xs
xsm
sm
md
lg

“ประชาธิปัตย์”ยื้อจนยวบ เค้นหาคนสมัครผู้ว่าฯกทม.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง

สุขุมพันธุ์ บริพัตร
เป็นไปตามคาด จนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2555 ประชาธิปัตย์ก็ยังไม่มีบทสรุปอย่างเป็นทางการออกมาว่าตกลงจะส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอีกสมัยหรือไม่

จากที่เดิมคาดกันว่า น่าจะได้รายชื่อเป็นข้อสรุปเบื้องต้นออกมาจากห้องประชุมคณะกรรมการพิจารณารายชื่อผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคที่มีบัญญัติ บรรทัดฐานเป็นประธานในวันอังคารที่ 25 ธันวาคม

คนที่รอจะส่งเสียงเฮมากสุดคือ คุณชายสุขุมพันธุ์ที่ลุ้นจนเซ็งและถึงตอนนี้น่าจะเกิดอาการงอนพรรคเข้าให้แล้วแน่นอนกับการที่ประชาธิปัตย์ยังยื้อไม่ยอมมีมติพรรคออกมาให้รู้เรื่องก่อนช่วงสิ้นปี 2555 จะได้ไปเคาท์ดาวน์ในวันจันทร์ที่ 31 ธันวาคมนี้ที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์อย่างสุขสันต์สำราญใจ

แต่สุดท้ายการประชุมคณะกรรมการชุดบัญญัติจนถึงเมื่อ 25 ธันวาคม ก็ยังไร้ข้อสรุป เพราะคณะทำงานชุดนี้เพียงแต่นำผลการแสดงวิสัยทัศน์-การตอบข้อซักถามต่างๆ ของผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งที่มีด้วยกันทั้งสิ้น 4 รายชื่อคือ

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร, ดร.ประกอบ จิรกิติ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร , กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกรัฐมนตรี-อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ อภิชัย เตชะอุบล อดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งทั้งสี่คนได้ไปแสดงวิสัยทัศน์และตอบคำถามต่างๆของคณะทำงานจากนั้นคณะทำงานก็รวบรวมและทำความเห็นประกอบส่งไปให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาอีกทีหนึ่ง ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่ากรรมการบริหารพรรคที่มีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคจะสรุปผลเลยหรือไม่ก่อนวันที่ 31 ธันวาคม

หากดูตามรายชื่อทั้ง 4คนแล้ว ถ้าไม่มีตัวสอดแทรกอื่นเข้ามา แน่นอนว่า ป่านนี้พรรคประชาธิปัตย์น่าจะได้ข้อสรุปประกาศชื่อม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ไปได้แล้ว เพราะดูยังไงสุขุมพันธุ์ก็ได้เปรียบหลายช่วงตัวแต่ที่ยังยื้อกันไม่จบเป็นเพราะมีตัวสอดแทรกอื่นเข้ามามากกว่า

ตัวสอดที่ว่านี้ก็คือ กรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคที่เดิมทีก็ดูเหมือนจะสนใจ แม้จะเป็นการลดชั้นการเมืองจากระดับอดีตรมว.คลังมาลงสมัครเป็นผู้ว่าฯกทม.ที่เป็นการเมืองท้องถิ่น แต่เมื่อพิจารณาดูแล้ว กรณ์ น่าจะเริ่มเห็นแล้วว่าไปลงผู้ว่าฯกทม.ก็ไม่เสียหายอะไร มีแต่ได้กับได้ หากได้เป็นผู้ว่าฯกทม.

เพราะใครๆ ก็ดูออกว่า หากการเมืองยังเป็นแบบนี้ ก็ยากที่ประชาธิปัตย์จะชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล ยกเว้นเหตุแทรกซ้อนแต่จะรอส้มหล่นแบบเมื่อตอนตั้งรัฐบาลในค่ายทหารคงยากจะเกิดขึ้นแล้ว ดูๆ ไป ประชาธิปัตย์ มีโอกาสเป็นฝ่ายค้านยาว เลือกตั้งรอบหน้ายังไงเพื่อไทยก็ชนะเลือกตั้งอยู่ดี

เชื่อว่าตัวกรณ์ เองก็คงคิดแบบนี้ เลยทำให้กรณ์อาจคิดไปพักในเวทีการเมืองท้องถิ่น โชว์ภาพผู้นำเมืองหลวง สัก 4 ปี เพื่อแสดงภาวะผู้นำการเมืองว่าสามารถขึ้นมาแทนอภิสิทธิ์ในพรรคได้ แถมยังได้อยู่ฝ่ายบริหาร ดีกว่าเป็นส.ส.ฝ่ายค้านคอยเฟซบุ๊คอัดรัฐบาลไปเรื่อยๆ เหนื่อยการเปล่าไม่ได้แสดงฝีมืออะไร สู้ไปลุ้นลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ซึ่งมีโอกาสได้สูง ย่อมดีกว่า ผสมกับน่าจะมีลูกยุในพรรคทั้งส.ส.กทม.และพวกส.ก.-ส.ข.ปชป.ที่ไม่ชอบหน้าม.ร.ว.สุขุมพันธุ์และต้องการเปลี่ยนตัวคนลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ก็เลยทำให้ข่าวระยะหลังกรณ์ เริ่มแรงตามเสียงเชียร์

แถมมีข่าวเกิดตัวสอดแทรกขึ้นมาอีกหนึ่งคือ องอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แกนนำพรรคปชป.สายกทม. ไม่รู้เป็นไง ข่าวช่วงหลังบอกว่าองอาจชักสนใจการเมืองท้องถิ่นขึ้นมาเหมือนกันหลังมีเสียงเชียร์จากส.ส.กทม.-ส.ก.-ส.ข.ที่บอกไม่ได้กรณ์ก็เอาองอาจ

เลยทำให้ข่าวช่วงหลังทั้งกรณ์-องอาจ จะขอแทรกเข้ามาเพราะมีแรงหนุนในพรรค หากทั้งกรณ์-องอาจ เอาจริง ก็คงทำให้กว่าจะได้ตัวผู้สมัครฯ ของปชป.คงอาจต้องรอลุ้นถึงต้นเดือนมกราคม 2556

หากทั้งกรณ์-องอาจ ไม่ปฏิเสธข่าว พร้อมลงชิงชัยจริง ก็ต้องไปคุยกันให้ชัดในพรรคว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งขึ้นมาในปชป. หากจะมีใครในพรรคไม่พอใจการพิจารณารายชื่อที่ยังไม่ยอมสรุปผลเสียที

เพราะแม้คณะทำงานชุดบัญญัติจะส่ง 4 ชื่อคือสุขุมพันธุ์-ประกอบ-อภิชัย-กอร์ปศักดิ์ไปให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณาไปแล้วแต่ก็ยังบอกว่าไม่จำเป็นที่กรรมการบริหารพรรคจะพิจารณาแค่สี่รายชื่อนี้ อาจพิจารณาชื่อเพิ่มขึ้นมาก็ได้อีก แต่ต้องมีเหตุผลชี้แจง ทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายในพรรค

ก็เท่ากับว่า เปิดประตูเอาไว้ให้กก.บห.พรรคปชป.ยังดันคนอื่นมาใส่ได้อีก จึงเป็นที่มาของข่าวกรณ์-องอาจจะขอเบียดเข้ามาในชั้นกรรมการบริหารพรรคนั่นเอง

“ทีมข่าวการเมือง”มองว่า ปัญหาความไม่ลงตัวดังกล่าวในพรรคประชาธิปัตย์จะทำให้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นมาหรือไม่ กรณ์กับองอาจ จะออกมาปฏิเสธข่าว ยืนยันไม่ลงสมัครแน่นอน หรือจะเอาจริงกับการจะลงสมัครผู้ว่าฯกทม.

แล้วหากประชาธิปัตย์ยื้อเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ จะทำให้สุขุมพันธุ์ที่เดิมทีประกาศไปก่อนหน้านี้ว่า พร้อมยอมรับการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์หากไม่ส่งลงสมัครฯก็จะอยู่กับพรรคต่อไป ไม่ลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ 10 มกราคม 2556 จนทำให้วันรับสมัครและวันลงคะแนนเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ทางกรุงเทพมหานครวางไว้ว่าน่าจะมีการลงคะแนนเสียงเลือกผู้ว่าฯกทม.ได้ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์

หากผลออกมาว่าประชาธิปัตย์ไม่ส่งม.ร.ว.สุขุมพันธ์จริง จะเกิดปัญหาอะไรตามมาจนทำให้สุขุมพันธ์ต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้พรรคหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องไม่ลืมว่า แม้สุขุมพันธ์จะเป็นคนซึ่งแม้แต่คนในพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกันเอง ก็ยังไม่หนุน จากปัญหาการบริหารงานที่ไม่เข้าขากับส.ส.กทม.-ส.ก.-ส.ข. จนทำให้สุขุมพันธ์แทบไม่มีพวกเลยในประชาธิปัตย์โดยเฉพาะในกลุ่มกทม. ไม่เช่นนั้นป่านนี้ คงได้รับแรงหนุนให้ลงสมัครผู้ว่าฯกทม.ไปเรียบร้อยแล้วไม่มีปัญหายืดเยื้อคาราคาซังมาเนิ่นนานหลายเดือน

ผนวกกับฝ่ายพวกทีมหาเสียงในพรรคประชาธิปัตย์รวมถึงพวกส.ส.กทม.-ส.ก.-ส.ข.ก็คงประเมินตรงกันว่าแม้สุขุมพันธ์จะได้เปรียบที่เป็นผู้ว่าฯมาสี่ปี ทำให้การหาเสียงทำได้ง่าย คนรู้จักดีอยู่แล้ว แต่ก็เชื่อว่าช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ตัวสุขุมพันธ์ก็คงโดนฝ่ายตรงข้ามคือพรรคเพื่อไทยนำประเด็นต่างๆ ในการบริหารกรุงเทพมหานครไปถล่มจนมีผลต่อการตัดสินใจของคนกรุงเทพฯ แน่นอน

คงไม่ได้มีแต่เรื่องความล่าช้าในการก่อสร้างสนามบางกอก ฟุตซอล อารีนา ซึ่งสุดท้ายฟีฟ่าก็ไม่ประกาศรับรองให้ใช้เป็นสนามในการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ

แต่น่าจะมีอีกหลายเรื่องที่จะเป็นตัวฉุดคะแนนสุขุมพันธ์

กระนั้น ก็ใช่ว่าผลงานสุขุมพันธ์ในช่วงสี่ปีจะไม่มีเอาเสียเลย อย่างน้อยก็มีให้เห็นระดับหนึ่งที่คงพอนำไปโฆษณาหาเสียงกันได้บ้าง แม้ว่ากันตามจริงแล้ว จะไม่ประทับใจคนกรุงเทพฯ เท่าไหร่นัก

จึงไม่แปลกที่ผลสำรวจสำนักไหนต่อสำนักไหน ออกมาครั้งใด จะพบว่าคนกรุงเทพฯส่วนใหญ่นึกผลงานของสุขุมพันธ์ไม่ออก แต่เมื่อครั้งนี้ แม้กระแสเพื่อไทยในกทม.จะทรงๆ ไม่กระเตื้องมากนัก แต่ที่หนักกว่านั้นคือ กระแสนิยมสุขุมพันธ์ กลับไม่โดดเด่นและนำโด่ง จนทำให้พรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่าส่งไปแล้วจะชนะแบบทิ้งห่าง

อย่างนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ที่เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “คนกรุงกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 20-21 ธันวาคม 2555 จาก 1,254 หน่วยตัวอย่าง ที่พบว่า หากวันนี้เป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. คนกรุงเทพฯ ร้อยละ 31.42 จะเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รองลงมา ร้อยละ 25.36 จะเลือก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ, ร้อยละ 13.32 จะเลือก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส และร้อยละ 28.55 ยังไม่ตัดสินใจ

เหตุที่คะแนนสุขุมพันธ์ยังนำพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของเพื่อไทย ดูแล้วก็น่าจะเป็นเพราะสุขุมพันธุ์คือคนของประชาธิปัตย์นั่นเอง

หากสำรวจอีกครั้งโดยสุขุมพันธ์เป็นผู้สมัครอิสระ และประชาธิปัตย์ส่งคนอื่น ก็เชื่อว่าโพลทุกสำนักที่สำรวจเรื่องการเลือกผู้ว่าฯกทม.คงมีผลเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก

เมื่อคะแนนส่วนตัวสุขุมพันธ์ไม่แรง สิ่งที่ช่วยได้ก็คือ กระแสประชาธิปัตย์ในกทม.ผสมกับคะแนนจัดตั้งของพรรคในกทม.ที่ปักหลักยึดหัวหาดกทม.มาหลายปีติดต่อกันที่จะเป็นลมใต้ปีกช่วยให้สุขุมพันธ์ชนะได้

จุดนี้สุขุมพันธุ์ก็รู้ตัวดี ไม่อย่างงั้น ป่านนี้คุณชายสุขุมพันธุ์ ไม่คอยจนเหงือกแห้งให้พรรคประกาศชื่อให้เสียเวลาหรอก เจ้าตัวประกาศลงสมัครอิสระไปนานแล้ว แต่ที่ไม่ทำก็เพราะรู้ว่า ทำไปก็ได้แค่ความสะใจ แต่โอกาสแพ้เห็นตั้งแต่ยังไม่ยื่นใบสมัคร

แม้ต่อให้วันนี้ ปชป.จะส่งใครลงสมัครผู้ว่าฯกทม.จะเป็นสุขุมพันธุ์หรือชื่ออื่น แต่ที่เห็นชัดเลยคือ เอกภาพของกลุ่มกรุงเทพมหานครในปชป.นับจากนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
กรณ์ จาติกวณิช
องอาจ คล้ามไพบูลย์
กำลังโหลดความคิดเห็น