“เสรีพิศุทธ์” แจงลงชิงผู้ว่าฯ กทม.หวั่นสังกัดพรรคขาดอิสระช่วยชาวบ้าน โชว์ทีมรองฯ พรุ่งนี้

“อดีตวีรบุรุษนาแก” เขียนเฟซบุ๊กแจงลงอิสระเหตุชาติมีปัญหาจากการเมืองในระบบพรรค ชี้คนกรุงเหมือนถูกจับเป็นตัวประกัน แถมโดนดูแคลนส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ รับถ้าสังกัดพรรคจะขาดอิสระในการทำงานเพื่อประชาชน ยันการเมืองท้องถิ่นไม่ควรถูกครอบงำเพื่อฐานสร้างเสียง ปัดมักใหญ่ไฝ่สูง ก่อนโชว์ผลงานปราบปรามทุจริต พร้อมเปิดตัวรองผู้ว่าฯ พรุ่งนี้ ลั่นภารกิจสุดท้ายที่สำคัญยิ่งในชีวิต ขอชนะ 2 พรรคใหญ่

วันนี้ (20 ม.ค.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เขียนข้อความลงบนเว็บไซต์เฟซบุ๊ก โดยระบุถึงเหตุผลของการลงสมัครเลือกตั้งว่า วันพรุ่งนี้ (21 ม.ค.) ตนและคณะจะเดินทางไปที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตามที่ได้แถลงข่าวเปิดตัวเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 55 และเปิดใจพร้อมกับเปิดตัวรองผู้ว่าฯ ตลอดจนนโยบายต่างๆ ไปแล้วเมื่อวานนี้ (19 ม.ค.) ตนจึงขอถือโอกาสนี้เปิดใจให้พี่น้องชาวแฟนเพจที่เคารพรักทุกท่านได้รับทราบความในใจ

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ระบุว่า ตนยอมรับว่าการเป็นผู้สมัครอิสระไม่สังกัดพรรคการเมืองใดนั้น แม้เป็นเรื่องลำบากยากยิ่งที่จะฝ่าฟันเอาชนะผู้สมัครที่สังกัดพรรคการเมืองก็ตาม แต่เมื่อตนได้พิจารณาแล้วเห็นว่าขณะนี้ประเทศชาติกำลังมีปัญหาจากการเมืองโดยระบบพรรค ทั้งในระดับประเทศและการบริหารงานของกรุงเทพมหานคร จนทำให้คนกรุงเทพฯ เหมือนถูกจับเป็นตัวประกัน ถูกขืนใจให้เลือก ไม่ว่าพรรคการเมืองจะส่งใครลงสมัครก็ตาม ประชาชนก็ไม่มีทางเลือก ดูแคลนคนกรุงเทพฯ กระทั่งว่า “แม้ส่งเสาไฟฟ้าก็มั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้ง” ตนจึงตัดสินใจอาสาลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้เพื่อเป็นทางเลือกและเป็นอนาคตใหม่ให้กับพี่น้องประชาชน

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังระบุอีกว่า การที่ลงสมัครอิสระโดยไม่สังกัดพรรคการเมือง มีเหตุผลดังนี้ 1. สภาพการเมืองปัจจุบัน เป็นการเมืองที่ไร้วินัย ขาดอุดมการณ์เพื่อประเทศชาติและประชาชน มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตคอร์รัปชัน กอบโกยโกงกิน หากผมสังกัดพรรค ย่อมขาดความเป็นอิสระในการทำงานตามความต้องการและเพื่อประโยชน์ที่แท้จริงของประชาชน เพราะผมต้องถูกครอบงำโดยนโยบายและมติของพรรค 2. โดยระบบการเมืองปัจจุบัน เห็นการปกครองท้องถิ่นในรูปแบบพิเศษต่างๆ เป็นเพียงฐานเสียงทางการเมือง จึงปรากฏเห็นได้ว่ามีการลงทุนด้วยการใช้เงินอย่างมหาศาล เพื่อซื้อเสียง เพื่อยึดเอาท้องถิ่นเป็นฐานการเมือง

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ระบุต่อว่า 3. ด้วยเหตุดังกล่าวจะเห็นได้ว่าการเมืองมักจะเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากงบประมาณของรัฐผ่านโครงการต่างๆ (ปัจจุบันทราบว่า 30%-40%) เงินภาษีอากรของประชาชนจึงถูกนำไปใช้โดยไม่จำเป็น ผิดวัตถุประสงค์ เกิดการสูญเสียจากการคอร์รัปชั่นเป็นจำนวนมหาศาล มิได้มุ่งหมายแก้ปัญหาพื้นฐานให้กับประชาชน 4. วัฎจักรของการเมืองวันนี้จึงวนเวียนอยู่กับการซื้อเสียงเลือกตั้ง เพื่อให้ได้อำนาจ ทุจริต ซื้อเสียงเลือกตั้ง ได้อำนาจ ทุจริต เป็นเช่นนี้มาตลอดไม่มีวันจบสิ้น 5. ตนเห็นว่าการปกครองท้องถิ่นไม่ควรให้การเมืองเข้ามาครอบงำ ยึดเอาเป็นฐานการเมือง แล้วใช้อำนาจทุจริตอีกต่อไป ตนจึงสมัครโดยอิสระไม่สังกัดพรรคการเมือง ซึ่งจะทำให้ผู้มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ รักประเทศชาติ อาสามารับใช้พี่น้องประชาชนได้ ทำให้การบริหารกรุงเทพมหานครไม่สูญเสียโอกาสที่จะได้ผู้บริหารที่ดีมาทำงานเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนโดยแท้จริง

“ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ผมจึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่พวกเรา “คนกรุงเทพ” จะร่วมกันหยุดการเมืองที่โกงชาติ ยุติการจับประเทศชาติ และกรุงเทพมหานคร เป็นตัวประกันอีกต่อไป เพราะการบริหารกรุงเทพมหานครเป็นงานของบ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องการเมือง อำนาจและผลประโยชน์ ผมและคณะจึงขออาสาแก้ปัญหากรุงเทพมหานคร เพื่อประชาชนทุกคน โดยมิได้มีความทะเยอทะยาน และมักใหญ่ใฝ่สูงทางการเมืองแต่อย่างใด” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุ

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ระบุว่า อดีตที่ผ่านมาตนเคยอาสารับใช้ประเทศชาติด้วยความเสียสละและเสี่ยงชีวิต เพื่อต่อสู้และแก้ไขปัญหาความสงบเรียบร้อยแก่ประเทศชาติบ้านเมือง สามารถปฏิบัติราชการได้รับผลสำเร็จด้วยดี เมื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้ต่อสู้จับกุมปราบปรามทุจริตชน ผู้มีอิทธิพล ที่กระทำผิดกฎหมาย โดยมิได้เกรงกลัวอำนาจและอิทธิพลทางการเมืองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นำความสงบสุขมาสู่พี่น้องประชาชน ตามปณิธานของตำรวจที่ดี โดยไม่เคยทำให้พี่น้องผิดหวัง วันนี้ตนเกษียณอายุราชการแล้ว และเห็นว่ากรุงเทพฯ มีปัญหามากมายที่ต้องได้รับการแก้ไขและไม่อาจปล่อยให้ตกอยู่ในสภาพเช่นในปัจจุบันนี้อีกต่อไป ตนอาสามารับใช้พี่น้องประชาชนพร้อมกับทีมงาน ซึ่งประกอบด้วยบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีความมุ่งมั่นจริงใจต่อประชาชน ด้วยนโยบายในการบริหารกรุงเทพฯ ที่ทันสมัย ทันเหตุการณ์ พูดจริง ทำได้จริง ตรวจสอบได้ และวัดผลได้ ด้วยสโลแกนว่า “เสรีพิศุทธ์ ผู้ว่าฯ คนจริงของคน กทม.” เป้าหมายสูงสุด คือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ และผู้ที่มาเยือน ให้ดีในทุกๆ ด้าน สร้างกรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองที่น่าอยู่อาศัย น่าท่องเที่ยว ประชาชนมีความสุข มีความปลอดภัย ที่มั่นคงและยั่งยืน และทำให้ กทม. เป็นศูนย์กลางประชาคมอาเซียนอย่างแท้จริง

“การอาสาเพื่อสมัครเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครของผมครั้งนี้ “เป็นภารกิจสุดท้ายที่สำคัญยิ่ง ในชีวิตผม” เพื่อทดแทนคุณแผ่นดินถิ่นกำเนิด หากไว้วางใจ และมั่นใจในทีมงานของผม โปรดให้การสนับสนุนด้วยการรวมพลังของคนกรุงเทพ กระจายข่าวให้พ่อแม่ พี่น้อง ลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย พนักงาน พรรคพวกเพื่อนฝูง ทุกเพศทุกวัย ทุกวงการ ได้รับทราบให้กว้างขวางมากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ และจงสามัคคีกันไปลงคะแนนเสียงให้แก่ผมในครั้งนี้ด้วย เพื่อสามารถเอาชนะพรรคการเมืองใหญ่ทั้งสองพรรคได้ สร้างประวัติศาสตร์แก่กรุงเทพมหานคร โดยผมขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำให้กรุงเทพฯ เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นภายในเวลา 1 ปี และเรียบร้อยภายใน 4 ปี” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุ