xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” สั่งหน่วยงานความมั่นคงบูรณาการติดตั้งกล้องซีซีทีวีใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (แฟ้มภาพ)
“นายกฯ ยิ่งลักษณ์” หงุดหงิดกล้องซีซีทีวีดูแลความปลอดภัยภาคใต้ถูกทำลายซ้ำซาก จี้หน่วยงานด้านความมั่นคงบูรณาการตั้งกล้องให้แน่ใจว่าไม่ถูกทำลายอีก รับมีช่องโหว่อยู่ช่วงรองต่อ ส่วนผู้อพยพโรฮิงญาต้องดูแลตามหลักมนุษยธรรมก่อน รอ “ปึ้ง” หารือยูเอ็นในการช่วยเหลือ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์เผากล้องซีซีทีวีหลายจุดในพื้นที่จังหวัดยะลาของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ได้ทราบแล้วทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ ซึ่งประเด็นการเผาทำลายกล้องซีซีทีวีนี้เราได้ย้ำในที่ประชุมหลายครั้งแล้วว่าการติดตั้งกล้องซีซีทีวีต่างๆ ต้องใช้หลักในการบูรณาการ และจุดที่ติดตั้งต้องให้แน่ใจว่าไม่เป็นจุดที่ถูกทำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากล้อมซีซีทีวียังเป็นอุปกรณ์ที่เราจำเป็นต้องใช้เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามดูแลเรื่องความปลอดภัย ดังนั้นคงจะให้นำประเด็นต่างๆ เหล่านี้ไปหารือเพื่อหาวิธีการในการบูรณาการ วันนี้ได้สั่งการแล้วว่าหน่วยงานที่จัดซื้อกล้องซีซีทีวีนั้นต้องบูรณาการร่วมกันในการกำหนดจุดติดตั้งและการดูแลด้วย ไม่ใช่ติดตั้งแล้วถูกทำลายซ้ำแล้วซ้ำอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเฝ้าระวังมีช่องโหว่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องช่องโหว่มีเรื่องของรอยต่อกำลังคนที่จะดูแล การบูรณาการ ซึ่งกำลังทำและเร่งรัดตลอดเวลา ยอมรับว่าช่วงนี้มีรอยต่อต่างๆ แต่ยืนยันเราเน้นเรื่องการดูแลความปลอดภัยของชีวิตผู้คนเป็นหลักก่อน ส่วนการดูแลทรัพย์สินคงต้องเป็นเรื่องที่ทำงานควบคู่กันไป

ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี บอกว่ามีเรื่องผลประโยชน์การประมูลกล้องซีซีทีวีเข้ามาเกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าคงต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบข้อมูลให้ชัดเจนก่อน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังกล่าวถึงกรณีมุสลิมชาวโรฮิงญาจำนวน 856 คน ที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลืออกมาได้ ขณะนำไปพักพิงไว้ 3 จุดในพื้นที่ปาดังเบซาร์ และ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ว่ารายละเอียดทางสหประชาชาติ หรือยูเอ็น จะไปหารือกับนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยจะมีการแถลงข่าวให้ทราบ ระหว่างนี้เราคงจะดูแลชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ตามหลักมนุษยธรรม

ส่วนนโยบายของรัฐบาลในเรื่องการส่งกลับนั้นคงต้องมีการหารือกับทางยูเอ็นด้วยว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งเราต้องฟังผลการหารือก่อน ระหว่างนี้เราต้องดูแลช่วยเหลือโดยเฉพาะมีเด็กอ่อนอะไรต่างๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ความเป็นไปได้ในการที่จะผลักดันกลับประเทศหรือส่งไปประเทศที่ 3 นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยัง ต้องดูเรื่องของสาเหตุด้วยว่าจะส่งไปที่ไหน ต้องหารือกับต่างประเทศที่จะรับรวมถึงประเทศต้นทางด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น