xs
xsm
sm
md
lg

“บัญญัติ” อัด “ปึ้ง” ออกตัวส่อไทยเสียดินแดน ปูดศึกเลือกผู้ว่าฯ กทม.พบขนคน ตจว.-บ่อนหนุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ (ภาพจากแฟ้ม)
กรรมการสภาที่ปรึกษา ปชป.วิเคราะห์ในที่ประชุม ส.ส.พรรค เชื่อ รมว.ต่างประเทศพูดว่าคดีพระวิหาร “ไม่แพ้ก็เสมอตัว” น่าจะรู้อะไรมาก่อน ลดโทษ-อภัยโทษ “วีระ-ราตรี” แค่กลบเกลื่อนผลประโยชน์ ส่วน “ทักษิณ” วาดฝันชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพราะมั่นใจการตลาด-ประชานิยม-เครือข่ายอำนาจ ปูดพื้นที่บ่อนส่งสัญญาณให้หนุน แถมย้ายคน ตจว.เข้าทะเบียนบ้าน กทม. สั่งลูกพรรคปลุกเร้า ขรก.รู้หน้าที่มากกว่ารับใช้การเมือง


วันนี้ (15 ม.ค.) มีรายงานว่าในที่ประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคได้วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองให้ ส.ส.พรรคฟังตอนหนึ่งในปัญหาข้อพิพาทของปราสาทพระวิหารและพื้นที่ทับซ้อนว่า การที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ระบุว่าคดีที่สู้ในศาลโลกไม่เสมอตัวก็แพ้นั้น แสดงว่าเจ้าตัวต้องรู้อะไรมาก่อนหรือไม่ และพูดเพื่อชี้นำให้ประชาชนได้ทำใจ แต่ต่อมาถูกสื่อวิจารณ์หนักถึงกลับลำ ทำท่าเอาจริงเอาจัง ซึ่งต้องตามกันต่อไป แม้ล่าสุดสถานการณ์ทำท่าว่าดีขึ้นจากการอภัยโทษให้ 2 คนไทย คือ นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ได้ลดโทษจำคุกซึ่งหลายฝ่ายได้วิเคราะห์ว่าเป็นการกลบเกลื่อนเรื่องผลประโยชน์ร่วมในกรณีนี้หรือไม่ อย่างไร เพราะมีการระบุว่าเป็นผลงานของรัฐบาล แต่ของจริงต้องรอดูผลการต่อสู้คดีในศาลโลก ถามว่าทำไมรัฐบาลไม่ขอจดขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารร่วมกับกัมพูชาไปเลย ซึ่งสามารถทำได้และลดความขัดแย้งต่างๆ ลงด้วย เขาทำได้ แต่ไม่ทำ ต้องหาคำตอบนี้ว่าทำไม

ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้วิเคราะห์การเมืองไทยปี 2556 ว่าจะเป็นปีที่คนไทยตกผลึกทางความคิดในเรื่องต่างๆ และประชาชนจะเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์นั้น เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณมีความมั่นใจว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งใครลงสมัคร หรือแม้กระทั่งส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะนั้น แต่ส่วนตัวกลับมั่นใจว่าประชาชนจะเริ่มรู้เท่าทันการเมืองมากขึ้นว่าการเมืองปัจจุบันเป็นการสร้างภาพด้วยการโฆษณาชวนเชื่อและมีวาระซ่อนเร้นแอบแฝงอยู่ สิ่งที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์ก็แค่เศษเสี้ยวเท่านั้น ดังนั้น การชนะเลือกตั้งคงไม่ง่ายดายอย่างที่คิด แต่สะท้อนว่ามีบางอย่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณมั่นใจคือ 1. มั่นใจในทฤษฏีการตลาดนำการเมือง ว่ายังสามารถครองใจคนไทยส่วนใหญ่ 2. มั่นใจจากผลของนโยบายประชานิยมที่ใช้หว่านงบประมาณได้ผลในการซื้อใจคน 3. มั่นใจในเครือข่ายระบบอำนาจนิยมของเขา ที่นับวันยิ่งหยั่งรากลึกและขยายฐานกว้างเพิ่มขึ้น ถึงขนาดส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่คำพูด แต่ได้มีการกระทำไปแล้ว เพราะมีคนมาเล่าให้ฟังว่า ในพื้นที่เขตที่มีบ่อนการพนัน มีการไปสำทับกับเจ้าของบ่อนผู้มีอิทธิพลแล้วว่า ขอให้สนับสนุนคนของเขา และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการย้ายคนจากต่างจังหวัดเข้ามาอยู่ใน กทม. เพื่มมากขึ้นจนผิดสังเกต

“การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การต่อสู้ของพรรคการเมือง แต่หมายถึงระบบอำนาจนิยมที่จะสามารถเข้าครอบงำคนและพื้นที่ใน กทม.ได้หรือไม่ และยังมีอีก 2 ยุทธศาสตร์ที่พรรคอาจหลงลืมไป คือ การส่งผู้สมัครอิสระหรือผู้สมัครอื่นๆ สอดแทรกว่าเป็นการตัดฐานคะแนนว่าให้เลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะเขาก็วิเคราะห์ว่า หากสามารถรวมคะแนนเสียงที่แตกในส่วนนี้ได้จะเป็นปัจจัยชี้วัดในชัยชนะได้ในที่สุด หากเขาสามารถช่วงชิงพื้นที่ กทม.ที่เป็นเมืองหลวงไปได้การใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการบริหารก็จะเพิ่มมากขึ้นตามมาแน่นอน อีกยุทธศาสตร์ คือ ต้องปลุกเร้าข้าราชการให้ตื่นขึ้น เพราะวันนี้ต้องยอมรับว่า องค์กร สถาบันราชการประจำถูกกระทำให้อ่อนแอลงมากกว่าในอดีตมากจนน่าเป็นห่วง วันนี้ข้าราชการประจำส่วนหนึ่งถูกเปลี่ยนสถานะกลายๆ ให้เป็นลูกจ้างของพรรคการเมืองไปแล้ว จึงขอให้ช่วยกันปลุกเร้าให้ร่วมกันปกป้องกลไกในการบริหารงานที่ถูกต้อง ชอบธรรม“ นายบัญญัติกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น