กกต.งานเลือกตั้งรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.สำคัญไม่แพ้สนามใหญ่ จี้กกต.ดูแลเป็นกลาง ยกระเบียบใหม่ห้ามใช้สถาบันมาหาเสียง ขอ ปชช.ใช้สิทธิเกินร้อยละ 60 เชื่อใช้สิทธิเยอะซื้อเสียงไร้ผล จี้ กทม.แก้ปัญหา จนท. หลังถูกร้องเรียนเพียบ รอ “คุณชาย” จะลาออกหรือรอหมดวาระ ยันพร้อมทุกแบบ คาดสู้กันหนัก มีเรื่องร้องเรียนเยอะ 7 วันตั้งผู้ว่าฯ อาจไม่ทัน กทม.แย้มใช้งบ 165 ล้าน “ภุชงค์” เผยใช้วันไหว้ตรุษจีนเลือกตั้งซ่อมลพบุรี เขต 4 ย้ำอาทิตย์นี้เลือกตั้งซ่อมชลบุรี
วันนี้ (2 ม.ค.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานการอบรมคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการการเลือกตั้งท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่จะมีขึ้นถือว่ามีความสำคัญที่สุดไม่น้อยกว่าการเลือกตั้ง ส.ส. จากการติดตามข่าวสารพบว่ามีการเปิดตัวผู้สมัคร และพรรคการเมืองให้ความสนใจ จึงเชื่อว่าการแข่งขันจะเป็นไปอย่างเข้มข้น ในส่วน กกต.ที่มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง ยืนยันว่าจะจัดการเลือกตั้งด้วยความเป็นกลาง สุจริต เที่ยงธรรม ซึ่งขณะนี้ กกต.ได้ออกระเบียบเกี่ยวกับวิธีการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นเพิ่มเติม สาระสำคัญคือ ไม่ให้ผู้สมัครนำเรื่องของสถาบันมาหาเสียง และอยู่ระหว่างการประกาศในราชกิจจานุเบกษาที่คาดว่าจะใช้ได้ทันการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่จะมีขึ้น
นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า ดีใจที่ กกต.กทม.ตั้งเป้าผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งถึงร้อยละ 70 ส่วนตัวเห็นว่าถ้ามีผู้มาใช้สิทธิเกินกว่าร้อยละ 60 ก็ดีใจแล้ว เพราะในอดีตที่ผ่านมาการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มีผู้มาใช้สิทธิไม่ถึงร้อยละ 60 ดังนั้น เมื่อคาดการณ์ว่าจะมีการแข่งขันกันมาก จึงอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องพยายามรณรงค์จัดการเลือกตั้งให้มีผู้ออกมาใช้สิทธิให้มาก เพราะจะทำให้การซื้อเสียงไม่เป็นผล อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ผ่านมามักไม่มีการร้องเรียนทุจริตของผู้สมัครด้วยกัน แต่จะเป็นเรื่องการร้องเรียนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ทั้งในเรื่องการตั้งผู้ไม่มีคุณสมบัติเป็นกรรมการประจำหน่วย การวินิจฉัยบัตรดีบัตรเสียไม่ได้มาตราฐาน จึงขอให้ทาง กกต.กทม.ได้ฝึกอบรมให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งขอให้เน้นย้ำในเรื่องการอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาใช้สิทธิ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และคนพิการ
นายประพันธ์ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้คงต้องรอดูว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จะอยู่ครบวาระหรือลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวารระ เพราะว่าการดำเนินการตามกฎหมายก็จะแตกต่างกัน หากอยู่ครบวาระ กกต.จะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน แต่หากลาออกก่อน กกต.จะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน ซึ่งไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร กกต.ก็เตรียมการไว้พร้อมหมดแล้ว ทั้งนี้ ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่าภายหลังการเลือกตั้งตามระเบียบ กทม.กำหนดให้ผู้ว่าฯ กทม.ต้องเข้ารับตำแหน่งใหม่ภายใน 7 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง แต่กฎหมาย กกต. กำหนดให้ กกต.มีเวลาในการสืบสวนฯ กรณีมีการทุจริตภายใน 30 วัน ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีเรื่องร้องเรียน ทำให้ กกต.สามารถประกาศรับรองผลได้เร็ว แต่ในครั้งนี้ที่คาดว่าจะมีการแข่งขันสูง ก็เกรงว่าจะมีเรื่องร้องเรียนที่ทำให้ กกต.ไม่สามารถประกาศรับรองผลได้ภายใน 7 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมดังกล่าวทางกรุงเทพมหานครได้รายงานให้ทราบว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้จะใช้งบประมาณ 165 ล้านบาท และได้เตรียมงบฯ สำหรับการประชาสัมพันธ์ 20 ล้านบาท
นายประพันธ์ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.ว่าควรปฏิบัติตนอย่างไร ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แต่คิดว่าผู้ที่จะลงสมัครย่อมต้องรู้อยู่แล้วว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร ซึ่งตนไม่มีข้อเสนอแนะ
ด้าน นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. แถลงว่า ที่ประชุม กกต.มีมติเห็นชอบให้สำนักงาน กกต.เสนอเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรีในวันนี้ เพื่อทูลเกล้าฯ ให้ทรงตราพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 4 จ.ลพบุรี แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยกำหนดให้วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์เป็นวันเลือกตั้ง เนื่องจากนายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ พรรคภูมิใจไทย ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่เพราะกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ทั้งนี้ ที่ต้องกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ ทั้งที่เป็นวันไหว้ในเทศกาลตรุษจีน ก็เนื่องจากหากไปกำหนดเป็นวันอาทิตย์ที่ 10 กุมพาพันธ์ ซึ่งเป็นวันเที่ยวของเทศกาลตุรษจีนจะทำให้คนออกมาใช้สิทธิน้อย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น กกต.ก็ได้กำหนดวันรับสมัครภายหลังมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งไว้จำนวน 5 วัน คือระหว่างวันที่ 22 ม.ค.-26 ม.ค. และกำหนดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 2 ก.พ.
ทั้งนี้ นายภุชงค์ยังกล่าวด้วยว่า ในวันที่ 6 มกราคมนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. จะมีการเลือกตั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 2 จ.ชลบุรี แทนตำแหน่งที่ว่าง หลังจากศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ แทนนายอุกฤษณ์ ตั๊นสวัสดิ์ พรรคพลังชล ที่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง