“สมศักดิ์” ฉาวอีกกลางที่ประชุมร่วมรัฐสภา สั่งปิดประชุมระหว่างพิจารณาความตกลงฉบับที่ 5 โดยยังไม่ลงมติ ฝ่ายค้าน-ส.ว.วิจารณ์แซด กลัวถูกร้องขอให้รัฐบาลแถลงผลงาน 1 ปี กระทบหาเสียงผู้ว่าฯ กทม.
วันนี้ (5 ก.พ.) ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบรายการความตกลงบันทึกความเข้าใจและกรอบการเจรจาระหว่างประเทศตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ตามที่ ครม.เป็นผู้เสนอ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ 4 ฉบับ ได้แก่ 1.รายการความตกลงและพิธีสารด้านเศรษฐกิจของอาเซียนที่จะถูกแทนที่ภายใต้ข้อ 91(2) ของความตกลงอาทิก้า และพิธีสารเพื่อแก้ไขความตกลงทางเศรษฐกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับการค้าสินค้าของอาเซียน 2.บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลของภาคีสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่เข้าร่วมในโครงการนำร่องที่สอง สำหรับการดำเนินการระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของภูมิภาค และภาคผนวกระเบียบปฏิบัติในการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า 3.ระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า และหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (FORM D) ของอาเซียน และ 4.กรอบการเจรจาของประเทศไทยสำหรับการประชุมกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 18 และกรอบการเจรจาของประเทศไทยสำหรับการประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ 8
ทั้งนี้ เมื่อที่ประชุมกำลังพิจารณาโดยมีการอภิปรายในระเบียบวาระเรื่องความตกลงการค้าเสรีระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐชิลี และรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้สั่งปิดการประชุม ในเวลา 16.30 น.โดยที่ยังไม่มีการลงมติเห็นชอบ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ นายสมศักดิ์ ได้สั่งปิดการประชุมร่วมรัฐสภาในเวลาที่เร็วกว่ากำหนด ทำให้เกิดการวิจารณ์ตามมา โดย นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เหตุที่ นายสมศักดิ์ ได้ขอปิดการประชุมร่วมรัฐสภาเร็ว เพราะไม่อยากให้ที่ประชุมได้มีโอกาสพิจารณาเรื่องที่ นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ขอให้รัฐสภามีมติให้วุฒิสภาพิจารณาเรื่อง รายงานแสดงผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ รายงานของคณะกรรมาธิการ และญัตติในสมัยประชุมสามัญ นิติบัญญัติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 136(5) เนื่องจากการแถลงผลงานรัฐบาล รอบ 1 ปีนั้น ถือว่าเป็นเรื่องทางการเมืองที่จะกระทบต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
ด้าน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่า ประธานรัฐสภาจะเร่งปิดการประชุมร่วมรัฐสภาทำไม เพราะโดยเกณฑ์ปกติยังเหลือเวลาประชุมอีก 2-3 ชั่วโมง เบื้องต้นเข้าใจว่า ไม่อยากให้มีการพิจารณาในเรื่องที่วุฒิสภาร้องขอให้รัฐบาลแถลงผลงานในรอบ 1 ปี ทั้งนี้ ตนมองว่า ความพยายามที่จะไม่ให้มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าว อาจเข้าข่ายที่ช่วยรัฐบาลไม่ให้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้รัฐบาลต้องแถลงผลงานตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ เมื่อทำงานมาครบปี