xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” อ้อนคนกรุง รัก “พงศพัศ” ชูตรวจสอบได้ - “เหลิม” เย้ย “สุขุมพันธุ์” เด็กยังกลัวถูกอุ้ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพจากเฟซบุ๊ก “พงศพัศ พงษ์เจริญ”
เพื่อไทยเปิดเวทีปราศรัยช่วย “พงศพัศ” วงเวียนใหญ่ ขน ส.ส.ปากกล้าเพียบ “ยิ่งลักษณ์” มาเอง อ้อนหากรักกันขอโอกาสด้วย ยันผู้ว่าฯ ต้องตรวจสอบได้ ชูทำงานแบบไร้รอยต่อ เจ้าตัวหาเสียงชู รถเมล์ฟรี-เรือฟรี รถ ปอ.10 บาท อ้างทำได้จริงเพราะ กทม.มีตังค์ ดูแลได้ “เหลิม” เย้ย “สุขุมพันธุ์” สร้างภาพ อุ้มเด็กทำร้องไห้ ลั่นคนกรุงถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว

วันนี้ (25 ม.ค.) ที่วงเวียนใหญ่ เวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทย เพื่อช่วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยหาเสียง เริ่มขึ้นประมาณ 16.30 น.โดยมีแกนนำ และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เช่น นายสุนัย จุลพงศธร นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ขึ้นเวทีปราศรัยตั้งแต่เวลา 16.30 น. และในโอกาสนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะขึ้นปราศรัยเพื่อช่วย พล.ต.อ.พงศพัศหาเสียงด้วย ทั้งนี้ เนื้อหาส่วนใหญ่ยังเน้นไปที่การกล่าวโจมตีการหาเสียงของ ม.ร.ว.สุขมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าฯ กทม. และผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเป็นการหาเสียงแบบสร้างภาพ เพ้อฝันว่ามีนโยบายแบบนั้นแบบนี้ แต่ 4 ปีที่ผ่านมากลับไม่ได้ทำอะไรให้กรุงเทพฯ พัฒนาขึ้น

ต่อมาเวลา 18.15 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง กล่าวว่า ตนได้ดูการหาเสียงของ ม.ร.ว.สุขมพันธุ์ ที่ได้ไปสร้าวภาพอุ้มเด็ก แต่เด็กยังกลัวถึงขนาดร้องไห้เลย ดังนั้นคน กทม.ต้องยิ่งร้องไห้เข้าไปใหญ่หากมีผู้ว่าคนนี้บริหาร กทม. เพราะฉะนั้นถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว ถ้าประชาชนมาใช้สิทธิมาก พรรคเพื่อไทยจะชนะแน่นอน และจะพัฒนาเมืองหลวงร่วมกันกับรัฐบาลแบบไร้รอยต่อ ทั้งการแก้ปัญหาจราจร น้ำท่วม ความสะอาด ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

ส่วนเรื่องยาเสพติดมีนโยบายให้ผู้กำกับทุก สน.ร่วมกับสำนักงานเขตแก้ปัญหายาเสพติด แบบเอกซเรย์ทุกพื้นที่ เพราะ กทม.เป็นแหล่งเสพและแหล่งค้าที่ใหญ่ที่สุด และจะทำให้ กทม. เป็นเมืองหลวงของอาเซียนและระดับสากล จะเป็นท้องถิ่นของไทยอย่างเดียวไม่ได้ รวมถึงเสนอให้มีการขุดอุโมงค์ใต้ดินเป็นพิ้นที่ให้พ่อค้า แม่ค้าขายของ ไม่ต้องถูกไล่จับ และจะนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินให้หมดทุกพื้นที่ ไม่เหมือนกับ ม.ร.ว.สุขมพันธุ์ ที่หาเสียงเอาไว้แต่ไว้แต่ไม่เคยทำได้

จากนั้นในเวลา 18.40 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เดินทางจากทำเนียบรัฐบาลมาถึงเวทีและขึ้นปราศรัยกับประชาชนว่า เมื่อตอนเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาตนก็เดินทางมาปราศรัยกับประชาชนที่นี่ และหวังว่าประชาชนจะยังจำตนได้ และเทคะแนนให้เหมือนกับตอนเลือกตั้งใหญ่ ตนขอให้ชาวฝั่งธนเชื่อว่า พล.ต.อ.พงศพัศ คือหน้าใหม่ที่จะเข้ามารับใช้ประชาชนเหมือนกับหน้าเก่าที่รับใช้ประชาชามายาวนานเช่นพรรคเพื่อไทย เพราะฉะนั้นตนขอโอกาสให้กับทางพรรคเพื่อไทยและ พล.ต.อ.พงศพัศด้วย

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.พงศพัศจะทำให้ที่แบบไร้รอยต่อเพื่อที่จะพัฒนาชีวิตคน กทม.ซึ่งถึงเวลาแล้วที่กรุงเทพฯ จะมีห้องน้ำสาธารณะให้ประชาชนได้ใช้ วิธีชีวิตของคนกรุงเทพฯ ต้องตื่นแต่เช้ากว่าจะหลับถึงบ้านก็ดึกคงจำเป็นที่จะต้องมีตำรวจอย่าง พล.ต.อ.พงศพัศดูแล งานบริหารของ กทม.จำเป็นจะต้องมีสภา กทม.เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ โดยประชาชนต้องสามารถตรวจสอบการทำงานของ พล.ต.อ.พงศพัศได้

“รักเพื่อไทยไหม รักยิ่งลักษณ์ไหม ถ้าคน กทม.รักยิ่งลักษณ์ ก็ขอให้รัก พล.ต.อ.พงศพัศ วันที่ 3 ขอให้รับ พล.ต.อ.พงศพัศเข้าไปอยู่ในใจด้วย” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว

ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น. พล.ต.อ.พงศพัศขึ้นเวทีปราศรัยโดยกล่าวว่า การที่ตนอาสาลงรับใช้คน กทม.ในนามพรรคเพื่อไทย เนื่องจากว่าในช่วงสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมาตนได้ลงพื้นที่กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อช่วยเหลือประชาชน เพราะฉะนั้นตนจึงรู้ดีว่าปัญหาของคน กทม. ยังมีอีกเยอะ และจะต้องมีการแก้ไขแบบบูรณาการแบบไร้รอยตอ่อระหว่างรัฐบาลกับทาง กทม.เพราะตนรู้ดีว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะทำงานแบบไร้รอยต่อเพื่อที่จะคืนความสุขให้พับพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดี

พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวต่อว่า รถโดยสารประจำทางจะต้องมีเอาไว้ให้ประชาชนนั่งฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพราะตนคำนึงถึงค่าใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ที่จะต้องเสียไปในแต่ละวัน รวมไปถึงรถโดยสารปรับอากาศที่ประชาชนต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง แต่หากตนได้เข้าไปเป็นผู้ว่าฯ รถโดยสารปรับอากาศจะเสียค่าบริการเพียง 10 บาทตลอดสาย นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเรือข้ามฟาก ตนจะคุยกับสภา กทม.เพื่อให้ประชาชนนั่งเรือฟรีทุกคน

นอกจากนี้ ประชาชนทุกเขต ทุกพื้นที่จะต้องได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียมกัน เพราะทุกคนคือคนไทย อะไรก็ตามที่ตนสามารถช่วยเหลือตนก็จะเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะค่าโดยสารบีทีเอสที่มีราคาสูง ตนจะต้องทำให้ประชาชนเสียค่าเดินทางเพียงแค่ 20 บาทตลอดสาย นโยบายของตนไม่ใช่เพียงแค่พูดเพราะตนรู้ดีว่าสามารถทำได้จริง เนื่องจากงบประมาณที่จะนำไปใช้ในส่วนนี้ กทม.สามารถดูแลได้อยู่แล้ว

มีรายงานว่า บรรยากาศโดยรอบของเวทีปราศรัยนั้นการจราจรติดขัดอย่างมาก เนื่องจากประชาชนที่ขับรถผ่านก็จะชะลอรถเพื่อหยุดดูการปราศรัย มีประชาชนประมาณ 1 พันคนให้ความสนใจ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ขึ้นเวทีปราศรัย แต่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นคนเสื้อแดงที่ตามมาให้กำลังใจ ส.ส.ของพรรค และมาขายสินค้าบริเวณโดยรอบเท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น