xs
xsm
sm
md
lg

โพลชี้ ปชช.มั่นใจศึกชิงผู้ว่าฯ กทม.ซื้อเสียงชัวร์ รับความขัดแย้งไม่จบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

(แฟ้มภาพ)
ดุสิตโพลยกผลสำรวจคน กทม.อ้างส่วนใหญ่เลือกผู้สมัครสังกัดพรรค เฉือนผู้สมัครอิสระเล็กน้อย ชูมีพรรคนโยบายเด่นทำได้ ส่วนอิสระชัดเจนไม่ขายฝัน ชี้ถูกใจหาเสียงเรื่องคุณภาพชีวิต-จราจร-สิ่งแวดล้อม ไล่เลี่ยกัน เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเกิดเหตุรุนแรง มั่นเลือกเสร็จขัดแย้งเช่นเดิม แต่ส่วนใหญ่ระบุมีซื้อเสียงแน่

วันนี้ (20 ม.ค.) “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ทำผลสำรวจในหัวข้อการเลือกตั้ง “ผู้ว่าฯ กทม.” ในสายตาผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มีการโหมโรงโดยเฉพาะการเปิดตัวผู้สมัครทั้งที่สังกัดพรรคการเมือง และผู้สมัครอิสระ ค่อนข้างจะชัดเจนและยังมีการหาเสียง ขุดคุ้ยประวัติของแต่ละคน ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างกว้างขวาง เพื่อสร้างฐานข้อมูล (Database) อันเป็นประโยชน์ต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ทั้งในส่วนของผู้สมัคร พรรคการเมือง กรรมการที่จัดการเลือกตั้งและสาธารณชนโดยเฉพาะผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จึงได้สำรวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้ง 50 เขตในกรุงเทพฯ จำนวน 1,392 คน ระหว่างวันที่ 15-19 มกราคม 2556 สรุปผลดังนี้

เมื่อถามว่าระหว่าง ผู้สมัครที่สังกัดพรรคการเมือง กับผู้สมัครอิสระ คนกรุงเทพฯ จะเลือกใคร พบว่า อันดับ 1 ผู้สมัครที่สังกัดพรรคการเมือง 56.47% เพราะชื่นชอบพรรค ได้รับการสนับสนุนจากพรรคมีทีมงานคอยช่วยเหลือ มีแต้มต่อดีกว่า ฯลฯ, อันดับ 2 ผู้สมัครอิสระ 40.08% เพราะดูที่ตัวบุคคล การทำงานแนวคิดเป็นอิสระ ไม่ต้องขึ้นอยู่กับพรรคการเมือง เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ฯลฯ และอันดับ 3 ไม่แน่ใจ 3.45%

ส่วนคำถามที่ว่า ผู้สมัครที่สังกัดพรรคการเมือง กับผู้สมัครอิสระ หาเสียงอย่างไรคนกรุงเทพฯ จึงจะเลือก พบว่า ในมุมของผู้สมัครที่สังกัดพรรคการเมือง ต้องมีนโยบายโดนใจ มีแนวทางชัดเจน สามารถทำได้จริง 47.30%, หาเสียงอย่างสร้างสรรค์ ไม่กล่าวร้ายหรือโจมตีใคร 30.12% และเข้าถึงประชาชน เป็นกันเองไม่ถือตัว 22.58% ขณะที่ในมุมผู้สมัครอิสระ ต้องมีมีวิสัยทัศน์ แนวทางการทำงานที่ชัดเจน ไม่เพ้อฝัน 53.15%, จริงใจ ไม่ถือตัว เข้าถึงประชาชนทุกระดับ 26.18% และมีรูปแบบ วิธีการหาเสียงที่น่าสนใจ เป็นตัวของตัวเอง 20.67%

และเมื่อถามว่า การหาเสียงเรื่องใด ที่จะถูกใจคนกรุงเทพฯ มากที่สุด อันดับ 1 การพัฒนาคุณภาพชีวิต/ชีวิตความเป็นอยู่ 22.10%, อันดับ 2 การจราจร 21.40%, อันดับ 3 ปัญหามลพิษและสิ่งแวดล้อม 20.18%, อันดับ 4 ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 18.37% และอันดับ 5 การศึกษา 17.95%

ขณะที่คำถามที่ว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในครั้งนี้จะรุนแรง/ดุเดือด หรือไม่ อันดับ 1 รุนแรง/ดุเดือด 52.17% เพราะเป็นการแข่งขันกันระหว่าง 2 พรรคการเมืองใหญ่ที่หวังครองใจคน กทม. เพียงแค่ช่วงแรกของการหาเสียงก็มีการขุดคุ้ยโจมตีกันแล้ว ฯลฯ และอันดับ 2 ไม่รุนแรง/ไม่ดุเดือด 47.83% เพราะมีกฎหมายการเลือกตั้งคอยควบคุมอยู่ เป็นการเลือกตั้งในพื้นที่ กทม. ไม่น่าจะรุนแรงเหมือนต่างจังหวัด ฯลฯ

เมื่อถามต่อว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในครั้งนี้จะทำให้ความขัดแย้งที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นอย่างไร อันดับ 1 ขัดแย้งเหมือนเดิม 53.88% เพราะการเมืองไทยและสังคมไทยปัจจุบันมีการแบ่งขั้วอย่างชัดเจน ความขัดแย้งต่างๆ ยังคงมีอยู่ในทุกๆ เรื่อง ฯลฯ, อันดับ 2 ขัดแย้งเพิ่มขึ้น 25% เพราะเป็นการช่วงชิงตำแหน่งที่มีความสำคัญ ต่างฝ่ายต่างต้องหาวิธีการเพื่อให้ได้ใจหรือเรียกคะแนนเสียงจากคน กทม. ฯลฯ และอันดับ 3 ไม่แน่ใจ 21.12% เพราะขึ้นอยู่กับวิธีการหาเสียงของผู้สมัครแต่ละคน การนำเสนอของสื่อต่างๆ การสร้างสถานการณ์ของผู้ไม่หวังดี ฯลฯ

ทั้งนี้ เมื่อถามว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้จะมีการซื้อสิทธิขายเสียงหรือไม่ อันดับ 1 มี 67.68% เพราะเป็นธรรมดาของการเลือกตั้งในเมืองไทย วิธีการซื้อสิทธิขายเสียงมีรูปแบบที่เปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่เพียงการให้เงิน ฯลฯ, อันดับ 2 ไม่แน่ใจ 23.27% เพราะเป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่มีหลายฝ่ายจับตามองอยู่ อาจเป็นการสร้างกระแสเพื่อลดความน่าเชื่อถือของคู่แข่ง ไม่เคยเจอหรือพบเห็นด้วยตนเอง ฯลฯ และอันดับ 3 ไม่มี 9.05% เพราะเชื่อมั่นในเกียรติของผู้สมัครแต่ละคน วิธีการซื้อเสียงใช้กับคนกรุงเทพฯ ไม่ได้ เป็นการกระทำที่ได้ไม่คุ้มเสีย ฯลฯ


กำลังโหลดความคิดเห็น