ายเฝ้าระวังพิทักษ์และปกป้องสถาบันฯ ชุมนุมเรียกร้องให้สหภาพยุโรปเคารพกระบวนการยุติธรรม หยุดแทรกแซงคำพิพากษา หลักออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยคำพิพากษาคดี “สมยศ” บก.วอยซ์ออฟทักษิณ ต้องคดีหมิ่นเบื้องสูง ชี้กษัตริย์ไทยไม่เหมือนประเทศอื่น และจำเป็นต้องมีมาตรา 112
วันนี้ (31 ม.ค.) ที่อาคารเคี่ยนหงวน 2 ถนนวิทยุ เครือข่ายเฝ้าระวังพิทักษ์และปกป้องสถาบัน นำโดยนายธนบดี วรุณศรี ได้ชุมนุมที่หน้าอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (อียู) เพื่อประท้วงกรณีที่สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย และคณะเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย มีมติร่วมกันออกแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วงต่อคำพิพากษาของศาลที่ตัดสินจำคุกนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข บรรณาธิการนิตยสารวอยซ์ออฟทักษิณ เป็นเวลา 10 ปี โดยมีความผิดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มีผลต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น โดยมีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ต่อมาเวลา 11.00 น. สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (อียู) ได้ส่งตัวแทนมารับหนังสือ หลังบ่ายเบี่ยงอยู่พักใหญ่ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด พร้อมระบุว่าจะส่งเรื่องต่อให้ จากนั้นผู้ชุมนุมจึงยุติการชุมนุมเมื่อเวลา 11.30 น.
นายธนบดี วรุณศรี ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ กล่าวว่า การมาวันนี้เพื่อมาเลกเชอร์ให้อียูฟัง ขณะนี้พยายามประสานงานกับผู้แทนสหภาพยุโรปเพื่อขอเข้าไปอธิบายรายละเอียด โดยมีประเด็นที่ต้องการอธิบายต่ออียู คือ ต้องการให้เข้าใจสถานภาพกษัตริย์ของไทยว่าอาจไม่เหมือนกษัตริย์ประเทศอื่น บางประเทศในอียูไม่เคยมีกษัตริย์ อาจไม่เข้าใจว่าสถาบันกษัตริย์มีความสูงสุดขนาดไหน และต้องการอธิบายว่าทำไมต้องมีมาตรา 112 และไม่เฉพาะแต่ประเทศไทย แม้แต่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก็มีโทษจำคุก 4-5 ปี หากมีการหมิ่นสถาบันกษัตริย์
ทั้งนี้ นายสมยศซึ่งกระทำความผิดชัดแจ้ง โดยตีพิมพ์บทความสองบทความ มีโทษบทความละ 5 ปี ก็ถือว่าไม่ได้มากไปกว่าเนเธอร์แลนด์ หากไม่ได้มีการลบหลู่จริงใครจะมาทำอะไร รัฐธรรมนูญกำหนดให้กษัตริย์เป็นจอมทัพไทย ดังนั้นจึงต้องมีกฎหมายปกป้องประมุขของชาติ ส่วนเหตุจูงใจที่อียูมีการออกแถลงการณ์เกี่ยวกับคดีสมยศ มองว่าหากมองแบบไม่คิดลึกเข้าใจว่าอาจเป็นความรักชอบส่วนตัวกับสมยศ เพราะนายสมยศมีคุณูปการในการทำงานด้านแรงงาน ต่อสู้จนมีประกันสังคม แต่ก็ต้องแยกแยะการกระทำแต่ละครั้งว่าทำดีหรือทำผิด หวังว่าหากได้อธิบายแล้วอียูจะเข้าใจและสำนึกผิดได้ไม่ยาก ทั้งยังเห็นว่าควรออกแถลงการณ์อีกฉบับหนึ่งเพื่อแสดงความเสียใจด้วย
นายธนบดีกล่าวว่า ทางเครือข่ายฯ พยายามประสานงานกับผู้แทนสหภาพยุโรปเพื่อขอเข้าไปอธิบายรายละเอียด และหวังว่าหากได้อธิบายแล้วอียูจะเข้าใจและสำนึกผิดได้ไม่ยาก ทั้งยังเห็นว่าควรออกแถลงการณ์อีกฉบับหนึ่งเพื่อแสดงความเสียใจด้วย
นอกจากนี้ ทางเครือข่ายฯ ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง การแทรกแซงของสหภาพยุโรปต่อคำพิพากษาคดีนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ความว่า สืบเนื่องมาจากที่สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยและคณะเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ได้มีมติร่วมกันออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2556 ตอนหนึ่งว่า “คณะผู้แทนสหภาพยุโรปฯ มีความเป็นห่วงต่อคำพิพากษาของศาลในการตัดสินจำคุกนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เป็นเวลา 10 ปี โดยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 คำพิพากษาดังกล่าว บั่นทอนสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและต่อเสรีภาพของสื่อมวลชนอย่างร้ายแรง นั้น เครือข่ายเฝ้าระวังพิทักษ์และปกป้องสถาบันฯ ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาชนที่ทำหน้าที่เฝ้าระวัง บุคคลที่มีพฤติกรรมการหมิ่น จาบจ้วงล่วงละเมิด สถาบันพระมหากษัตริย์ ในทุกกรณี ขอเรียนด้วยความไม่สบายใจต่อท่าทีในการแสดงออกร่วมกันของพวกท่าน ซึ่งอาจจะเกิดจากความไม่เข้าใจในวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของชนชาติไทยของเรา โดยเฉพาะกรณี คำพิพากษาของศาลดังกล่าวข้างต้นนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถที่จะปล่อยให้ความไม่เข้าใจอันนี้ผ่านไปได้โดยเพิกเฉย
เราจึงขอถือโอกาสนี้ ในการทำความเข้าใจกับท่านว่า ความเข้าใจในความเป็น “กษัตริย์” ของประเทศพวกท่าน อาจจะไม่ตรงกับประเทศของเรา ด้วยเหตุที่ประเทศของพวกท่านทั้งหลายไม่ได้นับถือพระพุทธศาสนา ซึ่งบรรพบุรุษของเราได้นับถือสืบต่อกันมายาวนาน และ พระมหากษัตริย์ของประเทศเรา เป็นผู้ที่เปี่ยมด้วยพระบุญญาธิการ และทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ เทิดทูน โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ที่ทรงครองราชย์มาเป็นเวลายาวนานกว่า 60 ปี และได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจมากมายเป็นอเนกนานัปการ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนซึ่งเป็นพสกนิกรของพระองค์ ผ่านโครงการพระราชดำรินับร้อยนับพันโครงการ จนเป็นที่ประจักษ์ชัด และรับรู้กันไปทั่วโลก ซึ่งพสกนิกรชาวไทยล้วนแล้วแต่เคารพรัก และเทิดทูนพระองค์ท่านเป็นอย่างมาก เว้นแต่ประชาชนบางกลุ่ม บางคณะ ที่มีความเห็นต่าง และมีความพยายามที่จะกระทำการอันเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตลอดทั้งมีความพยายามที่จะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
ด้วยเหตุที่พระมหากษัตริย์ของประเทศเรา อยู่ในฐานะอันเลิศ ทรงเป็นพระประมุขของชาติ และยังทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงเป็นการสมควรที่จะต้องมีการปกป้องพระเกียรติยศ และทั้งเพื่อความมั่นคงของรัฐ นั่นเอง จึงต้องตราพระราชบัญญัติประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ไว้เพื่อเป็นเครื่องมือในการปกป้องพระมหากษัตริย์ เช่นเดียวกับหลายประเทศ รวมทั้งประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเอง เพราะฉะนั้น การที่พวกท่านได้มีมติร่วมกันออกแถลงการณ์ดังกล่าวข้างต้นในห้วงแห่งการพิพากษาคดีนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นี้นั้น จึงไม่ใช่แต่เป็นเรื่องความไร้มารยาททางการทูต หรือการก้าวล่วงกิจการภายในประเทศเท่านั้น แต่ถือเป็นการลุกล้ำอำนาจอธิปไตยของรัฐ ด้วยเหตุที่การพิจารณาพิพากษาดังกล่าว เป็นการกระทำในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ และเป็นไปเพื่อปกป้องพระเกียรติยศของพระประมุขของประเทศ จึงเป็นสิ่งที่เรามีความไม่สบายใจอย่างสูงสุดนั่นเอง
อนึ่ง เราทราบดีว่าประเทศพวกท่านทั้งหลายอาจจะมีความนิยมยกย่องในตัวของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและขบวนการผู้ใช้แรงงานทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ แต่ย่อมจะเป็นสิ่งที่พวกท่านทั้งหลายจะต้องรู้จักที่จะแยกแยะ ระหว่างการทำความดีและการกระทำความผิด โดยเฉพาะความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร และเป็นสิ่งที่พวกท่านทั้งหลายจะได้ตระหนักถึงพฤติกรรมของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ที่ได้กระทำสั่งสมต่างกรรมต่างวาระ ดังที่หลักกฎหมายว่า “กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา” ตรงกับภาษาอังกฤษว่า “exterior act indicates interior secret”
ด้วยเหตุนี้ การพิพากษาตัดสินความผิดกรณีนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จึงไม่ใช่แค่ความเป็นบรรณาธิการเท่านั้น แต่ยังเป็นทั้งผู้ติดต่อจ้างวาน โรงพิมพ์ ทำเพลต และบริษัทผู้จัดจำหน่ายนิตยสารวอยซ์ ออฟ ทักษิณ ด้วยตัวเอง และการที่นำบทความที่เขียนโดย นายจักรภพ เพ็ญแข ที่มีความคิดในการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งขณะนี้หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ โดยตัวนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เป็นผู้ตรวจต้นฉบับด้วยตัวเองมาตีพิมพ์ แสดงให้เห็นว่านายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ย่อมมีเจตนาประสงค์ต่อผล จึงสมควรที่จะได้ถูกพิพากษาให้สมควรแก่การกระทำนั้น โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ที่สุดนี้ เราจึงเห็นว่าสหภาพยุโรปควรที่จะเคารพในหลักนิติรัฐ นิติธรรม ของประเทศไทย ที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ทั้งยังเป็นประเทศที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม และพิจารณาได้ว่าพวกท่านควรจะมีท่าที ในการแสดงออกอย่างไร เพื่อให้ประชาชนในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ได้เข้าใจในเรื่องนี้ให้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริงต่อไป