นายกฯ ประธานประชุมรับนายกฯ ญี่ปุ่นเยือนไทยพฤหัสฯ นี้ เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี รับเสียดาย “พงศพัศ” ลาออกรอง ผบ.ตร. แต่ก็ดีใจมาลงสมัครชิงผู้ว่าฯ ในสีเสื้อเพื่อไทย ขอให้สำเร็จ ทุ่มเทเพื่อชาวบ้าน
วันนี้ (14 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเตรียมการเพื่อต้อนรับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 17-18 มกราคม 2556 โดยนายชินโซและภริยามีกำหนดการเดินทางถึงประเทศไทยในวันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม 2556 และในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและภริยาเข้าเฝ้าฯ ในช่วงบ่าย จากนั้นเวลา 17.40 น. นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและภริยาเดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการการหารือข้อราชการ การแถลงข่าวร่วม และนายกรัฐมนตรีจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและภริยา
ทั้งนี้ การเยือนประเทศไทยของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นับเป็นการเยือนประเทศภูมิภาคอาเซียนครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โดยเป็นการเยือน 3 ประเทศได้แก่ เวียดนาม ไทย และอินโดนีเซีย ตามลำดับ และที่สำคัญถือเป็นการเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในรอบ 11 ปี นับจากปี 2545 โดยญี่ปุ่นให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีความสำคัญต่อยุทธศาสตร์ของญี่ปุ่นทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ รวมทั้งการรักษาและเสริมสร้างบทบาทของญี่ปุ่นในภูมิภาค
สำหรับการเยือนประเทศไทย นายกรัฐมนตรีทั้งสองจะได้ร่วมกันตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่แนบแน่น และมีความผูกพันทางด้านเศรษฐกิจที่ใกล้ชิด เสริมสร้างความเชื่อมั่นระหว่างกัน ความร่วมมือด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมโยงภูมิภาคที่ไทยมีบทบาทสำคัญ และการสนับสนุนเมียนมาร์ในการพัฒนาประเทศ
ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น. นายชิเกะคะสุ ซาโต (Mr. Shigekazu Sato) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีในโอกาสเข้ารับหน้าที่ใหม่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ได้พบกับเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ และกล่าวว่าไทยมีความยินดีและพร้อมต้อนรับ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ กล่าวว่า การเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีของผู้นำญี่ปุ่น ซึ่งไทยถือเป็นประเทศที่มีความสำคัญต่อญี่ปุ่นเป็นลำดับต้น มีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่ในประเทศไทยจำนวนมาก และการค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่นถือเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มประเทศอาเซียน
นายกรัฐมนตรีหวังที่จะแสวงหาความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มพูน มูลค่าการค้าและการลงทุน และยินดีที่ญี่ปุ่นให้ความสนใจต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในไทย เช่น โครงการบริหารจัดการน้ำ ความร่วมมือระบบรางและรถไฟความเร็วสูง ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้นักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในโครงการ ท่าเรือน้ำลึกเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายอีกด้วย
ทั้ง สองฝ่ายยืนยันความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ ชื่นชมประเทศไทยที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีพื้นฐานที่เข้มแข็ง ทั้งทางด้านสาธารณูปโภค ประชาธิปไตย พร้อมทั้งแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทยที่ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อ ส่งเสริมความร่วมมือกับญี่ปุ่น และหวังว่าการพบกันในครั้งนี้จะช่วยสร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีรายงานว่า ระหว่างที่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อขอลาลงสมัครชิงผู้ว่าฯ กทม.นั้น นายกฯ ระบุว่ารู้สึกเสียดายที่บุคคลมีความรู้ความสามารถ จะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในหน้าที่ต่อไป แต่ยังรู้สึกดีใจ ที่พรรคเพื่อไทยมีมติเห็นชอบเลือก พล.ต.อ.พงศพัศลงสมัครผู้ว่า ฯกทม. ดังนั้นอยากให้เอาประสบการณ์ ความรู้จากการทำงาน รวมถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทย เข้าไปทำงานกับคน กทม. ซึ่งถือว่าเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้อวยพรขอให้ พล.ต.อ.พงศพัศประสบความสำเร็จในหน้าที่ และให้ทุ่มเทการทำงานให้กับประชาชน