xs
xsm
sm
md
lg

“เฉลิม” มั่นปิดช่องป่วนวันครู โบ้ยเผาซีซีทีวีปมธุรกิจ “ภราดร” ลืมเตี๊ยมบอกโจรใต้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี(แฟ้มภาพ)
“เป็ดเหลิม” โชว์ภูมิบอกเหตุเผากล้องซีซีทีวีฝีมือกลุ่มแพ้การประมูล คาดรู้ตัวเร็วๆ นี้ โยนชาวบ้านยังต้องการหรือไม่ โวใต้ดีขึ้นชัวร์ ต้องแก้แบบจีน นอกมาใน เผย “มหาเธร์” ให้เข้าพบ รับคุยมาเลย์สบายใจขึ้น วันครูไม่เปิดช่องให้ป่วน เลขาฯ สมช.ผิดคิวบอกโจรใต้เผาซีซี ก่อนกลับลำตาม “เป็ดเหลิม” เล็งติดตั้งตัวใหม่แทน พร้อมยึดมนุษยธรรม ดูแลโรฮิงญา แต่ต้องว่าตาม กม. คาดไม่ถึงขั้นค้ามนุษย์


วันนี้ (15 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีคนร้ายลอบเผากล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) หลายจุดในพื้นที่ จ.ยะลา ว่าเบื้องต้นได้รับรายงานว่าเมื่อครั้งที่มีการประมูลโครงการติดตั้งซีซีทีวีมีการแข่งขันสูง มองว่าฝ่ายที่ประมูลไม่ได้พยายามสร้างสถานการณ์ก่อกวน ดังนั้นไม่ใช่ประเด็นเรื่องความไม่สงบ และไม่ใช่การแก้ตัวของเจ้าหน้าที่ แต่เป็นประเด็นทางธุรกิจ จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายเผากล้องซีซีทีวีตอนละหมาด ซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดบกพร่อง อย่างไรก็ตาม ตนได้ปรับแผนรับมือและให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเรียกประชุมใหญ่ เพราะการทำลายทัพย์สินของราชการมีความผิด โดยให้เพ่งเล็งไปที่คู่กรณี

“ผมบอกแล้วว่าสถานการณ์ภาคใต้จะดีขึ้น แต่ไม่ได้ดีแบบพลิกฝ่ามือ ต้องแก้ปัญหาจากประเทศจีน แก้เมืองไทยจบที่ไหน ผมขอไม่ลงรายละเอียด แต่เท่าที่ไปพบปะพูดคุยกับมาเลเซียนี่ดีมาก” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะสามารถชี้เป้าได้เร็วๆ นี้ และตนก็ได้รับแจ้งจากผู้ว่าฯ จ.สตูล ว่า ดร.มหาเธร์ บิน โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อนุญาตให้เข้าพบเร็วๆ นี้ ซึ่งตนเองพร้อมตลอดเวลา ยกเว้นวันที่ 31 ม.ค. - 1 ก.พ.ที่ตนจะเดินทางไป จ.เชียงใหม่

เมื่อถามว่าจะปรับปรุงให้เรื่องกล้องซีซีทีวีอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ต้องให้คนในพื้นที่ช่วยคิดว่าต้องการอะไร ไม่ต้องการอะไร จะได้นำมาปรับปรุง และเรียนให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีทราบ เพราะหากคิดแทนจะไม่ตรงตามความประสงค์ของคนในพื้นที่ ส่วนต้องปรับแผนยุทธศาสตร์ใหม่หรือไม่นั้น คงไม่ต้องปรับ เพราะแนวทางที่มีอยู่ดีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การเผากล้องซีซีทีวีคงไม่ส่งผลให้เกิดความรุนแรง เพราะตำรวจมีมาตรการระมัดระวัง ไม่ใช่ว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วก็ปล่อยปละละเลย แต่ต้องดูแลให้เข้มขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในโอกาสวันที่ 16 ม.ค.ที่เป็นวันครูจะมีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยของครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้มข้นขึ้นหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ต้องเข้มข้นขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลสถานการณ์ให้ดีที่สุด พร้อมทั้งภาวนาให้ในยุคที่ตนเข้ามาดูแลรับผิดชอบเกิดสิ่งที่เป็นรูปธรรมขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าหนักใจ ทั้งนี้วิธีคิดของตนอาจไม่เหมือนคนอื่น เพราะจะแก้ปัญหาจากข้างนอกเข้ามาข้างใน

“ไม่กังวลว่าวันครูจะทำให้ผู้ก่อความไม่สงบทำผลงานเพิ่มได้มากขึ้น ผมว่าตำรวจเขาดูแลได้ เพราะต้องเอาประสบการณ์มาปรับเปลี่ยน สุดท้ายผมมีความมั่นใจว่านับจากนี้ไป ไม่นานนักทุกอย่างจะดีขึ้น” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

เมื่อถามว่าลงภาคใต้ในช่วงใด ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวเพียงว่า ต้องรอ ดร.มหาเธร์ให้เข้าพบก่อน เมื่อถามต่อว่ามาตรการรับมือของฝ่ายรัฐบาลตามหลังฝ่ายตรงข้ามอยู่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ตาม ทั้งนี้ตนได้คุยกับผู้บัญชาการสันติบาลของมาเลเซียมาแล้ว และก็รู้สึกสบายใจ แต่ไม่ขอบอกว่าคุยเรื่องอะไร

ด้าน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงกรณีการเผาซีซีทีวีที่ จ.ยะลา ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นยุทธวิธีปกติของผู้ก่อความไม่สงบ เพราะสถานการณ์ขณะนี้การกำหนดต่อบุคคลเป้าหมายเริ่มมีข้อจำกัดจึงไปดำเนินการต่อกับเครื่องมือ ขณะเดียวกัน ทางรัฐได้เร่งมือในการแก้ไขและเพิ่มมาตรการในการลาดตระเวนมากขึ้น ส่วนจะเป็นส่งสัญญาณเพื่อเตรียมก่อการครั้งใหญ่หรือไม่ถือเป็นสัญญาณชั้นต้นระดับหนึ่ง โดยทางเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาได้เชิญฝ่ายความมั่นคงมาประชุมหารือและวางมาตรการแล้ว โดยได้เพิ่มกำลังในการเฝ้าระวังและลาดตระเวนมากขึ้น ขณะที่กลุ่มผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ถือเป็นกลุ่มเดิมที่เป็นกระบวนการหัวรุนแรง โดยตอนนี้เข้าจะปฏิบัติการแบบเคลื่อนพื้นที่ไปเพราะมีกำลังจำนวนไม่มาก

สำหรับกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่าเป็นการสร้างสถานการณ์โดยกลุ่มที่เสียผลประโยชน์จากการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่นั้น เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ก็มีส่วนด้วย เพราะขบวนการภัยแทรกซ้อนจะสัมพันธ์และสอดคล้องกันเพราะมันได้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ สาเหตุที่ผู้ก่อเหตุสามารถลงมือได้ง่ายนั้น ปัญหาคือชุดเคลื่อนที่เร็วที่จะเข้าไปสกัดกั้นยังเคลื่อนที่ไม่ทันต่อเหตุการณ์ ส่วนจะมีคนในเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ต้องพิสูจน์ทราบกันต่อไป แต่ข้อมูลตอนนี้ยังไม่ปรากฏ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกล้องวงจรปิดที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้เรากำลังจัดงบประมาณที่จะเพิ่มเติมในพื้นที่หลัก 13 เป้าหมายของเราอยู่แล้ว โดยจะมีการติดตั้งแทนของเดิมและเพิ่มเติมในพื้นที่ใหม่ด้วย

พล.ต.ภราดรเปิดเผยด้วยว่า สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้จะมีการหารือถึงมาตรการที่จะดูแลชาวโรงฮิงญาที่เจ้าหน้าที่ได้มีการช่วยเหลือระหว่างถูกนำมาพักพิงไว้ในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ และ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เบื้องต้นจะยึดหลักการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 52 แต่เนื่องจากที่ผ่านมาการจับกุมชาวโรฮิงญาจะจับกุมได้โดยเฉพาะชายฉกรรจ์ แต่ครั้งนี้ปรากฏว่ามีทั้งสตรีและเด็กตรงนี้จึงทำให้เราต้องปรับมาตรการ โดยสตรีและเด็กจะให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ช่วยดูแล ขณะที่ผู้ชายจะให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และตำรวจในพื้นที่ควบคุมเพราะมีจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ ตม.ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ในเบื้องต้นเป็นการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มีผู้ร่วมกระบวนการที่กักขังหน่วงเหนี่ยวและให้พักพิง มีกระบวนการโรฮิงญาและคนไทยในพื้นที่ อ.ปาดังเบซาร์ เกี่ยวข้องแต่ยังไม่ปรากฏชัดเจน ซึ่งได้มีการออกหมายเรียกมาสืบสวนสอบสวนแล้ว แต่ขณะนี้ถือว่ายังไม่ถึงขั้นของการค้ามนุษย์




กำลังโหลดความคิดเห็น