“มาร์ค” ไม่แปลกใจ “แม้ว” คิดยึด กทม. บี้ “จูดี้” แจงนำงบจากไหนมาประชานิยม

หน.ปชป.ย้ำคำเดิมไม่หวั่นโพลให้ “คุณชาย” ยังตาม “พงศพัศ” พร้อมลุยขอคะแนนกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจ สงสัย “นช.แม้ว” สั่งยึดเมืองหลวง แต่วัดจากนิสัยก็ไม่แปลก ชูทำงานอิสระ กทม.เจริญกว่าอยู่ใต้คำสั่งนายใหญ่ ซัดตัวแทน พท. เคลียร์โวรถเมล์ฟรี หลัง “ชัชชาติ” ไม่เอาด้วย จี้แจงเอางบจากไหน แถมโม้เพิ่มค่ายังชีพคนชรา ดักรับผิดชอบคำพูด คน ตจว.จะทำยังไง เหตุต้องใช้อัตราเดียวกัน ยันหาเสียงไม่กระทบงานสภา

วันนี้ (28 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่กังวลกรณีผลโพลพบว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนนตามหลัง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย โดยเห็นว่าจะช่วยกระตุ้นทำให้คนของพรรคขยันทำงานหนักขึ้น ไม่ตั้งมั่นอยู่บนความประมาท และจากการลงพื้นที่ก็ได้รับการตอบรับที่ดี รวมถึงผลสำรวจที่ออกมาก็อยู่ในความคาดหมายของพรรคอยู่แล้ว โดยพรรคจะใช้เวลาในช่วงก่อนถึงวันเลือกตั้งคะแนนเสียงจากคนที่ยังไม่ติดสินใจลงคะแนนให้ใครเพื่อให้ประชาชนได้เห็นผลงานและนโยบายใหม่ๆ ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ว่าเป็นประโยชน์และทำได้จริง แต่ก็ยอมรับว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องปรับปรุงและหลายเรื่องที่ยังไม่ได้เสนอต่อสาธารณะ ซึ่งสิ่งที่พรรคพยายามทำคือให้ผู้สมัครมีโอกาสลงพื้นที่และทบทวนงานที่ทำมา ส่วนนโยบายที่จะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่คน กทม.ดีขึ้นก็จะนำเสนอในรูปแบบที่แตกต่างออกไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินที่ จ.อุบลราชธานี เรียกร้องให้คนเสื้อแดงเลือก พล.ต.อ.พงศพัศเป็นผู้ว่าฯ กทม.เพื่อยึดกรุงเทพฯ โดยเบ็ดเสร็จ นายอภิสิทธิ์ย้อนถามกลับว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะยึดไปทำอะไร แต่ก็เข้าใจดีอยู่แล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยากยึดทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหมดจึงขึ้นอยู่กับคน กทม.ที่จะพิจารณาว่าอนาคตของเมืองหลวงจะบริหารอย่างไร ซึ่งตนยืนยันว่าการมีผู้บริหารเมืองที่มีความเป็นอิสระ รักษาผลประโยชน์ของคนเมืองมีความสำคัญ ทั่วโลกก็เป็นแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ตนไม่วิจารณ์ว่าหากพรรคเพื่อไทยยึด กทม.ได้จริงจะเกิดอะไรขึ้น แต่ขอยืนยันว่าผู้บริหาร กทม.ต้องมีความเป็นตัวของตัวเองในระดับหนึ่ง ไม่เช่นนั้น กทม.จะไม่สามารถผลักดันหลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่างออกไปได้ โดยจะเห็นได้ว่ายุคไหนก็ตามที่ผู้บริหาร กทม.ไม่เป็นตัวของตัวเอง จะทำให้ กทม.ไม่พัฒนา หยุดอยู่กับที่ แต่ยุคไหนที่ผู้ว่าฯ กทม.มีความเป็นตัวของตัวเอง ก็สามารถผลักดันนโยบายนำร่องก่อนพื้นที่อื่นๆ ด้วยซ้ำ

ส่วนการหาเสียงของ พล.ต.อ.พงศพัศ กรณีให้คน กทม.ใช้รถเมล์ฟรีนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องถามกระทรวงคมนาคมซึ่งมีอำนาจหลักว่ามีนโยบายนี้หรือไม่ เพราะไม่ใช่อำนาจของผู้ว่าฯ กทม.อยู่แล้ว ดังนั้น หาก พล.ต.อ.พงศพัศจะให้คน กทม.ขึ้นรถเมล์ฟรีโดยนำเงินไปจ่ายให้ ขสมก. ก็ต้องเอาตัวเลขออกมาดู ยิ่งนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ออกมาระบุว่าไม่มีนโยบายนี้ และหากจะดำเนินการต้องใช้เงินของ กทม. พล.ต.อ.พงศพัศก็ต้องยิ่งชี้แจงว่าจะนำเงินเท่าไหร่จาก กทม.ไปดำเนินการเรื่องนี้ พร้อมกับเรียกร้องให้สื่อมวลชนตั้งคำถามกับ พล.ต.อ.พงศพัศว่าเมื่อกระทรวงคมนาคมไม่ทำ จะใช้เงิน กทม.เท่าไหร่เพื่อที่จะได้ดูว่าเป็นนโยบายที่เหมาะสมและทำได้จริงหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.อ.พงศพัศอ้างว่าหาก กทม.ไม่มีเงินจะประสานของบจากรัฐบาล แต่เมื่อรมว.คมนาคมยืนยันไม่มีนโยบายนี้จะกระทบกับนโยบายไร้รอยต่อหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องไปถามว่าความหมายคำว่า ไร้รอยต่อ คือสิ่งที่ปรากฏในขณะนี้หรือไม่ แต่ตนเคยทักท้วงว่าการจะเสนอบางอย่างต้องระมัดระวังอย่าให้เกินความจริง เมื่อเจ้ากระทรวงบอกไม่เอา ผู้สมัครก็ต้องตอบคำถามสังคมว่าจะทำได้หรือไม่ อยากให้สื่อและประชาชนช่วยกันเรียกร้องให้ผู้สมัครมีความชัดเจนว่าเสนออะไร จากนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้งก็ต้องพิจารณาในแง่กฎหมาย

ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.พงศพัศหาเสียงว่าจะเพิ่มค่ายังชีพให้คนชราใน กทม.เป็นหัวละ 1,200 บาท ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่สื่อต้องถาม พล.ต.อ.พงศพัศ ว่าเงินเพิ่มส่วนนี้ กทม.จะให้เองและทำได้หรือไม่ หรือว่ารัฐบาลจะเป็นผู้สนับสนุน หากรัฐบาลเข้ามาช่วยจะให้ทั้งประเทศหรือไม่ อยากให้สื่อมีการตรวจสอบ เพราะการจัดสรรงบเบี้ยยังชีพคนชรา มีการจัดผ่านท้องถิ่น แต่เป็นอัตราเดียวกันทั่วประเทศในทุกท้องถิ่น จึงเป็นคำถามว่าหากจะใช้เป็นนโยบายเฉพาะของ กทม.จะใช้งบ กทม.ใช่หรือไม่ และต้องไปถามกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นว่าอนุญาตหรือไม่ ที่จะให้ท้องถิ่นจ่ายเงินในอัตราที่ต่างกัน เพราะที่ผ่านมาเคยมีบางท้องถิ่นที่ให้เพิ่มในบางกรณี แต่กรมการปกครองแจ้งว่าควรจะจ่ายในอัตราเดียวกัน จึงอยากให้ผู้สมัครรับผิดชอบต่อคำหาเสียงของตนเองด้วย ดังนั้นเพื่อความสร้างสรรและให้เกิดความชัดเจนทุกฝ่ายก็ต้องช่วยกันตรวจสอบเมื่อมีการนำเสนอนโยบายที่ขาดรายละเอียดว่าทำได้จริงหรือไม่ อยู่ในอำนาจหรือไม่

ทั้งนี้ การลงพื้นที่ในส่วน ส.ส.ของพรรคเพื่อช่วย ม.ร.ว.สุขุมพันธ์หาเสียงนั้นจะทำอย่างต่อเนื่องและจะประเมินผล เริ่มมีการลงพื้นที่กันมากขึ้น โดยจะไม่กระทบต่อการทำงานในสภา

ด้านนายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ช่วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ใน 9 เขตที่กลุ่มคนเสื้อแดงมีอิทธิพลนั้น ว่า จะเป็นการลงพื้นที่เพื่อเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ของผู้สมัครพรรค และจะเน้นวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของผู้สมัครฝ่ายตรงข้าม ที่เป็นนโยบายที่ขัดแย้งและไม่สามารถทำได้จริง อาทิ นโยบายการแก้ปัญหาจราจรของ พล.ต.อ.พงศพัศ ซึ่งขัดแย้งกับนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลเอง ซึ่งก็เชื่อมั่นว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้จะทำให้คน กทม. ตัดสินใจเลือกผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์มากขึ้น

เมื่อถามว่า กังวลว่าจะมีการต่อต้านจากกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่กลุ่มคนเสื้อแดงมีอิทธิพล นายถาวร กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวล เพราะหากมีการต่อต้าน ส.ส.ของพรรคก็จะอยู่ในอาการสงบ ไม่ตอบโต้ใดๆ และจะมีการบันทึกพฤติกรรมของกลุ่มที่ต่อต้านไว้ ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายก็จะนำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดีต่อไป