“เหวง” ยื่น “ปู” ขอเขมรถอนคดีพระวิหาร “ปึ้ง” ยัน “ฮุน เซน” ไม่ยอม

“เหวง-สามารถ” ยื่นหนังสือในนาม กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐต่อนายกฯ ผ่าน รมว.ต่างประเทศ เรียกร้องให้ประสานเขมรถอนคำร้องคดีเขาพระวิหารออกจากศาลโลก ระบุไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ย่อมเกิดผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนทั้งสองประเทศ “ปึ้ง” เผยนายกฯ หารือ “ฮุน เซน” แล้วแต่ไม่ยอม เตรียมตั้งคณะกรรมการร่วมสองประเทศพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน พร้อมแย้ม “วีระ” มีลุ้นลดโทษอีกรอบช่วงสงกรานต์

ที่รัฐสภา วันนี้ (5 ก.พ.) นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และรองประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานฯ พร้อมนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ ได้ยื่นหนังสือขอคิดเห็นของคณะกรรมาธิการฯ กรณีศาลโลกจะมีการพิจารณาคำร้องของกัมพูชาเกี่ยวกับข้อพิพาทบริเวณพื้นที่ปราสาทพระหาร ต่อ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ผ่านไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

นพ.เหวงกล่าวว่า หลังจากคณะกรรมาธิการฯ พิจารณากรณีศาลโลกจะมีการพิจารณาคำร้องของกัมพูชาเกี่ยวกับข้อพิพาทบริเวณพื้นที่ประสาทพระวิหาร ในเดือน เม.ย.นี้ มีความเห็นตรงกันว่าฝ่ายไทยมีประเด็นได้เปรียบในการต่อสู้คดี ทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย มีโอกาสที่จะได้รับประโยชน์จากการตีความคำพิพากษาของศาลโลก แต่ไม่ว่าผลการพิจารณาพิพากษาจะออกมาเป็นประโยชน์ต่อประเทศหนึ่งประเทศใดก็ตาม ย่อมเกิดผลกระทบต่อความรู้สึกประชาชนทั้งสองประเทศ

ดังนั้น เพื่อดำรงไว้ซึ่งความรู้สึกและความสัมพันธ์ที่ดีของไทยกับกัมพูชาที่มีมายาวนาน คณะกรรมาธิการฯ จึงอยากให้รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ ดำเนินกระบวนการปรึกษาหารือร่วมกันของทั้งสองประเทศ โดยเสนอให้กัมพูชาถอนคำร้องออกจากสารบบของศาลโลก เพราะเราไม่ต้องการใช้นโยบายต่างประเทศที่ก้าวร้าวแบบรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

นายสามารถกล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ ห่วงใยเรื่องดังกล่าวเพื่อให้มีทางออกเพราะคำวินิจฉัยที่ออกมาจะกระทบต่อความรู้สึกของทั้งสองประเทศ ไม่ว่าฝ่ายใดหรือใครแพ้ชนะก็จะมีผลต่อความสัมพันธ์ คณะกรรมาธิการฯ จึงนำเสนอต่อ รมว.ต่างประเทศ ผ่านไปยังนายกฯ เพื่อให้ทางกัมพูชาถอนเรื่องออกจากศาลโลก และให้พัฒนาร่วมกันเพื่อทั้งสองฝ่ายจะเกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน

ด้านนายสุรพงษ์กล่าวว่าจะนำหนังสือของคณะกรรมาธิการฯ มอบให้นายกรัฐมนตรี และจะหารือร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา โดยนายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้พบกับสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็มีการพูดถึงการตั้งคณะกรรมการร่วมกันพัฒนาพื้นที่ชายแดน รวมถึงการเปิดด่านต่างๆ การพัฒนาด้านการเกษตร

“การประชุม ครม.วันนี้ นายกฯได้เล่าให้ฟังโดยให้ผมเป็นหัวหน้าทีม มี รมว.คมนาคม รมว.เกษตรและสหกรณ์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาร่วมทีม นัดประชุมกับทีมงานกัมพูชาในการตั้งคณะกรรมการร่วมร่วมกันพัฒนาพื้นที่ โดยจะนำเรื่องนี้พูดคุยกัน ซึ่งทางรัฐบาลกัมพูชาก็เห็นควรอยู่แล้ว เพื่อให้งประเทศอยู่ร่วมกันด้วยความสงบ มีการไปมาหาสู้สามารถอยู่กันแบบสันติ โดยจะรีบดำเนินการเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย เพราะขณะนี้ผู้นำทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันตลอดอยากให้ภูมิภาคอาเซียนอยู่กันด้วยความสงบสุข”

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้ที่จะขอให้กัมพูชาถอนเรื่องออกไปหรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า ทางสมเด็จฯ ฮุน เซน ก็อยากให้เรื่องนี้จบที่ศาลตัดสินออกมา และเขาก็พร้อมยอมรับผลการตัดสิ โดยไม่มีข้อกังขา

เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าเป็นไปได้น้อยที่กัมพูชาจะถอนเรื่องก่อน นายสุรพงษ์กล่าวว่า เราเองก็ไม่ได้ละความพยายาม และจะสู้คดีอย่างเต็มที่ ซึ่งวันที่ 5-6 เม.ย.นี้ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะต่อสู้คดีของฝ่ายไทย จะเดินทางไปหารือกับทีมทนายที่ประเทศอังกฤษ และเราจะดูรายละเอียดครอบคลุมทุกประเด็นที่จะต่อสู้ รวมถึงประเด็นที่ทุกฝ่ายเป็นห่วงว่าเราจะไม่นำมาพิจารณาด้วย ทั้งนี้ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาอย่างไรเราต้องอยู่ภายใต้สหประชาชาติ แต่อยากให้คนไทยเกิดความเข้าใจตรงกัน ขอให้ติดตามข้อมูล

นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ทางกัมพูชาได้ปล่อยตัว น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ เป็นกรณีพิเศษนั้น นายกฯ ได้กล่าวขอบคุณสมเด็จฯ ฮุน เซนเป็นพิเศษ ทุกครั้งที่เจอกันก็ได้ขอร้อง ส่วนกรณีนายวีระ สมความคิด นายกฯก็ได้สอบถาม แต่สมเด็จฯ ฮุน เซน บอกว่าขอให้ได้รับโทษตามกฎหมาย คือ 2 ใน 3 ก่อน แล้วจะดูให้ว่าจะทำอะไรให้ได้บ้าง ซึ่งคาดว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์อาจลดโทษให้อีกบ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีคนไทยถูกจำคุกอยู่ในกัมพูชา 52 คน โดยมี 12 คนที่อยู่ระหว่างการโอนกลับมารับโทษในไทย ส่วนกรณีของนายวีระต้องดูอีกที