ปชป.ยังวุ่น คัดผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ไม่ลงตัว “มาร์ค” เรียกประชุมอีกวันนี้ “กรณ์” เก็บตัวเงียบ “องอาจ” ยังอุบไต๋รอกรรมการบริหารพรรคเสนอชื่อ ด้าน “กอร์ปศักดิ์” สะอึก เจอ กก.คัดเลือกถามทำยุทธศาสตร์เลือกตั้งให้พรรคมา 2 ครั้ง แพ้ทั้ง 2 ครั้งยังจะเสนอตัวอีกหรือ สวนกลับคนถามไม่ส่องกระจกดูตัวเอง “เพื่อไทย” ส่ง “พงศพัศ” แต่ไม่ให้ใช้ชื่อพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ว่าหลังจากที่คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เสนอชื่อและทำข้อสรุปจุดอ่อน จุดแข็ง หลังการแสดงวิสัยทัศน์ ของทั้ง 4 ผู้สมัคร ไปยังกรรมการบริหารพรรคแล้ว ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเรียกประชุมในวันนี้ (27 ธ.ค.) โดยสถานการณ์ในพรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวกับเรื้องนี้นั้น มีการจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมของแต่ละคน ซึ่งส่วนใหญ่เห็นว่าคนที่มีความเหมาะสมที่สุดคือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวก็ดูเหมือนจะไม่นิ่ง เพราะยังมีการเอ่ยถึงชื่อ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค ที่ผู้ใหญ่ในพรรคให้การสนับสนุน และมีผู้ใหญ่ในพรรคเข้าไปโน้มน้าวใจนายกรณ์แล้ว ซึ่งถ้านายกรณ์ได้รับเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคจริงก็อาจจะนิรโทษกรรมให้กับสมาชิกสภากรุงเทพฯ (ส.ก.) ที่เคยมีเรื่องคาใจกันอยู่ในกรณีโหวตเลือกประธานสภากรุงเทพฯ ที่แหกมติของพรรค เพื่อให้ ส.ก.เหล่านี้กลับมาช่วยงานสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นผู้ว่าฯ กทม.อีกสมัย
นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งก็มีข่าวว่านายองอาจมีการเริ่มเดินสายขอเสียงสนับสนุนจากผู้ใหญ่ในพรรค เพื่อขอเสียงสนับสนุน ซึ่งก็คาดว่าทั้งสองจะถูกเสนอชื่อเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ที่จะมีการประชุมในสัปดาห์นี้เช่นกัน
“องอาจ” ยังอุบไต๋ รอ กก.เสนอชื่อ
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ตนเดินสายล็อบบี้ผู้ใหญ่ในพรรค ให้สนับสนุนลงสมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.ว่า ไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยเดินสายไปล็อบบี้ใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือใครในพรรค และไม่เคยแสดงเจตจำนงที่จะไปแสดงวิสัยทัศน์กับคณะกรรมการคัดเลือก แต่ยอมรับว่ามีคนมาชักชวน มาถามว่า สนใจจะลงสมัครหรือไม่ และถ้าพรรคมีความเห็นอย่างไรอย่างหนึ่งจะว่าอย่างไร ซึ่งตนก็ไม่ได้ตอบคำถามนั้น เพราะขณะนี้เรามีผู้เสนอตัวลงสมัครอยู่หลายคน ซึ่งพรรคก็มีกระบวนการพิจารณาชัดเจนอยู่แล้ว จึงต้องรอดูผลการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งอาจจะมีมติให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ลงสมัคร หรืออาจจะพิจารณาบุคคลอื่นที่เสนอตัวเข้ามา หรืออาจพิจารณาบุคคลอื่นที่มีความเหมาะสม ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมาว่า จะมีการเสนอชื่อนายกรณ์ จาติกวณิช นั้นตนก็ไม่ทราบ
เมื่อถามว่า หากคณะกรรมการบริหารพรรคเสนอชื่อให้นายองอาจลงสมัครจะมีความพร้อมหรือไม่ นายองอาจเพียงแต่หัวเราะ และปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
“กอร์ปศักดิ์” อ้างลงสมัครเพราะ “กรณ์”
วานนี้ (26 ธ.ค.) นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Korbsak Sabhavasu” ถึงการเข้าโชว์วิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ว่า
“ไปโชว์หุ่นให้กรรมการสรรหาของพรรคพิจารณาแล้วครับ เอ่ยปากคำแรกว่า 'นึกไม่ถึงว่าชีวิตนี้จะต้องมาสอบสัมภาษณ์เพื่อหางานทำเป็นครั้งที่สอง เมื่ออายุ 64 ครั้งแรกอายุเพียง 22 เท่านั้น” เรียกเสียงฮาจากกรรมการได้ครับ ฝรั่งเรียกเป็นการ break the ice
กรรมการตั้งคำถามว่า ทำไมถึงอยากลงสมัคร ตอบไปว่าไม่เคยคิด แต่พอทราบว่าคุณกรณ์ ไม่สนตำแหน่งนี้ ก็เกิดความกังวลว่า พรรคน่าจะมีทางเลือก จึงตัดสินใจเสนอชื่อตัวเอง หลังจากนั้นก็เสนอนโยบายสารพัด และพูดคุยกันต่อเกือบทุกเรื่อง
มีกรรมการท่านหนึ่งถามว่า ทำยุทธศาสตร์พรรคมาสองครั้ง แล้วพรรคแพ้ทั้งสองครั้ง ครั้งนี้เสนอตัวแล้วไม่กลัวแพ้หรือ (แปลว่าเราคือตัวซวย หรือไม่ก็เก่งมาก คือเป็นต้นตอที่ทำให้พรรคแพ้เลือกตั้งถึงสองครั้ง ) สุดยอดของคำถาม ทำให้ต้องพิจารณาตัวเองอย่างจริงจังเหมือนกัน แต่นึกไปนึกมา ก็อดขำไม่ได้ว่า คนเรานี่แปลกดี ไม่เคยส่องกระจกดูตนเอง แต่มักจะโทษคนอื่นเป็นนิจ เล่าให้เพื่อนๆ เพจได้รับทราบความเคลื่อนไหวครับ”
เพื่อไทยส่ง “พงศพัศ” แต่ให้ลงอิสระ
ขณะที่พรรคเพื่อไทยคู่แข่งสำคัญนั้น ล่าสุดเกือบแน่นอนแล้วว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จะเป็นตัวแทนพรรคลงชิงเก้าอี้ แต่ติดปัญหาว่าหากประกาศตัวในนามพรรคโดยตรง อาจจะทำให้เป็นรองคู่แข่ง เพราะคนกรุงเทพฯบางส่วน โดยเฉพาะชนชั้นกลางไม่ชอบพรรคเพื่อไทย จึงเป็นไปได้สูงที่จะลงในฐานะผู้สมัครอิสระ เพื่อดึงเสียงดังกล่าวรวมทั้งฐานเสียงที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคการเมือง รวมทั้งจะทำให้สามารถทำงานประสานได้ทุกพรรค หากใช้ความเป็นอิสระมาเป็นตัวดึง แต่มีข้อเสียจะทำให้ถูกมองว่าเป็นอีแอบที่ไม่กล้าประกาศตัว จึงอยู่ระหว่างตัดสินใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ว่าหลังจากที่คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เสนอชื่อและทำข้อสรุปจุดอ่อน จุดแข็ง หลังการแสดงวิสัยทัศน์ ของทั้ง 4 ผู้สมัคร ไปยังกรรมการบริหารพรรคแล้ว ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเรียกประชุมในวันนี้ (27 ธ.ค.) โดยสถานการณ์ในพรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวกับเรื้องนี้นั้น มีการจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมของแต่ละคน ซึ่งส่วนใหญ่เห็นว่าคนที่มีความเหมาะสมที่สุดคือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวก็ดูเหมือนจะไม่นิ่ง เพราะยังมีการเอ่ยถึงชื่อ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค ที่ผู้ใหญ่ในพรรคให้การสนับสนุน และมีผู้ใหญ่ในพรรคเข้าไปโน้มน้าวใจนายกรณ์แล้ว ซึ่งถ้านายกรณ์ได้รับเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคจริงก็อาจจะนิรโทษกรรมให้กับสมาชิกสภากรุงเทพฯ (ส.ก.) ที่เคยมีเรื่องคาใจกันอยู่ในกรณีโหวตเลือกประธานสภากรุงเทพฯ ที่แหกมติของพรรค เพื่อให้ ส.ก.เหล่านี้กลับมาช่วยงานสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นผู้ว่าฯ กทม.อีกสมัย
นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งก็มีข่าวว่านายองอาจมีการเริ่มเดินสายขอเสียงสนับสนุนจากผู้ใหญ่ในพรรค เพื่อขอเสียงสนับสนุน ซึ่งก็คาดว่าทั้งสองจะถูกเสนอชื่อเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ที่จะมีการประชุมในสัปดาห์นี้เช่นกัน
“องอาจ” ยังอุบไต๋ รอ กก.เสนอชื่อ
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ตนเดินสายล็อบบี้ผู้ใหญ่ในพรรค ให้สนับสนุนลงสมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.ว่า ไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยเดินสายไปล็อบบี้ใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือใครในพรรค และไม่เคยแสดงเจตจำนงที่จะไปแสดงวิสัยทัศน์กับคณะกรรมการคัดเลือก แต่ยอมรับว่ามีคนมาชักชวน มาถามว่า สนใจจะลงสมัครหรือไม่ และถ้าพรรคมีความเห็นอย่างไรอย่างหนึ่งจะว่าอย่างไร ซึ่งตนก็ไม่ได้ตอบคำถามนั้น เพราะขณะนี้เรามีผู้เสนอตัวลงสมัครอยู่หลายคน ซึ่งพรรคก็มีกระบวนการพิจารณาชัดเจนอยู่แล้ว จึงต้องรอดูผลการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งอาจจะมีมติให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ลงสมัคร หรืออาจจะพิจารณาบุคคลอื่นที่เสนอตัวเข้ามา หรืออาจพิจารณาบุคคลอื่นที่มีความเหมาะสม ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมาว่า จะมีการเสนอชื่อนายกรณ์ จาติกวณิช นั้นตนก็ไม่ทราบ
เมื่อถามว่า หากคณะกรรมการบริหารพรรคเสนอชื่อให้นายองอาจลงสมัครจะมีความพร้อมหรือไม่ นายองอาจเพียงแต่หัวเราะ และปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
“กอร์ปศักดิ์” อ้างลงสมัครเพราะ “กรณ์”
วานนี้ (26 ธ.ค.) นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Korbsak Sabhavasu” ถึงการเข้าโชว์วิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ว่า
“ไปโชว์หุ่นให้กรรมการสรรหาของพรรคพิจารณาแล้วครับ เอ่ยปากคำแรกว่า 'นึกไม่ถึงว่าชีวิตนี้จะต้องมาสอบสัมภาษณ์เพื่อหางานทำเป็นครั้งที่สอง เมื่ออายุ 64 ครั้งแรกอายุเพียง 22 เท่านั้น” เรียกเสียงฮาจากกรรมการได้ครับ ฝรั่งเรียกเป็นการ break the ice
กรรมการตั้งคำถามว่า ทำไมถึงอยากลงสมัคร ตอบไปว่าไม่เคยคิด แต่พอทราบว่าคุณกรณ์ ไม่สนตำแหน่งนี้ ก็เกิดความกังวลว่า พรรคน่าจะมีทางเลือก จึงตัดสินใจเสนอชื่อตัวเอง หลังจากนั้นก็เสนอนโยบายสารพัด และพูดคุยกันต่อเกือบทุกเรื่อง
มีกรรมการท่านหนึ่งถามว่า ทำยุทธศาสตร์พรรคมาสองครั้ง แล้วพรรคแพ้ทั้งสองครั้ง ครั้งนี้เสนอตัวแล้วไม่กลัวแพ้หรือ (แปลว่าเราคือตัวซวย หรือไม่ก็เก่งมาก คือเป็นต้นตอที่ทำให้พรรคแพ้เลือกตั้งถึงสองครั้ง ) สุดยอดของคำถาม ทำให้ต้องพิจารณาตัวเองอย่างจริงจังเหมือนกัน แต่นึกไปนึกมา ก็อดขำไม่ได้ว่า คนเรานี่แปลกดี ไม่เคยส่องกระจกดูตนเอง แต่มักจะโทษคนอื่นเป็นนิจ เล่าให้เพื่อนๆ เพจได้รับทราบความเคลื่อนไหวครับ”
เพื่อไทยส่ง “พงศพัศ” แต่ให้ลงอิสระ
ขณะที่พรรคเพื่อไทยคู่แข่งสำคัญนั้น ล่าสุดเกือบแน่นอนแล้วว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จะเป็นตัวแทนพรรคลงชิงเก้าอี้ แต่ติดปัญหาว่าหากประกาศตัวในนามพรรคโดยตรง อาจจะทำให้เป็นรองคู่แข่ง เพราะคนกรุงเทพฯบางส่วน โดยเฉพาะชนชั้นกลางไม่ชอบพรรคเพื่อไทย จึงเป็นไปได้สูงที่จะลงในฐานะผู้สมัครอิสระ เพื่อดึงเสียงดังกล่าวรวมทั้งฐานเสียงที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคการเมือง รวมทั้งจะทำให้สามารถทำงานประสานได้ทุกพรรค หากใช้ความเป็นอิสระมาเป็นตัวดึง แต่มีข้อเสียจะทำให้ถูกมองว่าเป็นอีแอบที่ไม่กล้าประกาศตัว จึงอยู่ระหว่างตัดสินใจ