“ยิ่งลักษณ์” พร้อมเร่งสร้างความเข้าใจและพัฒนาแก้ไฟใต้ ยันพื้นที่ไม่ได้เป็นปัญหาทั้งหมด ชูตั้ง กปต.บูรณาการทุกหน่วย ดันงบ กำลังคน อุปกรณ์ลุย ยก “พงศพัศ” โดดเด่นลุ้นลงผู้ว่าฯ กทม.
วันนี้ (30 ธ.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในปี 2556 ว่า ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นปัญหาที่ต่อเนื่องมายาวนาน และเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อนซึ่งรัฐบาลคงต้องเร่งงานในด้านของการสร้างความเข้าใจและงานพัฒนาควบคู่กันไป
นายกฯ กล่าวด้วยว่า ในภาคใต้นั้น ไม่ได้เป็นปัญหาทั้งหมด ยังมีหลายพื้นที่ที่ต้องการการพัฒนาและสร้างเสริมเศรษฐกิจ ถ้ามีการพัฒนางานในพื้นที่มากขึ้น กำลังใจของประชาชน และการมีส่วนร่วมของประชาชนก็จะดีขึ้น และจะนำไปสู่การที่ประชาชนจะร่วมกันในการดูแลกันเองมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้เร่งรัดในส่วนนี้ด้วยการตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) เพื่อที่จะบูรณาการทุกหน่วยงานเข้าไป
ส่วนงานทางด้านความมั่นคงนั้น นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลจะเร่งรัดลงไป ก็คือ ในเรื่องของบุคคลากรที่ตอนนี้ยังขาดแคลนอยู่ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ และการบูรณาการในพื้นที่อย่างเต็มที่ สิ่งที่รัฐบาลจะเร่งในการแก้ปัญหาภาคใต้ คือ การผลักดันในเรื่องของงบประมาณ กำลังคน อุปกรณ์และงานพัฒนา รวมไปถึงการบริหารจัดการให้เกิดเอกภาพทั้งในระดับนโยบาย ระดับส่วนกลางที่จะลงไปทำงานในพื้นที่ และในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ปัจจุบันต้องสวมหมวก 3 ใบ คือ หมวกใบแรก เป็นการบริหารราชการปกติภายใต้กระทรวงมหาดไทย หมวกใบที่ 2 คือ ศอ.บต.และหมวกใบที่ 3 คือ กอ.รมน.ดังนั้น ต้องมีการบูรณาการในพื้นที่อย่างจริงจัง ว่า เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจะต้องใช้กฎหมายใดในการทำงาน และต้องบูรณาการในพื้นที่ร่วมกัน เพราะจะมีงานหลายด้านอย่าง จึงต้องมีการบริหารจัดการให้ดี
นายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ในนามพรรคเพื่อไทย ว่า ยังไม่ทราบว่ากำหนดการรับสมัครผู้ลงรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จะเป็นเมื่อใด และขึ้นอยู่กับทางพรรค รวมทั้งคณะกรรมการบริหารพรรคด้วยว่าจะประกาศก่อนหรือหลังอย่างไร แต่ติดช่วงเทศกาลปีใหม่ คงยังไม่มีการประกาศออกมา เพราะการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา พูดคุยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นส่วนใหญ่ คงจะให้ทุกคนไปพักผ่อนอย่างเต็มที่ พอหลังปีใหม่แล้วค่อยมาหารือกันอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคต้องเน้นนโยบายฝากบ้านไว้กับตำรวจ (พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ดูแลโครงการในปีนี้) ใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวเลี่ยงว่า วันนี้เราเป็นรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ให้ตำรวจดูแล และให้ประชาชนฝากบ้านไว้กับตำรวจ
ถามต่อว่า นายกฯให้สัมภาษณ์ว่าให้ฝากบ้านไว้กับตำรวจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นใคร ทุกปีเราก็ทำอย่างนี้อยู่แล้ว เพราะเป็นนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะให้ประชาชนฝากบ้านในกรณีที่ไปต่างจังหวัด เจ้าหน้าที่จะได้รู้ และก็มีอย่างอื่นอีก เช่น ผ่านทางด่วนฟรี รถไฟฟรี รถประจำทางฟรี
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจะสามารถกลับมาครองใจคน กทม.ได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การที่ประชาชนจะตัดสินใจเลือกผู้ว่าฯ กทม.ต้องประกอบไปด้วย 1.ตัวผู้สมัคร 2.นโยบายพรรค 3.นโยบายของคน กทม.ซึ่ง 3 ส่วนนี้จะต้องควบคู่กันไป
เมื่อถามว่า คุณสมบัติอย่างไรที่จะเป็นผู้ว่าฯ กทม.ได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็มีหลายท่านที่โดดเด่น อย่าง พล.ต.อ.พงศพัศ ก็เป็นคนที่มีความสามารถและทำงานด้วยความทุ่มเท อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ปิดกั้นผู้ที่มีความสามารถ ตรงนี้ต้องรอให้ทางพรรคประกาศรับสมัครก่อน ซึ่งเมื่อมีการคัดเลือกแล้ว จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง