“ยิ่งลักษณ์-อาเบะ” แถลงร่วม ยันสัมพันธ์ ไทย-ญี่ปุ่น แน่น ด้าน ยิ่งลักษณ์ ประณามก่อการร้ายแอลจีเรีย จับญี่ปุ่นเป็นตัวประกัน ซึ้ง ญี่ปุ่นให้ความสำคัญเยือนไทย เผย นายกฯญี่ปุ่นสนใจ ร่วมเป็นหุ้นส่วนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่17 ม.ค. เวลา 18.00 น. นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนางอะคิเอะ อาเบะ ภริยา ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เนื่องในโอกาสการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกรัฐบาล โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รอต้อนรับ จากนั้นได้มีพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้น นายกรัฐมนตรีของไทยและญี่ปุ่น ได้มีการหารือข้อราชการแบบเต็มคณะ ที่ตึกสันติไมตรี หลังใน ซึ่งมีทั้งเรื่องการส่งเสริมหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย-ญี่ปุ่น ความร่วมมือในการพัฒนาสาธารณูปโภค ระบบป้องกันน้ำท่วม โครงการรถไฟความเร็วสูง การสำรวจเทคโนโลยีดาวเทียม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และกรอบความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่น
จากนั้น ผู้นำทั้ง 2 ประเทศ แถลงข่าวร่วมกันที่บริเวณโถงหินอ่อน ตึกสันติไมตรีโดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวแถลงว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่ถูกจับเป็นตัวประกันในแอจีเรีย รัฐบาลไทยขอประณามการก่อการร้ายทุกรูปแบบ และขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวประกันในทันที และขอให้เหตุการณ์ผ่านไปได้ด้วยดี และการที่นายกฯ ญี่ปุ่นเดินทางมาเยือนประเทศไทย อินโดนีเซียและเวียดนาม ครั้งแรกหลังจากรับตำแหน่งนายกฯ ถือว่าเป็นการให้ความสำคัญ และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำญี่ปุ่นมาเยือนไทยในรอบ 11 ปีจึงเชื่อมั่นได้ว่าจะเห็นเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวรวดเร็วในการร่วมมือกัน และพัฒนาในภูมิเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในด้านเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศ และในด้านความร่วมมือทั้ง 2 ประเทศเห็นพ้องกันว่า จะต้องเพิ่มความร่วมมือภายใต้หุ้นส่วนเศรษฐกิจ ให้เต็มศักยภาพ ในแง่การลงทุน ในปีที่ผ่านมานักลงทุนญี่ปุ่นได้ลงทุนไทย และขยายตัวร้อยละ 85 แสดงให้เห็นความเชื่อมั่นที่ญี่ปุ่นมีต่อไทย นอกจากนี้ยังได้หารือถึงความร่วมเกี่ยวกับเอสเอ็มอี โดยเฉพาะการลงทุนของญี่ปุ่นในประเทศไทยในสาขาที่มีศักยภาพ เช่นเทคโนโลยีสีเขียวและการพัฒนาศักยภาพมนุษย์
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีอาเบะแสดงความสนใจที่ญี่ปุ่นมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทย เช่น ระบบป้องกันน้ำท่วม รถไฟฟ้าความเร็วสูง และเรื่องการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมทวาย ซึ่งตนยืนยันว่าไทยและเมียนมาร์ประสงค์ที่จะเป็นหุ้นส่วนในโครงการนี้ และควรให้มีการหารือระดับสูง 3 ฝ่ายโดยเร็ว ในส่วนของสถานการณ์ในภูมิภาค ได้มีการหารือในหลายเรื่อง ซึ่งจุดที่เน้นสำคัญคือ ขณะนี้เอเชียกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ เพื่อรักษาบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของคนในภูมิภาค โดยเราทั้งสองเห็นว่าบทบาทของมหาอำนาจทุกประเทศมีความสำคัญ อาเซียนต้องมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ข้อขัดแย้งต่างๆควรได้รับการแก้ไขโดยสันติวี และคำนึงถึงประโยชน์ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการส่งเสริมความมั่นคงในการเดินเรือ รวมถึงสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ทั้งสองประเทศเห็นว่าการหารือ 6 ฝ่ายควรได้รับการรื้อฟื้นโดยเร็ว เพื่อให้เอเชีย เป็นเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม การเยือนของนายกรัฐมนตรีอาเบะ เป็นการเยือนที่สำคัญที่ยืนยันเจตนารมณ์ ที่จะเสริมสร้างรากฐานความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด และเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็งของ 2 ประเทศให้แน่นแฟ้น
ด้านนายชินโซ อาเบะ กล่าวว่า ขอบคุณที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ แสดงความห่วงใยในแอลจีเรีย และตนได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตั้งสำนักงานพิเศษเพื่อรับมือสถานการณ์นี้ และให้รวบรวมข้อมูล และพยายามเต็มที่ในการช่วยเหลือชาวญี่ปุ่นที่ถูกลักพาตัว และการได้มาเยือนประเทศครั้งแรกในฐานะนายกฯ ปรารถนาให้ญี่ปุ่นเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปพร้อมกับประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นประตูสู่ภูมิภาคเอเชีย ที่มีบริษัทญี่ปุ่นมาลงทุนเป็นจำนวนมาก ขอขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การต้อนรับ
“ข้าพเจ้าได้รับพระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ราชวงศ์ทั้งสองประเทศ มีการเสด็จเยือนซึ่งกันและกันบ่อยครั้ง ข้าพเจ้าหวังว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ จะมีพลานามัยที่แข็งแรง”นายกฯญี่ปุ่น กล่าว
นายกรัฐมนตรีอาเบะ กล่าวต่อว่า ประเด็นหลัก ๆ ที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันประกอบด้วย1 ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันที่จะพัฒนาประเทศพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนความเป็นยุทธศาสตร์ ในทุกด้านทั้งเศรษฐกิจ ความมั่นคง การแลกเปลี่ยนบุคลากร มีค่านิยมร่วมกันเช่นระบอบประชาธิปไตยและระบอบเศรษฐกิจ 2 ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันในเรื่องของเศรษฐกิจ เพื่อที่ทั้งสองประเทศจะเจริญรุ่งเรืองร่วมกันซึ่งมีความประสงค์ที่จะช่วยเหลือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทย 3 ความร่วมมือด้านทวิภาคีระดับภูมิภาค ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์อย่างมาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ซึ่งตนมีความหวังสูงในการเป็นผู้นำของไทยในภูมิภาคอาเซียน 4 ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้อมกันที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับอาเซียนมากยิ่งขึ้นในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ 40 ปี ญี่ปุ่นอาเซียน