xs
xsm
sm
md
lg

พระราชทานให้นายกฯญี่ปุ่นเข้าเฝ้า กระชับสัมพันธ์- หุ้นส่วนเจแทปป้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(14 ม.ค.56) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมเตรียมการต้อนรับ นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่จะเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 17-18 ม.ค. นี้
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ เปิดเผยว่า ถือเป็น 11 ปีเต็มที่ไม่มีการมาเยือนไทยหลังการเยือนครั้งล่าสุด คือ สมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และวันนี้ (14ม.ค.) ถือว่านายกฯญี่ปุ่นให้เกียรติเดินทางมาเยือนภูมิภาคนี้ โดยการเดินทางมาเยือนจะมีไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นนิมิตรหมายที่ดี เพราะส่วนใหญ่ญี่ปุ่นจะไปเยือนประเทศอื่นก่อนค่อยมาเยือนไทยหลังเข้ารับตำแหน่ง
“วันนี้แสดงว่าญี่ปุ่นให้ความสนใจภูมิภาคของเราอย่างมาก เพราะจากตัวเลขทั้งหมด 3 ประเทศ ที่ญี่ปุ่นตัดสินใจมาเยือนครั้งนี้ เพราะไทยมีการลงทุนกับญี่ปุ่นมากที่สุด มีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเดินทางมาไทยต่อปี 1.2 ล้านคน รวมถึงคนญี่ปุ่นมาอาศัยอยู่ในไทยมากที่สุดถึง 4 หมื่นคน การลงทุนปีผ่านมาตั้งแต่ม.ค.-พ.ย. เพิ่มขึ้น 89.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน และยืนยันว่าการเยือนครั้งนี้ จะทำให้ไทยได้ประโยชน์จากการค้าการลงทุนอย่างแน่นอน” นายสุรพงษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ญี่ปุ่นมาเยือนในภูมิภาคนี้ เนื่องจากประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติมาก อาทิ แผ่นดินไหว จึงต้องหาสถานที่เพื่อลงทุนใหม่ อีกทั้งเศรษฐกิจที่ผ่านมาของญี่ปุ่นประสบปัญหา เพราะฉะนั้นตลาดในอาเซียน หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะเป็นแหล่งที่ญี่ปุ่นสามารถขยายการค้าการลงทุนได้มากขึ้น และการเยือนครั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงโปรดเกล้าให้นายอาเบะพร้อมภริยา เข้าเฝ้าฯด้วย
ส่วนการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มอบหมายให้กระทรวงต่างประเทศและพาณิชย์ไปจัดทำข้อหารือความร่วมมือนั้น โดยกระทรวงพาณิชย์มีการพูดถึงเรื่องเจแทปป้า ซึ่งเป็นเวทีระหว่างกันในเรื่องความร่วมมือด้านต่างๆ และการลงทุนที่ญี่ปุ่นสนใจ คือ เรื่องน้ำ รถไฟความเร็วสูง ดาวเทียม และมีอีกหลายเรื่องที่ให้ความสนใจจะมาลงทุน นอกจากนั้น เป็นความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ พลังงาน และประสบการณ์ญี่ปุ่น ซึ่งไทยก็อยากเรียนรู้ รวมถึงเรื่องท่าเรือน้ำลึกทวาย ก็จะมีการหยิบยกขี้นมาหารือกัน
นอกจากนี้ ไทยจะมีการหารือถึงนโยบายใหม่ของรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อแสวงหาความร่วมมือและดำเนินการไปในทิศทางสอดคล้อง รวมถึงไทยต้องอธิบายถึงการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจด้านการค้าการการลงทุนระหว่างกัน และไทยก็จะท้าวความไปถึงสมัยที่นายกฯไทยไปเยือนญี่ปุ่นสมัยนายกฯที่ผ่านมา ได้มีการหารือกันอย่างไร เพื่อสานต่อแนวทางที่เคยมีไว้

“นายกฯได้เชิญกระทรวงต่างประเทศ สศช.ร่วมหารือ เพราะเรากำลังเปิดนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ เพื่อให้ญี่ปุ่นได้เข้ามาลงทุน และเรื่องที่ญี่ปุ่นเป็นห่วงเรื่องน้ำท่วมอีกหรือไม่ เมื่อรัฐบาลจัดสรรงบประมาณ 3.5 แสนล้านบาท มั่นใจว่าน้ำคงไม่ท่วมอีก และความร่วมมือด้านอื่นๆ ก็จะร่วมมือกันต่อ”รมว.ต่างประเทศ กล่าวa

**เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นคารวะ “ยิ่งลักษณ์”
เวลา 11.30 น. นายชิเกะคะสุ ซาโต Mr. Shigekazu Sato เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในโอกาสเข้ารับหน้าที่ใหม่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ กล่าวว่าการเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีของผู้นำญี่ปุ่น ซึ่งไทยถือเป็นประเทศที่มีความสำคัญต่อญี่ปุ่นเป็นลำดับต้น มีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่ในประเทศไทยจำนวนมาก และการค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่นถือเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มประเทศอาเซียน
นายกรัฐมนตรีหวังที่จะแสวงหาความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มพูน มูลค่าการค้าและการลงทุน และยินดีที่ญี่ปุ่นให้ความสนใจต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในไทย อาทิ โครงการบริหารจัดการน้ำ ความร่วมมือระบบรางและรถไฟความเร็วสูง ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้นักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในโครงการ ท่าเรือน้ำลึกเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายอีกด้วย
ทั้ง สองฝ่ายยืนยันความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ ชื่นชมประเทศไทยที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีพื้นฐานที่เข้มแข็ง ทั้งทางด้านสาธารณูปโภค ประชาธิปไตย พร้อมทั้งแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทยที่ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อ ส่งเสริมความร่วมมือกับญี่ปุ่น และหวังว่าการพบกันในครั้งนี้จะช่วยสร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น