ผอ.เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ปชป.ต้อนรับแคนดิเดต พท. สู่การชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. ยันไม่ประมาท ขอสู้ด้วยนโยบาย คิดว่าแข่งกับตัวเอง ลั่นไม่โจมตีจุดอ่อนคู่แข่ง อยากเห็นการเมืองสร้างสรรค์ พร้อมปักธงเยาวราช ชูสร้างเป็นไชน่าทาวน์อาเซียน เล็งเผยนโยบายมหานคร 7 ด้าน พรุ่งนี้ เน้นแก้ปัญหาจราจร
วันนี้ (14 ม.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเกี่ยวกับความคืบหน้าในการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หลังพรรคเพื่อไทยมีมติส่ง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ลงสมัครว่า ตนในฐานะ ผอ.เลือกตั้งขอต้อนรับสู่สนามการเมืองและการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นของ กทม.คือการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในส่วนของพรรคทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นระดับใดก็ตามเราไม่เคยประมาทคู่แข่ง เพราะทราบดีว่าทุกพรรคการเมืองคงพิจารณาผู้สมัครที่ดีมีความเหมาะสมที่สุดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งพิจารณา ดังนั้นจึงไม่คิดว่าแข่งขันกับ พล.ต.อ.พงศพัศหรือพรรคเพื่อไทย แต่คิดว่าแข่งขันกับตัวเอง เพื่อนำเสนอแนวคิดนโยบาย ความตั้งใจในการบริหารเพื่อตอบสนองคน กทม. จึงได้เริ่มดำเนินการพบประชาชนก่อนที่จะมีการสมัครรับเลือกตั้งในวันจันทร์ที่ 21 มกราคมนี้
ส่วนจุดเด่นจุดด้อยของผู้สมัครนั้นทุกคนมีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันไป ซึ่งคงมีการหยิบมาโจมตีในส่วนของจุดอ่อน แต่ในการสมัครเลือกตั้งครั้งนี้พรรคและ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์จะไม่ใช้วิธีการโจมตีผู้สมัครไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แต่จะเน้นในการนำเสนอนโยบายอีก 4 ปีข้างหน้ามากกว่า เพื่อทำให้การเมืองสร้างสรรค์เป็นประโยชน์ต่อคน กทม. ส่วนการวิจารณ์ข้อดีข้อด้อยของผู้สมัครนั้น พรรคน้อมรับคำวิจารณ์เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น
นายองอาจกล่าวว่า ในวันนี้พรรคจะไปร่วมเปิดตัวกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค ที่ย่านเยาวราช โดยจะประกาศนโยบายพัฒนาย่านเยาวราชเป็นไชน่าทาวน์ของอาเซียนใน 4 ปี หลังจากนี้จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เพราะที่ผ่านมาเยาวราชเป็นแหล่งการท่องเที่ยวไม่เพียงเพิ่มรายได้แต่ยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนของกทม.ได้และในพรุ่งนี้จะมีการพูดถึงแนวนโยบายมหานคร 7 ด้าน คือ มหานครแห่งความสุขจะต้องเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนทุกประเทศ เพราะการจราจรเป็นปัญหาสำคัญดังนั้นการที่คนกทม.จะอยู่ในกรุงเทพฯอย่างมีความสุขต้องบรรเทาปัญหาจราจรให้ทุเลาเบาบางลงด้วยการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนทุกประเภท โดยจะพูดเรื่องนี้ที่สถานีรถไฟฟ้าโพธินิมิตร ฝั่งธนบุรี เชื่อมจากวงเวียนใหญ่ เริ่มเวลา 14 นาฬิกาวันที่ 15 มกราคม ถือเป็นจุดสำคัญในการนำเสนอแนวนโยบายของพรรคต่อไป
