“พงศพัศ สไมล์คลับ” เที่ยววิทยาลัยพยาบาลตำรวจ เคารพธงชาติ โม้นโยบาย ไปโรงพยาบาลตำรวจต่อเจอคนลอกท่อแต่งวดนี้ไม่มีโชว์ อ้างโพลผู้สมัครได้ประโยชน์ จ่อเปิดนโยบายป้องกันอาชญากรรมพรุ่งนี้
วันนี้ (5 ก.พ.) ที่วิทยาลัยพยาบาลตำรวจ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่หาเสียงโดยมีนักศึกษา คณาจารย์ ผู้บริหารให้การต้อนรับ ซึ่ง พล.ต.อ.พงศพัศได้ร่วมเคารพธงชาติร่วมกับนักศึกษาและได้เดินตรวจแถวพร้อมทักทาย ถามความเป็นอยู่ จากนั้น พล.ต.อ.พงศพัศได้ขึ้นไปที่ ชั้น 7 บรรยายให้นักศึกษาพยาบาลกว่า 300 คนฟังเกี่ยวกับนโยบายต่างๆ หลังจากบรรยายจบก็ได้ร่วมถ่ายภาพกับนักศึกษาทุกชั้นปี และนักศึกษาก็ได้ขอถ่ายภาพมอบดอกไม้อย่างคึกคัก
ต่อมา พล.ต.อ.พงศพัศได้เดินเท้าไปยังโรงพยาบาลตำรวจ โดยระหว่างนั้น พล.ต.อ.พงศพัศได้เห็นเจ้าหน้าที่กำลังลอกท่อจึงเดินเข้าไปสอบถามถึงวิธีการและสาเหตุที่ทำให้ท่อตัน เมื่อถึงโรงพยาบาล พล.ต.อ.พงศพัศได้ทักทายประชาชนที่มาใช้บริการ พร้อมสอบถามเรื่องการบริการ และเยี่ยม ถามอาการป่วยที่มารอหาหมออีกด้วย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
โดย พล.ต.อ.พงศพัศให้สัมภาษณ์ว่า การพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ กทม. โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งจากการลงพื้นที่กลุ่มผู้สูงอายุอยากให้มีการรักษาพยาบาลที่ดีขึ้น ซึ่งตนอยากจะเปลี่ยนแปลงระบบการรักษาพยาบาลแบบเก่า และจัดการระบบการรักษาให้ดีขึ้น โดยจะยกฐานะศูนย์สาธารณสุขชุมชนทั้ง 68 แหล่งขึ้นเป็นโรงพยาบาลชุมชน เพื่อทำให้การรักษาพยาบาลได้ใกล้ชิดกับประชาชนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลตำรวจหรือโรงพยาบาลของ กทม. รวมถึงศูนย์ตามชุมชนต่างๆ โดยจะทำเป็นระบบแมปปิ้ง จะประชุมหน่วยงานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงสาธรณสุขร่วมมือกับ กทม. ทั้งนี้ ระบบประกันสุขภาพ ระบบ 30 บาทจะประสานให้เป็นเนื้อเดียวกัน จะต้องมีการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด และช่วงเช้าไปเยี่ยมวิทยาลัยพยาบาล ถือเป็นบุคคลากรสำคัญ เพราะการยกฐานะ โรงพยาบาลชุมชน ต้องการบุคคลากรเป็นจำนวนมาก เพื่อให้การักษาเกิดความทั่วถึงและรับผู้ป่วยในชุมชนเพื่อให้ถึงมือแพทย์ให้เร็วที่สุด
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ยืนยันว่าทำได้ในงบประมาณของ กทม. โดยการเพิ่มเตียง เพิ่มแพทย์ เพิ่มพยาบาล แต่ตนจะทำระบบแมปปิ้งก่อนดูว่าชุมชนใด มีกลุ่มผู้สูงอายุมากน้อยแค่ไหน การขยายทำเป็นโซนไป และมีระบบรักษาพยาบาลเคลื่อนที่ ทำได้ทันที การรักษาพยาบาลเคลื่อนที่ จะมีรถพยาบาลและบุคคลากรทางการแพทย์ ถ้าเราแวะเวียนไปดูแลตามชุมชนได้ก็จะเป็นการป้องกันไม่มีโรคร้ายแรง เป็นส่วนหนึ่งในการดูแล
ส่วนกรณีมีผู้ร้อง กกต.ไม่อยากให้ทำโพลเพราะจะเป็นการชี้นำนั้น พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า การทำโพลเป็นเรื่องของสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่จาจจะวัดความนิยมของผู้สมัครในระดับและความนิยมในระดับต่างๆ ซึ่งตนเห็นว่าเป็นดุลพินิจของผู้ที่รับทราบข้อมูลต่างๆ ส่วนตัวผู้สมัครทุกท่านได้ประโยชน์ในระดับหนึ่ง จะชี้ให้เห็นส่วนบกพร่องอย่างไร และมีการต้องการอะไรบ้าง ส่วนการชี้นำอยู่ที่ดุลยพินิจ การทำโพลหรือไม่ทำโพลก็เป็นหน้าที่ของผู้สมัครที่จะต้องลงพื้นที่ ซึ่งวันพรุ่งนี้ ตนจะเปิดนโยบายเรื่องการป้องกันอาชญากรรม ป้องกันอัคคีภัย ความปลอดภัย ยาเสพติด ตนจะบอกว่าการดำเนินการต้องสารต่อกับหน่วยงานใดบ้าง มีการประเมินผลอย่างชัดเจน และอะไรจะเปลี่ยนแปลงบ้าง และต้องมีหลายส่วนประกอบกันไม่ใช่เเพียงเฉพาะแบบสำรวจความคิดเห็น ที่จะเป็นส่วนที่ประชาชนได้พิจารณาตัดสินใจ
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ เริ่มหาเสียงกับคนอีสาน ซึ่งเป็นฐานเสียงพรรคเพื่อไทย พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทุกพรรคลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ทุกคนทำหน้าที่ ขอให้กำลังผู้สมัครทุกคน และตนก็ได้กำลังจากผู้สมัครรายอื่น ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เราเคาะประตูบ้านขอโอกาส ขอกำลัง ทุกคนทำเหมือนกัน และให้กำลังใจกันตลอดเวลา